แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]
โอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ที่หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตาให้นำมาบรรยาย
บรรยายธรรมโดย พระมหาอนุชน สาสนกิตติ (ป.ธ.๙, ดร.)
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
เรื่อง พุทธะที่แท้จริง ตอนที่ ๕๔ ความไม่รู้ความไม่เข้าใจในธรรม มันจะทำลายความมั่นคงของชีวิตที่ประเสริฐ
(บางส่วนจากโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า)
คำเทศนา วันพุธที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เราทุกคนให้พากันเข้าใจนะ ความไม่เข้าใจจะทำให้ตัวเราเสียหาย ครอบครัวประเทศชาติเสียหาย ความไม่รู้ความไม่เข้าใจมันจะทำลายความมั่นคงของชาติศาสน์กษัตริย์ เรามองดูภาพรวมของเราของผู้อื่นของประเทศ ของหมู่มวลมนุษย์ในปัจจุบัน ประชากรโลก 8,000 กว่าล้านคน เพราะสาเหตุที่เป็นไปอย่างนี้เพราะว่าไม่รู้อริยสัจ 4 ไม่รู้เหตุไม่รู้ปัจจัย มีการพัฒนาเทคโนโลยีวัตถุอย่างเดียว ไม่ได้พัฒนาใจไปพร้อมๆ กัน ให้เป็นทางสายกลาง การที่เราพัฒนาการเรียนการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ทางเหตุทางผลน่ะ เพื่อตัวเพื่อตน ไม่ได้พัฒนาใจไปพร้อมๆกัน นี่คือความเสียหายนะ การพัฒนามนุษย์ต้องพัฒนาทั้งใจพัฒนาทั้งวัตถุไปพร้อมๆ กัน ให้เป็นทางสายกลาง ทางวัตถุก็ไม่ยิ่งหย่อน ทางจิตใจของเราก็ไม่ยิ่งหย่อน ทางวัตถุทางจิตใจต้องไปพร้อมๆ กัน จึงเป็นอริยมรรค ทั้งกายวาจาใจไปพร้อมๆ กัน เป็นรัตนตรัย
พวกเราทั้งหลายต้องพากันเข้าใจเรื่องกฎหมายบ้านเมือง เข้าใจเรื่องพระศาสนา ต้องพากันเข้าใจนะ เพื่อปฏิบัติเรื่องจิตเรื่องใจเรื่องวัตถุไปพร้อมกัน ให้เป็นทางสายกลาง มนุษย์เราต้องมีการเรียนการศึกษา เพราะเรามีตา 2 อย่าง คือตาทางร่างกายเรียกว่ามังสจักษุ อีกอย่างหนึ่งคือตาปัญญาเรียกว่าปัญญาจักษุ มนุษย์เราจึงต้องมีการเรียนการศึกษาของความเป็นมนุษย์ตั้งแต่โบราณมี 18 ศาสตร์ ทุกๆ ศาสตร์ก็มารวมที่พุทธศาสตร์ คือเอาความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้องนำชีวิต ทั้งกายวาจาและจิตใจ รวมถึงกิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ เพราะธรรมทั้งหลายทั้งปวงนั้นเกิดจากเหตุเกิดจากปัจจัย เพราะสิ่งนี้มี สิ่งต่อไปจึงมีได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่เหตุขึ้นอยู่ที่ปัจจัย ทั้งกายทั้งวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ ที่เป็นเหตุเป็นปัจจัย มนุษย์เราต้องพากันมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง พากันมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติในปัจจุบันในชีวิตประจำวัน อดีตที่ผ่านมาแล้วถือว่าเป็นบทเรียนเป็นประสบการณ์ อนาคตที่ยังมาไม่ถึงก็ยังไม่ใช่กาลไม่ใช่เวลาในการประพฤติปฏิบัติ ปัจจุบันเราต้องมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง พากันมีความสุขในการประพฤติปฏิบัติทั้งกายวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ เพราะปัจจุบันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก สิ่งเหล่านี้มันเป็นศีล เป็นสมาธิคือความตั้งมั่นในอุดมการณ์ในอุดมธรรม เป็นปัญญานำชีวิตเป็นสัมมาทิฏฐินำชีวิต พวกเราต้องพากันปฏิบัติอย่างนี้ เพราะสิ่งเหล่านี้คือพระรัตนตรัย คือกายวาจาใจกิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพที่ถูกต้อง ต้องพากันเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็ทำความเสียหายให้แก่เราครอบครัวเราจนถึงประเทศชาติ เข้าใจอย่างนี้เรียกว่ารู้ความจริงรู้เหตุรู้ปัจจัย เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นพุทธะนำชีวิต เราทุกคนเน้นมาที่ตัวเรา ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นบารมี ขั้นต้นขั้นกลางขั้นสูงสุด เน้นมาที่ตัวเรา เพื่ออาศัยการอบรมบ่มอินทรีย์ให้ติดต่อต่อเนื่องเป็นน้ำเป็นสายน้ำเพื่อไหลสู่ทะเลสู่มหาสมุทร พากันมาเน้นที่ตัวเรา เหมือนพระพุทธเจ้าพาทำพาปฏิบัติ ให้มีสัมมาทิฏฐิความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง มีความสุขที่สุดในโลกในการประพฤติปฏิบัติ ให้เห็นคุณค่าเห็นประโยชน์ในการประพฤติปฏิบัติ นี้คือการทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทและอาชีพ นี้คือความดับทุกข์ของเรา เพราะเราจะเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเอาความหลงเป็นที่ตั้งไม่ได้ ต้องพากันรู้จัก เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติอย่างมีความสุข เราจึงจะได้เป็นมนุษย์ มนุษย์แปลว่าผู้มีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้องทั้งกายทั้งวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ ถ้าเราไม่รู้จัก มีความเห็นไม่ถูกต้องเข้าใจไม่ถูกต้องปฏิบัติไม่ถูกต้อง ก็เป็นได้แต่เพียงคน เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันเป็นไปไม่ได้ จึงเป็นวัฏสงสารเป็นพลังงานแห่งการเวียนว่ายตายเกิด เป็นพลังงานแห่งความวิชาความหลง ให้พากันเข้าใจ เราต้องเอาพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติอย่างมีความสุข
การประพฤติการปฏิบัติคือการเดินทางทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ การปฏิบัติคือการเดินทางนะ เพราะเราต้องเดินไปอย่างนี้ เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติในปัจจุบัน เราต้องเห็นความสำคัญเห็นคุณเห็นประโยชน์ในการประพฤติปฏิบัติ รู้จักทุกข์รู้เหตุเกิดทุกข์รู้ข้อปฏิบัติให้เป็นความดับทุกข์ เห็นภัยในวัฏสงสาร ว่าการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏที่มันเป็นพลังงานแห่งอวิชชาความหลง เป็นภพเป็นชาติ เราต้องพากันมาแก้ปัญหาให้กับตนเอง จึงจะเข้าถึงปัญญาธิคุณบริสุทธิคุณกรุณาธิคุณ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่ใช่ความดับทุกข์ แต่นี่คือปัจจัยให้เกิดความทุกข์ ทุกสิ่งทุกอย่างน่ะมันจะเอร็ดอร่อยสวยสดงดงาม เราต้องพากันรู้จักว่าอันนี้เป็นสิ่งที่หมู่มวลมนุษย์ต้องพากันรู้อริยสัจ 4 ว่าเราต้องเดินไปต้องผ่านไป ด้วยการมารู้พระไตรลักษณ์ว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่แน่ไม่เที่ยง ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน เป็นแต่เพียงเหตุเพียงปัจจัย เราต้องยกทุกอย่างเข้าสู่พระไตรลักษณ์ด้วยปัญญาด้วยการภาวนาด้วยการปฏิบัติ ทุกคนต้องเข้มแข็งตั้งมั่น เพื่อให้ติดต่อต่อเนื่องเป็นสายน้ำเป็นแม่น้ำเพื่อไหลลงสู่ทะเลมหาสมุทร เพื่อเป็นความดีเป็นบารมีทั้งกายวาจาและจิตใจ ทุกคนก็เห็นคุณค่าของการประพฤติปฏิบัติ ว่าสิ่งสำคัญคือเราต้องเอาศีลสมาธิปัญญามาปฏิบัติ ให้พากันเข้าใจเรื่องศีลสมาธิปัญญาเรื่องกฎหมายบ้านเมือง สิ่งเหล่านี้เป็นยานพาหนะ ที่จะพาเราออกจากความทุกข์ ออกจากความเป็นนิติบุคคลตัวตน เราจะเดินทางไกลเราก็ต้องมียานพาหนะมีรถมีเครื่องบิน ทางบกทางอากาศ ทางน้ำก็ต้องมีเรือยนต์ คือสมัยโบราณคือเรือพาย ปัจจุบันเป็นเรือยนต์ต่อไปก็จะเป็นพลังงานลมพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะน้ำมันมันก็ต้องหมดไป แต่ลมกับแสงอาทิตย์ไม่หมด โลกนี้หมุนรอบตัวเอง โคจรรอบดวงอาทิตย์ แบ่งเป็นกลางวัน 12 ชั่วโมง กลางคืน 12 ชั่วโมง สิ่งเหล่านี้ก็ทำหน้าที่ของเขาที่เป็นกลางวันกลางคืน เป็นฤดูกาลต่างๆ เป็นการหมุนเวียนของโลก ตามธรรมชาติ
การเดินทางทางกาย เราก็ต้องอาศัยยาน การเดินทางทางทิศทางใจ เราก็ต้องอาศัยยาน ยานทางใจที่เป็นพระธรรมพระวินัย 84,000 พระธรรมขันธ์ เป็นสมมุติสัจจะ เป็นยานที่ให้เรายกเลิกความเป็นนิติบุคคลตัวตน มนุษย์เราก็มีทั้งยานในเรื่องจิตเรื่องใจ ทั้งเรื่องกายวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ ที่มนุษย์เราบัญญัติขึ้นเป็นกฎหมายบ้านเมือง ต้องรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะสิ่งนั้นเป็นยาน ชีวิตของหมู่มวลมนุษย์ถึงเอาธรรมนำชีวิต เอากฎหมายที่เป็นธรรมนำชีวิต ให้พวกเราพากันเข้าใจ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งไม่ได้ เพราะความไม่รู้ความไม่เข้าใจ ไม่ได้ เพราะการเรียนการศึกษาของมนุษย์มีสารพัดศาสตร์ ที่ต้องมารวมเป็นพุทธศาสตร์ ด้วยความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องนำชีวิต เพราะเราไม่เข้าใจ จึงได้ทำความเสียหายให้กับเรา ในการครองตนครองธาตุครองขันธ์ครองอายตนะ มันทำความเสียหายให้กับเรา เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ตัวเราเองคือผู้ที่ทุจริต ตัวตนนั้นคือทุจริตคือความไม่ถูกต้อง ชีวิตที่ทุจริตคือชีวิตที่เป็นได้แต่เพียงคน เป็นได้แต่เพียงความหลง ที่มันเป็นนิติบุคคลตัวตน เป็นชีวิตที่ทุจริต ปัญหาความไม่ถูกต้องคือปัญหาเรื่องทุจริต เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเรียกว่าทุจริต มันทำลายความเป็นมนุษย์ เป็นได้แต่เพียงคนชีวิตนี้จึงเป็นไปด้วยทุจริต จึงต้องมีสัมมาทิฏฐิความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง ยกเลิกความเป็นตัวเป็นตน ยกเลิกการทุจริตของตนเอง เมื่อเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง การปกครองของโลกมันก็ปกครองในทุจริต ด้วยการโกงกินคอรัปชั่น ถ้าเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ก็ไม่ได้เป็นมนุษย์ เป็นได้แต่เพียงคน เป็นข้าราชการก็ไม่ได้ เป็นได้แต่เพียงคน เป็นนักการเมืองก็เป็นไม่ได้ เพราะเป็นได้แต่เพียงคน เป็นนักบวชก็เป็นไม่ได้ เป็นได้แต่เพียงคน ไม่พากันเข้าใจเพื่อเข้าสู่ภาคประพฤติปฏิบัติ
ให้พวกเราทุกคนพากันเข้าใจนะ ปัจจุบันนี้แหละเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ทำให้โลกนี้เสียหาย ทำลายความมั่นคงของโลก ของชาติศาสน์กษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของหมู่มนุษย์ รวมถึงศีลสมาธิปัญญาและกฎหมายบ้านเมือง ตัวตนนี้มันทำลายความมั่นคง วิธีแก้ไขเราจะไปแก้ไขอย่างไร ก็แก้ที่เราเอาที่ตัวเรานี่แหละ ไม่ได้แก้ที่คนอื่น เรามีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง มีความสุขในการประพฤติปฏิบัติ เมื่อก่อนเรามีความเห็นไม่ถูกต้องเข้าใจไม่ถูกต้องปฏิบัติไม่ถูกต้อง เอาตัวตนนำชีวิต เป็นชีวิตที่ทุจริต เราก็มาแก้ที่ตัวเอง เข้าสู่การประพฤติปฏิบัติ มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ พวกเรารู้พวกเราเข้าใจ ก็พากันเข้าสู่ภาคปฏิบัติภาคบำบัด มีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ มีความสุขในการบำบัด วันหนึ่งคืนหนึ่งพวกเราเป็นมนุษย์พวกผู้ใหญ่นี้นะพากันนอนพากันพักผ่อนวันละ 6-8 ชั่วโมง ในวัยทำงานนะ สมองของมนุษย์ถึงจะสั่งร่างกายให้สมบูรณ์ได้ และเอาไปใช้ในทางธุรกิจหน้าที่การงาน สำหรับเด็กเล็กเด็กน้อยวัยกำลังศึกษาก็พากันนอน 8-12 ชั่วโมง สำรับนักบวชจำวัดวันละ 6 ชั่วโมง ส่วนนักบวชที่ป่วยอาพาธนักบวชผู้เฒ่าก็จำวัดวันละ 6-8 ชั่วโมง ทุกคนทุกท่านอย่าคอรัปชั่นเวลานอน เราต้องรู้จักเรื่องของกาย กายของมนุษย์ต้องทำให้ถูกต้อง วันหนึ่งมนุษย์ที่เป็นเด็กเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่นักบวชก็ทานอาหารวันละ 3 เวลา สำรับนักบวชก็พากันฉันอาหารวันละ 1 เวลา เพราะนักบวชก็มีชีวิตเนื่องด้วยผู้อื่น เพราะนักบวชคือผู้ที่ยกเลิกนิติบุคคลตัวตน เอาธรรมวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ที่อยู่ในพระไตรปิฎก 84000 พระธรรมขันธ์ พระพุทธเจ้าพาฉันอาหารวันละครั้ง ไม่ต้องไปฉัน 3 ครั้งเหมือนประชาชนเขา เพราะเรายกเลิกธุรกิจหน้าที่การงาน ชีวิตนักบวชเนื่องด้วยผู้อื่น ถ้าเรารู้จักพระธรรมพระวินัย รู้ว่าพระธรรมพระวินัยยกเลิกตัวตนว่า นักบวชนี้ก็ฉันอาหารวันละครั้ง ก็ฉันให้มากหน่อย ไม่ถึงอิ่มเกินไปหรือน้อยเกินไป ฉันให้อิ่ม เมื่อเรายกเลิกตัวตนอย่างนี้ ใจของเราเอาธรรมเอาพระวินัยนำชีวิต ใจของเราก็ยกเลิกการฉันหลายครั้ง ความหิวมันก็จะไม่มี เพราะความหิวมันอยู่ที่ความคิด เมื่อเรายกเลิกตัวตน ความหิวก็จะไม่มี เพราะมันมาจากความคิด เอาความคิดที่มันยกเลิกว่าเราเป็นนักบวช เราฉันวันละครั้ง เราคิดอยากจะฉันหลายครั้ง มันก็ไม่ได้ฉัน เพราะมันเป็นกฎหมาย เป็นพระธรรมพระวินัย ใจมันคิดอย่างนี้มันยกเลิกตัวตน ความหิวของนักบวชมันก็ไม่มี เพราะความคิดความเข้าใจอย่างนี้ มันจะอยู่ที่สัญชาตญาณ สัญชาตญาณคืออะไรคือเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง รักความสุขไม่ชอบความทุกข์ยินดีในการเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง คือการยินดีในการสืบพันธุ์ การสืบพันธุ์มี 2 อย่างคือการสืบพันธุ์ทางกาย และก็สืบพันธุ์ทางจิตใจ เมื่อเรายกเลิกตัวตน เราก็หยุดตรึกในกามในพยาบาท เรียกว่าหยุดมีผัวมีเมียทางความคิดทางอารมณ์ ยกเลิกตัวตนอย่างนี้ พวกเราก็จะไม่หิวข้าวไม่หิวอาหาร เพราะใจของเรามันยกเลิกตัวตน ยกจากความเป็นนิติบุคคลตัวตน เอาธรรมนำชีวิต ทุกคนก็จะไม่หิวอาหาร นักบวชถึงฉันอาหารวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอ พวกนักบวชทั้งหลายนะ ตอนเช้าๆ สว่างมาแล้ว นักบวชพากันไปบิณฑบาต ยกเลิกตัวตน เอาธรรมนำชีวิตไม่เอาอะไร ออกไปภิกขาจารบิณฑบาตกับประชาชน ประชาชนเขาก็ให้ข้าวให้อาหาร
ให้เข้าใจคำว่านักบวช นักบวชยกเลิกตัวตน คือพระธรรมคือพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ ที่มาในพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ที่มาในพระภิกขุปาฏิโมกข์ 227 ข้อ ที่พากันสวดทุกๆ กึ่งเดือน พวกนักบวชทั้งหลายได้รับสิทธิพิเศษ ถูกต้องตามกฎหมายบ้านเมือง มีพระอุปัชฌาย์มีใบสุทธิ มีบัตรของนักบวช ยกเลิกตัวตนนี้เรียกว่านักบวช นักบวชหมายถึงอบรมบ่มอินทรีย์ให้ติดต่อต่อเนื่อง เหมือนไก่ฟักไข่ใช้เวลา 3 อาทิตย์ ก็ออกมาเป็นลูกไก่ สมัยใหม่เขาก็พักด้วยไฟฟ้า นักบวชก็หมายถึงอบรมบ่มอินทรีย์ เอาธรรมเอาวินัยเอากฎหมายบ้านเมือง ยกเลิกตัวตนเรียกว่านักบวช ถ้าเราเอาตัวเอตนเป็นที่ตั้ง พากันมาบวชแต่ทางกาย พากันมาโกนหัวห่มผ้าเหลือง ยังเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ยกเลิกสิกขาบทน้อยใหญ่ ถึงจะบวชถูกต้องตามกฎหมาย พวกนั้นก็ยังถือว่าไม่ใช่นักบวช เป็นนักบวชทางกาย แต่ทางจิตใจไม่ได้บวช พวกนี้ยังไม่ใช่นักบวช นักบวชต้องบวชทางจิตทางใจ มีเจตนามีความตั้งใจ เป็นผู้เห็นภายในวัฏฏะสงสาร ว่าวัฏฏะสงสารคือการเวียนว่ายตายเกิด ต้องมายกเลิกตัวตนด้วยพระธรรมพระวินัยด้วยกฎหมายบ้านเมืองอย่างนี้ ให้พวกที่มาบวชทั้งหลายพากันเข้าใจนะ เข้าใจแล้วเข้าสู่ภาคปฏิบัติ มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ อย่าไปคิดว่าถ้าทำอย่างนี้ใครจะปฏิบัติได้ มันปฏิบัติได้ ถ้าเรายกเลิกตัวตน ถ้าปฏิบัติไม่ได้ พระพุทธเจ้าก็ไม่มี พระธรรมพระสงฆ์ก็ไม่มี พระรัตนตรัยก็คงไม่มีหรอก เพราะเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มีความคิดเห็นผิดเข้าใจผิดว่าปฏิบัติไม่ได้ เพราะตัวตนมันทำไม่ได้ปฏิบัติไม่ได้ พวกเราพากันเข้าใจ ถ้าเราปฏิบัติไม่ได้ เราจะมาบวชทำไม ถ้ามาบวชแสดงว่าเรามาบวชเพื่อเอาพระพุทธศาสนามาหาอยู่หาฉันหาเลี้ยงชีพ เราทำอย่างนี้มันทำไม่ถูกต้อง มันทำลายความมั่นคงของพระศาสนา เราก็อย่าพากันมาบวช เพราะเราต้องเอาความถูกต้องนำชีวิต เราอย่าไปคิดอย่างไม่ถูกต้อง อย่าไปคิดว่าชีวิตนักบวชมันง่ายนะ ไม่ต้องทำอะไร พากันปลงผมห่มผ้าจีวร พากันมาบวชพากันมารับจ๊อบ อย่างนี้มันไม่ถูกต้อง เพราะมันทำลายสถาบันทางศาสนา มันเป็นนิติบุคคลตัวตน
พวกที่จะมาบวชต้องมาเข้าใจ หรือผู้ที่มาบวชแล้วก็ต้องเข้าใจ พระพุทธเจ้าไม่ได้ว่าอะไร ใครจะมาบวชก็ได้ จะเป็นคนจนจะเป็นเศรษฐีจะเป็นคนแก่เป็นคนหนุ่มเป็นชนชั้นวรรณะอะไรก็ได้ เพราะการมาบวชนี้คือการยกเลิกตัวตน ยกเลิกชนชั้นวรรณะ มาเข้าสู่ความดับทุกข์ทั้งกายวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพยกเลิกตัวตน พวกที่มาบวชถ้าไม่อยากสึกไม่อยากลาสิกขาก็ต้องเข้าใจ เพราะอดีตมันก็ผ่านไปแล้วก็แล้วไปชั่งหัวมัน ช่างพ่อช่างแม่ช่างลูกช่างหลานช่างเหลนมัน มันเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบันเราต้องยกเลิกตัวตนเข้าสู่ความว่างจากความเป็นนิติบุคคลตัวตน ให้เราเข้าใจอย่างนี้ ที่เราคิดว่ามันยากลำบากทำไม่ได้ ต้องยกเลิกความรู้สึกนึกคิดที่เป็นนิติบุคคลแบบนี้ เข้าสู่การอบรมบ่มอินทรีย์ปฏิบัติติดต่อต่อเนื่อง เพื่อถือนิสัยพระพุทธเจ้า อย่าถือนิสัยนิติบุคคล เราอย่าเอาเปรียบสังคม มันไม่ถูกต้อง เพราะสังคมที่เขาทำการทำงานทำอาชีพเขาเลี้ยงครอบครัวของเขาเสียภาษีอากร แล้วเขามาบำรุงพระศาสนา ถ้าเราทำไม่ถูกปฏิบัติไม่ถูก มันไม่ได้ เราต้องยกเลิกความเป็นนิติบุคคลตัวตน
พวกเราต้องพากันเข้าใจ ถึงแม้เราจะไม่ลาสิกขา เรามีตัวมีตนก็คือการลาสิกขา ผู้ที่ไม่ละอายต่อบาปเกรงกลัวต่อบาป เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ผู้ที่มาบวชทั้งหลายนี้ ถึงแม้จะไม่ได้กล่าวคำลาสิกขา แต่หัวใจที่มันเป็นนิติบุคคลตัวตน มันลาสิกขา เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่พระรัตนตรัย มันเป็นนิติบุคคลตัวตน นักบวชทั้งหลายพากันเข้าใจนะ เมื่อเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง โลกนี้ก็จะเต็มไปด้วยทุจริต ผู้ที่มาบวชทั้งหลาย เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ไม่เอามรรคผลนิพพานก็คือทุจริต พวกนี้แหละการโกงกินคอร์รัปชั่นก็จะเป็นไปในตัวโดยอัตโนมัติ 60-70% ของนักบวช ให้เข้าใจอย่างนี้ ตัวตนนั้นแหละคือทุจริต พวกที่กล้าคิดกล้าตรึกในกามในพยาบาท เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มาบวชเพื่อหาอยู่หาฉันนี่แหละคือผู้ที่ทุจริต ผู้ที่ทุจริตก็คือเปรตประจำวัดหรือว่าประจำประเทศไทยของเรา เราจะไปมองหาเปรตที่ไหน เพราะเปรตคือเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ตัวตนร่างกายของหมู่มวลมนุษย์มันมีหลายภพภูมิ ที่ตกต่ำเป็นอบายมุขอบายภูมินี้แหละ เปรตตัวจริง ให้เข้าใจนะ เราต้องพากันเข้าใจว่าเราไปไม่ได้ ประเทศไทยเราไปไม่ได้ ข้าราชการนักการเมืองไปไม่ได้ เพราะเอานิติบุคคลตัวตนเป็นที่ตั้ง เพราะเราหันหลังให้ความถูกต้อง เราไปเอาแต่ตัวเอาแต่ตน พัฒนาแต่วัตถุไม่ได้พัฒนาใจไปพร้อมกัน มันไม่ใช่ทางสายกลางนะ มันเป็นการทุจริต ประเทศไทยของเรามันถึงมีการโกงกินคอร์รัปชั่นเต็มไปด้วยทุจริต ข้าราชการพากันโกงกินคอร์รัปชั่นด้วยการเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันก็ 60-70% ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านักบวชทั้งหลาย นักการเมืองก็ยิ่งโกงกินใหญ่ 80% เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มีการเรียนการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นนักการเมืองพากันโกงกินคอร์รัปชั่นต้อง 80% เลยนะ
พวกเราเข้าใจ เพราะตัวตนนี้แหละ เราต้องรู้จักว่ามันไปไม่ได้เ พราะนักการเมืองเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง พากันเรียนพากันศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอก เพื่อความเป็นนิติบุคคลตัวตน พากันมาเป็นนักการเมือง พากันมาตั้งพรรคต่างๆ เรียกว่ามาตั้งก๊กต่างๆ จะเรียกว่าพรรคก็ได้ จะเรียกว่าก๊กก็ได้ เพราะเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันเป็นพรรคเป็นพวก เป็นก๊กเป็นเหล่า ในประวัติศาสตร์ของประเทศจีน มีความล้มเหลวทางประวัติศาสตร์ เพราะเอาตัวตนเป็นที่ตั้งแบ่งเป็นก๊ก ในประวัติศาสตร์สามก๊ก เพราะเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ถ้าก๊กย่อยๆ ก็หลายร้อยก๊ก ประเทศไทยเราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้ง มันถึงหลายร้อยก๊ก คือระบบหมู่เฮาระบบตัวตน พวกนักการเมืองทั้งหลายผู้ที่กินบ้านกินเมืองทั้งหลายพากันเข้าใจนะ เราจะได้เข้าใจว่า เราจะไปแก้ปัญหาอะไรก็ไม่ได้ เพราะมันอยู่ที่เราเป็นนิติบุคคลตัวตน มันแก้ปัญหาไม่ได้ มันมีร้อยนึง เราไปโกงกินคอรัปชั่นไปแล้ว ตั้ง 80% แล้วมันจะไปได้ยังไง เพราะอันนี้มันเป็นทุจริตเป็นนิติบุคคลตัวตน ให้ทุกคนพากันเข้าอกเข้าใจ เราทุกคนก็ต้องรู้จักเอาตัวตนเป็นที่ตั้งไม่ได้ มันไม่รู้อริยสัจ 4 นึกว่าตายแล้วก็แล้วไป เรายังมีชีวิตอยู่ เราพัฒนาวิทยาศาสตร์ตามหลักเหตุผล เราก็ไปโกงกินคอรัปชั่นเต็มที่เลย เพื่อเราเพื่อลูกหลานของเราเพื่อตระกูลของเรา อย่างนี้ไม่ได้นะ พวกนักการเมืองทั้งหลายมันเสียหาย เราต้องเข้าใจเรื่องความจริง เรื่องอริยสัจ 4 เรื่องทุกข์เรื่องเหตุเกิดทุกข์ เพราะมันเป็นนิติบุคคลตัวตนมันก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละ เพราะเราทุจริตทั้งกายทั้งวาจาทั้งกิริยามารยาททั้งอาชีพ ตัวตนมันคือทุจริต
พวกเราต้องพากันเข้าใจทั้งนักบวชทั้งข้าราชการนักการเมือง ว่าเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันทำลายความมั่นคงของชาติศาสน์กษัตริย์ ให้พวกเราเข้าใจ ทำไมเด็กๆ เด็กที่ฟันน้ำนมยังไม่ร่วง เขาถึงออกมาเดินขบวนกัน เพราะเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง พวกเด็กๆ ถึงพากันมาเดินขบวนกัน เพราะความไม่ถูกต้อง ปัจจุบันมีการศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอก ที่เป็นพุทธะทางกายวาจาใจกิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ เขาพากันรู้พากันเข้าใจเรื่องอริยสัจ 4 เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ลูกหลานก็ต้องเถียงเรา พวกเด็กๆ เขาก็พากันเดินขบวน เราต้องพากันพิจารณา ทุกคนต้องเอาการบ้านไปพิจารณา พากันไปสงบสติอารมณ์บ้าง อย่าไปฟุ้งซ่านเกิน พวกนักบวชทั้งหลายเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันฟุ้งซ่านเกิน ข้าราชการทั้งหลายเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันฟุ้งซ่านเกิน นักการเมืองทั้งหลายเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันฟุ้งซ่ายเกิน เพราะจะไปแก้ไขแต่สิ่งภายนอก ไปแก้ไขแต่ผู้อื่น ตัวตนคือความฟุ้งซ่านนะ ตัวตนมีแต่ทุกข์เกิดขึ้นทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไป เราต้องพากันเข้าใจ กลับมาพิจารณาตัวเองว่าเราจะก้าวไปด้วยความเป็นนิติบุคคลตัวตนไม่ได้ เพราะมันไม่ถูกต้อง หมู่มวลมนุษย์ต้องมาประพฤติปฏิบัติตัวเอง เพื่อเอาความถูกต้องนำชีวิต เพราะตัวตนมีแต่ทุกข์เกิดขึ้นทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไป เพราะตัวตนมันจะส่ง DNA ความไม่ถูกต้องให้ลูกหลานเรา ลูกหลานเราก็จะได้รับ DNA ทั้งกายวาจากริยามารยาททั้งอาชีพ อาชีพทุจริต อาชีพที่มีตัวตน จะมีแต่ทุกข์เกิดขึ้นทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไป นอกจากทุกข์ไม่มี เราเป็นพ่อเป็นแม่เป็นข้าราชการนักการเมืองเราต้องรู้อริยสัจ 4 นะ รู้ทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ ข้อปฏิบัติถึงการดับทุกข์ เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ส่วนรวมเราก็แย่เลย ธนาคารแห่งประเทศไทยแย่เลยโยกไปโยกมา เพราะเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เงินในคลังหลวงมันก็หมด ทองคำในคลังหลวงมันก็หมด เพราะตัวตนมันทำลายความมั่นคงของชาติศาสน์กษัตริย์ ให้ทุกคนเข้าอกเข้าใจ เราทุกคนไม่ต้องไปแก้ที่ใครหรอก มาแก้ที่เรา คนที่เป็นพ่อก็ต้องแก้คนที่เป็นพ่อ คนที่เป็นแม่ก็ต้องแก้ที่คนที่เป็นแม่ ข้าราชการก็แก้ที่ราชการ นักการเมืองก็แก้ที่นักการเมือง มีความเสียสละ มีความสุขในการทำงาน
เราต้องหยุดตัวเอง ถ้าไม่หยุดมันก็วิ่งไปเรื่อย เพราะตัวตนมันวิ่งไม่หยุด เราจะดำเนินชีวิตของเราได้ยังไง เราดำเนินชีวิตของเราไปไม่ได้ เพราะเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เพราะตัวตนมันไม่ใช่ความดับทุกข์ เราจะดำเนินชีวิตไปได้อย่างไร ทุกท่านทุกคนพากันเข้าใจ เรามีความเห็นไม่ถูกต้องเข้าใจไม่ถูกต้อง ชีวิตของเรามันเลยมึนตึ๊บเลย ตัวตนมันคือความมืด ตื่นขึ้นมามันก็มึนตึ๊บเลย บางคนนอนไม่หลับ เพราะตัวตนมันกดดัน พากันคอรัปชั่นเวลานอน ระบบนิติบุคคลตัวตน มันเป็นระบบทุจริต พวกเราต้องมามีความสมัครสมานสามัคคีพร้อมเพียงกันทุกๆ คน ว่าพากันยกเลิกความเป็นนิติบุคคลตัวตน เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติเข้าสู่ภาคบำบัด เพราะมันเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต มันเป็นกายวาจาใจกิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ อาชีพที่เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เป็นอาชีพที่อัมพฤกษ์อัมพาต เป็นอาชีพที่เป็นไข้ทั้งกายวาจาใจกิริยามารยาททั้งอาชีพ เรียกว่าอัมพฤกษ์อัมพาต
เราต้องอาศัยความสมัครสมานสามัคคี เพราะปัจจุบันโลกนี้ เราได้พัฒนาก้าวมาไกลด้วยเทคโนโลยี พูดกันไม่นานก็เข้าใจกันหมด มีความสมัครสมานสามัคคีให้เข้าใจว่า การพัฒนาตัวตน เราต้องเอาความถูกต้องนำชีวิต เอาพระธรรมเอาพระวินัยกฎหมายบ้านเมืองที่เป็นยาน ยกเลิกตัวตน เราจะได้หยุดทุจริต เมื่อเรายกเลิกตัวตน เรามีความสุขในการเอาธรรมนำชีวิต เอากฎหมายบ้านเมืองนำชีวิต เราถึงจะเข้าสู่ภาคปฏิบัติภาคบำบัด เราก็ทำเหมือนเราปลูกต้นไม้ เมล็ดพันธุ์เล็กๆ เราก็มีการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ยกเลิกนิติบุคคลตัวตนแล้ว ก็มีความสุขในการเอาธรรมนำชีวิตเอากฎหมายนำชีวิต มีความสุขในการทำงาน ก็จะมีการเจริญเติบโตไปด้วยความสมัครสมานสามัคคีกัน ที่นักบวชโกงกินคอรัปชั่น 60-70% มันก็จะลดลง ข้าราชการนักการเมืองโกงกิน มันก็จะลดลง มันก็ดีขึ้นด้วยความประพฤติภาคปฏิบัติภาคบำบัด ให้พวกเราเข้าใจ ต้องอาศัยความสมัครสมานสามัคคี เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่มีความสมัครสมานสามัคคี เพราะตัวตนนั้นคือความไม่สมัครสมานสามัคคี ตัวเองคนเดียวก็เป็นทุกข์อยู่แล้ว ถ้าสองคนมารวมกันมันก็จะทวีคูณ ถ้าหลายๆ คนทั้งโลกเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง โลกก็ถูกเผาถูกทำลายความมั่นคงชาติศาสน์กษัตริย์ ตัวตนเป็นอย่างนี้แหละ ให้เราเข้าใจ เราต้องอาศัยความสมัครสมานสามัคคีกัน เราจะได้เอาภาษีอากรเพื่อส่วนรวม เราจะพัฒนาทั้งใจทั้งวัตถุไปได้ด้วยการยกเลิกทุจริต แล้วเราก็มีความสมัครสมานสามัคคีพากันเสียสละ ยกเลิกตัวตน อย่างโลกนี้มีการเสียสละ อย่างประเทศไทย เรามีการสมัครสมาชิกพากันเสียสละ อย่างเสียสละคนละ 1 บาท วันหนึ่งก็น่าจะมีความมั่นคงขึ้นมา 77 ล้าน เดือนหนึ่งก็ 2310 ล้าน ปีนึง 27720 ล้านบาท ปี 1 ความมั่นคงของความเสียสละ ในการเอาธรรมนำชีวิต มันก็จะเข้าในหลักเหตุหลักปัจจัย เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงมี เรียกว่าความมั่นคงที่มันเกิดจากความสมัครสมานสามัคคี
สัมมาทิฏฐิความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง มันมีความสุขนะ ยกเลิกตัวตนมันมีความสุข ที่คนเข้าใจผิดคิดว่า ถ้าเรายกเลิกตัวตน มันจะมีความทุกข์ มันไม่ใช่นะ มันเป็นความดับทุกข์ของหมู่มวลมนุษย์ ที่จะยกเลิกสัญชาตญาณที่เป็นนิติบุคคลตัวตน ยกเลิกการทุจริตนี้ มันถึงจะแก้ปัญหาได้ เมื่อเรายกเลิกตัวตน เราก็เข้าสู่หลักเหตุหลักผล ทั้งกายทั้งวาจาทั้งกิริยามารยาททั้งอาชีพ มันก็มีแต่ความสุขความดับทุกข์ เราไม่ต้องไปเผาตัวเอง เราไม่ต้องไปเผาคนอื่น ให้เราพากันเข้าใจอย่างนี้ เข้าใจความดับทุกข์ของหมู่มวลมนุษย์ เข้าใจพระรัตนตรัย เรื่องศีลเรื่องสมาธิเรื่องปัญญา
การปกครองการดำรงชีพ เราต้องเอาธรรมนำชีวิต ต้องพากันมาเข้าใจเรื่องพระพุทธเจ้า เราต้องเข้าใจเรื่องพระศาสนา หมู่มวลมนุษย์เราต้องพัฒนาทั้งวัตถุพัฒนาทางจิตใจไปพร้อมกัน จะได้เข้าใจว่ามนุษย์นี้ทุกคนต้องมีพระศาสนา เพราะพระศาสนาคือยกเลิกตัวตน พระพุทธเจ้าถึงยกเลิกตัวตน พระพุทธเจ้าท่านถึงบรรทมวันหนึ่ง 4 ชั่วโมง แล้วก็เสียสละรับใช้บุคคลอื่น 20 ชั่วโมง ต้องเข้าใจ เอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้ง ทุกคนก็มึนตึ๊บเลย ว่าทำไม่ได้ปฏิบัติไม่ได้ ท่านเทศน์ท่านสอนมันได้ เพราะคำเทศน์คำสอนคำบรรยาย มันเป็นปรัชญาเป็นจิตวิทยา พวกเราพากันคิดใหม่นะว่า ความรู้สึกนึกคิดความขี้เกียจนี้ เราต้องพากันรู้จัก เพราะอันนี้เป็นไฟต์ที่ให้เราเข้าใจในการประพฤติการปฏิบัติเรื่องจิตเรื่องใจเรื่องความคิด เราต้องรู้จักเหมือนพระพุทธเจ้าบอกว่า ความคิดนี้เรารู้จักเจ้าเสียแล้ว เจ้าจะทำบ้านทำเรือนทำวัฏสงสารให้เราไม่ได้อีกต่อไป เราต้องรู้จักความขี้เกียจนี้ เพราะการเดินทางมันต้องเป็นไฟต์ มีผัสสะทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ เพราะอันหนึ่งมันเป็นกรรมเก่า อีกอันหนึ่งเป็นกรรมใหม่ มันกระทบกันมันสปาร์คกัน ให้พวกเราเข้าใจว่าความรู้สึกนึกคิดอย่างนี้เป็นสิ่งที่เราต้องรู้จัก รู้จักแล้วเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ คิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเกมเป็นไฟต์ในการประพฤติในการปฏิบัติของเรา ทุกคนต้องรู้จักต้องเข้าใจ แล้วต้องมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ เราจะได้เข้าถึงความประเสริฐที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ทั้งกายวาจากิริยามารยาททั้งอาชีพ พระพุทธเจ้าให้พวกเราเข้าใจอย่างนี้นะ ชีวิตของเราจะได้สงบอบอุ่นเย็นเป็นพระนิพพานในปัจจุบัน
แจกปัญญา แจกศาสนา แจกธรรมวินัย แจกสิ่งที่ถูกต้อง
เพื่อเดินตามรอยพระพุทธเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
โดยทุกท่านสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่
https://linktr.ee/watsubthawee
Share wisdom, spread Buddhism and its discipline.
Advocate righteousness to follow Lord of Buddha's footsteps 100%
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
You can receive new Dharma updates.
https://linktr.ee/watsubthawee