◎ เราจะทำอะไรทางกาย ทางวาจา ทางใจลงไปนี้ ให้ถามพระพุทธเจ้าก่อน ถ้าพุทธบริษัท ทั้งฆราวาส ทั้งบรรพชิตถือหลักอย่างนี้แล้วจะมีความสุขกันมากมายกว่านี้
◎ เรียนพุทธประวัติ จากเฉพาะหนังสือพุทธประวัติจากพระโอษฐ์ เสียเวลาอ่านดูสักไม่กี่ชั่วโมงจะรู้จักพระพุทธเจ้า แล้วรู้จักชนิดที่เราอาจจะถามพระพุทธเจ้าได้ทีเดียวว่า สิ่งนี้ควรทำอย่างไร?
◎ ในใจของคนทุกคนมีพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว หากแต่ว่าพระพุทธเจ้าของบุคคลบางคนนั้นยังหลับอยู่ พระพุทธเจ้าบางคนนั้นก็ตื่นขึ้นมาบ้างแล้ว แล้วก็ตื่นมาก ถึงตื่นมากที่สุด คือ รู้จักดับทุกข์ได้
◎ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีนั่นแหละ คือ พระพุทธเจ้า เราศึกษาพุทธศาสนาคือ การทำลายเปลือกที่หุ้มพระพุทธเจ้าข้างในของเรานั้น ให้มันหลุดไป หลุดไป หลุดไป มันจะเบิกบานขึ้นมา เบิกบาน คือ รู้ขึ้นมา ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน นี่คือ พระพุทธเจ้าที่จะคอยตอบเราว่าสิ่งนี้เป็นอย่างไร? ควรทำหรือไม่ควรทำ?
◎ กระทำด้วยวิธีที่จะต้องสำรวม จิตใจ ให้เป็นสมาธิ ให้มีความสะอาด สว่าง สงบมากพอเสียก่อน เพื่อว่าพระพุทธเจ้าข้างในนั้นจะมีทางที่จะส่องแสงออกมา แล้วจึงถามว่าปัญหานี้เป็นอย่างไร? ควรจะทำอย่างไร? ถ้าทุกคนทำอย่างนี้ พุทธบริษัท ไม่มีทางจะทำผิด พุทธบริษัท ไม่มีทางที่จะทำคอร์รัปชั่นหรือทำอะไรต่างๆ
◎ แม้ที่สุดแต่ว่าปัญหาที่ฟังดูแล้วไม่น่าจะไปถามพระพุทธเจ้า เป็นเรื่องจะทะเลาะกันกับเพื่อนฝูง ทะเลาะกันกับภรรยา สามี ความยุ่งเหยิงในครอบครัวเกี่ยวกับผัวๆเมียๆนี้ ถ้าใครทำได้ในลักษณะนี้ก็จะประเสริฐที่สุด พอเราคิดว่าเราจะทูลถามพระพุทธเจ้าก่อนก็ไปถาม พระพุทธเจ้าจะบอกคำแรกว่า อดทน และ ให้อภัย
◎ คำตอบคำใหญ่ที่สุด ก็คือ อย่าไปยึดมั่น-ถือมั่น ทีนี้ คำตอบเล็กๆมันก็ออกมาจากคำตอบใหญ่นั้นว่า อย่าโกรธ อย่าผูกโกรธ อย่าถือโทษ ให้ให้อภัย ให้อดทน ให้รอได้ แก้ไขไปด้วยจิตใจที่สงบได้
พุทธทาสภิกขุ
ที่มา : พระภิกษุ อบรมพระภิกษุนวกะในพรรษา ๒๕๑๔
ครั้ง ๑๔ "ธรรมที่ลูกของพระพุทธเจ้าควรปฏิบัติ"
รหัสไฟล์เสียง 2115140812140