การุณยฆาตโดยจิตไม่เศร้าหมองบาปไหม?
หลวงพี่สติ:
ขอตอบไปตามลำดับ และขอให้อ่านคำตอบให้ครบถ้วนทุกข้อ เพื่อความเข้าใจทั่วถึงถูกต้องที่สุด
- ไม่ว่าทำอะไรก็ตาม ทั้งทางกายทางวาจา ถ้าจิตไม่เศร้าหมองขุ่นมัว (เป็นกุศล) ก็ไม่บาปทั้งนั้น แต่ต้องเข้าใจให้ชัดและมีจิตชนิดนั้นจริงๆ ไม่ใช่เพียงคิดเอาว่า ไม่เศร้าหมอง เพราะคำว่า เศร้าหมอง ขุ่นมัวในภาษาไทยอาจจะคับแคบเกินไป
- ตามธรรมชาติของจิตแล้ว ความรู้สึกพอใจที่ได้ทำอะไรอย่างใจ ซึ่งอาจเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นด้วย การทำความดีด้วยคิดว่าจะได้ผลตอบแทน ก็จัดเป็นความเศร้าหมองเช่นกัน ดังนั้น ต้องตระหนักว่าความเศร้าหมองบางอย่างมาในสภาวะของความสุข ความพอใจด้วย
- การุณยฆาต ว่าโดยศัพท์แล้วขัดแย้งกันอย่างยิ่ง ไม่มีการฆ่าใดที่ไม่ประกอบด้วยกิเลส ไม่ประกอบด้วยโทสะ ก็ประกอบด้วยโลภะ ซึ่งเป็นสภาวะที่เศร้าหมองทั้งคู่ อย่างแรกนั้นอาจจะเห็นชัดว่า เป็นความไม่พอใจต่อชีวิตของตนที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเพราะความเจ็บไข้ ความทุกข์ทรมานทางกายทางใจใดๆ ก็ตาม จึงตัดสินใจจบชีวิตของตนเอง อย่างที่สองนั้น ความอยากให้ชีวิตของตนพ้นไปจากความทุกข์ทนทรมานทางกายทางใจ จึงตัดสินใจจบชีวิตของตนเอง ทั้งสองอย่างเหมือนกันตรงที่มีรากเหง้ามาจากความไม่รู้ไม่เข้าใจธรรมชาติของชีวิตตามเป็นจริง (โมหะ หรือ อวิชชา) คือ ไม่มีความรู้ความเข้าใจในการวางท่าทีต่อชีวิตอย่างถูกต้อง ดังนั้นโอกาสที่จะไม่เกิดความเศร้าหมองในจิตใจ (อกุศลจิต หรือ บาป) ในการตัดสินใจจบชีวิตตนเองและขณะที่จบชีวิตตนเองเลยนั้นเป็นไปได้ยากอย่างยิ่ง
- ในคัมภีร์ทางพุทธศาสนา (ฉันโนวาทสูตร) เล่าไว้ถึงการตัดสินฆ่าตัวตายของภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งเจริญวิปัสสนามาเนิ่นนานแต่ยังไม่บรรลุธรรม แต่ด้วยการสั่งสมเพาะบ่มการเจริญวิปัสสนากรรมฐานมาอย่างเข้มข้นยาวนานนั้น ขณะที่ปาดคอตนเองได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ท่านได้สติอาศัยความเจ็บปวดนั้นเป็นอารมณ์เจริญวิปัสสนากรรมฐาน จนบรรลุเป็นพระอรหันต์ก่อนชีวิตจะสิ้นสุดลง กรณีอย่างนี้เกิดขึ้นได้ก็จริง แต่ที่เป็นเช่นนั้นได้ก็เพราะอาศัยเหตุปัจจัยหลายอย่าง ที่สำคัญก็คือ ท่านสั่งสมเพาะบ่มการเจริญวิปัสสนากรรมฐานมาอย่างเข้มข้นยาวนานนั่นเอง
- แม้ว่าวิธีการที่เรียกว่า “การุณยฆาต” ที่เกิดขึ้นในโลกนั้น จะไม่ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างเรื่องราวในคัมภีร์ แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่า ขณะสุดท้ายของชีวิตจะมีจิตที่ผ่องใส เมื่อรู้ว่ากำลังจะตายและการตายนี้ไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่เป็นการทำให้ตายด้วยตนเอง
ประเด็นสำคัญของคำถามนี้ คือ ความลังเลว่า ถ้าต้องจบชีวิตตนเองลง โดยจิตไม่เศร้าหมองจะเป็นไปได้ไหม? เพราะเกรงว่าถ้าจิตเศร้าหมองจะเป็นบาป ความลังเลสงสัยไม่มั่นใจเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ยิ่งไม่ควรคิดหรือลงมือการุณยฆาตเด็ดขาด เพราะเกิดความเศร้าหมองตั้งแต่เริ่มคิดแล้วล่ะ ชีวิตไม่ได้ทุกข์ทรมานตลอดเวลา และความทุกข์ทรมานทุกอย่างมีเหตุ ชวนกันหาต้นเหตุ และวางท่าทีต่อเหตุนั้นเสียใหม่ ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องว่า สิ่งทั้งหลายมีธรรมชาติเป็นอย่างนั้นๆ เกิดขึ้นเพราะอาศัยเหตุปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน
จงตื่นขึ้นมายามเช้าอย่างมีชีวิตชีวา ยิ้มรับกับวันใหม่ ให้ภายในเบิกบานผ่องใสอยู่เสมอเถิด แม้ชีวิตจะไม่ได้เป็นอย่างใจทุกอย่าง
แค่เราสามารถใช้ชีวิตนี้ให้ดีงาม สงบเย็น เป็นประโยชน์ได้ แม้ในขณะวินาทีสุดท้ายก่อนชีวิตจะสิ้นสุดลง