อัสมิมานะ เป็นประธานของความรู้สึกทุกอย่าง ทั้งทางดีหรือชั่ว หรือเป็นศูนย์กลางของการกระทำ และต่อมาจึงมีการบัญญัติภายหลังว่าดีหรือชั่ว ดังนั้น ความดีหรือความชั่วมีความหมายเท่ากัน สำหรับ ตัวกู ของกู
การละเสียซึ่งอัสมิมานะโดยสิ้นเชิง จำต้องละทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว การละเสียแต่ฝ่ายชั่ว และ ยึดถือไว้แต่ฝ่ายดี ตามลัทธิอื่นและในสังคมปัจจุบันอาจถือว่าการละตัวตนแล้ว แต่ทางพุทธศาสนายังไม่ถือว่าเป็นการละตัวตน เพียงแต่ละตัวที่น่าเกลียดและยึดตัวที่น่ารักไว้ ต่อเมื่อละได้หมด ไม่ยึดถืออะไร จึงเป็นการละตัวตนที่สมบูรณ์
ถ้าเข้าใจหลักนี้จะเข้าใจพุทธศาสนาได้โดยง่าย
แต่การละตัวตนโดยสิ้นเชิง เป็นการปฏิบัติขั้นสูงสุด จึงมีหลักสำหรับการปฏิบัติในขั้นรอง คือ ให้ยึดถือตัวตนน้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ไปพลางก่อน และเป็นตัวตนฝ่ายดี เว้นฝ่ายชั่ว นี้เป็นหลักสำหรับคนสามัญทั่วไป