แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]
โอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ที่หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตาให้นำมาบรรยาย
บรรยายธรรมโดย พระมหาอนุชน สาสนกิตติ (ป.ธ.๙, ดร.)
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
เรื่อง พุทธะที่แท้จริง ตอนที่ ๕๕ การบวชคือการมายกเลิกตัวตน ไม่มีตัวตน ยกเลิกนิสัยของตนเอง เอาธรรมเอาวินัยนำชีวิต
(บางส่วนจากโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า)
คำเทศนา วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
ความรู้ความเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องมีทั้งตาในส่วนของร่างกาย และมีตาปัญญา เพื่อพวกเราจะได้เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เพราะสิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้นคือเหตุคือปัจจัย เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปถึงมี เพราะทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่เหตุอยู่ที่ปัจจัย เราจะเข้าถึงยาน เข้าถึงภาคประพฤติภาคปฏิบัติ ทั้งกายทั้งวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพนี้คือเหตุคือปัจจัย เราต้องพากันเข้าใจ ถึงจะได้พากันเป็นมนุษย์ มนุษย์แปลว่าผู้มีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง เอาธรรมนำชีวิต เอาพระธรรมเอาพระวินัยนำชีวิต เอากฎหมายบ้านเมืองนำชีวิต ถ้าเราไม่เอาธรรมนำชีวิตไม่เอากฎหมายบ้านเมืองนำชีวิต พวกเราก็จะเป็นได้แต่เพียงคน ถ้าเราเอาตัวเอาตนนำชีวิต เราก็ไม่ได้เป็นมนุษย์ เราก็พากันเป็นได้แต่เพียงคน เราก็ไม่ได้เป็นข้าราชการ เพราะตัวตนนั้นไม่ใช่ข้าราชการ เราก็ไม่ได้เป็นนักการเมือง เพราะตัวตนนั้นเป็นนักการเมืองไม่ได้ เราก็ไม่ได้เป็นนักบวช เพราะนิติบุคคลตัวตนนั้นไม่ได้เป็นนักบวช เป็นได้แต่อวิชชาความหลง
โลกนี้มีการเรียนการศึกษาถึง 18 ศาสตร์ เรียนตั้งแต่อนุบาลถึงปริญญาเอก เพื่อมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง เป็นพุทธะทางจิตใจ ทั้งกายทางวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ ต้องดำเนินชีวิตด้วยพุทธะ เอาความรู้เอาความเข้าใจนำชีวิต ทุกคนต้องรู้จักคำว่ายาน พาหนะที่นำเราเดินทางไกลไปถึงจุดหมายปลายทาง เราต้องมียาน ยานที่ไปทางบกก็ได้แก่รถเครื่องบิน ยานที่ไปทางน้ำก็ได้แก่เรือ เราต้องอาศัยยานในการเดินทาง เป็นยานทางสวนร่างกาย ส่วนยานทางจิตใจต้องอาศัยสมมติสัจจะ คือพระธรรมพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ สำหรับนักบวช สำหรับประชาชนคนไม่ได้บวชก็ได้แก่กฎหมายบ้านเมือง สิ่งเหล่านี้เป็นสมมุติสัจจะ เพื่อโฟกัสยกเลิกความเป็นนิติบุคคลตัวตน เพื่อความวิมุตติหลุดพ้น นี้คือยานในเรื่องจิตเรื่องใจ การเดินทางก็ต้องอาศัยยานอย่างนี้ นี้คือเหตุคือปัจจัยในการเดินทาง
“วัด” คือความรู้ความเข้าใจ ในยานภายนอกยานทางร่างกาย วัดคือข้อวัตรข้อปฏิบัติ ในเรื่องจิตเรื่องใจในเรื่องพระธรรมพระวินัยในเรื่องกฎหมายบ้านเมือง นี้เป็นข้อวัตรข้อปฏิบัติ ให้พวกเราทุกคนโฟกัสมาหาตัวของเราเน้นมาหาตัวของเรา ไม่ใช่คนอื่น วัดคือข้อวัตรข้อปฏิบัติของเรา วัดภายนอกก็ได้แก่ วัดสำนักสงฆ์ที่มีกุฏิมีศาลามีห้องน้ำห้องสุขามีโรงครัวมีโบสถ์มีวิหาร อันนี้คือวัดภายนอก เป็นที่อยู่ที่อาศัยของส่วนร่างกาย เป็นที่อยู่อาศัยของนักบวชสมณะชีพราหมณ์ ที่มาอยู่รวบรวมกัน ได้รับสิทธิพิเศษถูกต้องตามกฎหมาย มีการประพฤติการปฏิบัติ ต้องมีทั้งอยู่ที่บ้านอยู่ที่ครอบครัวอยู่ที่สังคม รักบ้านรักครอบครัวรักสังคม เพื่อตั้งอกตั้งใจพากันประพฤติปฏิบัติ เน้นการประพฤติการปฏิบัติให้ติดต่อต่อเนื่อง เพื่อเป็นกระบวนการเป็นกระแสเหมือนสายน้ำที่ไหลสู่ทะเลสู่มหาสมุทร เพราะการเป็นฆราวาสนั้นงานมาก ดูแลธุรกิจหน้าที่การงานญาติวงศ์ตระกูล เสียภาษีอากรเพื่อส่วนรวม บำรุงพระศาสนา การมาบรรพชาอุปสมบทคือมายกเลิกสิ่งเหล่านี้ เพื่อจะได้ปฏิบัติติดต่อต่อเนื่องเหมือนสายน้ำ การบวชนี้ดีมาก เพราะผู้ที่มาบวชได้มีการปฏิบัติติดต่อต่อเนื่อง ผู้ที่มาบวชจึงได้รับสิทธิพิเศษถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีผู้ที่มาปลอมบวช เพื่อมาเอาพระพุทธศาสนาหาอยู่หาฉันหาเลี้ยงชีพ ทางส่วนราชการยอมรับก็เลยพากันมาบวช เพราะการปลอมตัวบวชอย่างนี้มันมาหากินง่าย ที่พากันปลงผมนุ่งห่มจีวร เพียงแต่เปลี่ยนชุดจากคฤหัสถ์เป็นนักบวชก็หากินได้แล้ว ด้วยเหตุด้วยปัจจัยนี้ ถึงมีคนมาปลอมแปลงบวชเยอะ แต่เจตนาที่แท้นั้นไม่ได้เห็นภายในวัฏสงสาร ยังยินดีในกามในพยาบาทอยู่ แล้วก็ยังว่าการมาบวชนี้มันหากินง่ายมาก ผู้ที่มาบวชในพระพุทธศาสนาตามหลักการของพระพุทธเจ้านั้น บุคคลนั้นต้องพากันเห็นภัยในวัฏสงสาร เห็นภัยในการเวียนว่ายตายเกิด เป็นผู้ที่ละอายต่อบาดเคยกลัวต่อบาป จึงพากันมาบวช ไม่ใช่พวกที่มาปลอมแปลงบวชอาศัยพระศาสนาหาอยู่หาฉัน ผู้ที่มาปลอมแปลงบวชอาศัยพระศาสนาหาอยู่หาฉันนั้น 99.9% ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสารมาบวชนั้นมีอยู่นิดเดียว สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ไม่มองเห็นภัยในพระพุทธศาสนา ว่ามีอลัชชีได้พากันมาปลอมบวช เพื่อหาอยู่หาฉันหาเลี้ยงชีพ จึงได้เข้มงวดกวดขัน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา มีพระบัญชาให้ผู้ที่มาปลอมบวชลาสิกขาถึง 6 หมื่นรูป หลังจากกลุ่มนี้ลาสิกขาไป จึงได้เกิดมีพระอรหันต์ขึ้นมาหลายพันหลายหมื่นรูป เพราะพื้นฐานแห่งประชาธิปไตยที่เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ได้ผ่านกาลผ่านเวลามาหลายร้อยหลายพันปี ผู้ที่มาบรรพชาอุปสมบท ได้ครองบ้านครองเมืองของศาสนา จนเป็นประชาธิปไตย เป็นเสียงส่วนมากส่วนใหญ่ สิ่งไหนที่มันเห็นพ้องต้องกันเป็นส่วนใหญ่เรียกว่าประชาธิปไตย พากันครองบ้านครองเมืองครองพระศาสนา
การประพฤติการปฏิบัติของเราต้องเอาธรรมนำชีวิต ไม่เอานิติบุคคลตัวตนนำชีวิต การปกครองประเทศชาติบ้านเมืองต้องเอาธรรมนำชีวิต ไม่ใช่เอานิติบุคคลไม่ใช่เอาตัวตน ต้องยกเลิกความเป็นที่บุคคลตัวตน โลกนี้ต้องปกครองด้วยธรรม พระมหากษัตริย์ทุกๆ พระองค์ ของแต่ละประเทศก็ต้องทรงทศพิธราชธรรม ประธานาธิบดีที่เลือกตั้งมาก็ต้องเอาธรรมนำชีวิต ย่อยมาเป็นข้าราชการนักการเมืองก็ต้องเอาธรรมนำชีวิต เอากฎหมายบ้านเมืองนำชีวิต บริษัททั้ง 4 ของทุกศาสนา ต้องพากันเข้าใจ คำว่าศาสนาคือธรรมะ ธรรมะคือศาสนา ยกเลิกนิติบุคคลตัวตน ในโลกนี้มีหลายศาสนา ศาสนาพุทธคริสต์อิสลามพราหมณ์ฮินดูซิกข์เป็นต้น นี้เรียกว่าศาสนา มีจุดหมายปลายทางเดียวกันคือยกเลิกความเป็นนิติบุคคลตัวตน จึงเป็นศาสนา บริษัททั้ง 4 ทั้งรู้ศาสนา ทั้งฝ่ายนักบวชทั้งฝ่ายฆราวาส ต้องรู้ศาสนาของตนเอง อย่างการตั้งบริษัทมาก็เพื่อโฟกัสเข้าหาความถูกต้อง บริษัทหุ้นส่วนก็คล้ายกัน บริษัททั้ง 4 ก็เช่นเดียวกัน ก็พากันรู้จักศาสนาของตนเอง อย่าได้เอานิติบุคคลตัวตนเป็นที่ตั้ง ต้องรับผิดชอบในศาสนาของตัวเอง เพราะศาสนาเป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่สูงส่ง เพื่อหยุดคำว่าคนหรือว่านิติบุคคลตัวตน เพราะตัวตนนั่นแหละคือภพคือชาติ คือสาเหตุเกิดแห่งความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง ตัวตนนั่นแหละมีแต่ทุกข์เกิดขึ้นทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไป
พระศาสนาเป็นหลักการเพื่อมายกเลิกนิติบุคคลตัวตน พระศาสนาไม่ใช่ระบบตัวตน ไม่ใช่ระบบพวกพ้องหมู่เฮา ให้เราเข้าใจ พระศาสนาจึงเป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญา ความถูกต้องก็ให้เป็นความถูกต้อง เพราะความถูกต้องไม่ได้เป็นพี่เป็นน้องเป็นพรรคเป็นพวกกับใคร เพราะทุกอย่างเป็นไปตามหลักเหตุหลักผลเป็นไปตามหลักเหตุหลักปัจจัย เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปถึงมี เราทุกคนอย่าพากันใจอ่อนนะ ต้องเอาความถูกต้องนำชีวิต อย่าไปถือพรรคถือพวกถือหมู่ถือคณะ เราอย่าพากันคิดว่า ถ้าจะเอาความถูกต้อง จะหาใครเข้ามาบวช จะเอาหัวใจของพุทธเจ้ามายกให้สามัญชนจะทำได้อย่างไร ได้ไม่มีปัญหาอะไร เพราะหมู่มวลมนุษย์ก็มีสติมีปัญญาอยู่แล้ว เพราะการเรียนการศึกษาทางหลักเหตุผลวิทยาศาสตร์มีตั้ง 18 ศาสตร์ ยิ่งพระศาสนาเป็นพระศาสนา ต่างก็ยิ่งอยากจะมาบวช เพราะพระศาสนาเป็นสิ่งที่สูงสุด เป็นสิ่งที่ดีจริง ทุกคนก็ย่อมอยากจะมาบวช เราอย่าเอานิติบุคคลตัวตนเป็นที่ตั้ง ต้องเอาความถูกต้องเป็นที่ตั้ง ยกเลิกตัวตน เพราะตัวตนมันไปไม่ได้ ยิ่งประเทศไทยเราให้โอกาสพิเศษเพื่อพัฒนาบุคลากรของประเทศไทย ให้กุลบุตรลูกหลานที่เป็นประชาชนให้พากันมาบวช เมื่อลาสิกขาไปจะได้ช่วยกันพัฒนาประเทศ ด้วยเอาธรรมนำชีวิต ไม่เอาตัวตนนำชีวิต ไม่เอาอบายมุขนำชีวิต เพราะศาสนานั้นยกเลิกอบายมุขอบายภูมิ มีความสุขในการทำงานในการปฏิบัติธรรม กุลบุตรลูกหลานก็อยากมาบวชอยากมาปฏิบัติ เพื่อได้ปฏิบัติติดต่อต่อเนื่อง ที่เขาไม่อยากบวชทุกวันนี้ เพราะสาเหตุอะไร เพราะผู้ที่บวชอยู่ในพระศาสนา มันไม่ใช่พระจริง แต่เป็นพระปลอม เป็นผู้มาปลอมบวชถูกต้องตามกฎหมายสังคมยอมรับ พากันมาบวชเพื่อเอาศาสนาหาอยู่หาฉันหาเลี้ยงชีพ มีมากถึง 99.9% ผู้ที่บวชไม่ได้มุ่งมรรคผลพระนิพพานไม่ได้เห็นภัยในวัฏสงสาร อย่างนี้ถือว่าพระปลอม ถึงจะมีใบสุทธิ มีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสเจ้าคณะตำบลเจ้าคณะอำเภอเจ้าคณะจังหวัดเจ้าคณะภาคถึงสมเด็จพระราชาคณะ ถ้าเอาตัวตนเป็นที่ตั้งก็ถือว่าเป็นผู้ปลอมมาบวช เพื่อเอาพระพุทธศาสนามหาอยู่หาฉันหาเลี้ยงชีพ เพราะไม่เห็นภัยในวัฏสงสาร เราเป็นพุทธบริษัทต้องพากันเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วก็จะได้พากันแก้ไข พากันเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ
เรามาบรรพชาอุปสมบท เห็นภัยในวัฏสงสารพากันมาบวชมาปฏิบัติ วัดก็ไม่ว่างจากคนที่อยากจะบวช แต่เมื่อไม่ถูกต้อง เมื่อวัดนั้นๆไม่มีพระ มีแต่ผู้มาอาศัยวัดหาอยู่หาฉัน สาเหตุนี้เองกุลบุตรลูกหลานทั้งหลาย ถึงไม่อยากพากันมาบวช พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ว่าอะไร จะเป็นคนยากคนจนคนปานกลางจะเป็นคนรวยเป็นเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ จะเป็นใครมาจากไหนท่านก็ไม่ว่าอะไร เพราะการมาบวชคือการมายกเลิกนิติบุคคลตัวตน เพราะตัวตนนั้นมันมีแต่ทุกข์เกิดขึ้นทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไป ผู้ที่มาบวชต้องมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง เข้าสู่เจตนาเข้าสู่ความตั้งใจ มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ ยกเลิกตัวยกเลิกตน ที่พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้คือมายกเลิกทาสยกเลิกชั้นวรรณะ หมายถึงยกเลิกตัวตนนี่แหละ จึงจะได้เข้าถึงความเป็นนักบวช นักบวชคือผู้ที่ยกเลิกทาสยกเลิกชั้นวรรณะ ไม่ถือว่าตนดีกว่าเขาเก่งกว่าเขาด้วยก็เขา หรือเสมอเขา ด้อยกว่าเขา คือมายกเลิกตัวตนอย่างนี้ เพราะพระพุทธเจ้าคือผู้ยกเลิกตัวตน ที่ท่านทรงบำเพ็ญพุทธบารมี 10 ทัศ 20 ทัศ 30 ทัศ คือยกเลิกตัวตน ไม่เอาตัวตนนำชีวิต ถึงทรงบรรเทาวันหนึ่งเพียง 4 ชั่วโมง รับใช้ดูแลบุคคลอื่นวันละ 20 ชั่วโมง
จึงให้พวกเราเข้าใจการบวช การบวชคือการมายกเลิกตัวตน ไม่มีตัวตน ยกเลิกนิสัยของตนเอง เอาธรรมเอาวินัยนำชีวิต จึงเรียกว่านักบวช ถ้าเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เราก็ไม่ได้อบรมบ่มอินทรีย์ แล้วจะเป็นนักบวชได้อย่างไร ให้พุทธบริษัทพากันเข้าใจ อย่าเอาความรู้สึกของเราที่มีตัวมีตนมาตัดสินว่าถ้าทำตามพระพุทธเจ้าจะมีใครมาบวช อย่าไปคิดอย่างนั้น ถ้าไม่มาบวช ก็ดีกว่ามาบวช ไม่มีพระ ก็ดีกว่ามีผู้มาปลอมเป็นพระ มาหาอยู่หาฉันหาเลี้ยงชีพ ปล่อยให้วัดร้าง ก็ยังดีกว่ามีผู้มาปลอมตัว ให้พวกเราพากันคิดดูดีๆ โรงเรียนดีๆ เราก็อยากส่งลูกเราไปเรียนทั้งในประเทศต่างประเทศ เสียเงินหลายแสนหลายล้านก็อยากส่งลูกไปเรียน ถ้ามีวัดดีๆ มีครูบาอาจารย์ดีๆ ใครเขาอยากจะไม่ไปบวช ให้พากันคิดดูดีๆนะ ทำไมลูกหลานมันเถียงเรา เด็กตัวน้อยๆ ทำไมเถียงเรา เด็กฟันน้ำนมยังไม่ร่วงทำไมเถียงเรา เพราะเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เด็กก็เถียงเรา ไม่ได้เอาธรรมนำชีวิต ไม่ได้เอาความถูกต้องนำชีวิต อย่างในปัจจุบันประเทศไทยเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง พระก็โกงกินคอร์รัปชั่นไป 60-70% ทำไมถึงว่าอย่างนั้น เพราะว่าการมาบวชไม่ได้มุ่งมรรคผลนิพพาน ไม่มีความละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป ไม่เห็นภัยในวัฏสงสาร พากันมาบวชเพราะเห็นว่าพระศาสนามาหาอยู่หากินง่าย มาโกนหัวห่มผ้าเหลืองสวดมนต์ได้อย่างนี้ก็หากินได้แล้ว เจตนาอย่างนี้มันก็เป็นการโกงกินคอร์รัปชั่นไปโดยธรรมชาติ 60-70% แล้ว จึงให้พากันเข้าใจ
อย่างการบริหารราชการในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาช่วยเหลือเพื่อประเทศชาติเพื่อส่วนรวม เพื่อเอาธรรมนำชีวิต คิดว่ามาเป็นข้าราชการเพื่อมาหาอยู่หาฉันหาเลี้ยงชีพ เพราะเป็นข้าราชการมันมั่นคง ค่ารักษาค่าพยาบาลก็ฟรี พ่อแม่ก็ฟรีหมด จึงพากันมาเป็นข้าราชการด้วยเจตนาที่ไม่ได้มาบริหารราชการ เพื่อให้ภาพรวมของประเทศก้าวไปด้วยการพัฒนาวัตถุเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์และพัฒนาทางจิตทางใจ เพราะโลกนี้ก็ต้องมีข้าราชการเพื่อบริหาร เรามีความคิดเห็นผิดเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เราเลยตั้งอยู่ในทุจริต ทุจริต 60-70% ถ้าไปโกงกินไปเอาใต้โต๊ะบนโต๊ะ เอามากกว่านั้นอีก พวกข้าราชการกับพวกนักบวชเรียกว่าโกงกินอย่างถาวร ตั้งแต่ต้นจนอวสานแห่งชีวิต เพราะเกษียณอายุไปแล้วก็ยังได้รับบำนาญ จึงเรียกว่าโกงคิดอย่างถาวร เพราะตัวตนนี่แหละจึงไม่รู้จักคำว่าข้าราชการที่แท้จริง เอาตัวตนเอาพรรคเอาพวกเล่นพับเล่นพวก เอาตัวตนเป็นที่ตั้งไม่ได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ตำแหน่งต่างๆ ก็ซื้อมา อย่างเป็นคนดีถึงที่จะขึ้นเป็นผู้กำกับต้องเสีย 5 ล้านอย่างนี้ ถ้าเป็นคนไม่ดีก็ต้องเสียมากกว่านี้ พอเสียไปแล้วก็ต้องมาถอนทุนคืน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากเหตุ นี้เป็นระบบของนิติบุคคลตัวตน เมื่อเอาตัวตนเป็นที่ตั้งจึงไม่ใช่ข้าราชการนะ ให้เข้าใจ ทำไมประเทศเราไปไม่ได้ ก็เพราะทุจริตเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันไปไม่ได้ ภาพรวมของข้าราชการจึงมีการทุจริตคอร์รัปชั่น 60-70% พวกที่ว่าตัวเองไม่ได้โกงกินคอรัปชั่นก็ให้รู้ว่า เรามาเป็นข้าราชการ เพื่อมาทำงานรับใช้ประชาชนรับใช้ส่วนรวม เราต้องเอาตัวอย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดของโลก เป็นพระมหากษัตริย์เพื่อรับใช้ประชาชน ไม่ได้อยู่บนหัวของประชาชน แต่ว่าอยู่ในใจของประชาชน พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม ทรงเอาธรรมนำชีวิต ทรงเกิดมาเพื่อมาเสียสละ เพื่อรับใช้ประชาชนจนกระทั่งเสด็จสวรรคต เราเป็นข้าราชการก็ต้องพากันมาเสียสละ อย่าพากันก๋ากันกร่างว่าท่านนั้นท่านนี้ บิ๊กนั้นบิ๊กนี้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันเสียหาย คำว่าบิ๊กก็คือนิติบุคคลตัวตน ไม่ใช่ธรรมะ คือทิฏฐิมานะอัตตาตัวตน พระพุทธเจ้าทรงยกเลิกความเป็นบิ๊กด้วยการยกเลิกทิฏฐิมานะอัตตาตัวตน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงยกเลิกตัวตน ทรงทศพิธราชธรรม
นักการเมืองคือผู้ที่มาวางแผนในความบกพร่องทั้งกายวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ เพื่อจะพัฒนาเรื่องจิตเรื่องใจ ความเป็นข้าราชการก็ลงรายละเอียดในศาสตร์ต่างๆ ที่ได้เรียนได้ศึกษาเข้าสู่ภาคปฏิบัติ นักการเมืองคือผู้มาวางแผนมาวางหลักการ เพื่อพัฒนาเรื่องจิตเรื่องใจกายวาจาใจตลอดถึงอาชีพ เพื่อให้เข้าสู่ความดับทุกข์ เพราะทุกอย่างนั้นแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว เมื่อเราพัฒนาใจพัฒนาวัตถุไปพร้อมๆ กัน เป็นทางสายกลาง ย่อมแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว นักการเมืองคือผู้มาวางแผน มาออกกฎหมาย เพราะกฎหมายถ้าออกมาเป็นกฎหมายสมบูรณ์ กฎหมายนั้นก็จะเป็นเผด็จการ กฎหมายจะต้องเอาธรรมชีวิต เอาธรรมนำกฎหมาย ไม่เป็นนิติบุคคลไม่เป็นตัวไม่เป็นตน กฎหมายถึงเป็นธรรมะ การพัฒนาประชาธิปไตยให้คนส่วนใหญ่เข้าสู่ธรรมะ เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เราก็มาหากินกับการเป็นนักการเมือง เพราะนักการเมืองนี้โกงกินมากถึง 70-80% เพราะว่าคุมการเงินการคลัง คุมกระทรวงต่างๆ โกงกินมาก อย่างร้อยนึงก็เอาไป 70-80 แล้ว กินตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง กินเป็นขบวนการ ถ้าไม่กินเป็นขบวนก็มีเรื่องแน่ ที่มีเรื่องให้เราได้รู้ได้เห็น ก็เพราะว่าผลประโยชน์ไม่ลงตัว เพราะแบ่งกันไม่ครบถ้วน มันเลยมีเรื่องมีราว ถ้าเราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้ง ไม่ยกเลิกตัวตน เราก็เป็นนักการเมืองไม่ได้ นักการเมืองต่างๆ จะมาเป็นนักการเมืองได้ ส่วนใหญ่ก็เพราะซื้อเสียงซื้อคะแนน ส่วนใหญ่จึงไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่เป็นนักกินเมือง ประเทศเรามันถึงไปไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องอื่นหรอก ก็เพราะเรื่องตัวเรื่องตนเรื่องทุจริตนี่แหละ ภาพรวมของประเทศเรา ผู้ที่มาเป็นนักการเมืองทั้งหลาย 99.9% จึงเป็นโจร ประชาชนทั้งหลายต้องพากันรู้ อย่าพากันไปเอาเงินเอาสตางค์เขา ตอนก่อนจะเลือกตั้งที่เขาเอามาจ่าย ถ้าเราเอาเงินเขา แสดงว่าเรายอมรับในการโกงกินคอรัปชั่น ให้เข้าใจอย่างนี้ ถึงแม้บุคคลนั้นจะเป็นพี่เป็นน้องเป็นญาติเรา ถ้าเอานิติบุคคลตัวตนเป็นที่ตั้งเอาความไม่ถูกต้องเป็นที่ตั้ง แม้จะเป็นญาติเรา ก็อย่าไปลงคะแนนให้ ถ้าไปลง เรานี่แหละจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำลายความมั่นคงของชาติศาสน์กษัตริย์ ที่มาจากตัวของเราเอง ที่ไม่ได้เอาความถูกต้องนำชีวิต เอาพี่เอาน้องเอาพรรคเอาพ้องนำชีวิต สิ่งเหล่านี้แหละจะทำลายความมั่นคง ทุกคนนั้นก็เก่งหมดฉลาดหมด ถ้ามายกเลิกตัวตน ทุกคนทำได้ปฏิบัติได้ถ้ายกเลิกตัวตน ที่ทำได้ปฏิบัติไม่ได้เพราะไม่ยกเลิกตัวตน
ทุกคนต้องรู้จักคำว่าพระ คำว่าข้าราชการนักการเมือง เราจะได้หูตาสว่างไสวทางปัญญา เราเอานิติบุคคลตัวตนเป็นที่ตั้ง ความสว่างทางตาปัญญาก็ไม่มี ให้พากันรู้นะว่าตัวตนมันร้ายกาจมาก มันแซ่บมันรำมันหรอยมันอร่อย ตัวตนมันคือการติดคือการเสพติด การจะยกเลิกสิ่งเสพติด ต้องมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติภาคบำบัด ตัวตนนี่แหละคืออัมพฤกษ์อัมพาต คือไปไม่ได้ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ ตัวตนคือความอาพาธเจ็บป่วย เราต้องเข้าสู่ภาคปฏิบัติภาคบำบัด อันไหนไม่ดีไม่คิดไม่พูดไม่ทำ ต้องใจเข้มแข็ง ต้องเห็นภัยในวัฏสงสาร เพื่อเราจะได้ก้าวไปด้วยภาคปฏิบัติภาคบำบัด เพื่อทำติดต่อต่อเนื่องกัน ลองดูสิถ้าเราไม่เข้มแข็งเข้าสู่ภาคปฏิบัติอย่างติดต่อต่อเนื่อง พวกติดเหล้าติดเบียร์ก็เลิกไม่ได้ เราต้องมองเห็น เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันยิ่งกว่าติดยาเสพติดอีก ตัวตนนี้มันเป็นพลังงานแห่งการเวียนนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่เราจะพอมองเห็นตามคำสอนของพระพุทธเจ้า กรรมเก่าที่ปรากฏออกมาเป็นธาตุขันธ์อายตนะทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ ที่เป็นอายตนะภายใน ที่เป็นพลังงาน เป็นสัญชาตญาณรักความสุขไม่ชอบความทุกข์ระแวงภัยยินดีพอใจในกาม เป็นสัญชาตญาณแห่งสังขารที่มีใจครอง ครองด้วยสักกายะทิฏฐิคือความยึดมั่นถือมั่นในตัวในตน ที่เป็นประชาชนข้าราชการนักการเมืองนักบวชก็ล้วนแต่โกงกินคอร์รัปชั่น ตัวตนที่เป็นกรรมเก่า เป็นสัญชาตญาณเป็นความรู้สึกรักสุขเกลียดทุกข์ระแวงภัยยินดีพอใจในกาม เพราะความเห็นไม่ถูกต้องเข้าใจไม่ถูกต้อง จึงตกอยู่ในสัญชาตญาณ ให้รู้จักกรรมใหม่คือรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะธรรมารมณ์ที่เป็นอายตนะภายนอก ที่มาผัสสะมากระทบกันมาสปาร์คกัน มันจะเป็นสัญชาตญาณเวียนว่ายตายเกิดเป็นกระบวนการเป็นเหตุเป็นปัจจัย เพราะสิ่งที่มีสิ่งต่อไปถึงมี พระพุทธเจ้าจึงให้พวกเราพากันรู้ ยกสิ่งเหล่านี้เข้าสู่พระไตรลักษณ์ ต้องประพฤติต้องปฏิบัติ เพื่อจะได้หยุดกรรมเก่ากรรมใหม่ อันนี้คือไฟท์คือการปฏิบัติในปัจจุบัน
ผู้ที่เป็นนักบวชทั้งหลายได้รับสิทธิพิเศษ ต้องพัฒนาใจ มาบรรพชาอุปสมบทต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้สู่พระไตรลักษณ์ ว่าทุกอย่างนั้นไม่แน่ไม่เที่ยงไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน เมื่อเกิดขึ้นตั้งอยู่ก็ดับไป ต้องภาวนาอย่างนี้ ถ้าไม่ภาวนาอย่างนี้ก็ต้องอาบัติตั้งแต่ทุกกฏจนถึงอาบัติถุลลัจจัย เพราะฐานตั้งอยู่ในความเพลิดเพลินความประมาท ต้องประพฤติต้องปฏิบัติ เพื่อพัฒนาใจพัฒนาปัญญา เพราะใจมันหลงในความอร่อยความแซ่บความลำความนัวความหรอย เพราะตัวตนมันอร่อยมาก จึงต้องเข้าสู่ภาคปฏิบัติ เราต้องรู้เรื่องการประพฤติปฏิบัติเพื่อโฟกัสมาหาที่ตัวเรา ให้การปฏิบัติติดต่อต่อเนื่อง สร้างความเคยชินให้เป็นชิปฝังไว้ในสัญญาขันธ์ เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันก็จะเป็นสัญชาตญาณฝังอยู่ในสัญญาขันธ์ ผู้ที่มาบวชทุกคนต้องพากันมายกเลิกตัวตน ถ้าไม่ยกเลิกตัวตนก็อย่าพากันมาบวช ผู้ที่บวชอยู่แล้วไม่อยากลาสิกขา ก็ต้องแก้ไขปรับปรุงตัวใหม่ เพราะว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ว่าอะไร เมื่อก่อนท่านไม่รู้ก็ไม่เป็นไร เมื่อรู้แล้วก็ต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เอาพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่เป็นยานเพื่อเข้าสู่ภาคปฏิบัติเข้าสู่ภาคบำบัด ทุกคนต้องพากันทำได้ปฏิบัติได้ เมื่อถือนิสัยของพระพุทธเจ้า ยกเลิกตัวตน เพราะเราได้รับสิทธิพิเศษ จะบวชชั่วคราวเพื่ออบรมบ่มอินทรีย์สึกไปเป็นฆราวาส ก็ต้องปฏิบัติให้ได้มาตรฐาน ผู้ที่จะบวชตลอดกาลจนหมดลมหายใจก็ต้องยกเลิกตัวตน 100% เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ พวกเราไม่ต้องพากันมาเอาพระพุทธศาสนาหาอยู่หาฉันหาเลี้ยงชีพ เราไปคิดผิดอย่างนั้นมันไม่ถูก ความคิดความเข้าใจที่มาอาศัยพระศาสนาหาเลี้ยงชีพ เป็นการทำลายความมั่นคงของพระศาสนา เพราะความคิดความเข้าใจอย่างนี้มันทำลายความมั่นคง ถ้าใครทำไม่ได้ก็อาราธนานิมนต์ให้ลาสิกขาไป ถึงแม้จะบวชอยู่แต่เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ก็ชื่อว่าลาสิกขาแล้ว เพราะหัวใจท่านว่างจากความถูกต้อง ว่างจากมรรคผลนิพพาน เพราะตัวตนคือความว่างจากมรรคผลนิพพาน ไม่พากันเน้นในปัจจุบัน เพราะปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ต้องเข้าสู่ภาคประพฤติปฏิบัติภาพบำบัด อดีตนั้นชั่งหัวมัน ปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องเอาใหม่ตั้งใจใหม่ อย่างวัดเรานี้เอาพระพุทธเจ้าเป็นหลักร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกวัดก็เอาพระพุทธเจ้าเป็นหลักร้อยเปอร์เซ็นต์ ยกเลิกตัวตน อันไหนไม่ดีไม่คิด อันไหนไม่ดีไม่พูด อันไหนไม่ดีไม่ทำ ไม่เคร่งเกินคำสอน ไม่หย่อนตามตัณหาตามตัวตน ทำเหมือนพระพุทธเจ้าทำเหมือนพระอรหันต์ ยกพระพุทธเจ้ามาไว้ในใจ ยกพระธรรมพระวินัยมาไว้ในใจ ยกพระอริยสงฆ์มาไว้ในใจ หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง ท่านบอกว่า ผมรู้พระธรรมพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ทั้งหมดทั้งมวลสอนตนเองปฏิบัติตนเองร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมบอกสอนพวกท่านและประชาชนเพียง 5% อย่างนี้จึงพอไปได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไปไม่ได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเรียกว่าสีลัพพตปรามาส ลูบคลำในศีลในข้อวัตรข้อปฏิบัติ เพราะมันเป็นตัวเป็นตน มันไปไม่ได้
ให้เข้าใจเรื่องพระธรรมเรื่องพระวินัยเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะพระธรรมพระวินัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่างวัดเรานี้ไม่ให้มีโทรศัพท์มือถือเครื่องมือสื่อสารที่จะทำให้เกิดกิเลสเกิดอาสวะ เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงมี ถ้าเราไม่ยกเลิกนิติบุคคลตัวตน ด้วยเอาพระธรรมพระวินัยเป็นที่ตั้งมันไม่ได้ พระพุทธเจ้าถึงไม่ให้ตรึกในกามไม่ให้ตรึกในพยาบาท พระเณรวัดนี้อย่ามีโทรศัพท์มือถือ เราต้องเข้าใจว่า เราอยากมีโทรศัพท์มือถือ แสดงว่าเรามีตัวมีตน ถ้าเราไม่มีตัวไม่มีตนแล้ว เราก็ไม่ต้องการโทรศัพท์มือถือ เพราะตัวตนมันทำให้อยากมีโทรศัพท์มือถือ อยากรู้เรื่องของคนอื่น ให้เราคิดดูดีๆ นะ เจ้าอาวาสทั้งหลายนักปกครองทั้งหลายที่ฟุ้งซ่านจนน่าเกลียด สาเหตุก็เพราะไม่รู้จักตนเอง ไปรู้จักแต่สิ่งภายนอก ไม่รู้จักกายวาจากิริยามารยาทอาชีพของตนเองที่ต้องมายกเลิกตัวตน ไม่รู้จะเรื่องภายนอก ต้องพากันคิดดูดีๆ นะ อย่างเรามีมือขวามือซ้าย ใจเรายินดีในกามยินดีในตัวตน มือเราไปจับโทรศัพท์มือถือ อวัยวะเพศของนักบวชผู้ชายมันก็ขยับตามที่เราจับโทรศัพท์มือถือ เราไปจับมือถือเมื่อไหร่เจ้าโลกก็ตั้งโด่ เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปถึงมี โทรศัพท์มือถือนั้นมันดี แชร์ความรู้ความเข้าใจกัน ไม่ต้องใช้รถใช้เครื่องบินไม่ต้องใช้ยานพาหนะ โทรศัพท์มือถือก็ช่วยสื่อสารในการทำธุรกิจได้ แต่ผู้ประพฤติผู้ปฏิบัติธรรมต้องฝึกตน ใจของเราต้องยกเลิกความเป็นตัวเป็นตน เข้าสู่ความวิเวก คือพระธรรมพระวินัยและกฎหมายบ้านเมือง สิ่งเหล่านี้จะโฟกัสให้ถึงความดับทุกข์ทั้งกายวาจาใจ หลวงตามหาบัวบอกว่า อย่าพากันไปมีโทรศัพท์มือถือนะ เพราะอันนี้เป็นสาเหตุแห่งความไม่ถูกต้อง มันเป็นตัวเป็นตน มันเป็นความเสียหาย เพราะต้องพากันเข้าใจพากันรู้จักว่า เราต้องมายกเลิกการมีโทรศัพท์มือถืออย่างเด็ดขาด ในวัดนี้ถ้าใครไม่ยินดียกเลิก ก็ให้พากันลาสิกขาไปเสีย เพื่อให้ใช้โทรศัพท์ได้เต็มที่เลย ไม่ต้องพากันมาบวช เพราะจากสถิติที่เก็บมาหลายปี ที่ทำให้พระภิกษุเสียความเป็นพระเป็นได้แต่เพียงคน พิจารณาทางเหตุทางผลทางวิทยาศาสตร์มาหลายปีแล้วว่า พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่ดับทุกข์ได้จริง เราจะเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้งเก่งกว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ ความรู้สึกที่ว่าไม่น่าจะมีปัญหานะ เป็นความเห็นที่ขัดแย้งกับพระพุทธเจ้า ถือว่าเก่งกว่าพระพุทธเจ้า ที่ถือตัวว่าเก่งกว่าพระพุทธเจ้าก็ไม่ใช้ใครหรอก ก็คือพระเทวทัตนั่นเอง เอาตัวตนเป็นที่ตั้งจึงถือตัวว่าเก่งกว่าพระพุทธเจ้า หลวงพ่อจะอนุญาตไม่กี่รูปที่ใช้ทำงานสงฆ์ ให้มีโทรศัพท์ได้ ผู้ที่มาบวชทั้งหลายต้องพากันเข้าใจนะ ต้องมายกเลิกนิติบุคคลตัวตน ยกเลิกโทรศัพท์มือถือ แล้วก็ที่วัดนี้ไม่ให้สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าหรือ pod ก็ไม่ได้ ถ้าหลวงพ่อรู้ก็ต้องให้สึกก็ต้องให้ลาสิกขา เพราะการมาประพฤติมาปฏิบัติก็เพื่อยกเลิกนิติบุคคลตัวตน เผื่อไม่ให้เป็นสีลัพพตปรามาส ลูบคลำในศีลในข้อวัตรข้อปฏิบัติ เรามาบวชเราต้องยกเลิก รู้ว่าอันไหนไม่ดี ไม่ต้องคิดไม่ต้องพูดไม่ต้องทำไม่ต้องเสพ ต้องเข้าถึงเจตนาเข้าถึงความตั้งใจ เพราะการประพฤติการปฏิบัติการมาบวชนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันก็ไม่ใช่ภิกษุในพระพุทธศาสนา
พระวินัยทุกข้อคือธรรมะ ธรรมะนั้นคือพระวินัย มันเป็นกายวิเวก หลวงปู่ชา หลวงตามหาบัว เจ้าคุณพุทธทาส ท่านถึงเน้นเรื่องโทรศัพท์มือถือ พวกอินเทอร์เน็ต เฟสบุ๊ค คอมพิวเตอร์เหล่านี้เปรียบเหมือน ศาสตราวุธที่เราใช้แล้วมันทำร้ายตัวเองทำลายกุลบุตรลูกหลานผู้ที่ยังมีอินทรีย์อ่อน เพราะพระเรานี้พระภิกษุเหล่านี้แหละอย่าใจอ่อน พวกที่บวชมายังไม่มีโอกาสพิจารณาพระกรรมฐาน ไม่ได้เจริญอานาปานะสติ ไม่ได้พากันตั้งอยู่ในพุทโธ เพราะใจมันหยาบ เพราะใจมันสกปรกใจมันไม่วิเวก ให้เข้าใจนะ พวกนี้แหละไม่ได้เข้าสู่กายวิเวก ผู้ที่ติดหมกมุ่นอยู่ในกาม มันต้องเข้าสู่กายวิเวก มันต้องหยุดพวกนี้ก่อน พวกเจ้าอาวาสพวกประธานสงฆ์เป็นตัวอย่างแบบอย่างผู้ที่บวชภายหลัง ต้องพากันตั้งมั่น มรรคผลนิพพานหมดสมัย เพราะเราพากันยินดีในกามหมกมุ่นในกาม เราจะพากันมองหน้ากันคนนี้ก็ทำ คนนั้นก็ทำ ก็รู้แก่ใจอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพบูชา พระธรรมคำสอนเป็นสิ่งที่ควรเคารพบูชา ถ้าอย่างงั้น เราไม่ต้องไปหาพระอลัชชีที่ไหนหรอก อลัชชีที่ตัวเราทุกคนนี่แหละ เป็นผู้ที่ไม่ละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป รู้อยู่แต่ก็ยังขืนทำ พระพุทธเจ้าถึงให้เรากลับจิตกลับใจกลับกาย กลับตัว ปัจจุบันนี้เราเป็นคนใจอ่อนเสียเพราะความใจอ่อน เสียเพราะพี่น้องญาติวงศ์ตระกูลพรรคพวก หมู่มวลมนุษย์ทั้งหลายที่ใจอ่อนต้องมีพรรคมีพวกที่เรียกว่าใจของเรายังอยู่ในแก๊งค์ หากใจอ่อนก็ละสิ่งเสพติดที่เรียกว่ากามไม่ได้ ทุกท่านทุกคนนะ พระพุทธเจ้าให้เราละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป
พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าเป็นเรื่องจิตเรื่องใจ เป็นเรื่องของมรรคผลนิพพาน ไม่ใช่เรื่องกฎหมายบ้านเมือง ถ้าเป็นเรื่องกฎหมายบ้านเมือง มันมีการแต่งสำนวนแต่งอะไรได้ แต่ธรรมวินัยถ้าต้องอาบัติแล้วคือต้องแล้ว ถ้าเป็นอาบัติใหญ่เยียวยาไม่ได้ ต้องขาดจากความเป็นพระ ถ้าเป็นอาบัติใหญ่รองลงมาก็เข้ากรรม ต้องมาสมาทานต่อหน้าภิกษุสงฆ์เพื่อที่จะไม่ทำอีก เราจะไม่ให้ใครรู้ไม่ให้ใครเห็น ก็ไม่พ้นอาบัติ ทุกคนต้องพึงสำรวม พึงระวัง เพราะเพื่อประโยชน์แก่พระศาสนา เพื่อกตัญญูกตเวทีต่อพระพุทธเจ้า เพื่อทรงไว้ซึ่งมรรคผลพระนิพพาน
แจกปัญญา แจกศาสนา แจกธรรมวินัย แจกสิ่งที่ถูกต้อง
เพื่อเดินตามรอยพระพุทธเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
โดยทุกท่านสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่
https://linktr.ee/watsubthawee
Share wisdom, spread Buddhism and its discipline.
Advocate righteousness to follow Lord of Buddha's footsteps 100%
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
You can receive new Dharma updates.
https://linktr.ee/watsubthawee