แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]
โอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ที่หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตาให้นำมาบรรยาย
บรรยายธรรมโดย พระมหาอนุชน สาสนกิตติ (ป.ธ.๙, ดร.)
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
เรื่อง พุทธะที่แท้จริง ตอนที่ ๔๗ กรรมเก่ากรรมใหม่มาผัสสะมากระทบ เป็นขั้วบวกขั้วลบ เราต้องยกพิจารณาสู่พระไตรลักษณ์
(บางส่วนจากโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า)
คำเทศนา วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เราทุกคนให้พากันเข้าใจคำว่าชาติศาสน์กษัตริย์ คำว่าชาติหมายถึงความเกิด หมายถึงเหตุหมายถึงปัจจัย เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงมี เราต้องมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง ทั้งกายทั้งวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ เพราะถึงทั้งหลายทั้งปวงนั้นเกิดจากเหตุเกิดจากปัจจัย มันเป็นกระบวนการแห่งความเกิด คำว่าศาสน์ นี้เป็นความรู้ความเข้าใจ เราจะได้เข้าสู่ภาพประพฤติภาคปฏิบัติ มนุษย์เราเกิดมาต้องมีความรู้มีความเข้าใจในเรื่องศาสน์ จึงได้มีการเรียนการศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอก การเรียนการศึกษาตั้งแต่โบราณในการที่มีทั้ง 18 ศาสตร์ ที่มารวมเป็นพุทธศาสตร์เพื่อเป็นสัมมาทิฏฐิทั้งกายทั้งวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ คำว่ากษัตริย์ ก็ได้แก่ความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง ด้วยปัญญา ทั้งกายวาจากิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ คือเอาความถูกต้องในชีวิต การปกครองโลกนี้ต้องเอาธรรมนำชีวิต เอาความถูกต้องนำชีวิต ไม่ใช่เอาตัวตนนำชีวิต พระมหากษัตริย์ของทุกประเทศถึงต้องเป็นผู้ทรงทศพิธราชธรรม ประธานาธิบดีที่เลือก ตั้งขึ้นมาของแต่ละประเทศถึงต้องเอาธรรมนำชีวิต ไม่เอาตัวตนนำชีวิต
การปกครองประเทศถึงปกครองด้วยเอาธรรมนำชีวิต ไม่เอาตัวตนนำชีวิต ข้าราชการนักการเมืองนักบวชของทุกศาสนา ต้องเอาธรรมนำชีวิตไม่เอาตัวตนนำชีวิต ให้พวกเราทุกคนพากันเข้าใจ ผู้ที่เป็นนักบวชก็พากันเข้าใจ ผู้ที่เป็นข้าราชการนักการเมืองก็พากันเข้าใจ ผู้ที่อยู่บ้านก็พากันเข้าใจผู้ที่อยู่วัดก็พากันเข้าใจ เราจะได้เข้าใจว่าชาตินั้นคือความเกิด ที่มาจากเหตุมาจากปัจจัย เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปนี้ เราทุกคนที่เกิดมาเป็นมนุษย์ถือว่าเป็นผู้ที่ประเสริฐนะ พวกเราต้องพากันมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้องเพื่อทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ทั้งกายวาจาใจ ตลอดถึงอาชีพคือการเลี้ยงชีวิตที่มายกเลิกความไม่ถูกต้อง ความไม่ถูกต้องมันเป็นพลังงานที่ทำให้หมู่มวลมนุษย์สรรพสัตว์ทั้งหลายเวียนว่ายตายเกิด มันเป็นเหตุเป็นปัจจัยเพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปถึงมีได้ ให้เราพากันเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วก็เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ ที่เป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญา เราจะเอาความชอบความไม่ชอบนำชีวิตไม่ได้ เพราะความชอบไม่ชอบนี้มันเป็นนิติบุคคลตัวตน เราทุกคนต้องพากันรู้จักว่าความชอบความไม่ชอบนี้มันเป็นตัวเป็นตน มันก็ภพก่อชาติคือความเกิด ให้พากันรู้จักต้นเหตุสาเหตุมาจากความชอบความไม่ชอบนี่แหละ ที่มันเป็นนิติบุคคลตัวตนเป็นพลังงานแห่งการเวียนว่ายตายเกิดทั้งทางกายวาจาและจิตใจ เราทุกคนต้องพากันรู้จักความทุกข์ ที่มาจากความชอบไม่ชอบนี่แหละ
พระพุทธเจ้าคือใคร พระพุทธเจ้าคือพุทธะ ที่เป็นภาวะแห่งผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน เป็นผู้ทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ทั้งทางกายวาจาและจิตใจ นี้คือพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าคือธรรมะธรรมะคือพระพุทธเจ้า ศาสนาทุกศาสนาเป็นหลายร้อยศาสนา ก็เพื่อมีพุทธะ เพราะศาสนานั้นไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน คือยกเลิกตัวตน เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เรียกว่าคนไม่มีศาสนา ถึงแม้จะพากันนับถือพุทธคริสต์อิสลามพราหมณ์ฮินดูซิกข์ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งก็ชื่อว่าเป็นคนไม่มีศาสนา ไม่เข้าใจพระศาสนา เอาตัวตนเป็นที่ตั้งก็ไม่ใช่นักบวชไม่ใช่ข้าราชการนักการเมือง เป็นแต่นิติบุคคลตัวตน ให้ทุกคนพากันเข้าใจ
พระพุทธเจ้าคือบุคคลที่บำเพ็ญพุทธบารมี เพื่อยกเลิกนิติบุคคลตัวตน ใช้เวลาบำเพ็ญบารมีถึง 20 อสงไขยแสนมหากัป นับเวลาเป็นหลายล้านชาติ ไม่ทำตามความชอบความไม่ชอบ ยกเลิกตัวตน พระพุทธองค์ทรงบรรทมวันหนึ่งเพียง 4 ชั่วโมง เสียสละเพื่อรับใช้หมู่มวลมนุษย์ทวยเทพเทวดาอินทร์พรหมและสรรพสัตว์ทั้งหลายถึง 20 ชั่วโมง ทรงเสียสละตัวตนรับใช้บุคคลอื่น เราดูตัวอย่างแบบอย่างในประเทศไทยของเรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเดินตามรอยบาทองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเอาธรรมนำชีวิต ทรงทศพิธราชธรรมในการปกครองประเทศ เป็นผู้เสียสละเป็นที่ 1 ของโลก ท่านเกิดมาเพื่อมาเสียสละทั้งกายวาจาและจิตใจ กิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ คืออาชีพที่เป็นกษัตริย์ผู้เอาธรรมนำชีวิต พวกเราทั้งหลายที่เกิดเป็นมนุษย์ให้พากันเข้าใจ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่ได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันคือทุจริต ตัวตนคือทุจริต จะเป็นข้าราชการนักการเมืองจะเป็นนักบวชก็ไม่ได้ เพราะตัวตนคือทุจริต ประเทศไทยเราถึงมีความทุจริตเกิดขึ้นเพราะความไม่เข้าใจ เรื่องชาติคือความเกิดมาเป็นผู้ที่ประเสริฐ ไม่เข้าใจเรื่องศาสน์คือมายกเลิกตัวตน ไม่รู้จักกษัตริย์คือเอาธรรมนำชีวิตยกเลิกตัวตน ให้พากันเข้าใจ จะได้เอาความถูกต้องมาไว้ที่กายวาจาใจกิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ เราทุกคนก็พากันเล่นมาที่ตัวเรานี่แหละโฟกัสมาที่ตัวเรา ไม่ต้องโฟกัสไปหาคนอื่นหรอก เน้นมาที่ตัวเรา ให้พวกเราพากันมาทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ ยกเลิกสิ่งที่เป็นนิติบุคคลตัวตน โฟกัสมาที่เรา ท่านบอกพวกเรา เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันมีแต่ทุกข์เกิดขึ้น มีแต่ทุกข์ตั้งอยู่ มีแต่ทุกข์ดับไป นอกจากทุกข์นั้นไม่มี ตัวตนนั้นคือความทุกข์ ตัวตนมันคือความเกิดแก่เจ็บตายพลัดพราก
เราจะได้รู้ว่า ทำไมการบริหารโลกนี้ถึงมีข้าราชการนักการเมืองและนักบวชแทบทุกประเทศเลย ให้เข้าใจนะ พระธรรมพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ที่มีอยู่ในพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ แบ่งเป็น 3 ปิฎก พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ทั้งหมดนี้คือเป็นคำสั่งเป็นคำสอน เพื่อมายกเลิกตัวตน เพราะตัวตนนั้นมันมีแต่ทุกข์เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เรามาสร้างเหตุสร้างปัจจัยเพื่อมายกเลิกความเกิด เมื่อเรามายกเลิกความเกิด ความแก่ความเจ็บความตายความพลัดพรากมันก็ไม่มี เพราะเราได้มายกเลิกทั้งทางกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพ เพราะธรรมทั้งหลายทั้งปวงนั้นมีเหตุมีปัจจัย เราจะเอาตัวตนนำชีวิตไม่ได้จะเอาความหลงนั้นชีวิตไม่ได้ พากันมารู้ทุกข์รู้เหตุเกิดทุกข์รู้ความดับทุกข์รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ กฎหมายบ้านเมืองที่เป็นสมมุติบัญญัติที่เป็นสมมุติสัจจะ ความหมายก็เพื่อให้มายกเลิกตัวตน เพื่อทุกคนจะได้พากันมายกเลิกตัวตนทั้งหมด ยกเลิกเหตุยกเลิกปัจจัย
กฎหมายที่เป็นสมมติบัญญัติจะโฟกัสเข้าหาความดับทุกข์ทั้งกายวาจาทั้งจิตใจ ทุกประเทศในโลกปกครองด้วยกฎหมาย เราต้องเข้าใจ ข้าราชการนักการเมืองต้องเอากฎหมายเป็นที่ตั้ง กฎหมายทุกข้อที่บัญญัติต้องเอาธรรมะเป็นหลัก เพราะกฎหมายนั้นออกมาจากประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตย ที่เอาเสียงส่วนใหญ่เป็นมติ เห็นพ้องต้องกันจึงได้ออกกฎหมาย ถ้าเราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้งกฎหมายนั้นก็ไม่ได้โฟกัสเข้าสู่ธรรมะ เช่นเราอยากกินเหล้ากินเบียร์อย่างนี้เป็นต้นอยากให้มันในมาตรฐาน ก็ออกเป็นกฎหมายเพื่อให้เราให้เบียร์ได้มาตรฐาน เมื่อออกมาเป็นกฎหมายสิ่งเหล่านี้มันก็จะเป็นเผด็จการ ที่ต้องทำตามมาตรฐาน ถึงจะเป็นประชาธิปไตยจริง แต่มันเป็นประชาธิปไตยที่ประกอบด้วยนิติบุคคลตัวตน ไม่ใช่การทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ทั้งทางกายวาจาใจ ประเทศไทยเราถึงมีอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลอย่างวันสงกรานต์เป็นต้น มีอุบัติเหตุจากการขับขี่ยานพาหนะจากเหล้าจากเบียร์ ต้องพิกลพิการต้องเสียชีวิต ปี 1 นับหมื่นคน ในประชากรไทย 70 กว่าล้านคน นี้เป็นประชาธิปไตยที่เป็นนิติบุคคลตัวตน สิ่งไหนที่เราทำเหมือนกัน มันเป็นประชาธิปไตย ที่เราเลือกตั้ง ที่เป็นประชาธิปไตยของคนส่วนใหญ่ เพื่อคัดเลือกคนดีคนที่มีธรรมนำชีวิตผู้ที่เสียสละ ประชาธิปไตยเมื่อออกมาเป็นกฎหมายในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อันนี้แหละคือเผด็จการ การบัญญัติกฎหมายต้องเอาทำเป็นหลักยกเลิกตัวตน ถึงได้มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อมากลั่นกรองหาคนดีๆ มาเป็นข้าราชการนักการเมือง
เราเรียนเราศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอก ก็ต้องมีการเรียนการสอบ ก็มีคุณครูมีกรรมการในการกลั่นกรองผู้ที่มี IQ EQ เพื่อความเป็นธรรมความยุติธรรม การเรียนการศึกษานั้นให้เราเข้าใจก็เพื่อเอาธรรมนำชีวิต ยกเลิกตัวตน พากันมีความสุขในการเสียสละและตัวละตน มีความสุขในการเรียนการศึกษา ถ้าเรามีความสุขในการเรียนการศึกษา ถ้าเราคิดว่าการเรียนการศึกษาก็เพราะจำเป็น ทำงานก็เพราะจำเป็น ความคิดอย่างนี้สมองจะถูกทำลาย เราต้องมีความสุขในการทำงาน การทำงานคือความสุข ความสุขคือการทำงาน ให้เข้าใจอย่างนี้ เรามีตัวมีตนมันก็ขี้เกียจขี้คร้าน เพราะตัวตนมันคือความขี้เกียจขี้คร้าน มันคือสัญชาตญาณแห่งตัวตน ตัวตนมันคือความเกียจคร้าน แม้กระทั่งจะหายใจ ธรรมเหล่าใดเป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน ธรรมเหล่านั้นไม่ใช่ศาสนา ไม่ใช่สัตถุศาสน์ ไม่ใช่คำสั่งสอนของพระศาสดา เราต้องมีความสุขในการทำงานมีความสุขในการเรียนหนังสือ มีความสุขในความที่มีบุญมีวาสนาได้พากันมาเป็นนักบวชหรือว่าพากันมาเป็นข้าราชการนักการเมือง ให้พากันเข้าใจ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันก็ฟุ้งซ่าน เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเดี๋ยวมันก็ชอบใจเดี๋ยวไม่ชอบใจ มันสงสัยไปเรื่อย มันเลยเป็นนิวรณ์ครอบงำใจเรา มันมีอคติมีความลำเอียง ให้พวกเราเข้าใจ เราจะได้รู้เนื้อรู้ตัวว่า ถึงกาลถึงเวลาแล้วที่เราต้องพากันเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้งมันคือทุจริต ไม่ได้เป็นข้าราชการไม่ได้เป็นนักการเมือง ไม่ได้เป็นนักบวช มันเป็นแต่นิติบุคคลตัวตน ให้ทุกคนเข้าใจ เน้นมาที่ตัวเรานี่แหละ สิ่งที่แล้วไปแล้วก็แล้วไป ให้ทุกคนเข้าใจ จะได้กลับจิตกลับใจกลับกายกลับตัวกลับหางกลับหัวกลับชั่วให้เป็นดี กลับสิ่งที่มันไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง เราต้องมายกเลิกนิติบุคคลตัวตน เอาความถูกต้องนำชีวิต เอาเวลานำชีวิต ว่าเวลานี้เราทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ มีความคิดที่ถูกต้อง ความคิดที่ยกเลิกตัวตน การยกเลิกตัวตน ก็ต้องยกเลิกด้วยศีลด้วยกฎหมายบ้านเมือง ถึงจะเป็นศีลสมาธิปัญญา ไม่เป็นนิติบุคคลตัวตน
ทุกคนต้องพากันรู้ความหมายของชาติศาสน์กษัตริย์ของกฎหมายบ้านเมือง ที่เป็นความดับทุกข์ทั้งกายวาจาใจ ถึงมีการพัฒนา 2 อย่างไปพร้อมๆ กัน เราจะเอาแต่เรื่องจิตเรื่องใจมันก็ไปไม่ได้ เราจะเอาแต่วัตถุเอาแต่วิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ทางสายกลาง การเดินทางของมนุษย์ต้องเดินไปทางสายกลาง พัฒนาเรื่องจิตเรื่องใจ พัฒนาวัตถุพัฒนาวิทยาศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน เพราะกายวาจาใจกิริยามารยาทอาชีพมันต้องเป็นไปเพื่อความถูกต้อง เป็นการทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ทั้งตนเองและบุคคลอื่น ยกเลิกเหตุปัจจัย เรียกว่ายกเลิกความเกิด เหตุปัจจัยคือความเกิด คือเราไม่ตรึกไม่นึกไม่คิด ต้องมาเห็นภายในวัฏสงสาร คือความเกิดความแก่ความแก่ความตายความพลัดพราก เราอย่าเอาความชอบความไม่ชอบนำชีวิต เหมือนพวกปฎิบัติธรรมทั้งหลายชอบพูดคุยกันว่า ผมชอบอย่างนั้นผมชอบอย่างนี้ หรือผู้หญิงก็ว่าฉันชอบอย่างนั้นฉันชอบอย่างนี้ มันจะเอาความชอบความไม่ชอบได้อย่างไร เพราะความชอบความไม่ชอบนั้นมันเป็นนิติบุคคลตัวตน เราต้องรู้จักว่าความชอบความชอบนั้นเป็นขั้วบวกขั้วลบ มันคือความเกิดความแก่ความแก่ความตายความพลัดพราก มันเป็นที่สุดของ 2 ทางที่ไม่ควรเดิน อันนึงก็เน้นแต่เรื่องจิตเรื่องใจ อันนึงก็เน้นแต่ทางวัตถุ ด้วยความชอบไม่ชอบ ความหมายมันเป็นอย่างนี้
เราปฏิบัติธรรมเราจะเอาความชอบความไม่ชอบไม่ได้ ต้องเอาความถูกต้อง เอากฎหมายบ้านเมือง ยกเลิกตัวตน มีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ เพื่อให้เข้าถึงความเป็นธรรมความเป็นปัจจุบันธรรม ความชอบความไม่ชอบคือความเป็นนิติบุคคลตัวตน ความชอบหรือความไม่ชอบมันเป็นแค่ความสงบ เป็นแค่สมาธิหรือว่าเป็นแค่สมาบัติ มันไม่รู้เรื่องพระไตรลักษณ์ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันก็ชอบไม่ชอบ ไม่รู้อริยสัจ 4 มันยังเอาความชอบความไม่ชอบ พระพุทธเจ้าถึงบอกพวกเราทั้งหลาย ให้เรารู้เรื่องกรรมเก่านะ กรรมเก่าที่มันเป็นตาหูจมูกลิ้นกายใจ กรรมเก่าที่มันเป็นสัญชาตญาณแห่งนิติบุคคลตัวตน ที่มันรักสุขเกลียดทุกข์คือกรรมเก่า ให้ทุกท่านทุกคนพากันเข้าใจ ส่วนกรรมใหม่นั้น ได้แก่รูปภายนอก เสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะธรรมารมณ์ เป็นภายนอกกรรมใหม่ กรรมใหม่กรรมเก่ามันจะมาผัสสะกัน 2 อย่างนี้ มันจะ Spark กัน ขั้วบวกขั้วลบ 2 อย่างนี้แหละ เราต้องรู้จักว่าอันนี้กรรมเก่ากรรมใหม่ นี่มันเป็นเหตุเป็นปัจจัย ไม่ใช่นิติบุคคลไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนนะ นี่คือกรรมเก่ากรรมใหม่ ให้ทุกท่านทุกคนยก 2 อย่างนี้เข้าสู่พระไตรลักษณ์นะ ให้พิจารณาด้วยปัญญาว่า ทุกอย่างนี้คือกรรมเก่ากรรมใหม่ ไม่ใช่นิติบุคคลไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน มันเกิดขึ้นตั้งอยู่และก็ดับไป เหมือนลมหายใจนี่แหละ ต้องเอาเข้าแล้วก็ออก มันเก่ามันใหม่อย่างนี้ ลมเข้ามันก็ไม่แน่ไม่เที่ยง ลมออกมันก็ไม่แน่ไม่เที่ยง ลมเข้าลมออกก็ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ทุกอย่างมันเป็นเพียงกรรมเก่ากรรมใหม่ ที่มันรวมกันเป็นสัญชาตญาณเป็นนิติบุคคล ให้ทุกคนพากันเข้าใจ จะได้ไม่หลง ไม่ตั้งอยู่ในความประมาท เพื่อเราจะได้เป็นข้อวัตรข้อปฏิบัติ เพื่อจะได้พิจารณาสิ่งนี้เข้าสู่พระไตรลักษณ์ เรามีตามันก็มีรูปอย่างนี้แหละ เรามีหูมันก็ได้ยินเสียงอย่างนี้แหละ เรามีกายมีวาจาก็อย่างนี้แหละ เราก็ต้องรู้จัก รู้จักสิ่งภายนอกรู้จักสิ่งภายใน ให้รู้จักสิ่งที่บวกสิ่งที่ลบ เหมือนรู้จักน้ำ อย่างน้ำฝนนี้ ฝนมันตกมาทีละเม็ดๆ ตกถี่ๆ หลายนาทีหลายชั่วโมง มันก็รวมกันเป็นสายน้ำ ไหลไปสู่แม่น้ำ สู่ทะเลสู่มหาสมุทร ลักษณะของไฟก็เหมือนกัน ให้ทุกคนเข้าใจความเป็นกระบวนการ มันไม่ใช่นิติบุคคลตัวตนมันเป็นกระบวนการ มันเป็นเหตุเป็นปัจจัย เราต้องรู้เรื่องจิตเรื่องใจ รู้เรื่องกายวาจากิริยามารยาทอาชีพ ที่ยกเลิกนิติบุคคล เราจะได้รู้ชาติศาสนากษัตริย์ เราตัวตนเป็นที่ตั้งเราก็ไม่ได้เป็นมนุษย์ เราก็เป็นได้แต่เพียงคน เป็นได้แต่อวิชชาความหลง คำว่าคนหมายถึงมีความเห็นไม่ถูกต้องมีความเข้าใจไม่ถูกต้องปฏิบัติไม่ถูกต้อง ในร่างกายมนุษย์มันถึงมีภพภูมิอยู่มากมาย มีทั้งเปรตทั้งผียักษ์มารอินทร์พรหม มันอยู่ในตัวนี้แหละที่เรียกว่าเป็นคน ที่เรามองไปหมู่มวลมนุษย์ทั้งหลาย แล้วก็เรียกว่าพวกนั้นเป็นคน มันไม่ได้เป็นมนุษย์ ท่านพุทธทาสภิกขุ เป็นผู้ที่มีปัญญาเอาธรรมนำชีวิต เป็นนักปราชญ์ของโลก ถึงได้ประพันธ์ออกมาเป็นคำกลอนออกจากใจว่า เป็นมนุษย์ได้เพราะใจสูง… เราทุกคนจะเป็นมนุษย์ได้ก็เพราะมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง มนุษย์คือผู้ที่เอาธรรมนำชีวิต ไม่ได้เอานิติบุคคลตัวตนนำชีวิต มนุษย์เรายกเลิกตัวตนมันถึงมีศีลมีสมาธิมีปัญญา ผู้ที่เป็นมนุษย์ทั้งหลายยกเลิกตัวตน ถึงมีศีล 5 โดยธรรมชาติ มนุษย์ต้องมีศีล 5 เพราะยกเลิกตัวตน ทางกายทางวาจาทั้งกิริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ หมู่คนทั้งหลายนั้นก็จะเป็นมนุษย์ ให้เข้าใจ เอาตัวตนไปที่ตั้งไม่ได้เป็นมนุษย์หรอก เป็นได้แต่เพียงคน เป็นข้าราชการก็ไม่ได้ เป็นได้แต่เพียงคน เป็นนักการเมืองก็ไม่ได้ เป็นได้แต่เพียงคน เป็นนักบวชก็ไม่ได้ เป็นได้แต่เพียงคน เพราะตัวตนมันคือคน มันคนมันหมุนมันเวียน มันถึงสังสารวัฏ มันเป็นนิติบุคคลตัวตน การประพฤติการปฏิบัตินี้ เราทุกคนต้องพากันเข้าใจและตั้งใจตั้งเจตนา จับหลักจับประเด็นให้ได้ เราจะได้รู้ว่า ชาติคือความเกิด มันคือเหตุปัจจัย เราจะได้ไม่นึก ไม่ตรึก ไม่คิด ไม่มีกายวาจากิริยามารยาทที่ไม่ถูกต้อง การประพฤติการปฏิบัติของเราต้องมีความสุข มีฉันทะมีความพอใจมีความสุข เพราะเราได้มีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง เราต้องมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ ที่เราทุกวันนี้พากันคิดว่าการประพฤติการปฏิบัติธรรมยกเลิกตัวตน มันทุกข์มันยาก เพราะเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันก็ทุกข์มันก็ยาก เพราะความทุกข์เป็นตัวตน เราต้องยกเลิกความชอบความไม่ชอบ เพราะมันเป็นสัญชาตญาณ รักสุขเกลียดทุกข์ระแวงภัย เราต้องรู้จักเราอย่าไปสนใจ เราพากันประพฤติปฏิบัติติดต่อต่อเนื่อง เพื่อเป็นกระบวนการเป็นกระแส ทำเหมือนไก่มันฟักไข่ ไก่มันฟักไข่ใช้เวลา 3 อาทิตย์ถึงออกลูกมาเป็นลูกไก่ ฟักด้วยแม่ไก่ หรือว่าฟักด้วยไฟฟ้าก็ต้อง 3 อาทิตย์เหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้ทันสมัยขึ้นอีกฟักด้วยไฟฟ้า มันมีปฏิปทามีความอบอุ่นสม่ำเสมอ มันก็ฟักไข่ได้ดีกว่าแม่ไก่ เพราะแม่ไก่มันยังเอาอารมณ์เอาความชอบความไม่ชอบเป็นที่ตั้ง จึงทำให้ไข่เน่า ความสุขของพวกเราทุกคนมันถึงอยู่ที่เรา ที่ปฏิบัติทั้งกายทั้งวาจาทั้งกิริยามารยาทและอาชีพ ให้เข้าใจอย่างนี้
วันหนึ่งคืนหนึ่งพวกเราเป็นประชาชนพากันนอนวันละ 6 ชั่วโมงถึง 8 ชั่วโมง เราอย่าพากันคอรัปชั่นเวลานอนต้องนอนให้ได้ 6-8 ชั่วโมง จะนอนกลางวันกลางคืนก็ ต้องให้ได้ 6-8 ชั่วโมง สมองเราถึงจะไปสั่งร่างกายได้ จะไปทำธุรกิจหน้าที่การงานได้ ต้องนอนได้ 6-8 ชั่วโมง อย่าพากันคอรัปชั่นเวลานอน พวกเด็กเล็กเด็กนักเรียนนักศึกษาก็ให้พากันนอน 8-12 ชั่วโมง สำหรับพวกนักบวชนี่ก็ให้พากันนอนสัก 6 ชั่วโมง นักบวชผู้เฒ่าแก่ชราหรือว่าผู้ป่วยพระผู้อาพาธ นอน 6-8 ชั่วโมงให้เข้าใจอย่างนี้ เราทำอย่างนี้มันเป็นการพัฒนาทั้งวัตถุพัฒนาทั้งใจไปพร้อมๆ กัน เพราะเราเอานิติบุคคลเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันฟุ้งซ่าน มันไม่มีความสุขในการเรียนหนังสือ ไม่มีความสุขในการทำงาน มันไม่มีความสุขในการเป็นข้าราชการนักการเมือง ไม่มีความสุขในการเป็นนักบวช มันฟุ้งซ่าน ฟุ้งซ่านมากพวกนี้ มันมีตัวมีตน มันฟุ้งซ่านมาก มันเผาตัวเองทุกๆ อิริยาบถ ทั้งยืนทั้งเดินทั้งนั่งทั้งนอนทำอะไรทุกอย่าง ตัวตนมันเผา เราต้องรู้จัก ว่ากรรมเก่ากรรมใหม่มันเผาเราทั้งขึ้นทั้งร่องเลย ตาเห็นรูปมันก็ร้องโอ๊ยๆๆ หูฟังเสียงเพราะๆ มันก็ร้องโอ๊ยๆ ทานอาหารอร่อยไม่อร่อยมันก็ร้องโอยๆ อย่างนี้ ให้เข้าใจว่าตัวตนมันก็เป็นทุกข์อย่างนี้แหละ ต้องรู้จัก เอาสิ่งเหล่านี้สู่พระไตรลักษณ์ คือความไม่แน่ไม่เที่ยงไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน เราจะร้องโอดโอยไปทำไม ต้องมีสติมีสัมปชัญญะ กลับมามีสติรู้ตัวตัวพร้อม หายใจเข้าให้มีความสุขที่สุดในโลก หายใจออกให้มีความสุขที่สุดในโลก หายใจเข้าออกสบาย หายใจเข้าหายใจออกก็รู้ว่ามันไม่แน่ไม่เที่ยง หายใจเข้าหายใจออกก็รู้ว่าไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
เราต้องมีความสุขในการทำงานให้ได้ เพราะงานคือความสุข กลับมาหาตัวเรา ไม่ต้องเอาตนเป็นที่ตั้ง ต้องมีความสุขในกายวาจากิริยามารยาท กลับมามีสติรู้ตัวตัวพร้อมรู้เนื้อรู้ตัว ตัวตนนั่นแหละคือเป็นบุคคลที่ไม่มีศีล ไม่มีสมาธิ ไม่มีปัญญา ตัวตนนั่นแหละไม่ได้เป็นข้าราชการนักการเมืองไม่ได้เป็นนักบวช ตัวตนนั้นมีความทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ ทุกข์ดับไป ตัวตนนั้นมันจะไปแก้ไขตั้งแต่ภายนอก แก้ไขภายนอกมันปลายเหตุ มันไม่ใช่ต้นเหตุ พระพุทธเจ้าทั้งหลายจึงให้พวกเรารู้อริยสัจ 4 รู้ความจริง เพราะว่าเราเอาตัวตนไปที่ตั้ง นี่แหละคือความเกิด นี่แหละคือความแก่ นี่แหละคือความตายความพลัดพรากพลาด เราไปแก้ที่ปลายเหตุไม่ได้ หลวงพ่อชาแห่งวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ท่านถึงบอกลูกศิษย์ลูกหาทั้งเป็นนักบวชและคฤหัสถ์ ว่าผมนี่นะ รู้ธรรมะเข้าใจธรรมะพระธรรมพระวินัย ผมบอกตัวเองสอนตัวเองปฏิบัติตัวเอง 100% บอกพวกท่านสอนพวกท่านเพียง 5% ทำอย่างนี้ถึงไปได้ ถ้าเราเอาแต่ตัวเอาแต่ตนไปบอกแต่คนอื่นสอนแต่คนอื่น ตัวเองไม่ได้สอนตัวเองไม่ได้ปฏิบัติ หลายวันหลายเดือนหลายปีมันต้องมีปัญหาแน่นะ
ทุกคนต้องพากันเข้าใจ เราจะเป็นข้าราชการ เป็นนักการเมือง หรือเป็นนักบวช ทุกท่านทุกคนต้องพากันบังคับเข้ามาหาที่ตัวเอง เราจะได้ส่งผลัดส่ง DNA ให้บุคคลอื่นได้ เพราะว่าพ่อแม่นี้คือ DNA ทั้งกายทั้งวาจาทั้งกิริยามารยาทตลอดจนถึงอาชีพ เพราะพ่อแม่หรือว่าข้าราชการนักการเมืองนักบวช ต้องมี DNA แห่งการยกเลิกนิติบุคคลตัวตน เราพากันคิดดูดีๆ นะ ที่คนป่วยที่เขาจะให้เลือดกันเลือดมันต้องกรุ๊ปเดียวกัน มันถึงให้กันได้ เรามีตัวมีตน เราส่ง DNA ให้ลูกเรา ลูกเราก็รับเอาสิ่งที่ไม่ดีไม่ถูกต้องไป มันไม่ถูกต้องนะ พระพุทธเจ้าท่านบอกสอน อริยสาวกผู้ห่างไกลจากกิเลส หรือว่าผู้หยุดความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง ต้องพากันรู้จักทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ รู้จักเหตุรู้จักปัจจัย รู้จักกระบวนการของปฏิจจสมุปบาท เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปถึงมีได้ พระพุทธเจ้าถึงได้สอนว่าตายแล้วเกิดหรือตายแล้วสูญ มันขึ้นอยู่ที่เหตุที่ปัจจัย เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงมี เพราะแต่ละคนมันก็ตายเกิดไม่เหมือนกัน แล้วแต่กรรมใครกรรมมัน ขึ้นอยู่ที่เหตุปัจจัย ให้เราพากันรู้จัก เราจะได้พากันรู้ว่า โอ้... ความถูกต้องนี้มันดีจริงๆ ที่ยกเลิกชาติคือความเกิด ทำเหตุทำปัจจัยไม่ให้เกิด มันเป็นความสุข กฎหมายบ้านเมืองตลอดจนพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่นั้นดีจริง เป็นยาน เป็นเหตุเป็นปัจจัยที่ให้ทุกคนออกจากทุกข์ออกจากวัฏสงสาร วัฏสงสารนี่คือเป็นวงกลมนะ ที่มันมีความเข้าใจผิด ปฏิบัติผิด มันเป็นวัฏสงสาร มันไปไม่ได้ เราต้องเห็นคุณค่าในเรื่องยาน ยานพาหนะสมัยใหม่พวกรถยนต์เครื่องบิน อย่างนี้เขาเรียกว่ายาน ยานทางบก ยานทางน้ำก็ขึ้นเรือ สมัยโบราณก็เรือพาย สมัยนี้ก็เป็นเรือใช้เครื่องยนต์แล้ว ที่ใช้น้ำมัน ต่อไปก็คงจะพัฒนาเป็นพลังงานลมหรือว่าพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะทรัพยากรพวกน้ำมันมันก็จะหมดไป ต้องใช้พลังงานลมพัฒนาแสงอาทิตย์ เพราะมันมีอยู่โดยธรรมชาติ เพราะธรรมชาติมันสมดุลกันอยู่แล้ว ทางวิทยาศาสตร์ของเราก็ก้าวหน้า ทางจิตใจของเราก็ก้าวหน้า เราต้องมียาน ยานก็คือศีล คือสมาธิ คือปัญญา ยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เห็นคุณค่าของธรรมะ เห็นคุณค่าของกฎหมายบ้านเมือง ที่โฟกัสก็หาความดับทุกข์ ถ้าอย่างนั้นไม่ได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง พวกนักบวชทั้งหลายทุกๆ ศาสนาก็พากันโกงกินคอร์รัปชั่น 60-70% อย่างประเทศไทยเราก็ข้าราชการก็ 60-70% นักการเมืองกินมากกว่าเขา 80% อย่างนี้มันก็ไปไม่ได้ กรรมการหรือว่าครูบาอาจารย์ที่สอนนักเรียนนักศึกษากลั่นกรองเอาคนที่มี IQ EQ RQ เข้าสู่ภาคปฏิบัติ ผู้ที่เป็น กกต. เขาก็กลั่นกรองเอาคนดี เอาผู้ที่มี IQ EQ RQ เข้าสู่ภาคประพฤติเข้าสู่ภาคปฏิบัติ ให้เราเข้าใจหลักดีๆ เพราะระบบนิติบุคคลตัวตน มันถือพรรคถือพวก มันถือนิติบุคคลตัวตน มันเชื่อมเข้าหากัน เพราะว่านิติบุคคลตัวตนมันเก่งมาก ถ้ามันไม่เก่งมาก มันครองโลก ครองวัฏสงสารไม่ได้หรอก เราทุกคนต้องเอาธรรมนำชีวิตเอากฎหมายนำชีวิต เพื่อโฟกัสเข้าหาความถูกต้อง เพราะตัวตนนี่มันเก่งมากมันยอดเยี่ยม มันสารพัดพิษเลย มันสลับซับซ้อน
การเรียนการศึกษา เราต้องพัฒนาเข้าสู่ความดับทุกข์ ไม่ใช่นิติบุคคลตัวตน การเรียนการศึกษาสมัยปัจจุบัน มันพัฒนาเพื่อเป็นตัวเป็นตน มันถึงเป็นอย่างนี้ ตัวตนนี้แหละมันคือความแตกแยก ตัวตนนี้คือความไม่สมัครสมานสามัคคี ตัวตนมันคือความป่วยนะ เราคิดไม่ถูกต้องกิริยามารยาทไม่ถูกต้อง มันป่วย เขาเรียกว่าป่วยทั้งกายป่วยทั้งใจ ป่วยทั้งกิริยามารยาทป่วยทั้งอาชีพนะ ตัวตนมันอยู่ระดับป่วยไข้ติดเตียงนะ เราต้องรู้ว่าตัวเองเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง คือคนป่วยนะ เพราะความไม่ถูกต้องเรียกว่ามันอัมพาต มันตัน มันทางตัน เขาถึงเรียกว่าตัณหา พวกหาเรื่องใส่ตัวด้วยความทะยานอยาก ถึงเรียกว่าตัณหา เราต้องมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง เราต้องพากันมีความสุขในการเรียนการศึกษา มีความสุขในการทำงานมีความสุขเป็นข้าราชการเป็นนักบวชยกเลิกตัวตน เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเห็นไหม ประเทศไทยเรามันเสียหาย ทางข้าราชการทั้งนักการเมืองทั้งนักบวช เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันเสียหายอย่างนี้แหละ ให้ทุกคนพากันเข้าใจว่า ตัวเองกำลังป่วยทั้งกายทั้งวาจาทั้งกิริยามารยาททั้งอาชีพ อยู่ในระดับไข้ติดเตียงนะ ที่มีการโกงกินคอรัปชั่น นักบวช 60-70% ข้าราชการ 60-70% นักการเมือง 80% เราต้องมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง เข้าสู่การประพฤติการปฏิบัติ กฎหมายบ้านเมืองเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัตินะ ที่เราติดเราหลงเราโกงกินคอร์รัปชั่นที่เอาตัวตนไปที่ตั้ง ก็เข้าสู่ภาคบำบัดนะ ต้องบำบัดตัวเอง โดยการที่ไม่ตรึกไม่นึกไม่คิด ทั้งกายวาจากิริยามารยาท เพื่อจะได้เข้าสู่ทางสายกลาง ไม่ซ้ายจัดไม่ขวาจัด พัฒนาทั้งวัตถุทั้งใจไปพร้อมๆ กัน เพราะว่าความสุขความดับทุกข์มันอยู่ที่เรามีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง ยกเลิกตัวตน มันจะเป็นความสงบความวิเวก มันจะทันกาลทันเวลาทันสมัย เรียกว่ารู้กาละเทศะ รู้จักยกเลิกความเจ็บไข้ไม่สบายความป่วยความอาพาธ ทั้งกายทั้งวาจาทั้งกิริยามารยาททั้งอาชีพ ต้องยกเลิกตัวตน ในกรุงเทพฯ ที่เมืองหลวง มีตึกรามบ้านช่องเยอะแยะ มีรถมากมายรถติดสนั่นหวั่นไหว เมื่อเรายกเลิกตัวตน ทุกหนทุกแห่งก็มีแต่ความสงบมีแต่ความวิเวก เพราะตัวตนคือความไม่สงบความไม่วิเวก เมื่อเรายกเลิกตัวตนเราก็จะพากันรู้อริยสัจ 4 รู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ คือรู้คุณค่าว่า โอ้...ความเกิดเพราะเราเป็นนิติบุคคลตัวตนนี่เอง เราต้องมายกเลิก พากันเห็นภัยในวัฏสงสาร พากันมีความสุข เอาตัวตนเป็นที่ตั้งไม่ได้ จะไปแก้ไขแต่คนอื่น เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ลูกมันก็เถียงเราหลานมันก็เถียงเรา ข้าราชการนักการเมือง พวกเด็กๆ มันก็ออกมาเดินขบวน เพราะตัวตนมันไม่ถูกต้อง ทำให้เด็กมันออกมาเดินขบวน ถ้ามันถูกต้อง เด็กมันจะออกมาเดินขบวนทำไม ก็เพราะมันไม่ถูกต้อง ถ้าเราเอาธรรมนำชีวิต เอาความถูกต้องนำชีวิต ใครเขาจะมาเดินขบวน ให้พากันเข้าอกเข้าใจเรื่องศีลเรื่องสมาธิเรื่องปัญญาเรื่องกฎหมายบ้านเมือง ถ้าไม่เข้าใจ มันก็จะไปเถียงกันอยู่นั่น เหมือนพระธรรมกถึกกับพระวินัยธร เถียงกันอยู่นั่นแหละ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ 20 ปียังไม่ได้บัญญัติพระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ เพราะยกเลิกตัวตนแล้ว ก็ไม่ต้องมีพระวินัยอะไร ต่อมาพระพุทธเจ้าทรงเล็งเห็น เพื่อความมั่นคงตั้งมั่นของพระศาสนา จึงทรงบัญญัติพระวินัย พระธรรมกถึกพระวินัยธรไม่เข้าใจแล้ว ก็เอาไปทะเลาะกัน พระพุทธเจ้าห้ามก็ไม่ฟัง เพราะมันเอาตัวตนก็เลยทะเลาะกัน ไปทะเลาะกันเหมือนพวกอยู่ในสภานี่แหละ ทะเลาะกัน ถ้าทุกคนเอาธรรมะเป็นที่ตั้ง ยกเลิกตัวตนมันก็ไม่ทะเลาะกัน เพราะการยกเลิกตัวตนคือไม่ทะเลาะกัน การยกเลิกนิติบุคคลตัวตนทุกคนถึงจะรักกันได้ เพราะตัวตนนั้นมันรักกันไม่ได้ มันหลงตัวเอง หลงลูกหลงหลาน หลงลาภหลงตระกูล ตัวตนมันคืออวิชชาความหลงให้เข้าใจ ตัวตนมันไม่รู้อริยสัจ 4 ไม่รู้ทุกข์ไม่รู้เหตุเกิดทุกข์ไม่รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ ตัวตนนั้นมันมีแต่ทุกข์เกิดขึ้นมีแต่ทุกข์ตั้งอยู่ทุกข์ดับไป การที่เรามีพื้นฐานยกเลิกตัวตน ก็เป็นคนที่มีศีล 5 เป็นอัตโนมัติในตัวอยู่แล้ว
เดือนหนึ่งมี 30 วัน เป็นวันที่มีพื้นฐานแห่งความเป็นมนุษย์ ยกเลิกตัวตนเอาธรรมะนำชีวิตเอากฎหมายบ้านเมืองนำชีวิต ยกเลิกตัวตน มีความสุขในการทำงาน พัฒนาเหตุผลพัฒนาวิทยาศาสตร์ หมู่มวลมนุษย์ก็มีความสุข เมื่อมีความสุขทางกายมันยังไม่เพียงพอ พระพุทธเจ้าให้พวกเราเห็นภัยในวัฏสงสาร ว่าเราต้องพัฒนาเรื่องจิตเรื่องใจให้พากันพัฒนาใจ พากันพัฒนาเรื่องศีลให้มากขึ้น เอาศีล 8 ศีลอุโบสถยกเลิกตัวตน พัฒนาใจ ใจของเรานี้ต้องมีการประพฤติการปฏิบัติ ต้องตั้งใจตั้งเจตนา ให้พาการรักษาศีล 8 รักษาศีลอุโบสถ อดทานอาหารภาคบ่าย อดดูหนังฟังเพลง พวกบันเทิงอะไรต่างๆ เพื่อพัฒนาใจ เพราะใจของเรามันหลงในรูปในเสียงในกลิ่นในรสในโผฏฐัพพะธรรมารมณ์ หมู่มวลมนุษย์นี้ได้พัฒนาเรื่องเหตุเรื่องผล พัฒนาวิทยาศาสตร์ พัฒนาอาหาร มันก็อร่อยที่สุดในโลก เสียงมันก็เพราะที่สุด ทุกอย่างมันอร่อย มันเพลิดเพลินไปหมด ต้องพิจารณาเห็นโทษเห็นภัยในวัฏสงสารว่า ทุกสิ่งอย่างมันไม่แน่มันไม่เที่ยง มันไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนเลย เราเอาความหลงเอาความเพลิดเพลินเป็นที่ตั้งไม่ได้ ต้องพัฒนาใจของเรา พากันมามีสติรู้ตัวทั่วพร้อม กลับมาหาเนื้อหาตัว ความหลงความเพลิดเพลินมันพุ่งออกไปข้างนอก ต้องเอากลับเข้ามาหาธรรมหาคุณธรรม เห็นภัยในวัฏสงสาร มีความสุขในการหายใจเข้าหายใจออก หายใจเข้าหายใจออกให้มีความสุขที่สุดในโลก หายใจเข้าก็ให้รู้ว่าไม่แน่ไม่เที่ยง หายใจออกก็ให้รู้ว่าไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน มีความสุขอย่างนี้ มาพิจารณาร่างกายทุกชิ้นส่วนสู่พระไตรลักษณ์ เพราะหมู่มวลมนุษย์เราที่รวมกันเป็นมนุษย์ได้มันมีชิ้นส่วนทั้งหมด 32 ชิ้น 32 ชิ้นนี้มี ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า ดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา เปลวมัน น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ มูตร เยื่อมันสมองในสมอง พระพุทธเจ้าให้เรามาแยกออกเป็นชิ้นเป็นชิ้น เพื่อให้มันสลายไป พิจารณาความเกิดความแก่ความเจ็บความตาย ทุกอย่างมันไม่ใช่นิติบุคคล มันต้องภาวนาอย่างนี้ เพื่อเราจะได้พัฒนาเรื่องจิตเรื่องใจของเรา เพื่อเราจะได้คืนสู่ธรรมชาติยกเลิกตัวตน เราจะได้มีความสุขทั้งกายทั้งวาจาทั้งจิตใจ เข้าถึงความเป็นธรรมความเป็นปัจจุบันธรรม
ทุกคนต้องพากันฝึกสมาธินะ สมาธิคือยกเลิกตัวตนเรื่องที่เป็นอดีต อนาคตมันยังมาไม่ถึง ปัจจุบันยกเลิกตัวตนเข้าสู่ความว่างในตัวตน หมู่มวลมนุษย์ผู้ที่ไม่ได้บวชให้พากันฝึกสมาธิปฏิบัติสมาธิ ตอนเช้าตี 4 ตี 5 สักชั่วโมงหนึ่ง 20:00 - 21:00 น. ทานข้าวทานอาหารเสร็จก็พากันกราบพระไหว้ พากันนั่งสมาธิสัก 1 ชั่วโมง ยกเลิกตัวตนอย่างนี้ เอาแต่ตัวตนมันก็จะดูโทรศัพท์ ดูแต่โทรทัศน์ มันจะเป็นคนไม่มีบ้าน ไม่มีบ้านทางจิตทางใจ ไม่มีบ้านตั้งแต่ทางร่างกาย เขาเรียกว่าคนไม่มีบ้าน คนไม่มีความสงบมีแต่ความฟุ้งซ่าน คนไม่มีบ้านเรียกว่าคน homeless คนไม่มีบ้านมันมีความทุกข์ ไม่มีที่อยู่ที่อาศัย ไม่มีที่มุงบังแดดฝน ฝนตกแดดออกก็ทุกข์ คนไม่มีบ้านไม่มีที่ดินไม่มีที่ทำกิน มันเป็นทุกข์อย่างนี้ให้เข้าใจ พวกเราให้เข้าใจว่า ความถูกต้องคือเราต้องตั้งมั่นในความถูกต้อง ในพระรัตนตรัย กายวาจากิริยา และภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เราต้องพากันทำสมาธิเพื่อยกเลิกตัวตน เพื่ออบรมบ่มอินทรีย์ พวกเราทุกคนเราต้องเข้าใจว่า สมาธิคือมายกเลิกตัวตน ไม่เอาอะไรหรอก สุขก็ไม่เอา ทุกข์ก็ไม่เอา ดีใจเสียใจก็ไม่เอา สวรรค์นิพพานนี้ก็ไม่เอา ยกเลิกตัวตนมันถึงจะว่างจากนิติบุคคลว่างจากตัวตน นิวรณ์ 5 มันถึงจะไม่เผาเรา เราไม่เข้าใจ นั่งสมาธิก็จะเอานู่นจะเอานี่ อยู่ดีๆ ก็หาเรื่อง เพราะเราก็เป็นโรคจิตโรคประสาทพอสมควร เอาตัวเอาตน มันก็ไม่สงบ ถ้าสงบมันก็สงบเพียงหินทับหญ้า เพราะเป็นตัวเป็นตน เราต้องเข้าใจ ให้เรามีสัมมาทิฎฐิความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง พากันไหว้พระสวดมนต์ พากันนั่งสมาธิกัน ศาสนาคริสต์ก็ไปโบสถ์ ศาสนาอิสลามก็ไปมัสยิดอย่างนี้แหละ ทุกศาสนาก็คืออันหนึ่งอันเดียวกัน พัฒนายกเลิกตัวตน ให้เข้าใจอย่างนี้ เอาตัวเอาตนเรียกว่าเป็นคนที่ไม่ทันโลกทันสมัยนะ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เรียกว่าเป็นพวกที่มีหนี้มีสิน ตัวตนคือไม่รู้จักอริยสัจ 4
มนุษย์เราน่ะมันต้องรู้จักยาน ยานนี้พาเราไปถึงจุดหมายปลายทาง เอายานนั้นวางไว้นั่นแหละ เราไม่ต้องแบกยานนั้นไป ถ้าตัวตนมันแบกนะ มันแบกตัวแบกตนแบบลูกแบกหลานแบกทรัพย์สมบัติ พวกมีตัวมีตนมันถึงเป็นบุคคลที่มีความทุกข์อย่างถาวร เรียกว่ามีความจนที่ถาวร เพราะเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง พวกมหาเศรษฐีที่ไม่มีสัมมาทิฏฐิ ไม่มีความเห็นถูกต้องไม่มีความเข้าใจถูกต้อง พวกที่รวยเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง พากันมาโกงกินคอร์รัปชั่น เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเรียกว่าคอรัปชั่น พวกเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เป็นมหาเศรษฐีที่มีหัวใจเป็นคนจน เรียกว่าพวกจนถาวรอย่างนี้นะ ให้เราทุกคนย้อนมาดูตัวเอง ว่าตัวเองเอาตัวตนที่ตั้งมั้ย ถ้าเอาตัวตนเป็นที่ตั้งคือบุคคลที่เป็นคนจนอย่างถาวร ให้ทุกคนพากันเข้าอกเข้าใจ เราจะได้รู้ว่า โอ้...ปัญญาธิคุณ บริสุทธิคุณ กรุณาธิคุณ ไม่ได้อยู่ที่ใกล้ที่ไกล อยู่ที่กายวาจากิริยามารยาทอาชีพของเรานี่เอง ที่เรายกเลิกความเป็นนิติบุคคลตัวตน ท่านถึงบอกว่า อย่าเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันหาเรื่อง พวกตัณหานี้พวกหาเรื่อง พวกที่เป็นแบบทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ พวกที่มีความจนถาวร ถึงจะเป็นมหาเศรษฐีก็คือพวกที่มีความจนอย่างถาวร
พวกเราเข้าใจเรื่องชาติก็คือความเกิดอย่างนี้ เข้าใจคำว่าความมั่นคงของมนุษย์ คือสัมมาทิฏฐิความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง ยกเลิกตัวตน เราถึงจะได้เป็นมนุษย์เป็นข้าราชการนักการเมืองเป็นพระอริยเจ้า เมื่อยกเลิกตัวตนทุกคนก็ไม่มีทุกข์ เพราะความทุกข์มันเป็นสากล ใครมีตัวมีตนคือความทุกข์ เหมือนอาหารมันเป็นสากล นักบวชพระฉันก็ดับทุกข์ ประชาชนทานก็ดับทุกข์ การยกเลิกตัวตน เอาความถูกต้องนำชีวิต ให้เราพากันเข้าอกเข้าใจว่า ถือว่าทุกคนเป็นคนที่โชคดี ที่ได้เป็นผู้ที่ประเสริฐเกิดมาเพื่อมรรคเพื่อผลเพื่อพระนิพพาน เอาธรรมนำชีวิต เอาความถูกต้องนำชีวิต ยกเลิกความเป็นนิติบุคคล ทุกคนจะได้เข้าถึงความสงบทุกคน เย็นเป็น air condition ก็จะได้มีบ้านทั้งทางกาย มีบ้านทั้งจิตใจ
ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านที่มาร่วมรวมกันมาทำความเข้าใจและเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ สิ่งที่แล้วก็แล้วไป เอาใหม่ คนเราก็ต้องมีตาสองตา ตาเนื้อและก็ตาปัญญา มีแต่ตาเนื้อไม่มีปัญญาไม่ได้ เราต้องมีปัญญา ถึงจะเป็นทางสายกลาง ทั้งทางวิทยาศาสตร์ทั้งทางจิตใจไปพร้อมๆ กัน ทุกคนมีโอกาสพิเศษ เราต้องพากันตั้งอกตั้งใจประพฤติปฏิบัติ ถือว่า หยุดก่อนความทุกข์ หยุดก่อนวัฏสงสาร โบกมือบ๊ายบาย หมายความว่าลาก่อนนะ จักษุเกิดขึ้นแก่เราแล้ว แสงสว่างเกิดขึ้นแก่เรา เรามีตาคือปัญญา สัมมาทิฏฐิ เรามีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติอย่างนี้
แจกปัญญา แจกศาสนา แจกธรรมวินัย แจกสิ่งที่ถูกต้อง
เพื่อเดินตามรอยพระพุทธเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
โดยทุกท่านสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่
https://linktr.ee/watsubthawee
Share wisdom, spread Buddhism and its discipline.
Advocate righteousness to follow Lord of Buddha's footsteps 100%
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
You can receive new Dharma updates.
https://linktr.ee/watsubthawee