ในเมื่อการดำรงรักษาพระพุทธพจน์เป็นสาระของการดำรงรักษาพระพุทธศาสนาอย่างนี้ จึงถือเป็นความจำเป็นและสำคัญสูงสุดในพระพุทธศาสนา ที่จะดำรงรักษาพระพุทธพจน์
ดังนั้น ความพยายามรักษาพระพุทธพจน์จึงมีตลอดมา ตั้งแต่พุทธกาล คือตั้งแต่สมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่
ตอนนั้นก็ปลายพุทธกาลแล้ว นิครนถนาฏบุตรผู้เป็นศาสดาของศานาเชนได้สิ้นชีวิตลง สาวกของท่านไม่ได้รวบรวมคำสอบไว้ และไม่ได้ตกลงกันไว้ให้ชัดเจน ปรากฏว่าเมื่อศาสดาของศาสนาเชนสิ้นชีวิตไปแล้ว สาวกลูกศิษย์ลูกหาก็แตกแยกทะเลาะวิวาทกันว่า ศาสดาของตนสอนว่าอย่างไร
ครั้งนั้น ท่านพระจุนทเถระได้นำข่าวนี้มากราบทูลแด่พระพุทธเจ้า และพระองค์ได้ตรัสแนะนำให้พระสงฆ์ทั้งปวงร่วมกันสังคายนาธรรมทั้งหลายไว้เพื่อให้พระศาสนาดำรงอยู่ยั่งยืนเพื่อประโยชน์สุขแก่พหูชล
เวลานั้น พระสารีบุตรอัครสาวกยักมีชีวิตอยู่ คราวหนึ่งท่านปรารภเรื่องนี้แล้วก็กล่าวว่า ปัญหาของศาสนาเชนนั้นเกิดขึ้นเพราะว่าไม่ได้รวบรวมร้อยกรองคำสอนไว้ เพราะฉะนั้นพระสาวกทั้งหลายทั้งปวงของพระพุทธเจ้าของเรานี้ ควรจะได้ทำการสังคายนา คือรวบรวมร้อยกรองประมวลคำสอนของพระองค์ไว้เป็นหลัก เป็นแบบแผนอันหนึ่งอันเดียวกัน
เมื่อปรารภเช่นนี้แล้วพระสารีบุตรก็ได้แสดงวิธีการสังคายนาไว้เป็นตัวอย่าง เฉพาะพระพักตร์พระพุทธเจ้าซึ่งมีพระสงฆ์ประชุมเฝ้าพร้อมอยู่ โดยท่านได้รวบรวมคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เป็นข้อธรรมต่างๆ มาแสดงตามลำดับหมวด ตั้งแต่หมวดหนึ่ง ไปจนถึงหมวดสิบ เมื่อพระสารีบุตรแสดงจบแล้ว จัดเป็นพระสูตรหนึ่งเรียกว่า สังคีติสูตร แปลง่ายๆว่า “พระสูตรว่าด้วยการสังคายนา หรือสังคีติ” มีมาในพระสุตตันตปิฏก ทีฆนิกาย
วิธีรักษาพระพุทธพจน์ ก็คือการรวบรวมคำสั่งสอนที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ แล้วจัดหมวดหมู่ให้กำหนดจดจำได้ง่าย และซักซ้อมทบทวนกันจนลงตัว แล้วสวดสาธยายพร้อมแสดงความยอมรับเป็นแบบแผนเพื่อทรงจำสืบต่อกันมา วิธีการนี้เรียกว่า สังคายนา หรือ สังคีติ ซึ่งแปลตามตัวอักษรว่าการสวดพร้อมกัน (จาก สํ “พร้อมกัน” + คายนา หรือ คีติ “การสวด”)
คำว่า สังคายนา เวลาแปลเป็นภาษาอังกฤษมีใช้หลายคำ คือ rehearsal บ้าง communal recital บ้าง และ communal recitation บ้าง บางทีก็ไปเทียบกับแนวคิดแบบตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มักเรียกการสังคายนาเป็น Buddhist Council ในทางกลับกัน คำว่า council (เช่น Vatican Council ในศาสนาคริสต์) เราก็แปลว่า สังคายนา ความหมายของทั้งสองคำนี้เทียบกันได้ในบางแง่ แต่ที่จริงไม่เหมือนกันเลย
การประชุม Council ของศาสนาคริสต์ เป็นการมาตกลงกันในเรื่องข้อขัดแย้งด้านหลักคำสอน และแม้กระทั่งกำหนดหลักความเชื่อและวางนโยบายในการเผยแผ่ศาสนาของเขา แต่การสังคยานาในพระพุทธศาสนา เป็นการรักษาคำสอนเดิมของพระพุทธเจ้าให้แม่นยำที่สุด ไม่ให้ใครมาเที่ยวแก้ไขให้คลาดเคลื่อนหรือตัดแต่งต่อเติมตามใจชอบ เราเพียงมาตรวจทาน มาซักซ้อมทบทวนกัน ใครที่เชื่อถือหรือสั่งสอนคลาดเคลื่อน หรือผิดแผกไป ก็มาปรับให้ตรงตามของแท้แต่เดิม