..ตามสภาวะ วัดกันโดยเนื้อแท้ที่เป็นปรมัตถ์ การบรรลุโสดาปัตติผล คือเป็นโสดาบัน ประเสริฐกว่าเป็น พระเจ้าจักรพรรดิ เป็นท้าวสักกะ เป็นมาร เป็นพระพรหม มากมาย พระเจ้าจักรพรรดิ ท้าวสักกะ มาร พระพรหม ทั้งหมดนี้ ว่าตามสภาวะ ก็คือปุถุชน (เว้นแต่บางท่านที่บรรลุธรรม) จึงยังอาจจะตกนรก ยังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ เอาสาระกันจริงๆ พอพูดถึงปรมัตถ์ ก็แทบไม่มีความหมายอะไรเลย แต่โสดาปัตติผล (ขึ้นไปจนเป็นพระอรหันต์) ที่เป็นเนื้อแท้ของชีวิต เป็นปรมัตถ์ เป็นของประเสริฐจริงนี้ ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่า ไม่มีการแบ่งแยก ไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่ว่าใคร ก็พัฒนาชีวิตให้ถึงได้ เป็นความเสมอภาคที่แท้จริง... ...เราอาจจะต้องอดทนมากสักหน่อยในการที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ปลอดปัญหาที่สุด ให้แก่คนรุ่นหลัง และถ้าไหว ก็ให้ได้สิ่งที่ส่วนรวมทั่วไป จะร่วมแซ่ซ้องสาธุการอย่างพร้อมใจกัน งานทางธรรมนี้ อาจจะต้องมาช่วยกันทําแบบทวนกระแสโลก ที่เขามักจะเอาอะไรให้ได้มาด้วยการต่อสู้ หรือแม้กระทั่งเอาชนะกัน เป็นการแย่งชิงที่ทําให้ของซึ่งได้มา มักแหว่งวิ่น มีริ้วรอยติดตรึงอาจจะตลอดไป ถ้าช่วยกันดู ร่วมกันเลือก พร้อมใจกันจัด ให้มั่นใจว่าได้สิ่งที่ดีที่สุด ปลอดปัญหาที่สุด ให้แก่ประชุมชนที่จะเกิดตามมา ก็จะสบายจิต บันเทิงเบิกบานชื่นใจในปัจจุบัน และมีความดีความงอกงามและ ความสุขที่ยั่งยืนสืบไปในเบื้องหน้า...