ไม่ให้พูดผ่าซากลงไปสุดเหวี่ยงสุดโต่งว่า ตายแล้วเกิด หรือตายแล้วสูญ การพูดอย่างนั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิประเภทอันตคาหิกทิฏฐิ มันพูดเหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวาสุดโต่งเป็นมิจฉาทิฏฐิ เราจะพูดว่าแล้วแต่เหตุ แล้วแต่ปัจจัย ตามกฎอิทัปปัจจยตานั่นแหล่ะ ถ้าเหตุปัจจัยเกิดมีอยู่ มันก็เกิด ถ้าเหตุปัจจัยให้เกิดไม่มี มันก็ไม่เกิดน่ะ
พูดให้ดี ก็พูดว่า แล้วแต่ปัจจัยโว้ย แต่ให้ดีกว่านั้นอีกยังมีว่า ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตายโว้ย นี่ อาตมาถูกด่าแย่ เขากำลังด่าอยู่ทุกวันน่ะในกรุงเทพฯ ว่า ที่พูดว่า ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย มีแต่สังขารเป็นตายตามกฎแห่งความเปลี่ยนแปลงอิทัปปัจจยตา ไม่มีตรงไหนที่จะเรียกว่า คนหรือตัว หรือตน หรือสัตว์ หรือคน หรือ หรือเขาไม่มี มันไม่มีคน จึงว่าไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตายโว้ย นี่ ถูกกว่าเสียอีก ถ้าใครฟังคำนี้ไม่ออก คนนั้นยังไม่ใช่พุทธบริษัท