แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]
โอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ที่หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตาให้นำมาบรรยาย
บรรยายธรรมโดย พระมหาอนุชน สาสนกิตติ (ป.ธ.๙, ดร.)
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
เรื่อง พุทธะที่แท้จริง ตอนที่ ๑๗ ต้องเข้มแข็ง ให้ใจเราเจิดจ้าสว่างไสว เพื่อไม่ให้นิวรณ์มันครอบงำเรา
(บางส่วนจากโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า)
คำเทศนา วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๗
เมื่อเรายกเลิกตัวตนเมื่อเรายกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สิ่งนั้นก็ย่อมถูกต้อง ประเทศไทยของเราเอาธรรมนำชีวิต พัฒนาชีวิตให้เป็นชีวิตที่ประเสริฐ ปรับเข้าหาธรรมะเข้าหาเวลา วันหนึ่งคืนหนึ่งมี 24 ชั่วโมง ประชาชนที่ไม่ได้เป็นนักบวชก็พากันนอน 6 - 8 ชั่วโมง นักบวชก็พากันนอน 4 - 6 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นนักบวชหรือฆราวาสผู้ครองเรือนก็สามารถเป็นพระได้ ต้องมายกเลิกความเคยชิน เพื่อให้ชีวิตเราเป็นปฏิปทาที่ติดต่อต่อเนื่อง มนุษย์เราต้องพัฒนาใจพัฒนาวิทยาศาสตร์ไปพร้อมๆกัน ให้เป็นสัมมาทิฏฐิไปทั้งวาจาและกิริยามารยาท ให้เป็นอาชีพที่เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เป็นพระธรรมเป็นพระวินัย เราจะอยู่ที่ไหนก็ทำได้ปฏิบัติได้ เพราะทุกคนนั้นมาปฏิบัติที่ตัวของเราเอง เน้นมาที่ตัวของเราเอง ให้มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ เพราะการประพฤติการปฏิบัตินั้นจะทำให้สุขภาพจิตสุขภาพกายดี ไม่เครียด ไม่เป็นโรคจิตไม่เป็นโรคประสาท มีความสุข เพราะความเห็นที่ถูกต้องปฏิบัติถูกต้องไม่ได้ตัดไม่ได้เพิ่ม แต่เป็นความพอดี เป็นสิ่งที่พอเพียงเป็นทางสายกลาง มนุษย์เราต้องพากันทำอย่างนี้ปฏิบัติอย่างนี้ เอากายวาจากิริยามารยาทที่เป็นศีลสมาธิปัญญามาเป็นการประพฤติการปฏิบัติของเราทุกๆ คน เราได้ทำเหมือนพระพุทธเจ้านั้นเรียกว่าเป็นสงฆ์สาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้เดินตามรอยพระพุทธเจ้า ให้มีความเห็นความเข้าใจเมื่อเข้าใจแล้วเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ ในชีวิตประจำวันของเราก็เปรียบเสมือนเจ้าของบ้าน แล้วแขกมาเยี่ยมบ้านเรา เจ้าของบ้านก็ได้แก่ตาหูจมูกลิ้นกายใจ แขกมาเยี่ยมก็ได้แก่รูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะธรรมารมณ์ ทางเจ้าของบ้านทั้งแขกมาเจอกันก็จะเป็นผัสสะเป็นอารมณ์ ให้พากันเข้าใจอย่างนี้ พระพุทธเจ้าสอนพวกเราให้ภาวนาทุกสิ่งทุกอย่างที่มาเกี่ยวข้องทางตาหูจมูกลิ้นกายใจสู่พระไตรลักษณ์ ว่าทุกอย่างนั้นไม่แน่ไม่เที่ยงไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน มาเยี่ยมมายามแล้วก็จากไป เพราะสิ่งที่มาเยี่ยมมายาม นั่นเป็นกฎของเหตุของปัจจัย ทุกท่านทุกคนต้องพากันเข้าใจ เราต้องปฏิบัติเหมือนพระพุทธเจ้า
ถามว่า ทำอย่างนี้จะไม่มากเกินไม่สูงเกินไปหรือ? ไม่มากไม่สูงไม่เกิน นี่คือความจริงนี่คืออริยสัจ 4 เรามีตัวมีตนมีความไม่เข้าใจ เราเลยคิดว่าสูงมากเกินไป ไม่ใช่ เราต้องมายกเลิกตัวยกเลิกตน เอาพระพุทธเจ้ามาไว้ที่กายที่วาจาที่กิริยามารยาทธุรกิจหน้าที่การงาน เพื่อเราจะได้ข้ามสัญชาตญาณ ที่มันเป็นอวิชชาเป็นความหลง ที่มันได้ก่อภพก่อชาติ ก่อชราก่อมรณะ ที่พาเราเวียนว่ายตายเกิดอย่างหาที่สุดหาประมาณไม่ได้ เราทำอย่างนี้ก็เป็นของง่าย ธรรมะนั้นไม่ได้สูงไม่ได้ต่ำ แต่เป็นสิ่งพอดี เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม ที่ประดิษฐานอยู่ในกายวาจากิริยามารยาทการดำรงชีพของเราทุกๆ คน ไม่ได้สูงไม่ได้ต่ำ พอดี เป็นเศรษฐกิจพอเพียง เป็นของใหม่เป็นของสด เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม
เราทุกคนต้องยกเลิกตัวตน เราต้องไม่เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ต้องเอาธรรมะเป็นที่ตั้ง เอาธรรมะที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ 84,000 พระธรรมขันธ์ มาเป็นสิ่งที่ดับทุกข์ หรือหมดความทุกข์ของหมู่มวลมนุษย์ ที่เราพากันประพฤติพากันปฏิบัติเป็นสิ่งที่ติดต่อต่อเนื่อง เหมือนน้ำเหมือนสายน้ำที่ไหลเข้าไปสู่ทะเลมหาสมุทร เป็นสิ่งที่ดับทุกข์ เป็นสัมมาทิฏฐิที่มีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง ต้องทำอย่างนี้ปฏิบัติอย่างนี้ ชีวิตของเราจะได้ไม่สับสน ถ้าเราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้ง ชีวิตของเราต้องสับสนแน่นอน 100% ที่เราสงสัยเพราะชีวิตของการเป็นคนต้องเป็นชีวิตที่สับสน คำว่าคนหมายถึงวัฏฏะสงสารแปลว่าสับสน แปลว่าไปไม่ได้ แปลว่าไปไม่ถูก ถึงมีสมมติบัญญัติคำว่าคน ให้ทุกคนเข้าใจอย่างนี้ พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพุทธบารมีมาหลายล้านชาติ หลายอสงไขย ทรงมาบอกมาสอน ให้พวกเราได้ประพฤติได้ปฏิบัติ เราถึงเป็นผู้ที่โชคดี เราทุกท่านทุกคนต้องเข้าอกเข้าใจ ไม่ต้องเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ต้องพากันยกเลิกตัวตน เมื่อเราพัฒนาทั้งใจ พัฒนาวิทยาศาสตร์ ความมีความทุกข์ทางใจของเราก็ไม่มี ความมีความทุกข์ทางวัตถุก็ไม่มี เพราะเราพากันยกเลิกตัวตน กฎหมายที่เป็นประชาธิปไตย เป็นสังคมนิยม หรือว่าเป็นประเพณีนิยม ต้องปรับเข้าหาธรรมะ ประชาธิปไตยถึงจะไปได้ สังคมนิยมหรือประเพณีนิยม ถึงจะไปได้ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นไปไม่ได้ เพราะชีวิตนี้ไม่ถูกต้อง ความไม่ถูกต้องเรียกว่าทุจริต พวกเราพากันเข้าใจ พวกเราพากันมาเน้นที่ตัวเรานี้แหละ ไม่ต้องไปเน้นที่คนอื่น พระพุทธเจ้าท่านทรงบอกทรงสอน ด้วยความรู้ความเข้าใจ แล้วท่านทรงประพฤติทรงปฏิบัติด้วยความเข้าใจด้วยความตั้งมั่น เอาพระธรรมนำชีวิต ไม่ได้เอาอวิชชาไม่ได้เอาความหลงนำชีวิต ท่านโฟกัสเข้าหาตัวของท่านเอง เราก็ต้องเอาตัวอย่างแบบอย่าง ยกกายวาจาใจของพระพุทธเจ้ามาไว้ที่ตัวเรา เราไม่ได้เป็นต้นแบบ แต่เราเป็นผู้ตามพระพุทธเจ้า เราก็เอาอย่างนี้แหละ คือสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ด้วยการไม่ได้บำเพ็ญพุทธบารมีหลายล้านชาติ หลายอสงไขยเหมือนท่าน ให้คนเราพากันเข้าใจง่ายๆ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่เข้าใจ เพราะตัวตนนั้นจะรับผัสสะ รับเอา DNA ของพระพุทธเจ้าไม่ได้ เพราะคนละกรุ๊ปกัน กรุ๊ปเวียนว่ายตายเกิดอีกกรุ๊ปหนึ่ง ให้พวกเราเข้าใจอย่างนี้ เมื่อเรายกเลิกตัวตน เข้าสู่สมมติสัจจะ สมมติสัจจะที่เป็นอุปกรณ์เรียกชื่อ ที่เป็นความจริง แต่จริงโดยสมมติ ความจริงแล้วไม่ได้เป็นอะไร แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้เป็น พระธรรมก็ไม่ได้เป็น พระอริยะสงฆ์ก็ไม่ได้เป็น เรามีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง พุทธะธรรมะสังฆะก็จะปรากฎเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม
เราทุกคนน่ะพากันมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ นักบวชก็มีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติของนักบวช ฆราวาสครองเรือนก็มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติในการครองเรือน ก็พากันเป็นพระได้พอๆ กันน่ะ เป็นสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า เพราะสงฆ์สาวกนั้นมันแต่งตั้งกันไม่ได้ ต้องประพฤติต้องปฏิบัติ การแต่งตั้งนั้นด้วยสมมติสัจจะ พระพุทธเจ้าถึงบอกนักบวชทั้งหลายต้องมาบวชทั้งกายวาจากริยามารยาท ตลอดหน้าที่การงานของนักบวช ต้องโฟกัสเข้ามาหาตัวเราทุกๆ คน ให้ทุกคนพากันเข้าอกเข้าใจ ไม่ได้สูงไม่ได้ต่ำ พอดีๆ ธรรมะของพระพุทธเจ้าเมื่อมาประดิษฐานในบุคคลใด ด้วยกายวาจาด้วยกริยามารยาท ด้วยภาคประพฤติด้วยภาคปฏิบัติทั้งศีลสมาธิทั้งปัญญา ด้วยธรรมด้วยปัจจุบันธรรมนี้ ทุกคนก็จะมีความดับทุกข์ ด้วยการทำที่สุดแห่งการดับทุกข์ของคนเรา พวกเราทุกคนก็พากันเอาตัวเอาตน ก็พากันหลงไปเรื่อย หลงกันไม่มีวันหยุด ความเพ้อฝัน ความฟุ้งซ่าน หาที่สุดหาประมาณไม่ได้ เป็นวัฏฏะจักร เป็นกงกรรมกงเกวียน เราทุกคนต้องเห็นภัยในวัฏฏะสงสารว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นไม่ต้องหลงไม่ต้องเพลิดเพลิน ไม่พากันตั้งอยู่ในความประมาท เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเกมส์ในการปฏิบัติ มันเป็นไฟต์ติ้งในการประพฤติการปฏิบัติ
เราทุกคนต้องขอบอกขอบใจทั้งบ้าน แล้วก็แขกมาเยี่ยมบ้าน ที่จะให้เราได้มีโอกาสได้ประพฤติได้ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เราทุกคนจะได้เข้าสู่ปัญญาธิคุณบริสุทธิคุณกรุณาธิคุณ ที่มีภัยในวัฏฏะสงสาร ความสุขความเพลิดเพลิน เราจะได้ยกเลิกในความไม่ถูกต้อง เราจะได้มีกรุณาธิคุณ กรุณาตัวเองว่าการเวียนว่ายตายเกิดของเรานี้ หืม...เราต้องทำเหมือนพระพุทธเจ้านะ เราต้องยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องเข้าใจกัน แต่ก่อนนั้นเราคิดว่าเรารักตัวเอง รักพ่อรักแม่ รักพี่น้องวงศ์ตระกูล ประเทศชาติ มันไม่จริงหรอก มันเป็นความหลงต่างหาก เราไม่ได้รักตัวเอง รักพี่รักน้อง รักประชาชนที่ไหนหรอก ความหลงของเรา เราทุกคนขอย้ำขอเตือนว่า ต้องพากันนอนวันละ 6-8 ชั่วโมงสำหรับประชาชน พระนักบวชเรานอน 4-6 ชั่วโมง แล้วพาเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ ให้พิจารณาทุกอย่างเข้าสู่ปัจจเวกขณะ เราอย่าไปหลง เพราะทุกอย่างนั้น ถ้าเราไม่มีอวิชชาไม่มีความหลง ทุกอย่างนั้นมันจะมีแต่คุณไม่มีโทษ พระพุทธเจ้าถึงให้เราบริโภคด้วยพุทธ อย่าบริโภคด้วยความหลง เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเรียกว่าเราบริโภคความหลง ปัจจัยทั้ง 4 หรือมากกว่าทั้ง 4 ต้องภาวนาสู่พระไตรลักษณ์ พระพุทธเจ้าทรงบอกทรงสอนพระอริยสาวกว่า อะไรเราก็ไม่ได้ฉัน มันมีนิมิตหมายในการอยู่การฉัน มีปัญหาในการฉันเราทุกคนก็ต้องอาบัติ พระเทวทัตขอพรพระพุทธเจ้า ขอให้พระพุทธเจ้าทำอย่างนั้น พระพุทธเจ้าก็ไม่ประทาน เพราะถ้าเรายกเลิกตัวตนแล้วเราก็ไม่มีนิมิตหมายเป็นนิติบุคคล เป็นตัวเป็นตน
เราต้องเข้าใจแห่งความเป็นพุทธะ เป็นพระศาสนา เราต้องมาเป็นพระธรรมเป็นพระวินัย มาเป็นนักบวช ให้ทุกคนอบรมบ่มอินทรีย์ อย่างนักบวชเราก็พากันนอน ตื่นขึ้นตี 3 ตื่นขึ้นมาทำข้อวัตรทำกิจวัตร เพราะตัวตนมันก็ไม่อยากตื่นขึ้นตี 3 เพราะตัวตนคือนิวรณ์ณ์ คือความง่วงเหงาหาวนอน มีความฟุ้งซ่านรำคาญ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เอากามเอาพยาบาท เอาความฟุ้งซ่านเป็นที่ตั้ง เอาความลังเลสงสัยเป็นที่ตั้ง เราเป็นนักบวชเราก็พากันมานอนหรือมาจำวัตร ตื่นขึ้น ตี 3 เรามีข้อวัตรข้อปฏิบัติก็พากันมารวบรวมกันที่ศาลา จุดหมายปลายทางคือที่เดียวกัน คือพระนิพพาน ยกเลิกตัวตนที่พระพุทธเจ้าทรงบอกเราสอนเรา เราอดทนเราพยายาม อย่าไปซบเซา ยกเลิกตัวตน ใจของเราทุกคนมันอ่อนแอ ตามธาตุตามขันธ์ เราทุกคนต้องเข้มแข็ง เพื่อไม่ให้นิวรณ์มันครอบงำเรา ให้ใจของเราเจิดจ้าสว่างไสว เพื่อเราจะได้ฝึกใจ เราอย่าไปซบเซา เพราะมันเป็นเกมส์เป็นการปฏิบัติของเราทุกคน มาฝึกจิตฝึกใจของเรา เราทุกคนต้องเข้าสู่การประพฤติการปฏิบัติ หายใจเข้าก็ให้มันสบาย หายใจออกก็ให้มันสบาย หายใจเข้ายาวหายใจออกยาว หายใจเข้าสั้นหายใจออกสั้น ก็ให้จิตใจของเราทุกคนเบิกบาน จิตใจสว่างไสว ทำอย่างนี้เรียกว่าพุทธะ พุทโธ จิตใจมันก็รู้เบิกบานอย่างนี้ ยกทุกอย่างเข้าสู่พระไตรลักษณ์ ลมเข้าลมออกก็ไม่แน่ไม่เที่ยง ลมเข้าลมออกก็ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ทิ้งอดีตทั้งหมด ทิ้งทั้งหมดให้เป็นเลข 0 เลย การภาวนาวิปัสสนา เพราะอดีตถ้าเราไม่ยกเลิกตัวตน มันเป็นมลทิน เป็นหนี้เป็นสินทางจิตใจ ให้พวกเราพากันเข้าอกเข้าใจ ยกเลิกอดีตให้ได้ อย่าให้มันมีกรรมมีเวร ด้วยการภาวนาด้วยการประพฤติด้วยการปฏิบัติของเราทุกคน ที่ผ่านมาทุกคนต้องมีอดีตแน่นอน อดีตนั้นเราต้องยกเลิกอดีตเข้าสู่พระไตรลักษณ์ให้ได้ เข้าหาปัจจุบัน จิตใจของเราจะเจิดจ้าสว่างไสว เพราะการภาวนาเข้าสู่พระไตรลักษณ์ว่าทุกอย่างไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ปัจจุบันไม่มีอะไรมีแต่ลมเข้าแล้วก็ออกไป เราจะเอาแต่ตัวแต่ตน เอาแต่ง่วงเหงาหาวนอนไม่ได้ เราต้องภาวนาต้องประพฤติต้องปฏิบัติ เพื่อพุทธะของเราจะได้เฉิดฉาย เจิดจ้า แจ่มแจ้ง จิตใจของเราจะยกเลิกทาส ยกเลิกชั้นวรรณะ ยกเลิกตัวยกเลิกตนที่มันได้แต่เพียงคน เป็นได้แต่อวิชชาเป็นได้แต่ความหลง
พวกนักบวชเราทั้งหลาย เราต้องพากันประพฤติพากันปฏิบัติ ถึงเวลาทำวัตรก็ตั้งใจทำ ทำวัตรก็ใจอยู่กับเนื้อกับตัว สวดให้ชัดเจนเจิดจ้า ทำอะไรครึ่งหลับครึ่งตื่น มันเสียเวลาในการประพฤติในการปฏิบัติ ทำอย่างนี้ดีไม่ตายหรอก ทำอย่างนี้เป็นการรู้ค่ารู้เวลา รู้กาลเทศะ ในการประพฤติในการปฏิบัติเราทุกคนต้องตั้งอกตั้งใจตั้งเจตนาในการประพฤติในการปฏิบัติ เราทุกคนน่ะได้นอนได้พักผ่อนพอ ได้จำวัดพอ มีกำลังกาย มีกำลังสมอง ประพฤติปฏิบัติได้ พระพุทธเจ้าให้พวกเรามีความสุข มีฉันทะมีความพอใจในการประพฤติในการปฏิบัติ พวกเราอย่าพากันซบเซา จะเอาแต่นอน เอาแต่หลับ เอาแต่ตัวแต่ตนไม่ได้ เพราะเชื้ออวิชชา เชื้อความหลงมันเป็นไวรัสที่ครอบงำเราอยู่ตลอดเวลา เราทุกคนต้องพากันมีความสุขในการประพฤติการปฏิบัติ เราต้องพากันทำอย่างนี้ปฏิบัติอย่างนี้ ทุกคนน่ะเน้นมาที่ตัวเราโฟกัสมาที่ตัวเราถึงจะมีความสุข เพราะเป็นเวลาเป็นโอกาสแล้ว ที่เราเป็นคนโชคดี มีพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงบำเพ็ญพุทธะบารมีมาหลายล้านชาติมาบอกมาสอน พวกเราจะไปโง่ไปหลงงมงายในตัวในตนได้อย่างไร เมื่อพุทธะได้เกิดในโลกนี้แล้ว เมื่อธรรมะได้เกิดมาในโลกนี้แล้ว เมื่อสังฆะได้เกิดมาในโลกนี้แล้ว เราต้องรู้ว่าอันไหนดีอันไหนชั่ว อันไหนผิดอันไหนถูก เราต้องมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ เราต้องพากันทำอย่างนี้แหละ พากันครึ่งหลับครึ่งตื่นมันไม่ได้ ใหม่ๆ มันก็เป็นของยาก เหมือนเด็กอนุบาลเด็กประถม เด็กๆ มันก็เป็นของยาก เราทำไปปฏิปทามันก็เป็นฐานรองรับก้าวไปในปัจจุบัน ด้วยการที่เราปฏิบัติติดต่อต่อเนื่อง ให้ทุกคนเข้าใจเพราะเม็ดดินเม็ดทรายมันเม็ดเล็กนิดเดียวมันมารวมกันจนเป็นแผ่นดิน เหมือนน้ำหยดเดียวมารวมกัน มันก็เป็นทะเล มหาสมุทร เราต้องเข้าใจเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันคิดว่าไม่ได้ ตัวตนมันคือไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ พร่องอยู่เป็นนิจ มันเลยไม่ได้อิ่มด้วยน้ำ ไฟก็ไม่ได้อิ่มด้วยเชื้อ เราต้องเข้าใจ การประพฤติการปฏิบัติเราต้องทำอย่างนี้ปฏิบัติอย่างนี้
เรานี้ต้องเข้ามาหาการประพฤติการปฏิบัติ เราทุกคนต้องยกเลิกตัวตน ยกเลิกทิฏฐิมานะอัตตาตัวตน เราอย่าไปก๋าไปกร่าง เราไปก๋ากร่างได้อย่างไง เพราะเราเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสงสรเราไปก๋ากร่างได้อย่างไร เพราะว่าอวิชชาความหลงที่เราเป็นทาสแห่งอวิชชาความหลง มันครอบงำเราด้วยความแก่ความเจ็บความตายความพลัดพราก ถึงเราจะเป็นคนดีเป็นมหาเศรษฐีทางวัตถุ เราก็ยังมีความแก่ความเจ็บความตายความพลัดพราก เราต้องยกเลิกความก๋าความกร่าง สำคัญว่าเราเก่งกว่าเขา ดีกว่าเขา รวยกว่าเขา ฉลาดกว่าเขา หรือว่าเสมอกับเขาพอจะสู้กันได้ หรือเป็นผู้ด้อย เอาแต่คิดอย่างนั้น พวกความคิดความเข้าใจอย่างนั้น มันเป็นอาการของทิฏฐิมานะอัตตาตัวตน พระพุทธเจ้าท่านให้พวกเรายกเลิกตัวตน ยกเลิกความก๋าความกร่าง ความชอบใจไม่ชอบใจ ให้ทิ้งสิ่งเหล่านั้นเข้าสู่พระไตรลักษณ์ว่า ทุกอย่างไม่แน่ไม่เที่ยงไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน มันมาปรากฏการณ์เกิดขึ้นเหมือนเจ้าของบ้าน เหมือนแขกมาเยี่ยมบ้าน ทุกอย่างก็จะจากไปไหลไป ตามเหตุตามปัจจัย
ทุกท่านทุกคนต้องพากันมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ เราได้เป็นนักบวช ได้รับสิทธิพิเศษ ไม่ต้องหุงหาอาหาร ไม่ต้องสร้างบ้านสร้างเรือน เราต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เพราะเราได้รับกรณีพิเศษ พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ข้าราชการ พระมหากษัตริย์ ประธานาธิบดี มากราบมาไหว้ เราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้งมันจะเหมาะสมหรือไม่ที่ให้เขามากราบมาไหว้มาบูชา เพราะเราเป็นนิติบุคคลเป็นตัวเป็นตน เราอย่าไปคิดว่า โอ้...คิดใหญ่คิดโต เป็นบ้ามากเกิน ไม่บ้า ถ้าคนเรายกเลิกตัวตนมันหายบ้า บ้านี้ ท่านหลวงปู่ชาจัดไว้ 2 อย่าง พวกที่มีตัวตนบ้า พวกที่ยกเลิกตัวตนก็บ้าอย่างนึง มันบ้าคนละอย่าง ไม่ได้ใหญ่ได้โตหรอก เพราะอันนั้นมันเป็นสัจจะธรรมความจริงเป็นสมมติสัจจะ ที่โฟกัสมาสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เพราะว่าสมมติสัจจะ เพื่อให้เรายกเลิกตัวตน เพื่อจะได้เข้าหาปรมัตถสัจจะ มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าคือให้ยกเลิกตัวตน 20 ปีในการตรัสรู้พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนประชาชน ยังไม่ได้บัญญัติสิกขาบทน้อยใหญ่ ให้เข้าใจอย่างนี้ เมื่อเรายกเลิกตัวตน มันก็ยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การคิดอย่างนั้นการปฏิบัติอย่างนั้นมันก็เป็นเพียงปัจเจก มันวางรากฐานให้กุลบุตรลูกหลานไม่ได้ หลังจาก 20 พรรษาแล้ว พระพุทธเจ้าทรงวางหลักการมีพระวินัยบัญญัติ ที่เป็นสมมติบัญญัติเพื่อเข้าสู่ปรมัตถสัจจะ คือยกเลิกตัวตน เพราะว่าพระพุทธเจ้านั้น เป็นพระพุทธเจ้า เรื่องจิตเรื่องใจที่เป็นนามธรรม ที่เป็นพุทธะ สรีระร่างกายของพระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นอมตะ ต้องเป็นไปตามสภาวะธรรม ให้ทุกท่านเข้าใจ ที่ทรงวางรากฐานไว้ว่า กายวาจาใจ กริยามารยาท การประกอบอาชีพ ต้องเอาเข้าสู่การดำเนินชีวิตที่เป็นอริยมรรค เป็นหนทางเดินในการเวียนว่ายตายเกิด เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงมี ถึงได้วางรากฐานไว้อย่างนี้
เราทั้งหลายจะเป็นคฤหัสถ์ผู้ปกครองเรือนก็ให้พากันเข้าใจ จะเป็นนักบวชก็ให้พากันเข้าใจ ธรรมวินัยเป็นองค์แทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงลาลับดับสังขารไปนั้นเป็นส่วนสรีระ แต่สิ่งที่เป็นพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ายังสมบูรณ์แบบ มันเป็นความดับทุกข์ มันเป็นคู่ของหมู่มวลมนุษย์ ที่เป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม ที่จะได้พัฒนาใจ พัฒนาทั้งวัตถุ กาย วาจา ใจ กริยามารยาท อาชีพ มันต้องเป็นธรรมเป็นปัจจุบันธรรม เป็นความสุขความดับทุกข์ มันเป็น Super Star หรือ Super Power มันเป็นสุดยอดของสุดยอด มันเป็นความดับทุกข์ในหมู่มวลมนุษย์ที่ปัจจุบันของโลกนี้ที่มี 8 พันกว่าล้านคน ให้เราเข้าใจอย่างนี้ ถ้าเราเอาตัวเป็นที่ตั้ง มันไม่เข้าใจหรอก รับเอา DNA แห่งพุทธะไม่ได้ ต้องเข้าใจแล้วพากันประพฤติพากันปฏิบัติที่ติดต่อต่อเนื่อง ข้อวัตรกิจวัตรของเราในปัจจุบัน ให้ทุกคนถือว่าเป็นความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ เป็นนักบวช หรือเป็นฆราวาส ก็ต้องเข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้งมันเป็นความทุกข์ ทุกข์ทั้งกายทุกข์ทั้งใจ ทุกข์สองต่อเลย พระพุทธเจ้าบอกว่าเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ก็มีแต่ทุกข์ ทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ ทุกข์ดับไป เพราะตัวเพราะตนนี้แหละ มันเป็นทั้งอบายมุข เป็นทั้งอบายภูมิ ภูมิทั้งหลายทั้งปวงยังไม่ตาย เราก็เป็นผี เป็นยักษ์ เป็นเปรต เป็นมาร เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์นรก ทุกคนต้องรู้ภาษากายรู้ภาษาใจอย่างนี้ เราจะได้เจิดจ้า เราจะได้ฉายแสง เราเป็นพุทธะทางกายทางใจทางกริยามารยาท การงานอาชีพ
ทุกคนน่ะต้องมาเน้นที่ตัวเรา ในปัจจุบันวิทยาศาสตร์ก็ก้าวหน้า การทำเกษตรกรรม ทำอุตสาหกรรม ทำได้แก้ปัญหาได้ ให้เข้าใจ เราจะได้เป็นมนุษย์สมัยใหม่ ให้ทันโลกทันสมัย เราจะได้ไม่ต้องมาหลงงมงาย ในทิฏฐิมานะในอัตตาในตัวตน ให้ทุกคนต้องพากันมีความสุขกัน อย่าเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้งเลย ทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ เราเอาตัวตนเราก็มีความรู้สึกว่าเราเป็นเด็ก เป็นหนุ่ม เป็นคนเฒ่า คนแก่ เป็นฆราวาส เป็นนักบวช เราต้องเข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้วก็ปฏิบัติติดต่อต่อเนื่อง พระพุทธเจ้าถึงไม่ให้พระส่องกระจก จุดมุ่งหมายคือเราต้องยกเลิกตัวตนว่า เราเป็นเด็ก คนหนุ่ม คนเฒ่า คนชรา เป็นใคร ต้องยกเลิกตัวตน เพราะเจตนาที่ยกเลิกตัวตนมันจะได้ชัดเจนขึ้น ไม่ทำเหมือนฆราวาส ฆราวาสจะออกจากบ้านก็ส่องกระจก ลงรถก็ส่งกระจก พระพุทธเจ้าท่านให้เรามีสัมมาทิฏฐิ มันต้องงามทั้งกายทั้งวาจาทั้งใจไปพร้อมๆ กัน กับคำว่าปล่อยวาง ไม่ใช่ปล่อยทิ้ง ปล่อยคว้าง ไม่ต้องไปทำเหมือนศาสนาเชน เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ไม่ใส่ มันไม่ฉลาด เราต้องเอาสมมติสัจจะ ต้องแต่งตัวเรียบร้อย อาบน้ำแปรงฟันผู้หญิงผู้ชายก็แต่งตัวตามฐานะ นักบวชก็แต่งตัวตามสถานภาพ นักบวชก็ต้องปลงผม ห่มผ้ากาสาวพัสตร์ ให้เอาสีย้อมน้ำฝาด สีแก่นขนุน ในสมัยพุทธกาลสีย้อมน้ำฝาดสีแก่นขนุน ไม่เหมือนในปัจจุบัน ซื้อผ้าจีวรในตลาดมาถวายพระ บางทีก็สะเปะสะปะ จนได้มีสีพระราชทานในประเทศไทย สีเหลืองทองๆ ออกไปทางสีแก่นขนุน เพราะสีมันมากเกิน พระในพระธรรมวินัยถึงตัดเย็บเองในสมัยโบราณ ตัดเย็บทำเป็นขัณฑ์เป็นชิ้นเป็นชิ้น พระกรรมฐานหลวงปู่มั่น ท่านพาลูกศิษย์ลูกหาเอาธรรมวินัย ตัดเย็บผ้าเป็น สมัยหลวงปู่มั่นเย็บด้วยมือเพราะไม่มีจักร พระรุ่นใหม่สมัยใหม่เย็บจีวรไม่เป็นแล้ว มีแต่นุ่งห่มเป็น สีผ้าจีวร สีสบง มันถึงสะเปะสะปะ ถึงเกิดมีผ้าพระราชทาน คือเอาอำนาจที่เป็นธรรมะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า พระในประเทศไทยอย่าใช้สีหลากหลายเกิน ให้เอาสีเหลืองทอง เหลืองหม่น เป็นหลักจะได้ไม่เพี้ยน พระในประเทศไทยนี้ให้ปลงผมหรือให้ตัดผมให้สั้นๆ พระประเทศไทยก็อย่าไปไว้ผมยาวเกิน อย่างมากก็ 1 เดือนก็พากันปลงผมครั้งหนึ่ง จะได้ไม่ยาวเกิน เพื่อจะได้แยกแยะระหว่างนักบวชกับฆราวาส ถ้าจะปลงผมทุกวันก็ไม่เป็นไร เพราะห้ามถอน เพราะถอนมันอันตราย ให้เข้าใจอย่างนี้ ภายในประเทศไทยเรามีการโกนคิ้ว เพราะว่าประเทศไทยกับประเทศพม่าเป็นสุวรรณภูมิเหมือนกันนะ ได้แบ่งแยกประเทศการปกครองกัน และได้ทะเลาะวิวาท แย่งประเทศกัน แย่งทรัพยากรกัน เกิดศึกสงครามระหว่างไทยกับพม่า พระราชาของประเทศไทยให้พระนักบวชของประเทศไทยโกนคิ้วออก จะได้แยกว่าพระไทยโกนคิ้ว พระพม่าไม่ได้โกนคิ้ว เนื่องมาจากสงครามความหลงแย่งขยะกัน ที่กรุงศรีอยุธยาถูกเผา ที่พม่าเผากรุงศรีอยุธยาเอาทองคำกลับไป เอาไปเสริมพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ทองคำของประเทศไทยมีส่วนหนึ่ง มีส่วนร่วมกับพระธาตุชเวดากอง แต่ไม่เป็นไร ทุกคนน่ะจะเป็นพม่า เป็นไทย เป็นลาว เป็นเขมร เป็นจีน ก็ล้วนเป็นญาติพี่น้องของเราทุกคน แต่มันมีตัวมีตนมันเลยแย่งขยะ มันเลยแย่งอวิชชาแย่งความหลงกัน เขาเรียกว่าเป็นความหลง เป็นบ้า เป็นบ้ามันไม่รู้จักจบ เราต้องเข้าใจ พอเข้าใจแล้วก็ให้มีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นถูกต้อง เข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติถูกต้อง เราทุกคนจะได้เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติ เพื่อเราจะได้เป็นพระทั้งฆราวาสทั้งนักบวช ฆราวาสกับนักบวชก็ทานอาหารเหมือนๆ กัน ถ้าใครทานคนนั้นก็ดับทุกข์ ความเป็นพระก็เน้นมาที่สมมติสัจจะ มีพระธรรมวินัย ในพระวินับยปิฎก 21,000 พระธรรมขันธ์ ที่มีในภิกษุปาฏิโมกข์ 227 ข้อ มันได้ยกเลิกตัวตนด้วยสมมติสัจจะ เมื่อเอาธรรมวินัยนำชีวิต เราฉันครั้งเดียวก็เพียงพอ เพราะเรามีตัวมีตนมันทำให้เราหิวข้าว เมื่อเรายกเลิกตัวตนวันหนึ่งฉันหนเดียว นอกจากพระแก่ พระผู้เฒ่า พระป่วย ให้ฉันหลายครั้งได้ ตั้งแต่รับอรุณจนถึงเที่ยง ถ้าหลังเที่ยงก็ยังป่วยอยู่ก็ดื่มน้ำปานะ ท่านจะเก็บของฉันได้ก็เป็นเภสัช เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย เก็บได้ก็ไม่เกิน 7 วัน พวกนักบวชนี้ไม่ต้องเอาอะไร ไม่ต้องสะสมอะไร มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติอย่างนี้ ไม่ต้องกลัวตายไม่ต้องกลัวอดตาย เรายกเลิกตัวตน ทุกคนก็ให้การสนับสนุน ไม่ต้องกลัวอดตายเลย เมื่อเรายกเลิกตัวตนเราฉันอาหารวันละ 1 ครั้งมันก็ไม่หิวข้าว ให้เข้าใจอย่างนี้ ก็ให้ฉันอิ่มๆ หน่อย อร่อยหรือไม่อร่อยๆ ก็ฉันให้อิ่มๆ หน่อย พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าอย่าให้มีนิมิตว่าเราฉันอะไร บอกให้พระเข้าใจให้พิจารณาทุกอย่างเข้าสู่พระไตรลักษณ์ว่าไม่ได้ฉันอะไร ไม่ให้ความรู้สึกว่าฉันเนื้อฉันผัก ฉันขนม นม เนยอะไร ยกเลิกตัวตนว่าอย่าได้ฉันอะไรเลย เรายกเลิกตัวตนเราก็ไม่ได้ฉันอะไร ให้เข้าใจอย่างนี้ปฏิบัติอย่างนี้
เราประพฤติปฏิบัติอย่างนี้ คือเรายกองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ที่กาย ไว้ที่วาจา ไว้ที่กิริยามารยาท ไว้ที่อาชีพ อาชีพนักบวชก็แปลว่าอบรมบ่มอินทรีย์ยกเลิกตัวตน เขาเรียกว่าอาชีพนักบวช อาชีพที่ไม่มีตัวตน มีพระธรรมมีพระวินัย ให้เข้าใจในความเป็นพระ พระคือพระศาสนา พระศาสนานี้คือยกเลิกตัวตน ทุกๆ ศาสนาในโลกนี้คือยกเลิกตัวตน เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่ใช่พระศาสนา มันคือการทะเลาะวิวาท แตกความสมัครสมานสามัคคีกัน มันคือความเสียหาย ให้เราพากันเข้าใจอย่างนี้นะ ประเทศไทยนี้โชคดีกว่าหลายๆ ประเทศ นิกายเถรวาท แยกเป็น 2 นิกายคือ ธรรมยุติ กับ มหานิกาย
ธรรมยุติกับมหานิกาย นี้ถือว่าไม่ใช่พระพุทธศาสนา เป็นตัวเป็นตนอยู่ พระพุทธเจ้าคือพระธรรมพระวินัย ไม่ใช่ธรรมยุติ ไม่ใช่มหานิกาย พวกเราต้องเข้าใจ ต้องยกเลิกการทะเลาะวิวาทกัน ทุกคนจะต้องไปแก้ไขคนอื่นให้มันโง่ทำไม ต้องมาแก้ตนเองนี้แหละ เป็นปัญญาธิคุณบริสุทธิคุณกรุณาธิคุณ มันถึงจะเข้าถึงความสุขความดับทุกข์ได้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่เข้าใจหรอก เพราะมันเป็นตัวเป็นตน ให้ทุกคนพากันเข้าใจ ให้ถือนิสัยของพระพุทธเจ้า อย่าไปถือนิสัยของตัวเอง พวกที่มาบวชเป็นพระเป็นสมณะก็ต้องถือนิสัยของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าคือธรรมะ ธรรมะคือพระพุทธเจ้า ยกเลิกตัวตนอย่างนี้ ในประเทศไทยในเนื่องโอกาสพิเศษ ที่ให้กุลบุตรลูกหลานพากันมาบวช 7 วัน 15 วัน หรือ 3 เดือน 4 เดือน เพื่อพัฒนาความเห็นความเป็นพุทธะ เอาธรรมะนำประเทศ เรามาบวชไม่กี่วันก็ไม่เป็นไรก็เข้าสู่ภาคปฏิบัติ อย่ามาทำให้วัดวาเสื่อมด้วยตัวตน ต้องปรับเข้าหาธรรมะ เข้าหาเวลา อย่าพากันมีทิฏฐิมานะ อย่าพากันมีตัวตนเลย อย่างวัดเราหลวงพ่อได้วางข้อวัตรข้อปฏิบัติไว้ ไม่ให้พระเณรวัดนี้ใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่ให้พระเณรวัดนี้สูบบุหรี่ เพื่อยกเลิกสิ่งที่จะทำให้เสื่อมเสีย สิ่งที่เสพติด ลูกหลานพากันมาบวชอย่าพากันมามีโทรศัพท์มือถือ อย่าพากันมาสูบบุหรี่ มันเป็นการทำลายความดีทำลายสิ่งที่ถูกต้อง ต้องปรับเข้าหาเวลา เข้าหาธรรมะ เข้าหาสิ่งที่ดีๆ คนเราก็ต้องเป็นทั้งคนดี และเป็นคนที่มีปัญญาไปพร้อมๆ กัน การมาบวชก็จะได้อบรมบ่มอินทรีย์ เอาตัวตนเป็นที่ตั้งก็ไม่ได้อบรมบ่มอินทรีย์
ทุกคนต้องทวนโลกทวนกระแส มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ มันจะเหนื่อยมันจะยากลำบากก็ช่างหัวมัน ช่างพ่อช่างแม่ ช่างลูกช่างหลาน ช่างเหลนมัน เพราะเราเหนื่อยเรายากลำบากก็เพื่อยกเลิกความเห็นที่ไม่ถูกต้อง ยกเลิกวัฏฏะสงสาร ทุกคนต้องมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ เราทำอย่างนี้ปฏิบัติอย่างนี้ เรามีความสุขคนอื่นก็มีความสุข เราจะได้เป็นผู้งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด เราก็จะมีความดับทุกข์ได้ทุกๆ คน ให้เข้าใจอย่างนี้ เวลาเราสึกไปลาเพศไป เราก็เอาความถูกต้องไปนำชีวิตของความเป็นพระนี้มันเป็นได้กับทุกๆ คน อย่าเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันขี้เกียจขี้คร้าน มันตามใจตามอารมณ์ตามความรู้สึก มันโง่มันหลงมันตามอวิชชา พวกนั้นไม่ใช่ลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า ความหลงนั้นน่ะเป็น DNA ของพระเทวทัตนะ ไม่ใช้ DNA ของพระพุทธเจ้า เอาตัวตนเป็นที่ตั้งไม่ได้เป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้านะ เป็นศิษย์ของพระเทวทัต เรามาบวชมาปฏิบัติมาเข้าใจพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ยกเลิกการเป็นลูกศิษย์ของพระเทวทัต ให้เข้าใจอย่างนี้
ให้ทุกคนมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ ให้ชีวิตของเราทุกคนสงบเย็นเป็นพระนิพพาน ขอให้ทุกท่านทุกคนเข้าใจอย่างนี้ ให้พระเก่าพระบวชไม่สึกพวกเอาพระศาสนาหาฉันหาเลี้ยงชีพ เพื่อเป็นตัวเป็นตน ต้องพากันยกเลิกให้หมดนะ พวกนี้ที่เอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้ง คือผู้ที่ทำลายความมั่นคงความเป็นมนุษย์ อย่าพากันเอาพระศาสนาหาอยู่หาฉัน หาเลี้ยงชีพ มันหยาบเกินมันสกปรกเกิน เราต้องยกเลิกตัวตน ปรับเข้าหาธรรมะเข้าหาเวลา เพราะว่าเราเป็นแบรนด์เนมเป็นตัวอย่างแบบอย่าง ที่กุลบุตรลูกหลานที่จะบวชมา เพราะว่าในพระศาสนาในปะเทศไทยนี้พวกที่มาบวชเพื่อเอาศาสนาหาอยู่หากิน มันมี 99.99% พวกนักบวชพากันรู้ พวกฆราวาสพากันรู้ว่า สิ่งที่ไม่ถูกต้องมันเกิดกับตัวของเราเองนี้แหละ มันถึงมีเงินทอนวัด เงินทอนข้าราชการ มีแต่เงินทอนการเมือง พวกนี้มันทอนเยอะด้วยนะ 100 บาทมันกินไปแล้ว 60-70% มันจะไปได้อย่างไร เพราะมันคือความไม่ถูกต้อง ขออนุโมทนากับทุกคนที่ประเสริฐที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เราต้องมาทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ เดินตามพระพุทธเจ้าเพื่อเอาพระพุทธเจ้ามาไว้ที่กายวาจาใจ ให้สงบเย็นเป็นพระนิพพาน
แจกปัญญา แจกศาสนา แจกธรรมวินัย แจกสิ่งที่ถูกต้อง
เพื่อเดินตามรอยพระพุทธเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
โดยทุกท่านสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่
https://linktr.ee/watsubthawee
Share wisdom, spread Buddhism and its discipline.
Advocate righteousness to follow Lord of Buddha's footsteps 100%
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
You can receive new Dharma updates.
https://linktr.ee/watsubthawee