แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
โอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ที่หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตาให้นำมาบรรยาย
บรรยายธรรมโดย พระมหาอนุชน สาสนกิตติ (ป.ธ.๙, ดร.)
ใน วันจันทร์ที่ ๑๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
เรื่อง คุณของพระธรรม ตอนที่ ๗๒ ชีวิตมนุษย์เป็นชีวิตที่ประเสริฐ เราพากันเกิดมาเพื่อมาหยุดอวิชชาความหลง ยกเลิกตัวตน
(บางส่วนจากโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า)
ชีวิตของหมู่มวลมนุษย์ที่เกิดมา เป็นชีวิตที่ประเสริฐ เราพากันเกิดมาเพื่อมาหยุดอวิชชาหยุดความหลงยกเลิกตัวตน ยกเลิกอวิชชายกเลิกความหลง เอาธรรมนำจิตใจ เอาธรรมนำวัตถุ ทางจิตใจก็สุดยอด ทางวัตถุก็ยิ่งยอด ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ให้เป็นทางสายกลาง วัน 1 คืน 1 การหมุนเวียนของโลก 24 ชั่วโมง เราต้องเอาธรรมนำใจนำชีวิต เอาธรรมนำวัตถุไปพร้อมๆ กัน ก็เพื่อเป็นทางสายกลาง เพื่อเราจะได้ทันโลก เน้นในเรื่องการพัฒนาวัตถุ พัฒนาวิทยาศาสตร์ เพื่อปัจจัย 4 ของหมู่มวลมนุษย์ เพราะว่ามนุษย์เราทำได้ปฏิบัติได้ ถ้าเรายกเลิกตัวตน มนุษย์เรามันมีความพิเศษ แล้วก็พัฒนาจิตใจไปพร้อมๆ กัน
ใน 24 ชั่วโมง ผู้ที่เป็นประชาชน คนที่ไม่ได้เป็นนักบวช พากันนอน 6 ชั่วโมงไม่เกิน 8 ชั่วโมง อย่าพากันคอรัปชั่นเวลานอน แล้วก็พัฒนาใจไปพร้อมๆกัน เพื่อใจของเราจะได้เป็นพุทธะ ใจของเราจะไม่หลง มนุษย์เรามีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เปรียบเสมือนเจ้าของบ้านผัสสะที่มากระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นั้น จิตใจของเราจะต้องมีพุทธะมีปัญญา เพราะผัสสะทั้งหลายนั้น เป็นผัสสะมาเยี่ยมเรา มาเยี่ยมแล้วก็จากเราไป พระพุทธเจ้าท่านให้เราทุกคนมีพุทธะ จะได้รู้จักอาคันตุกะว่า มาเยี่ยมแล้วก็จากไป ล้วนแต่ไม่แน่ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน มาเยี่ยมแล้วก็จากไป ถ้าเราไม่ทำอย่างนี้ไม่ปฏิบัติอย่างนี้ เราทุกคนก็จะไม่ได้พัฒนาใจของเราเอง พระพุทธเจ้าให้พวกเราพากันเข้าใจอย่างนี้ สำหรับนักบวชพากันพักผ่อนนอนหลับวันหนึ่ง 4 ชั่วโมง 5 ชั่วโมง อย่างมากก็ไม่เกิน 6 ชั่วโมง มนุษย์เรา ถ้าเรายกเลิกความคิดเห็นผิดเข้าใจผิดปฏิบัติผิด หมู่มวลมนุษย์เราจะมีความสุข จะมีความดับทุกข์ไปในตัว เพราะเป็นบุคคลที่วางภาระหนัก ภาระหนักก็คือตัวคือตน หมู่มวลมนุษย์ก็จะพากันมีความสุข สมองก็จะไม่สับสน มนุษย์เราทุกๆ คนจะเป็นนักบวชหรือเป็นคฤหัสถ์ ก็เป็นพระอริยเจ้าได้พอๆ กัน พระพุทธเจ้าท่านเปรียบถึงอาหาร อาหาร มันเป็นเรื่องสากล ถ้าใครทานอาหารก็ดับทุกข์ทางส่วนร่างกายได้ เมื่อเรายกเลิกตัวตนเอาธรรมนำชีวิตเอาธรรมนำวัตถุ ก็ชื่อว่าได้บริโภคอาหารกายที่ถูกต้องบริโภคอาหารใจที่ถูกต้อง ชีวิตของเราก็จะเป็นอริยมรรค คือทำถูกต้อง เรียกว่า อริยะมรรค ความดับทุกข์ก็จะมีได้ครบวงจรชีวิตทุกอิริยาบถ หรือว่าเราทำอะไรก็ดับทุกข์ได้ที่นั่น ให้พวกเราพากันเข้าใจเรื่องความเป็นพระ ความเป็นพระมันเป็นเรื่องสากล มันเป็นความดับทุกข์ของหมู่มวลมนุษย์ที่มีความเห็นถูกต้องมีความเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง
ท่านพุทธทาสภิกขุผู้เอาธรรมเป็นหลักเอาธรรมนำชีวิต ท่านถึงได้กล่าวไว้ว่าเราจะเป็นมนุษย์ได้ก็เพราะมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง ไม่ใช่มีความคิดเห็นผิดเข้าใจผิดปฏิบัติผิด จะเป็นมนุษย์ได้ ก็เพราะสัมมาทิฏฐิ เป็นมนุษย์ได้ก็เพราะมีจิตใจสูง... การพัฒนาหมู่มวลมนุษย์เรา เราทุกคนต้องพากันเข้าใจ ที่เราเรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอก บางคนจบหลายปริญญาเอก ในเรื่องทางธรรมเรื่องจิตเรื่องใจ นักธรรมตรีจนถึงเปรียญธรรม 9 ประโยค เพื่อพวกเราทุกคนจะได้มีสัมมาทิฏฐิหรือว่ามีพุทธะ ในเรื่องจิตเรื่องใจ ทางวัตถุไปพร้อมๆ กัน เราทุกคนพากันทำได้ปฏิบัติได้ สิ่งที่พวกเราทำไม่ได้ ก็เพราะว่ามีอวิชชามีความหลง ความหลงเขาเรียกว่า เสพติด เสพติดทางจิตใจ จิตใจมันเสพติด เหมือนร่างกายเสพติดนี่แหละ เสพติดเขาเรียกว่า เป็นที่ทางจิตใจ มันเป็นอวิชามันเป็นความหลง มันเป็นความยึดมั่นถือมั่น สิ่งเสพติดทางร่างกาย พวกยาเสพติดทั้งหลาย พวกยาสูบทุกชนิด ยาเสพติดทั้งหลาย พวกเหล้าพวกเบียร์ พวกฝิ่น เฮโรอีนกัญชา ตลอดอาหาร ความสุขความสะดวกความสบายจัดว่าเป็นสิ่งเสพติด
พวกเราทั้งหลายต้องมีสัมมาทิฏฐิ ต้องมีปัญญา พากันมารู้จักสิ่งที่ถูกต้อง พากันมารู้จักอันไหนไม่ถูกต้อง เพราะเราทุกคนนับว่าเป็นโอกาสพิเศษแล้วที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เราต้องเอาความถูกต้องเป็นหลัก ปัญหาต่างๆ นั้นอยู่ที่พวกเราทุกคน พวกเรามีความเห็นผิด เข้าใจผิด แล้วก็พากันปฏิบัติผิด พระพุทธเจ้าท่านเมตตาเรา เป็นห่วงเรา เพราะสิ่งต่างๆ มากระทบกับเรามาสัมผัสกับเรา ล้วนแต่เป็นของอร่อย ของแซ่บ ของลำ ของนัว ของหร่อย พระพุทธเจ้าบอกพวกเรานะ เราต้องมีสติคือความสงบ มีสัมปชัญญะคือตัวปัญญา เพื่อยกสิ่งที่สัมผัสกับตา หู ลิ้น กาย ใจ เข้าสู่พระไตรลักษณ์ เพราะมันเป็นข้อสอบ เป็นข้อตอบ เป็นการประพฤติ เป็นการปฏิบัติของเราทุกๆ คนน่ะ เรามีความคิดเห็นผิด เข้าใจผิด ว่าเราทำตามใจ ทำตามความรู้สึก มันเป็นเอกราช เราเอาตัวตนมันเป็นเอกราชไม่ได้ เอาตัวตนมันเสียเอกราช ให้พวกเราทุกคนพากันเข้าใจนะ การเอาตัวตนมันคือการเสียเอกราช เสียความเป็นอิสระ เสียความเป็นไท ไทนี้แปลว่าอิสระ เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งน่ะไม่ได้เป็นไท แปลว่าเป็นทาสน่ะ พระพุทธเจ้าบำเพ็ญพุทธบารมีหลายชาติ หลายอสงไขย เพื่อยกเลิกทาส ยกเลิกชั้นวรรณะ ยกเลิกตัวตน เพื่อใจของเราจะได้รู้ผิด รู้ถูก รู้ดี รู้ชั่ว เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเรียกว่าไม่รู้อริยสัจ 4 ไม่รู้ดี ไม่รู้ชั่ว ไม่รู้ผิด ไม่รู้ถูก มันเสียหายนะ มันเสียเอกราช มันเสียความเป็นไท เสียความเป็นอิสระ ต้องพากันร้องเพลงชาติ เราต้องพากันรู้พากันเข้าใจ เราจะได้เข้าสู่ความเป็นไท เรายกเลิกความเป็นทาส เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันก็พัฒนาตั้งแต่วัตถุ เรื่องภายนอกอย่างเดียว มันก็จะไปหาแก้แต่คนอื่น ทำไมเราถึงมีความทุกข์ ญาติพี่น้อง วงศ์ตระกูลทำไมถึงมีความทุกข์ ก็เพราะพวกเราเอาตัวเอาตนดำเนินชีวิตมันต้องมีความทุกข์ เพราะเราเอาความหลง เอาอวิชชา ครองใจครองชีวิต นั่นแหละคือเรากำลังตกเป็นทาส อวิชชาความหลง เมื่อเราให้อาหาร ให้อุปถัมภ์ อุปัฏฐาก เขาก็ต้องเจริญงอกงาม ตามเหตุตามปัจจัย พระพุทธเจ้าถึงบอกให้พวกเราพากันรู้ทุกข์ รู้เหตุเกิดทุกข์ รู้ข้อปฏิบัติของความดับทุกข์ ใจของหมู่มวลมนุษย์ก็คิดได้เพียงละอย่าง เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เอาความหลงเป็นที่ตั้ง พุทธะคือตัวปัญญาสัมมาทิฏฐิ เกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อทุกอย่างมันเกิดได้ทีละครั้ง เราก็ต้องรู้ ไม่พากันให้อาหาร ปฏิบัติติดต่อต่อเนื่อง อวิชชาความหลงเขาก็พยายามขวนขวายของเขาเต็มที่ เพื่อเขาจะเอาตัวรอด อยู่รอด อวิชชาความหลง ถ้าไม่แน่จริงไม่เก่งจริง มันไม่นำประชากรของโลกเวียนว่ายตายเกิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อย่างไม่มีประมาณ หาทางหยุด หาทางเลิกไม่ได้ เหมือนสมัยก่อนประเทศไทยของเรายังไม่ได้พัฒนาวิทยาศาสตร์ ยังไม่ได้พัฒนาวัตถุมากมายเหมือนทุกวันนี้ พวกที่เป็นสังคมนิยม คอมมิวนิสต์นี่ เขาก็ยังอยากให้ประเทศไทยเราเป็นความมิวนิสต์ด้วย เขาก็ต้องเอาสิ่งเสพติดน่ะมามอมเมาผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เสพ แต่ก่อนมันเป็นฝิ่น เป็นเฮโรอีน เป็นผงขาว เพื่อมาเอาให้พวกที่เกี่ยวข้องเสพฝิ่น เสพเฮโรอีน เสพไม่กี่ครั้งก็พากันติดแล้ว เมื่อมันหมดฤทธิ์ มันก็อยู่ไม่ได้ มันก็ต้องการ มันหิว มันกระหาย มันต้องการ พวกที่จะมาเผยแผ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ เขาก็ต้องบอกพวกนี้ว่า โอ้... ถ้าต้องการก็ต้องทำงาน ต้องทำงานให้เขาอย่างนี้ สิ่งเสพติดมันก็เป็นอย่างนี้แหละ เมื่อเราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้ง มันเป็นอวิชชา เป็นความหลง เป็นสิ่งที่เสพติด ตัวตนนั้นเป็นสิ่งที่เสพติด มันติด มันติดในอวิชชา ติดในความหลง ติดในตัวในตน เราต้องมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง ควบคุมตัวเอง คอนโทรลตัวเองให้ดี เข้าหาความถูกต้อง เข้าหาธรรมะ เข้าหาเวลา ทุกคนต้องเอาธรรมนำใจ เอาธรรมนำชีวิต ทั้งใจของพวกเรา ทั้งทางวัตถุ
ความบริสุทธิคุณ กรุณาธิคุณ ปัญญาธิคุณ จะมีได้เกิดได้เพราะเรามีสัมมาทิฏฐิ ทางจิตใจ ที่เป็นอริยมรรคมีองค์ 8 พระพุทธเจ้าก็เป็นลูกหลานของ พราหมณ์ มาก่อน เป็นฮินดูมาก่อน ฮินดูนั้นมีพื้นฐานอยู่ในระดับสมาธิ การเข้าสมาธินั้น เราต้องหยุดงานอย่างอื่นหมด เพื่อเข้าสมาธิ อริยมรรค 7 ข้อ ก็ทำงานไม่ได้ เพราะสมาธิความสงบมันหยุด 7 ข้อนั้นไว้ มันข่มไว้ มันทับไว้ เหมือนหินทับหญ้า การเข้าสมาธิระดับนิโรธสมาบัติส่วนใหญ่ก็จะอยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน พระพุทธเจ้า ท่านถึงให้เราเข้าใจในการประพฤติในการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพื่อจะได้เอาชีวิตประจำวันนั้น เข้าสู่ภาคประพฤติภาคปฏิบัติในปัจจุบัน เราจะได้พัฒนาถึงเรื่องจิตเรื่องใจแล้วพัฒนาวัตถุไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้ 2 อย่างนี้เป็นทางสายกลาง ไม่สุดโต่ง
มนุษย์จะดับทุกข์ไม่ได้ จะแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้าเอาความไม่ถูกต้องนำชีวิตความไม่ถูกต้องมันไปไม่ได้ การที่เราทุกคนจะเข้าถึงความดับทุกข์ทั้งกายและทั้งใจมันต้องถูกต้อง ต้องปรับตัวเข้าหาธรรมะปรับตัวเข้าหาเวลาปรับตัวเข้าหากฎหมายบ้านเมือง เราจะได้เอาร่างกายมาทำงานมาปฎิบัติธรรม ต้องเห็นค่าในธรรมะเห็นค่าในเวลา เห็นคุณค่าทางกฎหมายบ้านเมือง ต้องพากันมีหลักมีจุดยืนสมมุติต่างๆ มันเป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องใช้สมมติให้ถูกต้องถ้าเรามีตัวมีตนสมมติสัจจะนั้นจะทำงานไม่ได้ เพราะตัวตนนั้นคือไม่ได้ เราทุกคนต้องโฟกัสที่ตัวเอง คนอื่นเค้าจะดีจะชั่วก็เป็นเรื่องของเขา เรื่องของเราต้องเอาสมมติมาใช้ให้มันสมบูรณ์แบบ เพื่อมันจะได้เป็นทั้งศีลเป็นทั้งสมาธิเป็นทั้งปัญญา เราต้องทำอย่างนี้ปฏิบัติอย่างนี้ เราทุกคนมีความเข้าใจว่ามันทำยาก ทำไม่ได้ อันนี้มันเป็นความคิดเห็นผิดเข้าใจผิด เมื่อเรายกเลิกตัวตนมันก็ไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้ สิ่งที่ทำไม่ได้นั่นคือตัวตน ธรรมะถึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เวลาถึงเป็นสิ่งที่สำคัญ กฎหมายบ้านเมืองเป็นสิ่งที่สำคัญ เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันเป็นความล้มเหลวมันทำลายความมั่นคงของทุกคนที่ประเสริฐ ที่เราพากันเกิดมาเป็นมนุษย์
เราไม่รู้ว่าเราทุกคนเกิดมาทำไม เราเกิดมาเพื่อจะทำที่สุด 2 อย่าง ทำที่สุดของความดับทุกข์ทางจิตใจ ที่สุดของความดับทุกข์ทางร่างกาย สมมติสัจจะเราเอามาใช้มาปฏิบัติ ยกตัวอย่าง ถ้าเราไม่เห็นความสำคัญในสมมุติสัจจะ กฎหมายเราก็ไม่ขลังไม่ศักดิ์สิทธิ์ เช่นประเทศไทยของเรามีโครงการที่ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อค เดี๋ยวนี้ 45 ปีถือว่ายังทำไม่ได้ เรามีประโยชน์อะไร เมื่อเรามีความเห็นไม่ถูกต้องเข้าใจไม่ถูกต้องปฏิบัติไม่ถูกต้อง เราเรียน เราทำงานหรือเรามาบรรพชาอุปสมบทมันจะมีประโยชน์อะไร เพราะเราทำไปเพื่อประกอบความทุกข์ ที่เราทุกคน เป็นได้แต่เพียงคน เพียงอวิชชา เพียงความหลง มันจะมีประโยชน์อะไร ทำให้เสียทรัพยากรไปเปล่าๆ
การเรียนการศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอกก็เพื่อตัวเพื่อตน อันนี้มันเป็นทุจริต มันเป็นไปเพื่อเห็นแก่ตัว มันเป็นสีดำ สีเทา สีสกปรก ข้าราชการทุกๆ ประเทศที่มีอยู่ในโลก ถ้าเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่ได้ พ่อค้าประชาชน ข้าราชการ คือธรรมะ คือยกเลิกตัวตน เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเราจะเป็นข้าราชการได้อย่างไร เราเรียนเราศึกษามาจบปริญญาตรีโทเอก เพื่อมาเป็นข้าราชการ ถ้าเราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้ง มันเป็นข้าราชการไม่ได้ เพราะมันเป็นตัวเป็นตน ข้าราชการก็เป็นบุคคลที่โกงกินอย่างถาวร ตั้งแต่วันรับราชการจนถึงเกษียณ เพราะตัวตนคือความไม่ถูกต้องให้เข้าใจ เราเป็นข้าราชการที่เอาสมมติสัจจะเอามาใช้ เราต้องพากันมาเสียสละ เพื่อเราจะได้มาบริหารส่วนรวม เพื่อมาเป็นตัวแทนของทุกๆ คน ต้องมามีความสุขในการเป็นข้าราชการ ปรับหาเวลาแล้วเสียสละ ทำงานให้มีความสุข เราเอาตัวตน เราทุกคนก็ไม่มีความสุขมีแต่ความฟุ้งซ่าน ใจไม่สงบ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ประเทศชาติส่วนรวมเราจะไปได้อย่างไง เพราะเราเอาตัวเอาตนเป็นที่ตั้ง เราพากันมากินเป็นทีมของประเทศเลยอย่างนี้นะ เพราะ GDP ของโกงกินคอรัปชั่นของประเทศเรา อยู่ในตัวเลขที่ออกมา มี 200 กว่าประเทศ ประเทศเราอยู่ในอันดับ ร้อยกว่าๆ ก็ถือว่ามันไม่ถูกต้อง มันใช้ไม่ได้ ข้าราชการก็คือเป็นผู้ที่โกงกินอย่างถาวร ถ้าเป็น นักการเมือง ปัจจุบันนี้ก็ 4 ปี นอกจาก สว. สว. ก็ 6 ปี การที่เราจะเป็นนักการเมืองได้ต้องอาธรรมะเป็นหลัก เอาธรรมะปกครองประเทศ ไม่ใช่เอาตัวเอาตนปกครองประเทศ เราจะไปทำตามรุ่นพี่ที่ผ่านมา มาเป็นนักการเมือง รวยทั้งทางตรง รวยทั้งทางอ้อม ใครเป็นรัฐบาลแล้วก็พากันมากอบมาโกย การเอาตัวตนเป็นนักการเมือง ประเทศถึงไปไม่ได้ เขาโฟกัสให้เป็นนักการเมือง เขาแต่งตั้งให้เป็นนักการเมืองก็เพื่อให้มาเสียสละ เพื่อยกเลิกตัวตน พวกนี้กินใหญ่กินมาก กินเป็นวาระ 4 ปี 6 ปี หืม!!! เรียกว่าโกงใหญ่มหาศาล ได้มาโกงมากิน มาร่ำมารวยก็เลยติดใจ ส่งลูกส่งหลานไปเรียนต่อเมืองนอก เพื่อให้มาโกงกินต่อ เพื่อสืบทอด DNA เจ้าแห่งความหลง ตัวตนนี้นะมันทำร้ายทั้งตัวเอง ทำร้ายทั้งคนอื่น
ประเทศไทยเรามีสิ่งหนึ่งดีที่สุดของเมืองไทย ที่เราทุกคน ต้องรู้จักว่าสิ่งที่ดีสิ่งที่ถูกต้อง คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ท่านยกเลิกตัวยกเลิกตน มาเสียสละ พัฒนาใจพัฒนาวัตถุไปพร้อมๆกัน ให้เป็นทางสายกลาง เพราะท่านเข้าใจโครงสร้างของโลก ว่าโลกนี้ต้องพัฒนาใจพัฒนาวัตถุไปพร้อมๆ กัน แล้วก็ไม่ต้องไปแก้ที่ใคร แก้ที่ตัวของเราเอง ด้วยความสมัครสมานสามัคคี ความสมัครสมานสามัคคีเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของโลก ให้ไปในทางเดียวกัน เอาธรรมเป็นหลักเอาธรรมนำชีวิต เอาธรรมนำวัตถุ มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทำให้เป็นตัวอย่างแบบอย่าง ท่านเมตตาทรงสั่งสอนว่า ทุกท่านทุกคนอย่าไปแย่งขยะกัน อย่าไปทะเลาะวิวาทกัน เพราะสมมติสัจจะเขาแต่งตั้งมาให้ทุกคนได้โฟกัส เข้าหาธรรมะเข้าหาเวลา เข้าหาการเสียสละ ความหมายเป็นอย่างนี้ เราเอาแต่ตัวแต่ตน ตัวตนมันทำให้หมู่มวลมนุษย์ไม่มีปัญญา ตัวตนมันคือไม่มีปัญญา มนุษย์เราถ้ามีปัญญา เขาจะไปโกงกินในข้าราชการทำไม เขาจะไปโกงกินในการเป็นนักการเมืองทำไม มันโกงมันกินมันคอรัปชั่นแสดงว่ามันไม่มีปัญญา
เราจะเข้าถึงบริสุทธิคุณได้ เข้าถึงกรุณาธิคุณ ปัญญาธิคุณได้ ก็ต้องยกเลิกตัวตน การเรียนการศึกษาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะมันพัฒนาสัมมาทิฏฐิ ถ้าเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งอย่างนี้ เราจะแก้ปัญหาโกงกินคอรัปชั่นได้อย่างไร เพราะตัวตนคือการโกงกินคอรัปชั่น เราทุกคนพากันมาเป็นข้าราชการ ต้องพากันมาเสียสละ เราไม่เสียสละเรามีตัวมีตน เงินที่เรารับจากเงินเดือนจากทางราชการ มันก็ไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานด้วยเงินไม่สุจริต เพราะตัวตนนั้นคือไม่สุจริต ต้องพากันเข้าใจ เราเอาตัวตนลูกหลานเราจะยอมรับเราได้อย่างไร ประชาชนจะยอมรับเราได้อย่างไร เพราะตัวตนทุกคนยอมรับไม่ได้ เรามีตัวมีตนเราจะเป็นนักการเมืองได้อย่างไร มันก็เป็นได้แต่ก๊ก ตัวตนนั้นคือก๊ก ประเทศจีนที่เป็นโครงสร้างของตัวตนนี้มันมี 3 ก๊ก ประเทศไทยเรานี้ไม่ใช่ 3 ก๊ก มันจะร่วมหลาย 10 ก๊ก ตัวตนคือก๊กคือแก๊งค์ เราต้องพากันยกเลิกตัวยกเลิกตน จะได้ยกเลิกก๊ก ยกเลิกแก๊งค์
ประเทศไทยเรานี้ พยายามทำโครงสร้างทุกอย่าง เพื่อเอาธรรมะเป็นหลัก ทำตามโครงสร้างของโลก ที่มีมหาวิทยาลัย มัธยม ประถม อนุบาล เพื่อจะได้เอาธรรมนำชีวิต ทางฝ่ายนักบวช ประเทศไทยเรานี้ ประชากรของประเทศไทยมันต้องเอาพุทธะนำชีวิต เอาพุทธะนำประเทศ พุทธะหมายถึงความถูกต้อง ถูกต้องทางใจ ถูกต้องทางวัตถุ คือเอาธรรมนำวัตถุ ยกเลิกอวิชชา ยกเลิกความหลง เรียกว่ายกเลิกไสยศาสตร์ เอาพุทธะนำชีวิต มีวัด มีบ้าน มีโรงเรียน มีมหาวิทยาลัยสงฆ์ คือมหามกุฎราชวิทยาลัยและมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เพื่อจะได้เป็นทรัพยากรของประเทศไทยที่ประเสริฐ ผู้ที่เรียนยังไม่เข้าใจว่าเราเกิดมาทำไม เขาเกิดมาเพื่อมามีความเห็นไม่ถูกต้อง มีความเข้าใจไม่ถูกต้อง มาปฏิบัติไม่ถูกต้อง อย่างนี้หรือ? ไม่รู้ว่าบวชมาทำไม
การที่เรา มีความเห็นไม่ถูกต้อง มีความเข้าใจไม่ถูกต้อง เรามาบวชมุ่งแต่เอาตัวเอาตนเอาแต่วัตถุ มันคนละอย่างกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่เอาตำแหน่งอะไรเลย พระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส ไม่ได้เป็นพระครู ไม่ได้เป็นเจ้าคุณ ไม่ได้เป็นเจ้าคณะ ไม่ได้เป็นสมเด็จ ไม่ได้เป็นพระสังฆราช พระพุทธเจ้าคือผู้ไม่เป็นอะไรเลย! พระพุทธเจ้าท่านบอกทุกคนว่าเราอย่าเป็นอะไรเลย มันก็เป็นทุกข์ทั้งนั้น จะเป็นอะไรก็เป็นทุกข์ทั้งนั้น เพราะความอยากนั้นมันเปรียบเสมือน ทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ เหมือนไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ ตัวตนมันบกพร่องอยู่เป็นนิจ อย่าไปเป็นอะไรเลย เรายกเลิกตัวตนเราจะได้ปรับตัวเข้าหาธรรมะเข้าหาเวลา เรามีตัวมีตน มันไม่ดีไม่ถูกต้อง เราเอาตัวเอาตน เราจะไปรับเอาพระรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างไร เพราะพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าท่านให้ยกเลิกตัวตน เมื่อเรามีตัวมีตนเราก็ต้องเป็นผู้หญิงเป็นผู้ชาย เป็นเด็กเป็นหนุ่มเป็นสาว เป็นวัยกลางคน เป็นคนแก่ คนชรา คนเจ็บ คนตายอย่างนี้แหละ เราต้องเข้าใจ ต้องเข้าใจเรื่องทางส่วนของร่างกายทางจิตใจอย่างนี้ ตัวตนมันเครียด ตัวตนมันเครียดนะ เพราะทำอะไรก็เพื่อตัวเพื่อตนนั้นคือความเครียด การปฏิบัติของพวกเราต้องติดต่อต่อเนื่องเหมือนลมหายใจ เหมือนลมหายใจที่มันติดต่อต่อเนื่อง ต้องเห็นความสำคัญในธรรมะ สำคัญในเวลา สำคัญในสมมติสัจจะ เห็นความสำคัญในกฎหมายบ้านเมือง พวกเราพากันมาคิดดูกันดีๆ พวกเราจะพัฒนาประเทศให้มันเจริญ แต่ไม่ได้พัฒนาตัวเองไม่ได้ปฏิบัติตัวเอง พวกเราทุกคนต้องพากันคิดดูดีๆ ว่ามันจะเป็นได้ไปหรือ เป็นไปไม่ได้!
ทุกคนต้องมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติให้ได้ เพื่อให้มันติดต่อต่อเนื่องให้เป็นสายน้ำ เราต้องรู้จักความงามทั้งภายนอก ความงามทั้งภายใน ความงามที่ใจความงามเบื้องต้น ถึงเป็นศีล ศีลคือยกเลิกตัวตน งามในท่ามกลางคือ สมาธิ สมาธิคือ ยกเลิกตัวตน งามในที่สุดคือยกเลิกตัวตน คือปัญญา เราปฏิบัติตามสมมติสัจจะที่ถูกต้อง เรียกว่าศีลเรียกว่ากฎหมายบ้านเมือง เป็นสมมติสัจจะ งามในเบื้องต้น คืองามอย่างนี้ ใจมันไม่ตรงก็เอากายมันตรงก่อน จิตใจมันไม่สงบ ก็ให้กายมันสงบเสียก่อน เพราะศีลนั้นจะเป็นสิ่งที่ติดต่อต่อเนื่องเป็นสัมมาสมาธิ และเป็นความตั้งมั่น พระวินัยสิกขาบทน้อยใหญ่ที่มาในพระไตรปิฎก 21,000 พระธรรมขันธ์ ที่มาในภิกขุปาฎิโมกข์ 227 ข้อ สำหรับพระภิกษุ มันเป็นความงามในเบื้องต้น ศีลถึงเป็นสิ่งที่ดี ต้องเห็นค่าในศีล ในกฎหมายบ้านเมือง เพื่อเป็นสัมมาทิฏฐิ เพื่อจะได้ติดต่อต่อเนื่องเป็นสายน้ำ หรือว่าเป็นสัมมาสมาธิ ส่วนใหญ่เราไม่เข้าใจ พระศาสนา เราจะคิดเรื่องศีลเพียงระดับกฎหมายบ้านเมือง มันไม่ใช่ ศีลนั้นน้อมไปเพื่อสัมมาทิฏฐิ เพื่อเป็นฐานของสมาธิให้ติดต่อต่อเนื่อง ที่เป็นอริยมรรคมีองค์ 8 ศีลนั้นเพื่อยกเลิกตัวตน จะได้เป็นสัมมาสมาธิ
เราเอาตัวเอาตน ชีวิตของเราก็เวียนว่ายตายเกิด อาการของจิตมันก็จะเกิดไปเรื่อยไม่รู้จักจบ เราต้องรักษาศีลให้เข้าถึงความหมายของศีล ก็เพื่อจะยกเลิกตัวตน เราไม่ยกเลิกตัวตน เท่ากับเรามาบวชแต่ภายนอก เราไม่เอาสมมติสัจจะน้อมเข้าไปสู่ภายใน หัวใจเราถึงมีผัวมีเมียกันทั้งวันทั้งคืน ทุกคนพากันน้อมเข้ามาหาตัวเอง ว่าเราเอาตัวตนเป็นเราเป็นของเราไหม? เอาตัวตนเป็นที่ตั้งนั่นแหละเรากำลังเวียนว่ายตายเกิด เรากำลังมีผัวมีเมียกันทั้งวันทั้งคืน อย่างนี้เราไม่รู้ว่าเราเกิดมาทำไม เราเรียนเราศึกษาทำไม ทำมาหาเลี้ยงชีพทำไม เรามาบวชเพื่ออะไร เราต้องเข้าใจ เราเข้าใจเรื่องศีล เรื่องสมาธิ เรื่องปัญญา ว่าอันนี้เป็นยานที่จะหยุดวัฏฏะสงสาร เหมือนยานที่ทะยานขึ้นบนฟ้า ที่ออกจากอวิชชาออกจากความหลง ศีล สมาธิ ปัญญา ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า ให้การประพฤติการปฏิบัติเราให้เป็นอริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อให้มันสอดคล้องในชีวิตประจำวัน เพื่อจะเป็นการประพฤติการปฏิบัติสมัยใหม่ มันเป็นการปฏิบัติที่ทันโลกทันสมัย ให้ก้าวไปไกลพร้อมทั้งใจทั้งวัตถุไปพร้อมๆ กัน พวกเราอย่าพากันหลงงมงาย เอาตัวตนเป็นที่ตั้งเขาเรียกว่าพวกหลงงมงาย พวกเอาแต่วัตถุเอาแต่ความสุขความสะดวกสบาย ไม่รู้จักอริยะสัจ 4 ความสุขความสะดวกความสบาย มันก็ยังแก่ยังเจ็บยังตาย ยังพลัดพรากอยู่ เราต้องพัฒนาใจของเรา นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนากัน พัฒนาพืช พัฒนาที่ดิน พัฒนาน้ำแหล่งน้ำ พัฒนาอุตสาหกรรม พัฒนาการค้าการขาย พัฒนาอะไรต่างๆ เพราะความเห็นแก่ตัว ที่มีอวิชชาความหลงไสยศาสตร์มันไม่อยากพัฒนา
ที่พูดอย่างนี้บรรยายอย่างนี้ไม่ได้ว่าให้ใคร เพื่อทุกคนจะได้เห็นว่า เราทุกคนมีความคิดเห็นผิด เข้าใจผิดปฏิบัติผิด เพื่อทุกคนจะได้พากันแก้ที่ตัวเอง พวกเราพากันคิดดู พวกที่ปฏิบัติธรรม จิตใจต้องเข้าสู่ความว่าง ว่างจากอดีต ว่างจากอนาคต ปัจจุบันก็ว่างจากความไม่มีตัวไม่มีตน เรายกเลิกอย่างนี้จิตใจของเราถึงจะคลายเครียด เมื่อคลายเครียดแล้วเราทุกคนถึงจะรู้ว่าอันไหนดี อันไหนชั่ว อันไหนผิดอันไหนถูก เพราะว่าตัวตนไม่รู้ว่าอันไหนดีอันไหนชั่ว อันไหนผิดอันไหนถูก นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายต้องอาศัยความว่างจากตัวตน ยกเลิกตัวตน ถึงจะเข้าสู่ภาวนาวิปัสสนา เข้าสู่พระไตรลักษณ์ได้ ถ้าเอาตัวเอาตนเหมือนระดับศาสนาพราหมณ์ ศาสนาฮินดู ที่เป็นศาสนาเก่าของพระพุทธเจ้ามันก็ไม่ได้ เพราะว่ามันยังมีตัวมีตนอยู่
เราจะเอาแต่ตัวแต่ตนอย่างมากก็ได้แค่สมถะ ได้แค่สมาธิ ได้แค่ความหลง มันเป็นความว่าง ที่ให้สิ่งภายนอกมันว่าง ที่ยังเหลืออยู่คือตัวคือตน ถ้าสิ่งภายนอกมันว่างมันจะมีประโยชน์อะไร สิ่งภายนอกก็ให้มันมีอยู่เพียงแต่เรามีความเห็นถูกต้อง เข้าใจถูกต้อง เรายกเลิกตัวตน สิ่งภายนอกก็มีอยู่เก้อๆ ของมันอยู่อย่างนั้น ทุกอย่างก็จะมีแต่คุณไม่มีโทษ เพราะเรารู้ว่าทุกอ่างมันไม่แน่ไม่เที่ยง มันไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน มันเป็นโอกาสเป็นเวลาที่ให้พวกเราได้ประพฤติปฏิบัติ ที่มันเป็นข้อสอบให้เราตอบด้วยพุทธะอย่างนี้แหละ ต้องรู้จักว่าสิ่งต่างๆ นั้นมีนั่นแหละดีแล้ว ถ้าเราไม่มีความแก่ความเจ็บความตายไม่มีความพลัดพราก มันก็ไม่มีข้อสอบมรรคผลนิพพานมันก็ไม่มี มันจะมีประโยชน์อะไร ความไม่เข้าใจเรื่องของสมมติสัจจะ ที่เขาแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส เป็นเจ้าคณะตำบล อำเภอ เจ้าคณะจังหวัด หรือเจ้าคุณ สมเด็จต่างๆ นึกว่ามันเป็นของหนักเป็นปัญหา ไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน เป็นความรู้เป็นการที่เราไม่รู้ ไม่รู้เหตุ ไม่รู้ปัจจัย ไม่รู้อริยะสัจ 4 เราไม่รู้จักเรื่องของจิตของใจ ของคุณธรรม กับคำว่าภาระ คำว่าหน้าที่ ถ้าเรายกเลิกตัวตนนั่นแหละคือการพักผ่อน เราดูตัวอย่างแบบอย่างพระพุทธเจ้าสิ พระพุทธเจ้ายกเลิกตัวตน วันหนึ่งคืนหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงบันทมวันละ 4 ชั่วโมง ทรงเสียสละวันละ 20 ชั่วโมง นี่แหละคือการพักผ่อนที่แท้จริง ยกเลิกตัวตนคือการพักผ่อน เราต้องพากันรู้พากันเข้าใจว่า การยกเลิกตัวตน เป็นผู้ไม่แบกของหนักไม่แบกภาระ เป็นคนไม่ถือเนื้อถือตัวถือตน ปรับเข้าหาธรรมะเข้าหาเวลา ต้องพัฒนาใจจะได้รู้ว่าอันไหนเป็นภาระ อันไหนยกเลิกภาระ เราต้องเข้าใจเรื่องจิตเรื่องใจ จะพากันอยู่ที่บ้าน หรือว่าอยู่ที่วัด เราต้องเข้าใจเรื่องคำว่าภาระ ภาระนั้นคือตัวตนเขาเรียกว่าภาระ
พระรูปนู้นแม่ชีรูปนี้มากราบเรียนหลวงพ่อว่า จะออกไปหาความวิเวก หลวงพ่อก็บอกว่า ให้รู้จักความวิเวกนะ ความวิเวกคือเรายกเลิกตัวตนเมื่อไหร่ ยกทุกอย่างเข้าสู่พระไตรลักษณ์ ความวิเวกมันก็มี ถ้าเรามีตัวมีตนเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ที่ไหนมันก็ไม่มีความวิเวก เพราะความไม่วิเวกคือตัวคือตน เราต้องพากันเข้าใจ ถ้างั้นมันจะถูกอวิชชาความหลง มันกดดันเรา มันเผาเรา ถ้าคุมมันไม่อยู่ ก็ STOP ลมหายใจไว้พักลมหายใจไว้ ใจจะขาดมันก็กลับมา ทำอย่างนี้หลายๆ ครั้ง ติดต่อกัน พยายามทำงานทำข้อวัตรกิจวัตรให้มีความสุขให้ได้ พยายามเจริญอิริยาบถทั้ง 4 ให้มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม ให้มันชัดไว้ พยายามภาวนาทุกอย่างขึ้นสู่พระไตรลักษณ์ ใจของเราจะสงบเย็นเป็นแอร์คอนดิชั่น เราจะได้ไม่ทำตามความกดดันของอวิชชาความหลง อวิชชาความหลงมันก็กดดันเราไปเรื่อย มันจะไปหาความสงบความวิเวก เพื่อจะให้สิ่งภายนอกมันไม่มี มันไม่ยกเลิกตัวตนการท่องเที่ยวในวัฏฏะสงสารนี้ มันไม่จบนะ เพราะเรื่องมันไม่จบ
เพราะเราเอาตัวเอาตนเรื่องมันถึงไม่จบ ในหน้าแล้งช่วงสงกรานต์อากาศร้อนที่สุด หลวงพ่อพาพระภิกษุสามเณรไปธุดงค์ในป่าใหญ่ ที่ห่างไกลจากชุมชน เป็นเวลา 3 อาทิตย์ 21 วัน ทุกคนดีใจมาก พากันกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข เพราะจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ ที่ปราศจากหมู่มวลมนุษย์ทั้งหลาย อยู่ในป่าในเขามันก็สงบวิเวกจริง แต่สิ่งที่อำนวยความสะดวกความสบายมันไม่มี มันเป็นเหมือนคนอพยพ เคลื่อนที่ทุกวัน ต้องสำรวมระวังตลอด รองเท้าก็ไม่สวม หนามก็เยอะ พวกสัตว์ร้ายตามพื้นดินก็เยอะ น้ำก็ไม่มี บางวันก็แทบเอาชีวิตไม่รอด บางวันก็ขึ้นเขา ปีนหน้าผา ห้อยโหนยิ่งกว่าลิงกว่าค่างอีก เพื่อเอาชีวิตรอด ผู้ที่ไปกับหลวงพ่อ พากันพูดว่า หืม! “ชาติหน้าชาตินี้จะไม่มาอีกแล้ว ครั้งสุดท้ายแล้ว อะไรก็ไม่สะดวกไม่สบาย แถมฝนก็ยังตกมาอีก นอนก็นอนไม่ได้” ก็บ่นอยู่ในใจว่า “ทำไมอยู่ที่วัดมันปฏิบัติไม่ได้หรือ พระนิพพานมันอยู่แต่ในป่าหรือ” ใจของเราแต่ก่อน มันคิดอยากจะมามาก มากที่สุด ดีใจกระโดดโลดเต้นเลยที่ได้มา ที่ไหนได้พอได้มาถึงจริงๆ โอ้... ได้แต่ยืนส่ายหัว ไม่น่ามาเลย!!! อย่างนี้นะ
อาหารที่เป็นกัปปิยะติดตัวไปได้ แบกไปถึงจะหนัก แบกอาหารแบกน้ำไปยิ่งกว่าตาพราหมณ์ชูชกอีก! กลัวตายกลัวจะไม่ได้ฉันไม่ได้ดื่ม เพราะความอยากไปธุดงค์ในป่า บวชมาทั้งทียังไม่ได้เป็นพระธุดงค์เข้าป่า เหมือนพระพุทธเจ้า คิดไปอย่างนั้น เวลาถึงจริงๆ มันก็ฟุ้งซ่านไปเรื่อย อยากจะทำอะไรตามใจก็ไม่ได้ ก็เพราะมันเป็นป่าต้องไปให้ทันเขา เพราะว่าหลวงพ่อให้สัญญาณนกหวีดเหมือนทหาร เป่านกหวีดครั้งที่หนึ่งให้เตรียมตัว ครั้งที่สองให้ขึ้นของ เป่านกหวีดครั้งที่สามก็ไปเลย หืม! มันตามใจตามอัธยาศัยไม่ได้เลย ทีนี้! พอหลายวันไปมองดูหน้าใครก็เหมือนปวดหัวปวดท้องทั้งนั้นเลย เพราะว่าตัวตนมันเผาเรา ทีนี้นะเลยไม่รู้จักภาวนาอริยสัจ 4 เลย เมื่อครบ 3 อาทิตย์หลวงพ่อก็จะพาออกแล้ว ทีนี้เนี่ย พอตกกลางคืนอยู่บนเขามองดูเห็นไฟหมู่บ้าน 10 - 20 กิโล โอ้...พระคุณเจ้าทั้งหลายกระโดดโลดเต้นที่จะได้กลับวัดกลับบ้าน เพื่อเอาชีวิตรอด ยิ่งขาลงจากภูเขามาหมู่บ้าน ไม่คอยหลวงพ่อเลย วิ่งมาบอกหลวงพ่อว่าเดี๋ยวจะไปก่อน! เดี๋ยวจะไปก่อน! เดี๋ยวจะไปเตรียมต้อนรับ หาน้ำหาสิ่งอำนวยความสบายคอยหลวงพ่อ ดูสิ! ความมีตัวมีตนมันกดดันเรา พอถึงปีหน้า พระเป็น 100 ก็จะขอหลวงพ่อมาอีก ปีหน้าก็ขอมาอีก นี่คือการที่เราไม่รู้จักตัวตน ไม่รู้จักอริยสัจ 4 มันคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย
ความมีตัวมีตนนี้นะมันกดดันทุกๆ คน เหมือนพระธรรมทูตของเมืองไทยที่เขาไปธรรมทูตที่เมืองนอก ทางยุโรป ทางอะไรอย่างนี้นะ มันไม่ใช่อยู่วัด ต้องไปอยู่บ้านเช่าอยู่คอนโด พระกรรมฐานสายไหนทั้งวัดบ้านวัดป่าอยู่ที่นี่หมด ต่างคนก็ต่างก็ต่างเอาตัวรอด เรื่องศีลเรื่องธรรมเรื่องพระวินัยยกไว้ก่อนอะไรอย่างนี้นะ ความมีตัวมีตนมันเอาตัวรอดในทางที่ไม่ถูกต้อง หลวงพ่อแขก บวชกับหลวงพ่อตั้งแต่เป็นเณร ตอนนี้อายุ 62 ปีแล้ว เป็นพระธรรมทูตไปเมืองนอก บอกว่าไปเมืองนอกรู้แจ้งเมืองนอกเลย รู้แจ้งเรื่องพระธรรมทูตเลย มันเอาตัวรอดอย่างเดียว เรื่องพระวินัยเอาไว้ก่อน โยมไม่มีก็ไม่เป็นไร เราทำอาหารกินเองก็ได้ นานๆ ไปก็เลยเอา “นะจ๊ะๆ” มาใช้งาน การมีตัวมีตนมันทิ้งพระธรรมพระวินัยเอาตัวรอด พระวินัยเอาไว้ก่อน ขอให้มีชีวิตรอด วันไหนก็วางแผนแต่เรื่องรับสังฆทาน ไทยทาน มีวิทยายุทธอะไรก็งัดออกมา “นะจ๊ะๆ” มาจากไหนก็ไม่รู้ ทุกคนพร้อมเพรียงกัน “นะจ๊ะๆ” ตัวตนนี้มันร้ายกาจนะ ไปเผยแผ่เลยไม่ได้เผยแผ่ ได้แต่นอนแผ่ ไปเผยแผ่เพียงแต่ไปสอนคนเอเชีย ไปสอนเรื่องกราบเรื่องไหว้ เรื่องสงกรานต์ ปีใหม่ ลอยกระทง ที่พระพุทธเจ้าบอกสอนไม่ได้ไปสอนเลย
คนเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง อย่างมากก็จำหนังสือมาพูดกัน จำครูบาอาจารย์มาพูด ตัวตนมันคือความมืด พระฝรั่งที่มาเป็นลูกศิษย์อาจารย์ชา ลูกศิษย์หลวงตามหาบัวก็ดี ทางสายต่างๆ ก็ดี ทั้งเมืองไทย พากันเข้าใจ เราต้องยกเลิกตัวตน ถ้างั้นท่านก็ไม่ได้เอาศาสนาพุทธกลับไปทางยุโรป นอกจากเอาอวิชชาความหลงไปใช้ เป็นนักจิตวิทยา เป็นปัญญาที่เอาตัวรอด ที่ชอบพูดกัน “นะจ๊ะๆ” ตัวตนนี้มันจะว่าร้ายกาจก็ยิ่งกว่าร้ายกาจ ทำไมมันเก่งมันฉลาด ยกตัวอย่าง อย่างการฝังลูกนิมิตของประเทศ พากันคิดกันได้อย่างไร พากันมายืนกันคนละตารางเมตรๆ เพื่อสวดถอนสวดสมมติ พระพุทธเจ้าท่านเป็นคนมีปัญญาท่านไม่ได้พาทำอย่างนั้น ถ้ามันยืนคนละตารางเมตรๆ ทำแค่ในประเทศไทยอย่างเดียว มันจะพากันหลงประเด็นนะ ทีนี้มันก็เลยเป็นประเพณีที่ไม่ใช่พระพุทธศาสนา มันเป็นเรื่องเงินเรื่องสตางค์ มันยัดเยียดความสกปรกให้พระศาสนา แล้วก็จะเอาแต่เงิน เอาแต่ตังค์ เอาแต่ยศเอาแต่ตำแหน่ง เขาเรียกว่าเอาชีวิตรอดอย่างไม่ถูกต้อง มันเป็นความเสียหาย ทำลายความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้พวกเราพากันเข้าใจ เพื่อพัฒนาพุทธะ เพื่อพัฒนาวัตถุที่เป็นสัมมาทิฏฐิไปพร้อมๆ กัน เพราะธรรมะเป็นสิ่งที่สุดยอด เป็นซุปเปอร์พาวเวอร์ในชีวิตจริง แห่งการดำเนินชีวิตที่ประเสริฐ เราอย่าไปพากันเข้าใจผิด ที่จะให้สิ่งภายนอกว่าง เพื่อจะเอาตัวตนไว้ นั้นเขาเรียกว่ามิจฉาทิฏฐิ ความรู้ความเห็นเหมือนกับญาติพระสารีบุตร จะเอาแต่สิ่งที่ชอบสิ่งที่ไม่ชอบก็จะไม่เอา คือไม่รู้เรื่องพระศาสนาไม่รู้เรื่องอริยะสัจ 4
ขออนุโมทนากับทุกๆ คนที่ท่านได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ผู้ประเสริฐ ธรรมะเป็นสิ่งที่สำคัญเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญ ท่านอย่าให้สิ่งภายนอกมันว่างเหลือตัวตนอยู่ไว้เลย เพราะชีวิตของเราประเสริฐได้ต้องดูตัวอย่างแบบอย่างดูพระพุทธเจ้าเป็นโมเดล ชีวิตของเราก็จะสงบเย็นเป็นพระนิพพาน ด้วยกันทุกท่านทุกคน ณ โอกาสนี้ด้วยเทอญ.
แจกปัญญา แจกศาสนา แจกธรรมวินัย แจกสิ่งที่ถูกต้อง
เพื่อเดินตามรอยพระพุทธเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
โดยทุกท่านสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่
https://linktr.ee/watsubthawee
Share wisdom, spread Buddhism and its discipline.
Advocate righteousness to follow Lord of Buddha's footsteps 100%
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
You can receive new Dharma updates.
https://linktr.ee/watsubthawee