แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]
โอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ที่หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตาให้นำมาบรรยาย
บรรยายธรรมโดย พระมหาอนุชน สาสนกิตติ (ป.ธ.๙, ดร.)
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
เรื่อง พุทธะที่แท้จริง ตอนที่ ๔๔ ตัวตนคือมันไม่ทัน มันไม่อิ่ม เปรียบเสมือนทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ
(บางส่วนจากโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า)
คำเทศนา วันอาทิตย์ที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เราทุกคนเป็นมนุษย์ ร่างกายของเราทุกคนเป็นมนุษย์ เราต้องมีความเห็นถกต้อง เข้าใจถูกต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง ทั้งกาย วาจา กริยามารยาท ตบิดถึงอาชีพ ที่ไม่ถูกต้อง มนุษย์ที่ได้เกิดมาต้องมีการเรียนการศึกษาทั้งหมด 18 ศาสตร์ 18 ศาสตร์มีอะไรบ้าง 18 ศาสตร์มี 1. ยุทธศาสตร์ วิชานักรบ 2. รัฐศาสตร์ วิชาการปกครอง 3. นิติศาสตร์ วิชากฎหมายและจารีตประเพณีต่างๆ 4. พาณิชยศาสตร์ วิชาการค้า 5. อักษรศาสตร์ วิชาวรรณคดี 6. นิรุกติศาสตร์ วิชาภาษาทั้งของตน และของชนชาติ ที่เกี่ยวข้องกัน 7. คณิตศาสตร์ วิชาคำนวณ 8. โชติยศาสตร์ วิชาดูดวงดาว 9. ภูมิศาสตร์ วิชาดูพื้นที่ และรู้จักแผนที่ของประเทศต่างๆ 10. โหราศาสตร์ วิชาโหรรู้จักพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆ 11. เวชศาสตร์ วิชาแพทย์ 12. เหตุศาสตร์ วิชาว่าด้วยเหตุผล หรือตรรกวิทยา 13. สัตวศาสตร์ วิชาดูลักษณะสัตว์ และรู้เสียงสัตว์ว่าดี หรือร้าย 14.โยคศาสตร์ วิชาช่างกล 15.ศาสนศาสตร์ วิชาศาสนารู้ความเป็นมา และหลักศาสนาทุกศาสนา 16.มายาศาสตร์ วิชาอุบาย หรือตำหรับพิชัยสงคราม 17.คันธัพพศาสตร์ วิชาร้องรำ หรือนาฎยศาสตร์ และวิชาดนตรี หรือดุริยางค์ศาสตร์ 18.ฉันทศาสตร์ วิชาการประพันธ์ ทั้ง 18 ศาสตร์ก็รวมมาที่ พุทธศาสตร์ เขาเรียกว่าพุทธะทางจิตใจ เรียกว่าพุทธทั้งกาย วาจา กริยามารยาท ตลอดถึงอาชีพ เพื่อพัฒนาเข้าสู่ความถูกต้อง เรียกว่าเข้าสู่ทางสายกลาง ทางจิตใจก็สุดยอด ทางวัตถุก็สุดยอด ต้องเข้าสู่ทางสายกลางอย่างนี้ เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งไม่ได้ เพราะตัวตนนั้นมีแต่ทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ ทุกข์ดับไปนะ นอกจากทุกข์มันไม่มีเราต้องเข้าใจ ถ้าเราเอาความคิดเห็นผิดเข้าใจผิดปฏิบัติผิด มันไม่ได้นะ เราก็จะเป็นได้แต่เพียงคน คำว่าคนมันคืออวิชชาความหลง ความไม่รู้เขาเรียกว่าโมหะ เอาความหลง เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เขาเรียกว่าโมหะ เขาเรียกว่าสายมู สายอวิชชาสายความหลงให้เราทุกคนเข้าใจเราจะได้เห็นภัยในวัฏฏะสงสาร เราจะได้ไม่กล้านึก ไม่กล้าคิด ไม่กล้าตรึก กาย วาจา ใจ กริยามารยาท ตลอดถึงอาชีพ เราต้องเข้าใจ
ประเทศไทยของเรานี้แหละเรียกว่าสุวรรณภูมิ สุวรรณภูมิก็มีประเทศพม่า ลาว ไทย กัมพูชา เขาเรียกว่าสุวรรณภูมิ คือทิศสุวรรณภูมิ เอาประเทศอินเดียเป็นศูนย์กลาง ประเทศไทยเขาเรียกว่าสุวรรณภูมิ ประเทศไทยนี้ก็ส่วนใหญ่ก็พากันอพยพกันมาจากทางเหนือคือประเทศจีน เมื่อหลาย 1000 ปีก่อน ให้พวกเราเข้าใจ เพราะภาษาที่เราเห็นจารึกในศิลาในหิน ส่วนใหญ่เป็นภาษาขอม ที่ขุดเจอที่อยู่ในโบราณสถาน คือภาษาขอม ถึงจะเป็นลพบุรีหรือจะเป็นสุโขทัย ทั่วเมืองไทยตลอดถึงทุกๆ ประเทศในสุวรรณภูมิ
ให้พวกเราเข้าอกเข้าใจ การพัฒนาตัวเราหรือว่ามนุษย์ ต้องเอาพุทธะนำชีวิต ต้องเอาความถูกต้องนำชีวิต ถึงได้มีการเรียนการศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอก ทั้งฝ่ายวัตถุด้านดำรงชีพ ทั้งฝ่ายคุณธรรมตั้งแต่ นักธรรมตรี จนถึง ป.ธ.9 ที่เป็นบาลีที่อยู่ในพระไตรปิฎก พระไตรปิฎกมี 84000 พระธรรมขันธ์ แบ่งเป็น 3 ปิฎกพระวินัยปิฎก 21000 พระธรรมขันธ์ ที่พวกเราเอามาสวดกัน ที่พระเอามาสวดกันทุกกึ่งเดือนที่มีในภิกขุปาฏิโมกข์ 227 ข้อ มีในพระสูตรก็ 21000 พระธรรมขันธ์ มีในพระอภิธรรมปิฎก 42000 พระธรรมขันธ์ รวมเป็น 84000 พระธรรมขันธ์ ให้เราเข้าใจการพัฒนาพวกเราทุกๆ คน ให้ทุกท่านทุกคนโฟกัสเข้ามาหาตัวเองนะ เพราะเรื่องการประพฤิการปฏิบัติ มันเป็นเรื่องของตัวของเราเอง ไม่ใช่เรื่องของคนอื่นนะ เรื่องสร้างบารมีต้องโฟกัสเข้ามาตัวเอง อันไหนไม่ดีไม่คิด อันไหนไม่ดีไม่พูด อันไหนไม่ดีไม่ทำ ตลอดถึงอาชีพ ที่เป็นกริยามารยาท ถ้าเรายกเลิกตัวตน พวกนี้เป็นบารมี ไม่เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ยกกเลิกตัวตนคือบารมีนะ ให้พวกเราเข้าใจ มนุษย์ในปัจจุบันในโลกกลมๆ นี้มีประชากรของโลกอยู่ 8000 กว่าล้านคนในโลกนี้มีอยู่ 195 ประเทศ มีภาษาอยู่ 7102 ภาษาทั่วโลก ให้เราเข้าใจ เพราะภาษานี้เขาเรียกว่าสมมติสัจจะ เพราะความเป็นมนุษย์ต้องเอาธรรมนำชีวิต ยกเลิกตัวตน จึงได้มีสมมติสัจจะ เพื่อโฟกัสเข้าหาการประพฤติการปฏิบัติ จึงได้มีสมมติ ถ้าไม่เอาสมมติก็เหมือนสัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย พวกวัว พวกควายมันไม่มีสมมติสัจจะ มันดำรงชีพด้วยสัญชาตญาณ
สัญชาตญาณคือมีความรู้สึกเป็นนิติบุคคลตัวตน ที่มันเป็นพลังงาน จึงได้พากันเวียนว่ายตายเกิดมีพลังงาน พลังงานที่มันมาจากอวิชชา มาจากความหลง เราต้องเข้าใจเรื่องพลังงานนะ พลังงานไฟฟ้า หรือพลังงานลม หรือพลังงานอะไรต่างๆ เราต้องเข้าจิตเข้าใจ เรื่องพลังงาน พลังงาน เรียกว่ามันติดต่อต่อเนื่องกัน เป็นน้ำ เป็นสายน้ำ เป็นแม่น้ำ เป็นทะเล มหาสมุทร มันรวมกันเป็นพลังงานอย่างนี้ เราถึงเอามาใช้เรื่องโทรศัพท์มือถือ เอามาใช้อินเทอร์เน็ต มันเป็นพลังงาน เราต้องเข้าใจ ผู้ที่ยกเลิกตัวตนอย่างพระพุทธเจ้า ถึงยกเลิกตัวตนก็มีพลังงานบริสุทธิ์ รู้เรื่องอดีตหลายล้านชาติหลายอสงไขย รู้เรื่องอนาคตหลายล้าน หลายพัน หลายหมื่นปี นี้เป็นพลังงานที่ยกเลิกตัวตน มีพลังงานอย่างนี้ ให้พวกเราเข้าใจว่า ที่เราเข้าสู่ความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้องนี้ไม่ได้ เพราะเอาความไม่ถูกต้องนำชีวิต มันก็เป็นเหมือนที่เราเห็นนี้แหละ ต้องมีบุตร มีภรรยาสามี มีรถ มีบ้าน อย่างนี้ เพราะมันวิ่งไม่หยุดเหมือนองคุลีมาล วิ่งเท่าไหร่มันก็ไม่ทัน เพราะตัวตน มันวิ่งตามความหลง ความหลงมันทันเมื่อไหร่ เหมือนทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ คนโลภนหลงก็ไม่อิ่มเต็มด้วยตัณหาตัณหา ตัณหาหมายถึงว่ามันหาเรื่องหาราวให้ตัวเอง พวกไม่รู้อริยสัจ 4 มันก็หาเรื่องหาราว อยู่ดีๆ ก็ไม่มีทุกข์ มันก็พากันมีลูกมีเมีย มีผัว เขาเรียกว่าพวกไม่รู้อริยสัจ 4 ไม่รู้พลังงานแห่งการเวียนว่ายตายเกิด เราก็ไปโทษแต่สิ่งภายนอก ไม่โทษตัวเองว่ามันเอาความหลงเป็นที่ตั้ง
ให้พวกเราทุกคนพากันเข้าใจ จะได้มีความเห็นถูกต้อง เข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง เราจะได้หยุดตัวเอง องคุลีมาลวิ่งอย่างไรก็ไม่ทันพระพุทธเจ้า เพราะตัวตนคือมันไม่ทัน ตัวตนมันไม่อิ่ม เปรียบเสมือนทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ องคุลีมาลจึงได้บอกพระพุทธเจ้า หยุดก่อนสมณะๆ พระพุทธเจ้าตรัสว่า เราหยุดแล้วแต่เธอยังไม่หยุด ไม่หยุดเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเขาเรียกว่าคนไม่หยุด เราตถาคตหยุดแล้ว หยุดเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง องคุลีมาลได้สติ คิดตาม เออจริง เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันวิ่งไม่หยุดนี้หน่า ให้ทุกคนเข้าใจนะ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งความยากจนมันก็เกิด เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันก็ไม่มีความสุขในการเรียนหนังสือ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันก็ไม่มีความสุขในการทำงาน เอาตัวตนเป็นที่ตั้งอย่าประเทศไทยวันที่ 1 กับวันที่ 16 เป็นวันหวยออก คนทำงานก็ลุ้นกันทั้งวัน มันไม่อยากทำงาน มันอยากถูกหวยใต้ดิน ถูกหวยรัฐบาล ตัวตนมันเป็นอย่างนั้น ตัวตนมันไม่รู้จักอริยสัจ 4 ตัวตนมันมีความกลัว มันไม่มีความมั่นใจ เหมือนบุรุษสตรีทั้งหลายเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันมีความกลัว มันไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง กว่าจะออกจากบ้านมันก็ส่องกระจกตั้งหลายครั้ง เสียค่าเสริมสวยต่างๆ พวกที่มีเงินนี้นะ พวกที่ไม่มีเงินก็เอาธรรมดาๆ ก่อนออกจากบ้านก็ส่องกระจกหลายครั้ง สมัยใหม่มีรถขับ ก่อนออกจากรถก็ส่องกระจก ต้องเติมเสริมแต่ง เพราะว่าตัวตนมันเป็นอย่างนั้น เราต้องเข้าใจนะว่าตัวตนนี้แหละมันคือความทุกข์ มันคือความหลง ความไม่เข้าใจ มันคือโมหะความหลง
เราต้องพากันเข้าใจ เราอยู่ที่ไหนเราต้องพากันปฏิบัติตนเองอยู่ที่นั่น เพราะการประพฤติการปฏิบัติพระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ เราจะยืน เราจะเดิน เราจะนั่ง เราจะนอน เราจะทำงาน เราทำให้มันถูกต้อง คิดให้ถูกต้อง เพื่อยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า อริยมรรคมีองค์ 8 คือยกเลิกตัวตน มันก็เป็นอริยมรรคมีองค์ 8 พระพุทธเจ้าถึงตรัสเรื่องอริยสัจ 4 ตรัสเรื่องทุกข์ก่อน ทุกข์น่ะมันมาจากไหน ทุกข์เพราะเรามีตัวมีตนมันเป็นทุกข์ เหตุเกิดทุกข์เราไม่รู้จักวิ่งตามอวิชชาวิ่งตามความหลง พวกหาเรื่องหาราวพวกตัณหา หาเรื่องหาราว ตัวเองมีทุกข์อยู่แล้ว ยังมาเพิ่มทุกข์ มีกรรมเก่าอยู่แล้วก็มาเพิ่มกรรมใหม่ พระพุทธเจ้าถึงให้เรารู้เรื่องกรรมเก่ากรรมใหม่นะ กรรมเก่าก็ได้แก่ ตาหูจมูกลิ้นกายใจ คืออายตนะภายใน กรรมใหม่คือ รูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์กรรมใหม่กับกรรมเก่า มันจะมาสัมผัสกัน มันเป็นพลังงาน 2 อย่าง ท่านถึงให้รู้จักกรรมเก่ากรรมใหม่นะ แล้วยกสิ่งเหล่านี้สู่พระไตรลักษณ์ ว่าทุกอย่างมันไม่แน่ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน เพราะ 2 อย่างนี้เป็นพลังงานเก่าเป็นพลังงานใหม่ เป็นขั้วบวก ขั้วลบ เราจะเอาความไม่รู้นำชีวิต เอาโมหะนำชีวิตไม่ได้ เราต้องมีพุทธะทางกายทางวาจาใจ กริยามารยาทตลอดถึงอาชีพในการดำเนินชีวิต เราต้องไม่ให้มันสร้างปัญหา เราต้องยกเลิกปัญหา เรียกว่าทำที่สุดแห่งการดับทุกข์ทางกายวาจาใจ กริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ ที่ยกเลิกตัวตน
พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ มายกเลิกทาส ยกเลิกชนชั้นวรรณะ มายกเลิกชาติตระกูล อย่างนี้ให้เข้าใจ แต่ก่อนพระพุทธเจ้าก็เป็นลูกหลานของพราหมณ์ พราหมณ์ก็เอาแต่ตัวเอาแต่ตนเอาแต่ความสงบ เอาแต่สมาบัติ ภายนอกมันว่างไปหมด ให้เหลือตัวตนเป็นอาตมัน มันสงบก็จริง แต่ออกจากความสงบมันก็มีการเวียนว่ายตายเกิด เราต้องพัฒนาไปไกลกว่านั้น พุทธะต้องพัฒนาไปไกลกว่านั้น ทุกคนพากันเข้าใจ คนที่อยู่ประเทศไทยก็ให้เข้าใจ อยู่ประเทศลาว เขมร พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย ประเทศจีนหรือว่าฝรั่ง ก็ให้พากันเข้าใจ เพื่อเราทุกคนจะได้ประพฤติพากันปฏิบัติ มาเอาความถูกต้องนำชีวิต เอาธรรมนำชีวิต อย่าเอานิติบุคคลตัวตนนำชีวิตเลย ให้เราเข้าใจว่าความดับทุกข์มันอยู่กับเราทุกๆ คนทุกหนทุกแห่ง ให้เราพากันรู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ มารู้อริยสัจ 4 นี้แหละ มารู้ความจริงที่ปรากฎทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ วาจากริยามารยาทอาชีพ ให้เข้าใจ ทุกคนพากันแก้ไขที่ตนเอง ปรับมาหาธรรมะคือยกเลิกตัวตน ปรับเข้าหาธรรมะ ปรับเข้าหาเวลา เวลาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ธรรมะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แล้วพากันมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ
วันหนึ่งคืนหนึ่งก็พากันมาจำวัด 4-6 ชั่วโมง ฆราวาสที่ไม่ใช่นักบวชก็พากันนอน 6-8 ชั่วโมง พวกเด็กน้อยพวกนักเรียนนักศึกษาพากันนอน 8-12 ชั่วโมง พากันนอนอย่างนี้ ถ้าไม่นอนอย่างนี้ สมองของเราจะไปสั่งงานสั่งการร่างกายไม่ได้ สมองเราจะไปทำธุระกิจหน้าที่การงานไม่ได้ เพราะการเดินทางของเราต้องเดิน 2 อย่างคือ เดินทางกาย แล้วก็เดินทางจิตใจไปพร้อมๆ กัน ทุกอย่างมันถึงจะสมดุล เหมือนสมดุลการค้า ชีวิตของเราต้องสมดุล ไม่สุดโต่ง ไม่เอาแต่เรื่องจิตเรื่องใจ หรือเอาแต่เรื่องวัตถุ ชีวิตนี้ต้องเอาทางสายกลาง ชีวิตนี้ต้องรู้ความจริง รู้อริยสัจ 4 ให้ทุกคนพากันเข้าใจอย่างนี้ ทุกคนจะได้ประพฤติปฏิบัติตนเอง จะได้ไม่วิ่งตามอวิชชา วิ่งตามความหลง อย่างนี้แหละ คนประเทศลาวก็วิ่งตามความหลง มาหากินอยู่ในประเทศไทยหรือหลายประเทศ ประเทศไทยก็ไปหากินหลายประเทศอย่างนี้ เพราะตามความเป็นจริงแล้ว หมู่มวลมนุษย์มีทั้งหมดอยู่ 18 ศาสตร์ จะทำเหมือนกันหมดไม่ได้ บางคนก็ทำเกษตรกรรม บางคนก็ค้าขาย บางคนก็ทำอะไร มันเป็นศาสตร์หลายอย่าง เพื่อเราจะได้แชร์สิ่งอุปโภคบริโภค เพราะเราคนเดียวมันไปรู้ถึง 18 ศาสตร์อย่างนี้ไม่ได้ พวกคุณครูอาจารย์ก็มีความรู้เรื่องคุณครูอาจารย์ หมอก็รู้ทางแพยท์ทางหมออะไรอย่างนี้ ให้เข้าใจอย่างนี้ เราทุกคนต้องมีความเห็นถูกต้อง เข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง เราทุกคนจะได้แก้ที่ตัวเรา เราไม่ต้องวิ่งไปแก้ภายนอก เราก็จะวิ่งไปเรื่อย เราทุกคนต้องมาแก้ที่ตัวเองปฏิบัติที่ตัวเอง มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ เหมือนพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้แก้ที่ใคร พระพุทธเจ้าท่านก็มาแก้ที่ตัวเอง ยกเลิกตัวเอง มันถึงเป็นบารมีเป็นธรรมเป็นคุณธรรม เรียกว่าปัจจุบันธรรม เอาธรรมนำชีวิต ยกเลิกตัวตน มันถึงจะมีความสงบมีความวิเวก ชีวิตนี้จะเป็นชีวิตที่เป็น super power แห่งความดับทุกข์ ให้เข้าใจอย่างนี้ อย่าวิ่งตามอวิชชาความหลง เราอยู่ที่ไหนเราก็พากันปฏิบัติที่นั่น
เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเรียกว่าคนไม่รู้อริยสัจ 4 นะ ไม่รู้ทุกข์ ไม่รู้เหตุเกิดทุกข์ ไม่รู้ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์นะ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันรู้จักแต่บ้านภายนอก ไม่รู้จักบ้านทางจิตทางใจ คนเรามีอยู่ 2 บ้านนะ บ้านภายนอกที่เป็นบ้านเรือนที่เป็นหิน เป็นเหล็ก เป็นปูน เป็นไม้ อันนี้เขาเรียกว่าบ้านภายนอก บ้านภายในเป็นบ้านทางจิตใจ คือเอาธรรมนำชีวิต ถ้าเราเอาตัวตนนำชีวิตเขาเรียกว่าคนไม่มีบ้าน เป็นคน homeless คนไม่มีบ้านไม่มีที่ดินมันทุกข์ไหม มันก็ทุกข์สิ มันไม่มีที่ดินทำมาหากินมันก็ทุกข์แน่ เราต้องรู้จัก การพัฒนามนุษย์มันต้องพัฒนาทั้งกายวาจาใจ กริยามารยาทตลอดถึงอาชีพ ถึงเป็นอริยมรรค นี้คือบ้านทางจิตทางใจนะ ให้เราเข้าใจ ไม่เข้าใจมันก็วิ่งไปเรื่อย เหมือนพระกรรมฐานทั้งหลายไม่รู้จักบ้านที่แท้จริง วิ่งหาแต่ความสงบทางวัดก็เอาแต่สร้างกำแพงสูงใหญ่เลย เป็น 100 ไร่ หลาย 100 ไร่ เพื่อที่จะกั้นไม่ให้ตาเห็นรูป หูไม่ได้ฟังเสียง มันต้องเข้าใจนะ มันคือสิ่งภายนอก เราต้องยกเลิกตัวตน มันถึงจะรู้จักบ้านภายใน บ้านจิตบ้านใจ พระพุทธศาสนาก้าวไปไกล ไกลกว่าวิทยาศาสตร์อีก พระพุทธเจ้าระลึกชาติได้หลายกัปหลายกัลป์ ว่ากี่หลายร้อย หลายพันหลายหมื่นปี ว่าใครจะได้มาตรัสรู้ แล้วที่ผ่านมามีใครมาตรัสรู้บ้าง เมื่อเรายกเลิกตัวตน ถึงจะรู้จักบ้านที่แท้จริง เรามีบ้านทั้ง 2 บ้าน คือบ้านทางกายและบ้านทางจิตทางใจ พระพุทธเจ้าก็ให้พัฒนาตามพระธรรมพระวินัย เพื่อได้จะนำมาประพฤตินำมาปฏิบัติ เรื่องพระวินัยหรือเรื่องกฎหมายบ้านเมือง เป็นสิ่งที่โฟกัสในเรื่องที่ถูกต้อง เรายกเลิกตัวตนอย่างนี้ เราไม่รู้จักเราก็เลยยกเลิกพระธรรมพระวินัย เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เรียกว่าไม่รู้อริยสัจ 4 ทุกประเทศมันเลยได้เกิดความเสียหายนะ อย่างประเทศไทยของเรามันก็เกิดความเสียหาย ทุกประเทศก็เกิดความเสียหาย เพราะเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันทุจริต ตัวตนมันเผาทั้งตัวเราเผาทั้งคนอื่น ต้องเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วก็อย่าไปตามอารมณ์ ตามความรู้สึก ตามสัญชาตญาณ ทุกคนต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ ปัจจุบันมันเป็นไฟท์ ถ้าเราไม่รู้จักว่า เรากำลัง ยืน เดิน นั่ง นอน หรือคิดพูดอะไร มันไม่ได้ ปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญ เรื่องอริยสัจ 4 เป็นเรื่องปัจจุบัน เรื่องหมดกิเลสสิ้นอาสวะมันเป็นเรื่องปัจจุบัน เพราะอดีตมันแก้ไขไม่ได้ มันผ่านมาแล้ว อนาคตก็ไปทำไม่ได้ เพราะมันยังมาไม่ถึง ปัจจุบันก็ยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ให้พวกเราพากันเข้าอกเข้าใจ ในการประพฤติในการปฏิบัติอย่างนี้แหละ
เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันยากจนนะ มันก็สมควรยากจน เพราะเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเขาเรียกว่าไม่มีปัญญา ไม่รู้อริยสัจ 4 ตัวตนตื่นขึ้นมา มันมึนตึ๊บเลยนะ เพราะมีแต่ตาภายนอก ไม่มีตาภายในคือตาปัญญา ปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญ พระอรหันต์ทั้งหลายท่านถึงบอกลูกศิษย์ลูกหาว่า ผมนี้มันจำอะไรไม่ได้ เพราะมันแก่มันเฒ่าแล้ว เพราะสังขารมันเป็นสภาวะธรรม มันจำอะไรไม่ได้ แต่ปัจจุบันนี้เราต้องมีความเห็นถูกต้อง เข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง ยกเลิกตัวตน การยกเลิกตัวตนมันคือการซ่อมแซมสมองนะ มันจะยับยั้งการเป็นโรคอัลไซเมอร์ ตัวตนมันทำให้เราเกิดอัลไซเมอร์ สมถะความสงบมันคือการซ่อมแซมสมอง พระพุทธเจ้าตรัสสอน การเดินทางสายกลางมันต้องเอาความสงบด้วย เอาปัญญาด้วย เอาแต่ความสงบมันก็ไม่มีปัญญา เอาแต่ปัญญามันก็ไม่มีความสงบ ปัญญาถ้าเราไม่เอาความสงบไปด้วยมันทำลายสมอง มันไม่ใช่ทางสายกลาง
ให้ทุกคนพากันเข้าอกเข้าใจในการปะพฤติในการปฏิบัติ ที่เรามาร่วมรวมกันเพื่อที่จะมาทำความเข้าใจ เหมือนเราไปเรียนหนังสือนี้แหละ เรียนหนังสือที่โรงเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอก ก็เพื่อสัมมาทิฏฐิ ไม่ใช่ไปเรียนจำนะ ใครจะไปจำได้ หนังสือมันเยอะแยะเลย อย่างนี้แหละ พระพุทธเจ้าท่านให้เราเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วก็เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ การเรียนการศึกษาคือความเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วเราก็ไม่ต้องแบกหนังสือไป อย่างนี้นะ เพราะธรรมะเป็นเรื่องของปัจจุบัน ปัจจุบันเราต้องมีสัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง ปัจจุบันเราถึงเป็นคนดี เป็นคนฉลาด เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่ฉลาดหรอก มันอาศัยแต่มุขเก่าๆ ตัวตนคือมุขเก่า มันไม่ทันสมัย ตัวตนมันไม่ทันสมัย เอาตัวตนมันไม่ใช่ของสด มันคือของแห้ง ของบูด ของเน่า ของเสีย ตัวตนนี้นะ เราต้องยกเลิกตัวยกเลิกตน เพื่อให้ทุกคนเป็นพระธรรมเป็นพระวินัย เราจะได้รู้คุณค่าของพระธรรมของพระวินัยกฎหมายบ้านเมือง ถึงแม้กฎหมายบ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตยที่เอาคนส่วนใหญ่ออกกฎหมาย พวกคนชอบกินเหล้าก็ขอให้มันได้กินเหล้ากินเบียร์ได้มาตรฐานก็ตั้งโรงงาน จะกินเนื้อสัตว์ได้มาตรฐานก็ตั้งโรงฆ่าสัตว์ เล่นการพนันได้มาตรฐานไม่เอาบ่อนกระจ๊อกกระแจ๊กตามบ้านนอกบ้านนา ก็ตั้งบ่อนคาสิโน สิ่งเหล่านี้เป็นประชาธิปไตยก็จริง แต่เป็นประชาธิปไตยที่เป็นนิติบุคคลเป็นตัวเป็นตน เพราะสิ่งเหล่านี้มันออกเป็นกฎหมายบ้านเมือง มันจะโฟกัสให้เป็นเผด็จการ มันจะยกเลิกมรรคผลนิพพานเรานะ พระพุทธเจ้าตรัสสอนเพื่อให้เราต้องเอาธรรมนำชีวิต ไม่ใช่เอาตัวตนนำชีวิต ถึงจะเป็นประชาธิปไตยก็ยังใช้ไม่ได้ ประชาธิปไตยก็ต้องปรับเข้าหาธรรมนะ กฎหมายบ้านเมืองก็ต้องเอาธรรมนำชีวิตนะ โลกนี้การปกครองถึงปกครองด้วยทศพิธราชธรรมเอาธรรมนำชีวิต จะเป็นประธานาธิบดีก็ต้องเอาทศพิธราชธรรมเอาธรรมนำชีวิต ไม่เอาตัวตนนำชีวิต เอาตัวตนนำชีวิตเมื่อไหร่ เรียกว่ามันไม่ถูกต้อง มันเป็นข้าราชการก็ไม่ได้ เพราะตัวตนมันโกงกินคอรัปชั่น เป็นนักการเมืองมันก็ไม่ได้ เพราะตัวตนมันโกงกินคอรัปชั่น จะเป็นพระเจ้าพระสงฆ์เป็นนักบวชก็ไม่ได้ เพราะมันโกงกินคอรัปชั่น
ให้ทุกท่านทุกคนพากันเข้าใจในการประพฤติในการปฏิบัติ ต้องโฟกัสเข้าหาความถูกต้อง เราทุกคนต้องมาทำความเข้าใจ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันเจ็บมันปวด ทั้งกาย ทั้งใจนะ ตัวตนมันเป็นความเจ็บปวด มันเป็นความทุกข์ของเรา ให้เราเข้าใจ เราจะไปหาความดับทุกข์ที่ไหน หาความดับทุกข์ในกายวาจาใจ กริยามารยาท ตลอดถึงอาชีพ ของเรานี้แหละ เราจะไปอยู่ไหนมันก็มีบ้านมีที่ดินอยู่ที่นั่น การทำงานประกอบอาชีพ เพราะการเป็นพระมันอยู่กับเราทุกๆ คน ผู้ที่มาบวชก็เป็นพระได้ ผู้ที่เป็นประชาชนไม่ได้บวชก็เป็นพระได้ ทุกคนเป็นพระได้ เหมือนอาหารที่ทุกคนบริโภค ร่างกายก็มีความสุขดับทุกข์ บรรเทาทุกข์ได้ เรายกเลิกตัวตนเราก็ดับทุกข์ได้ เพราะตัวตนมันคือความทุกข์ ให้เราทุกคนพากันเข้าใจเหมือนพระพุทธเจ้า ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า เรารู้จักเจ้าเสียแล้ว เจ้าจะมาทำบ้านทำเรือนทำอะไรให้เราอีกไม่ได้... เพราะเรายกเลิกตัวตนเราถึงขลัง ศักดิ์สิทธิ์นะ เราเอาตัวตนเราถึงไม่ขลังไม่ศักดิ์สิทธิ์ ถึงจะไปสักลายมันก็ไม่ขลังศักดิ์สิทธิ์ เพราะตัวตน เขานินทาก็เสียใจ เขาสรรเสริญก็ดีใจ เรื่องขลังเรื่องศักดิ์สิทธิ์คือการยกเลิกตัวตน เป็นผู้ที่เที่ยงแท้แน่นอนในการดับทุกข์ พระพุทธเจ้านับเอาตั้งแต่พระโสดาบัน ถ้าเอาตัวตนเป็นที่ตั้งประเทศไทยก็มีแต่ โสดาสิงห์ โซดาสิงห์ มันต้องเข้าใจอย่างนี้
เราทุกคนต้องพากันเข้าใจ ทุกๆประเทศเข้าใจอย่างนี้ เข้าใจเหมือนคนประเทศไทยนี้แหละ เป็นคนรวยส่งลูกส่งหลานไปเรียน อเมริกา หรือ ประเทศอังกฤษ ที่เขามีการพัฒนาเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ก้าวไปไกล ส่งลูกไปเรียนหลายล้านอย่างนี้ เมื่อเข้าใจแล้วก็เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เพราะเราต้องเข้าใจว่าทำไมศาสนาดี แต่ไม่มีใครอยากมาบวชกัน เพราะผู้ที่มาบวชในศาสนาทุกวันนี้ไม่เข้าใจพระศาสนา เอานิติบุคคลเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เอาพระพุทธศาสนามาบวชหาอยู่หาฉันหาเลี้ยงชีพ คิดเป็น % แล้วพระพวกนี้หรือว่าคนพวกนี้ 99.9% นะที่พากันมาบวช เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันก็เป็นพระธรรมเป็นพระวินัยไม่ได้ เพราะยกเลิกพระธรรมพระวินัย เอาตัวตนเป็นที่ตั้งบวชมาก็เพื่อรับจ๊อบ รู้จักไหมรับจ๊อบ มารับประเคน มาสวดผี มาสวดงานต่างๆ อย่างนี้ มันก็ยินดีแต่วัตถุที่เป็นนิติบุคคลตัวตน เรียกว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับการจัดคอนเสิร์ต เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มาบวชแล้วก็ไม่ใช่พระศาสนา มาเป็นโจรประจำวัด ใครเขาอยากจะมาบวชกัน เพราะพวกที่มาบวชกันไม่ใช่พระธรรมไม่ใช่พระวินัย มาบวชกันพากันเป็นโจร ตัวตนมันเป็นโจรนะ ใครก็รู้หมดว่าศาสนาเป็นสิ่งที่ดี ต้องเข้าใจอย่างนี้ ไม่เข้าใจไม่ได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันเข้าใจไม่ได้ เพราะตัวตนมันมืด มันมึนตึ๊บ ตัวตนนี้แหละไม่รู้จักภาษาคนภาษาธรรม พวกนี้เสียหายมากเห็นคนรวยนะจ๊ะๆ ทุกวัดเลย เห็นข้าราชการนักการเมืองที่ใหญ่โต ที่เรียกว่าบิ๊กนะ บิ๊กนั่นบิ๊กนี่ พวกนี้นะเราจะได้ยินชื่อบิ๊กนู่นบิ๊กนี่ ท่านนู้นท่านนี้ เราต้องเข้าใจ ถึงจะได้เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ ได้แก้ที่ตัวเรา
ถ้าเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเราเรียนหนังสือก็เพื่อความเห็นแก่ตัว ทำงานก็เพื่อเห็นแก่ตัว มาบวชก็เพื่อเห็นแก่ตัว มันไม่ได้ เพราะว่าเราทำงานขยันทำงาน เราเรียนหนังสือมันถูกต้องแล้ว ท่านบอกว่าเราทำอย่างนี้ก็เพื่อเสียสละ พระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่เกิดมาเพื่อเสียสละ มารับใช้หมู่มวลมนุษย์ หมู่เทพเทวา สรรพสัตว์ทั้งหลาย เราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้งเราลงทุนการเรียนการศึกษาส่งลูกไปเรียนเมืองนอก ลงทุนในการค้าการขายเพื่อตัวเพื่อตน มันไม่ได้เพื่อเสียสละ มันเป็นการทำร้ายทั้งตัวเองทั้งคนอื่นนะ ตัวตนนั้นคือไม่ใช่ปฏิบัติ ตัวตนคือวิบัติ ให้เข้าอกเข้าใจในเรื่องการประพฤติในเรื่องปฏิบัติ มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ คนเรามีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ เวลามันก็ผ่านไปเร็วนะ คนเราไม่มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติมันช้า ตัวตนมันคือความช้า ตัวตนมันเผาเราทั้งขึ้นทั้งร่อง มันเผาเรานะตัวตน เราต้องเข้าใจ พระพุทธเจ้าตรัสว่าหมู่มวลมนุษย์มีความสุขมากกว่าพวกคน เทวดา มีความสุขมากกว่าพวกมนุษย์ พรหมก็มีความสุขมากกว่าพวกมนุษย์และเทวดา เพราะการที่เราหยุดตัวเอง มันจะมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ ถึงจะมีความดับทุกข์ ท่านว่า ถ้าเราไปหลงในความสุข ในความสะดวกความสบาย มันไม่ได้นะ เราต้องยกทุกอย่าเข้าสู่พระไตรลักษณ์ว่าทุกอย่างมันไม่แน่ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ถ้าเราไม่ทำอย่างนี้พิจารณาอย่างนี้เข้าสู่พระไตรลักษณ์ มันบาปนะ มันต้องอาบัติ พวกที่บวชเป็นพระก็ต้องอาบัติ ตั้งแต่อาบัติทุกกฏจนถึงอาบัติถุลลัจจัย เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเรียกว่ายกเลิกความถูกต้อง เรียกว่าหัวใจว่างจากพระนิพพานนะ ให้ทุกคนพากันเข้าใจอย่างนี้ จะได้มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ อยู่ที่ไหนทำอะไรก็ให้เข้าถึงความดับทุกข์
วันหนึ่งคืนหนึ่งถ้าเรานอน 6 - 8 ชั่วโมง มันไม่มีปัญหาหรอก ประชาชนก็ทานอาหารวันละ 3 ครั้ง พระก็ฉันอาหารวันละ 1 ครั้งอย่างนี้ ทำไมพระฉันอาหารวันละครั้งไม่หิวล่ะ เพราะว่าพระวินัยเขาโฟกัสให้ว่า พระฉันวันละครั้ง เราไปคิดไปปรุงแต่งมันก็ไม่ได้ฉันหรอก เมื่อเรายกเลิกตัวตนอย่างนี้ มันลงใจอย่างนี้มันก็ไม่หิวหรอก เพราะตัวตนมันคือความหิว เราต้องเข้าใจพระวินัยอย่างนี้ เมื่อเรายกเลิกตัวตนมันก็ดับทุกข์อย่างนี้นะ เราไม่เข้าใจมันไม่ได้ เราต้องเห็นความสำคัญในการตรึกการนึกคิดอย่างนี้ ให้ทุกคนพากันตั้งอกตั้งใจ พากันมีเจตนา พากันมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ เราจะได้เข้าสู่ปัญญาธิคุณบริสุทธิคุณกรุณาธิคุณ ไม่จริงหรอกที่ว่า เรารักตัวเอง รักลูก รักหลาน รักพ่อรักแม่ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันจะรักได้อย่างไร แม้แต่ตัวเองมันก็สร้างปัญหาให้แก่ตนเอง มันเป็นการหวงตัวเอง หวงญาติที่น้องวงตระกูล มันไม่ใช่พุทธะ ไม่ใช่สติปัญญา ให้ทุกคนพากันเข้าใจ เราจะได้เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติอย่างนี้
แจกปัญญา แจกศาสนา แจกธรรมวินัย แจกสิ่งที่ถูกต้อง
เพื่อเดินตามรอยพระพุทธเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
โดยทุกท่านสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่
https://linktr.ee/watsubthawee
Share wisdom, spread Buddhism and its discipline.
Advocate righteousness to follow Lord of Buddha's footsteps 100%
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
You can receive new Dharma updates.
https://linktr.ee/watsubthawee