แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
โอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ที่หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เมตตาให้นำมาบรรยาย
บรรยายธรรมโดย พระมหาอนุชน สาสนกิตติ (ป.ธ.๙, ดร.)
ใน วันเสาร์ที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
เรื่อง คุณของพระธรรม ตอนที่ ๖๕ ดำเนินชีวิตให้เป็นทางสายกลาง เพื่อพัฒนาตน พัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาบ้าน พัฒนาสังคม ให้ร่มเย็นเป็นสุข
(บางส่วนจากโอวาทพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า)
การดำเนินชีวิตที่ประเสริฐของเราทุกๆ คน ให้พวกเราพากันเข้าใจต้องเอาพุทธะนำชีวิตทั้งทางจิตใจทั้งทางวัตถุให้เป็นทางสายกลาง คำว่าพุทธะก็คือรู้เรื่องจิตรู้เรื่องใจรู้เรื่องการเวียนว่ายตายเกิดของทางจิตใจ รู้การเวียนวายตายเกิดของทางร่างกาย รู้เรื่องอดีตที่ผ่านมารู้เรื่องอนาคตที่จะไปข้างหน้า เพราะสาเหตุนั้นคือเหตุคือปัจจัยคือกระบวนการปฏิจจสมุปบาท เพราะสิ่งนี้มีสิ่งต่อไปมันถึงมีได้ รู้เรื่องการหยุดเวียนว่ายตายเกิด เราต้องพากันเข้าใจอย่างนี้กับคำว่าพุทธะ เราทุกท่านทุกคนต้องพากันมีสติมีสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อม ต้องเดินไปตามพุทธะของทางใจทั้งกายทั้งวาจาทั้งกิริยามารยาท ทั้งทางธุรกิจหน้าที่การงาน เราต้องเข้าใจ ถ้าเราไม่เข้าใจแล้วมันผิดตั้งแต่ต้น ท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนบอกว่า เมื่อเรามีความเห็นผิดเข้าใจผิดมันก็ผิดตั้งแต่ครั้งแรก เหมือนเราติดกระดุมผิดอันแรก กระดุมต่อไปมันก็ผิด ไม่มีพุทธะทางจิตใจไม่มีพุทธะทางวัตถุไปพร้อมๆ กัน พุทธะถือเป็นความดับทุกข์ในเรื่องจิตใจ เป็นการทำที่สุดแห่งความไม่มีทุกข์ เป็นพุทธะในเรื่องวัตถุไปพร้อมๆ กัน หมู่มวลมนุษย์ต้องพัฒนา 2 อย่างไปพร้อมๆ กัน
ทุกท่านทุกคนไม่ได้แก้ที่ใคร ต้องแก้ที่ตัวเอง คนอื่นก็ให้คนอื่นแก้ที่ตัวของคนอื่น เพื่อพวกเราทั้งหลายจะได้พากันมีความเห็นถูกต้องมีความเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง เพื่อจะได้เอาพุทธะนำชีวิต ไม่ได้เอาอวิชชาเอาความหลงที่เรียกว่าไสยศาสตร์ ไสยศาสตร์คืออวิชชาคือความหลง เราต้องรู้ว่าไม่ใช่ใครหลงหรอก ไม่ใช่ใครไม่รู้ก็คือตัวเรานี่แหละ ทุกท่านทุกคนต้องโฟกัสมาหาที่ตัวเอง มันถึงจะเป็นบารมี 10 ทัศ 20 ทัศ 30 ทัศ อย่างต้นอย่างกลางอย่างละเอียด เรียกว่าบารมี เอาความหลงดำเนินชีวิตเขาเรียกว่าเป็นบุคคลไม่รู้จักอริยสัจ 4 แล้วมันจะไม่ใช่การสร้างบารมี มันจะเป็นการทำลายบารมี ให้เข้าใจ เพราะความดับทุกข์ของพวกเราทั้งหลาย มันมีอยู่กับเราทุกคนที่มีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง ความดับทุกข์นั้นมันจะมีกับเราตลอดเวลา ดับทุกข์ทั้งใจดับทุกข์ทั้งกายได้ไม่มีปัญหา ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ทันโลกทันกาลทันสมัย มันเป็นความดับทุกข์ของหมู่มวลมนุษย์ที่ได้ร่างกายที่ประเสริฐ เราทุกคนต้องพากันเข้าใจ เราเป็นมนุษย์เราได้ร่างกายที่ประเสริฐ เราเอาความเห็นถูกต้องความเข้าใจถูกต้องที่เป็นพุทธะ นี่เป็นสิ่งที่ประเสริฐ เราต้องพากันเข้าใจอย่างนี้ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เรียกว่าไม่ถูกต้อง เรียกว่าทุจริต ตัวตนตัวเราของเรายึดมั่นถือมั่นเขาเรียกว่าทุจริต เพราะว่าธาตุขันธ์อายตนะมันไม่ใช่เราเลย มันเป็นเหตุเป็นปัจจัย มันเป็นความรู้สึกของเหตุของปัจจัย เราต้องรู้ว่าถ้าเราไม่รู้จัก มันก็จะผิดเหมือนท่านหลวงตามหาบัวบอกว่า เฮ้ย…มันผิดนะ อย่าเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเลย เอาตัวตนเป็นที่ตั้งความหลงมันจะครอบงำเรา ความหลงก็แปลว่าโลก โลกก็หมายถึงตัวตน ที่พูดกันว่าโลกธรรม มันครอบงำเรา ครอบงำแล้ว มันจะครอบ ครอบครัว ครอบครัวนี้คือตัวตนครอบเราไว้ ครอบคลุมเราไว้ ให้พากันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร เขาเรียกว่าครอบครัว ความกลัวมันครอบไว้
เราต้องรู้จักว่าเราเกิดมาทำไม เราเกิดมาเพื่อมารู้ทุกข์รู้เหตุเกิดทุกข์รู้ความดับทุกข์รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ พระพุทธเจ้าท่านยกเลิกตัวตน ท่านถึงรู้เรื่องอดีต ท่านถึงรู้เรื่องอนาคต ยกเลิกตัวตน จึงจะระลึกชาติหนหลังได้อย่างพระพุทธเจ้า ท่านระลึกได้ แต่เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ไม่กี่เดือนกี่ปีมันก็ลืมแล้ว เพราะตัวตนมาครอบไว้ เราต้องพากันเข้าใจอย่างนี้ ทุกคนจะได้มีความดับทุกข์ ถ้าไม่อย่างนั้นมันจะสร้างปัญหาให้กับตัวเองยิ่งๆ ขึ้นไป เหมือนปัจจุบันนี้แหละ เมล็ดพันธุ์มันเล็กนิดเดียว เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ให้น้ำให้ปุ๋ยให้อวิชชาความหลง มันก็ใหญ่ขึ้น หลายปีเมล็ดพันธุ์ก็เป็นต้นไม้ใหญ่ที่สง่างาม มันสง่างามก็จริง แต่มันสง่างามอวิชชาสง่างามความหลง มันเป็นความเกิดความแก่ความเจ็บความตายความพลัดพราก มันหาทางไม่ออก มันไม่จบ เราต้องพากันมารู้ความหมายนะว่า ถ้าเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ชีวิตของเรามันก็มีแต่ความทุกข์เท่านั้นที่จะเกิดขึ้น มีแต่ความทุกข์เท่านั้นที่จะตั้งอยู่ มีแต่ความทุกข์เท่านั้นที่ดับไป ไม่ใช่การทำที่สุดแห่งความดับทุกข์ พระพุทธเจ้าบอกพวกเราว่าให้ยกเลิกตัวตน เพื่อประโยชน์ของเราเอง เพื่อประโยชน์ของคนอื่น เราจะได้เข้าถึงบริสุทธิคุณ กรุณาธิคุณ ปัญญาธิคุณ เอาตัวตนเป็นพี่ตั้ง บริสุทธิคุณมันจะเกิดขึ้นที่ไหน กรุณาธิคุณจะเกิดขึ้นที่ไหน ปัญญาธิคุณจะเกิดขึ้นที่ไหน มันเกิดไม่ได้ มันไม่ใช่พุทธะ มันเป็นโมหะเป็นอวิชชาเป็นไสยศาสตร์ มันเป็นความหลง
ทุกท่านทุกคนต้องปรับตัวเองเข้าหาธรรมะ ใจของเราก็ปรับเข้าหาธรรมะ ปรับเข้าหาเวลา เขามีนาฬิกาเพื่อปรับให้เข้าหาเวลา เพื่อเราทุกคนจะได้ยกเลิกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การที่พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้คือการมายกเลิกอวิชชายกเลิกความหลง ที่พวกเราพากันบำเพ็ญบารมี 10 ทัศ 20 ทัศ 30 ทัศ ก็มายกเลิกความหลง ต้องเข้าใจ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันจะมีบารมีที่ไหน มันไม่มีบารมีหรอก ไม่รู้เรื่องพระไตรลักษณ์ ไม่รู้เรื่องว่าทุกอย่างมันไม่แน่ไม่เที่ยง ไม่รู้จักว่าทุกอย่างไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
พระพุทธเจ้าให้กับทุกคนพากันรู้จักอริยสัจ 4 รู้ทุกข์รู้เหตุเกิดทุกข์รู้ความดับทุกข์รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ การเรียนการศึกษาของพวกเราทั้งฝ่ายธรรมะหรือว่าฝ่ายวัตถุ เพื่อสัมมาทิฏฐิ ไม่ใช่อย่างอื่น ตั้งแต่เกิดมาจนหมดลมหายใจ เพื่อจะได้มีสัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง ไม่ใช่เพราะอย่างอื่น ถ้าเราคิดดูพิจารณาดู เพราะว่าทุกอย่างทำได้ปฏิบัติได้ ถ้าเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่ได้แน่นอน 100% ตัวตนคือไม่ได้ รักษาศีลก็ไม่ได้ สมาธิที่มีความตั้งมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง มันก็ไม่ได้ เพราะว่าตัวตนคือไม่ได้ ตัวตนคือปัญหา คือเจ้าปัญหา เราต้องพากันเข้าใจอย่างนี้ อย่าไปเข้าใจอย่างอื่น มนุษย์พัฒนาใจพัฒนาวัตถุพร้อมกับวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ช่วยเหลือได้ เราทำไร่ทำนาทำสวนทำอุตสาหกรรมทุกอย่าง ทางวิทยาศาสตร์แก้ไขได้ จากที่ไร่ที่นาที่สวนไม่กี่ไร่ สามารถพัฒนาพออยู่พอกินเหลือกินเหลือใช้ พวกเราให้พากันเข้าใจ พวกเราอย่าไปแก้ที่ไหนเลย พากันมาแก้ที่ตัวเรานี่แหละ เพราะพระนิพพานมันต้องอยู่กับตัวเราในทุกที่ทุกหนทุกแห่งในปัจจุบันนี้ ไม่ต้องรอให้ร่างกายตาย เราถึงจะเอาพระนิพพาน เมื่อตายแล้วมันยังไม่แน่ เพราะปัจจุบันมันก็ยังไม่ได้ จะไปเอาตอนตาย มาคิดดูแล้วมันก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ พระพุทธเจ้าบอกว่าปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องรู้ใจของตัวเอง ต้องรู้วาระจิตของตัวเอง ความเป็นตัวเป็นตนทำให้เราทุกคนฟุ้งซ่าน ทำให้เราทุกคนพากันเซ่อพากันเบลอ เป็นคนไม่รู้กาละเทศะอะไรเลย บุคคลเอาตัวตนเป็นที่ตั้งคือไม่รู้กาละเทศะว่า ปัจจุบันเราต้องไม่คิดอย่างนี้ ไม่พูดอย่างนี้ ไม่ทำกิริยามารยาทอย่างนี้ ไม่รู้ว่าปัจจุบันเราต้องไม่ตั้งอยู่ในความเผลออยู่ในความประมาท เราต้องเอาพุทธะมาประพฤติมาปฏิบัติ เอามาใช้ เพราะปัจจุบันนี้มันเป็นข้อสอบ ก็ต้องตอบด้วยพุทธะ ด้วยการประพฤติด้วยการปฏิบัติทั้งกายทั้งวาจาทั้งกริยามารยาทที่เป็นอริยมรรคมีองค์ 8 ปัจจุบันนี้เราก็ต้องเอามาใช้อย่างนี้ ยกเลิกตัวตนอย่างนี้แหละ บารมี 10 ทัศของเรามันก็จะเกิดขึ้น 10 ทัศ 20 ถ้า 30 ทัศ ก็จะเกิดขึ้นอย่างนี้แหละ
เราทุกคนต้องรู้คุณค่ารู้เวลาของเราในปัจจุบันว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เราต้องมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม อย่าไปปล่อยให้อวิชชาความหลงมันเข้ามาปรุงมาแต่งจิตใจของเรา คนเราคิดครั้งเดียวมันยังไม่สมบูรณ์ คนเรามันต้องคิดหลายครั้ง เหมือนพระพุทธเจ้าท่านตั้งปณิธานในใจตั้งหลายอสงไขยว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า จึงได้พูดออกมา เรามาคิดดูดีๆ สิ คนเราเห็นหน้าเห็นตาไม่ใช่จะเอาเค้ามาเป็นผัวเป็นเมีย มันมาจากความตรึกความนึกความคิดหลายครั้ง การเกี่ยวข้องทั้งกายทั้งวาจาอะไรอย่างนี้แหละ เรามีความเห็นไม่ถูกต้องเข้าใจไม่ถูกต้อง เราก็ปล่อยให้ตัวเองตรึกนึกคิด พระพุทธเจ้าถึงบอกว่าไม่ตรึกไม่นึกไม่คิดในกาม กามนั่นน่ะคือความหลงในรสอร่อยของโลก ความแซ่บความหรอยความอร่อยความรำ ท่านบอกว่าไม่ต้องไปตรึกนึกคิด เมื่อมันเกิดขึ้นมา ยกขึ้นสู่พระไตรลักษณ์ เห็นโทษในการเวียนว่ายตายเกิดว่าอันนี้มันไม่แน่มันไม่เที่ยงมันไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนอย่างนี้แหละ และไม่ให้ตรึกในพยาบาท พยาบาทอย่าไปตรึกไปนึกคิด เพราะจิตใจของหมู่มวลมนุษย์สัตว์โลกทั้งหลายมันคิดได้ทีละอย่าง ไม่ได้หลายอย่าง ถ้าเรามีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง เราก็อย่าไปคิดมัน อย่าไปตรึกมัน เราต้องมีสมาธิ สมาธิต้องเป็นสัมมาสมาธิ ไม่ใช่สมาธิที่เห็นแก่ตัวเพื่อความหลง ต้องเป็นสัมมาสมาธิ
อย่างปากของเรามันก็พูดได้ทีละอย่างอย่างนี้ หรือว่าทานอาหารก็ได้ทีละคำ เราต้องมีพุทธะว่าเราอย่าเอาความหลง หรือบริโภคคำพูดคำจาด้วยพุทธะ เราโฟกัสกลับมาหาตนเองนะ ฝึกปฏิบัติติดต่อต่อเนื่องเหมือนสายน้ำ ถ้าเรายกเลิกตัวตน ก็เป็นผู้เที่ยงแท้แน่นอน เราไม่ยกเลิกตัวตน มันไม่เที่ยงแท้แน่นอน ต้องปฏิบัติติดต่อต่อเนื่องเหมือนไก่ฟักไข่ สมัยโบราณไม่ได้ฟักด้วยไฟฟ้าเหมือนสมัยปัจจุบันนี้ ทุกวันนี้ฟาร์มต่างๆ ก็ฟักด้วยไฟฟ้าใช้เวลา 3 อาทิตย์เหมือนกันด้วยอุณหภูมิพอดี การปฏิบัติก็อย่างนี้แหละ ต้องปฏิบัติติดต่อต่อเนื่องอย่างมีความสุข เพราะอันนี้มันถูกต้อง เราต้องเข้าใจ เราเอาความถูกต้องเป็นหลัก เอาการทำที่สุดแห่งความดับทุกข์เป็นหลัก ต้องมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง ต้องมีความสุข วันหนึ่งคืนหนึ่งเราพากันนอน 6 ชั่วโมง อย่างมากไม่เกิน 7 - 8 ชั่วโมง เวลาเราตื่นขึ้น 18 ชั่วโมง เราก็ต้องมีความสุขในการเอาธรรมเป็นหลัก เอาธรรมดำเนินชีวิต เราต้องเข้าใจกระบวนการปฏิจจสมุปบาททางจิตใจ และกระบวนการปฏิจจสมุปบาททางวัตถุไปพร้อมๆ กัน เราดำรงธาตุดำรงขันธ์ดำรงอายตนะด้วยปัจจัยทั้ง 4 ด้วยเหตุด้วยปัจจัย เอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันก็ขี้เกียจขี้คร้าน แม้แต่หายใจก็ไม่อยากหายใจให้เข้าใจอย่างนี้นะ เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เราตื่นขึ้นมาเขาเรียกว่าใจมันบอดสนิทหรือว่ามันมึนตึ๊บ พูดตามประสาชาวบ้านให้ฟังง่ายๆ มันมึนตึ๊บเลย
เราอย่าไปสนใจความหนาวความร้อนความสุขความทุกข์ทางร่างกาย อันนั้นน่ะความหนาวความร้อนความสุขความทุกข์ทางร่างกายมันเป็นข้อสอบที่ให้เราพากันมารู้อริยสัจ 4 เพื่อให้ผู้ที่เป็นเสขะบุคคล บุคคลที่ยังเวียนว่ายตายเกิดได้พัฒนาจิตใจในปัจจุบัน ถ้าไม่มีความร้อนความหนาวความสุขความทุกข์อย่างนี้ เราก็ไม่ได้พัฒนาใจ เหมือนพวกเทวดามีความสุขมากบนสวรรค์วิมาน แต่ก็ยังตั้งอยู่ในความหลงความเพลิดเพลินความประมาท เพราะภพภูมิของมนุษย์เป็นภพภูมิที่มีความสุขความทุกข์ความแก่ความตายความพลัดพรากอย่างนี้แหละ เราต้องเข้าใจว่าพวกธาตุพวกขันธ์พวกอายตนะ มันเป็นข้อสอบให้พวกเราตอบด้วยพุทธะทางการประพฤติทางการปฏิบัติ ด้วยการภาวนาวิปัสสนา ยกทุกอย่างขึ้นสู่กระบวนการของพระไตรลักษณ์ ว่าทุกอย่างนั้นไม่แน่ไม่เที่ยงไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนเลย ว่าเราเกิดมายังไม่เห็นมีอะไรแน่อะไรเที่ยง อันไหนเป็นตัวเป็นตนเลย เราต้องเข้าใจอย่างนี้ มันหลงไปเรื่อยนะ นอนก็ยังหลงอยู่ นอนก็ยังสับสนอยู่ เราต้องมายกเลิกความหลงของตัวเอง เหมือนพระพุทธเจ้าเหมือนพระอรหันต์ทั้งหลาย พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ท่านไม่ฝัน พระอรหันต์ผู้หญิงก็ไม่ฝัน พระอรหันต์ผู้ชายก็ไม่ฝัน กลางวันก็ไม่ฝัน กลางคืนก็ไม่ฝัน ยกทุกอย่างขึ้นสู่พระไตรลักษณ์ เห็นแต่ทุกข์เกิดขึ้นเห็นแต่ทุกข์ตั้งอยู่เห็นแต่ทุกข์ดับไป เราจะตามไปไม่ได้ ต้องพัฒนาใจของเราให้มีพุทธะอย่างนี้ ไม่รู้เรื่องอริยสัจ 4 ให้รู้เรื่องธาตุให้รู้เรื่องขันธ์เรื่องอายตนะ และก็รู้เรื่องเหตุเรื่องปัจจัยทางเหตุผลทางวัตถุไปพร้อมๆ กัน ว่าหมู่มวลมนุษย์ต้องดำรงธาตุดำรงขันธ์ด้วยพุทธะทางใจและพุทธะทางวัตถุไปพร้อมๆ กัน ให้เป็นทางสายกลาง ทุกคนทำได้ปฏิบัติได้ ให้เข้าใจ เราทุกคนต้องปฏิบัติอย่างนี้แหละ เราเป็นพ่อเป็นแม่เป็นครูบาอาจารย์ เราทุกคนก็ต้องพากันทำให้ได้ สิ่งที่ว่ามันไม่ได้ก็เพราะมันมีตัวตนนี่แหละ เราทำไม่ได้ปฏิบัติไม่ได้ ลูกของเราหลานของเราเขาก็รับ DNA จากเราไป เราต้องเข้าใจ เราทุกคนต้องทำให้ได้ปฏิบัติให้ได้ การที่เรามีประเทศหรือมีบ้านมีครอบครัว ก็เพื่อความแข็งแรงแข็งแกร่งเพื่อความสมัครสมานสามัคคีกัน เพื่อพัฒนาใจของเราให้มีพุทธะทางวัตถุทางใจไปพร้อมๆ กัน เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งมันไม่ได้ มันก็เป็นได้แต่เพียงคน มันก็ได้เป็นแต่อวิชชาเพียงแต่ความหลง มันจะเป็นข้าราชการก็ไม่ได้ เป็นนักการเมืองก็ไม่ได้ เป็นพระเจ้าพระสงฆ์ก็เป็นไม่ได้ เป็นได้แต่พระแต่งตั้ง ความเป็นจริงเขาก็แต่งตั้ง ก็เพื่อโฟกัสให้เรามาเสียสละ เพื่อเอาสมมตินี้มาโฟกัส เพื่อให้ทุกคนเอาธรรมะเป็นหลัก เอาความถูกต้องเป็นหลัก
ทุกคนให้พากันรู้นะ มันพาทุกคนเสียหาย หมู่มวลมนุษย์มันเป็นมนุษย์ไม่ได้ มันเป็นได้แต่เพียงคน เราจะเป็นพ่อเป็นแม่ พ่อแม่คืออะไร พ่อแม่ก็คือพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ ถ้าพ่อพิมพ์แม่พิมพ์มันไม่ดี ลูกก็ไม่ดี ลูกของต้นไม้มันก็ร่วงลงที่โคน เพราะว่ามันไปจากโคน เราก็ไปจากอวิชชาความหลง เราต้องเข้าใจนะ เราจะได้พากันปฏิบัติถูกต้อง จะได้แก้ปัญหาที่ถูกต้อง เพราะพระนิพพานนั้นต้องอยู่ที่เรา ต่อให้เราอยู่ที่ไหนในทุกหนทุกแห่ง ดำรงธาตุดำรงขันธ์อยู่ในเมืองกรุงเมืองหลวง อยู่ในทุกภาคทุกจังหวัด ก็เป็นพระนิพพาน อยู่ในชนบทก็เป็นพระนิพพาน ด้วยสัมมาทิฏฐิมีความเห็นถูกต้องความเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง
เราทุกคนต้องมีความสุขอย่างนี้ ความสุขความดับทุกข์มันเป็นได้ทุกๆ คน ไม่ว่าคนจนคนรวย เราสุขภาพดีสุขภาพไม่ดี มันก็ดับทุกข์ทั้งกายทั้งใจได้ เพราะมันเป็นธรรมมันเป็นสภาวะธรรม ให้เราพากันเข้าใจอย่างนี้ เราเอาแต่ตัวแต่ตน เราก็เอาแต่วัตถุอย่างเดียว เอาแต่ความโง่เอาแต่อวิชชาเอาแต่ของหลง เราจะเป็นคนที่ไม่ฉลาดนะ รวยไม่มีปัญญานะ รวยวัตถุรวยความหลงมันไม่ถูกต้องนะ เราต้องรวยพระนิพพาน ยกเลิกตัวตน จึงเรียกว่าเป็นผู้ที่รวยอย่างฉลาดอย่างนี้แหละ มรรคผลนิพพานถึงจะอยู่กับเรา เราจะได้ส่งผลัดสู่ลูกสู่หลานเราได้ เรามีตัวมีตนจะส่งผลัดให้กับลูกกับหลานได้ยังไง ลูกหลานเราก็ต้องมึนตึ๊บสิ เราก็มองดูโลกนี้เห็นข้าราชการนักการเมืองทั้งต่างประเทศทั้งในประเทศ พากันแย่งขยะแย่งอวิชชาแย่งความหลง กลัวขยะมันจะหมด กลัวความหลงมันจะหมด เราเห็นไหมนะ ส่วนราชการก็ดีจนถึงสมาชิกในสภาน่ะ พากันเรียนกันตั้งแต่อนุบาล ก็เรียนกันเพื่อความหลงเพื่อมาเอาขยะมาหลงขยะกัน เป็นสิ่งที่น่าเกลียด เพราะพวกนี้ไม่รู้อริยสัจ 4 เลย พวกนี้ไม่ได้รักตัวเองไม่ได้รักลูกรักหลานรักประเทศชาติ มันหลงต่างหาก มันไม่ใช่บริสุทธิคุณ ปัญญาธิคุณ กรุณาธิคุณ
เราอย่าไปหาความสงบที่ไหน เพราะความสงบมันอยู่ที่เราทุกคน เรายกเลิกตัวตน มันก็มีความสงบ เรามีตัวมีตนมันจะสงบได้ยังไง เราสงบก็สงบจากสิ่งที่ไม่มีอยู่ มันจะมีประโยชน์อะไร อย่างตาไม่เห็นรูปก็ว่าสงบ หูไม่ได้ยินเสียงก็ว่าสงบ อยู่ในที่วิเวกก็ว่าสงบ ความสงบระดับนี้พระพุทธเจ้าผ่านมาแล้ว มันเป็นของศาสนาพราหมณ์ พราหมณ์ก็เป็นไปเพื่อความสงบ พระพุทธเจ้าท่านก็เป็นลูกหลานของพราหมณ์มาก่อน เราเอาตัวตนมันก็ไม่รู้เรื่องอริยสัจ 4 ไม่รู้ทุกข์ไม่รู้เหตุเกิดทุกข์ ไม่รู้ความดับทุกข์ ไม่รู้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ตัวตนมันไม่รู้จักไตรลักษณ์ พอเจอรูปเสียงกลิ่นรสลาภยศสรรเสริญมันก็ยิ่งกว่าถูกฟ้าผ่าอีก เพราะเราต้องเข้าใจว่าไม่ต้องไปหาความสงบที่ไหน ความสงบอยู่ที่พุทธะนี่แหละ ที่เรามีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้องในปัจจุบันนี้แหละ อยู่ในท่ามกลางตึกรามบ้านช่อง โรงงานอุตสาหกรรม ผู้คน 8 พันล้านคน เราต้องเข้าใจว่าโอ้…ความดับทุกข์ของหมู่มวลมนุษย์ มันอยู่ที่เรามีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นถูกต้องมีความเข้าใจถูกต้องปฏิบัติถูกต้อง มันเป็นความสุขความดับทุกข์นะ เราต้องเข้าใจ เราอย่าไปหาความสงบไปหาความดับทุกข์ที่อื่น เพราะความสงบความดับทุกข์นั้นมันอยู่กับเราในปัจจุบัน ให้เราพากันเข้าใจ แล้วก็ปฏิบัติกับเราทุกคน เราต้องเข้าใจเรื่องอริยมรรค เราต้องโฟกัสหาอริยมรรคทุกข้อเลย เพราะอริยมรรคคือการยกเลิกตัวตน และก็มีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ โฟกัสที่อริยมรรคโฟกัสที่ปัจจุบัน เราต้องรู้ว่าตอนนี้เรากำลังคิด เรากำลังพูด เรากำลังทำ ทำอะไรเราต้องมีความเพียร โฟกัสมาหาที่อริยมรรค เพราะว่าสมณะที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 อยู่ในอริยมรรคมีองค์ 8 อริยมรรคอยู่ในความประพฤติของเราในปัจจุบันนี้แหละ ไม่ได้อยู่ในความฟุ้งซ่านที่ไหนหรอก
เราตัวตนมากมันก็มีความฟุ้งซ่าน มันไม่รู้กาลเทศะ ทำให้เรามีปัญหา ตัวตนนี้มันทำให้ผู้เป็นสามีภรรยาทะเลาะกัน ญาติพี่น้องทะเลาะกัน ต่างประเทศก็ทะเลาะกัน เราต้องเข้าใจ ตัวตนนี้แหละมันทำให้เราทะเลาะกับคนอื่น คนที่ทะเลาะกับคนอื่นคือมันมีตัวตน เขาเป็นบ้าเราก็ไปบ้ากับเขา ก็พอๆ กันน่ะ คนที่ทะเลาะกับคนอื่นเขาเรียกว่าคนที่ไม่รู้จักอริยสัจ 4 มีปากก็แย่ที่สุดในโลกเลย ไปทะเลาะกับเขาทำไม มันไม่ใช่คนเก่งคนฉลาด มันคนไม่มีปัญญาต่างหาก พวกเรากับคนอื่น ตัวตนนี้มันระเบิดเรา แทนที่อยู่ด้วยกันจะรักกัน ที่มันรักกันไม่ได้เพราะตัวตน อย่างมากก็หลงคนอื่น หลงคนอื่นจนฆ่าตัวตาย ถ้าเรามีความหลงอย่างนี้ ถ้าไม่ตายเราก็ตายจากพุทธะ เราไม่รู้เรื่องพระไตรลักษณ์ เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งเราไม่รู้เรื่องพระไตรลักษณ์นะ วัดเราครอบครัวเราสถาบันต่างๆ ต้องยกเลิกตัวตน เราจะได้ไม่ทะเลาะกับคนอื่น ปากก็จะได้หอมไปหลายโยชน์เลย ตัวตนนี้มันปากเหม็น เหม็นเหมือนในครั้งพุทธกาลที่มีปลาสีทองกปิละที่ปากเหม็นไปหลายโยน์เลย เพราะเรามีตัวมีตนมันก็เป็นอย่างนี้ วัดเราครอบครัวเรา สถาบันต่างๆ ก็ต้องเข้าใจว่าเราอย่าพากันโง่ เราอย่าปากเหม็นปากสกปรก คนเรามันมีปากเดียวก็ไม่มีสติสัมปชัญญะเลย ควบคุมไม่อยู่ ทำให้เรามีปัญหาหย่าร้าง ทำให้เราต้องทะเลาะกับพ่อกับแม่กับเพื่อนกับฝูง ตลอดจนถึงประเทศอื่น อย่างนี้เขาเรียกว่าเอาตัวตนมันไม่ได้ พระพุทธเจ้าถึงให้มีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง เพราะปากเรามันมีปากเดียวมันควบคุมไม่อยู่ ต้องมีพุทธะ ก่อนที่เรายังไม่พูด เราเป็นนาย มีพุทธะเป็นตัวผู้รู้ ถ้าเอาตัวตนเราพูดออกไปมันเสียหาย พวกปากไม่ดีปากติดระเบิด ปากติด M16 ติดอาก้า ให้พากันเข้าใจ คิดว่าตัวเองฉลาด มันเป็นคนไม่ฉลาดหรอก ถ้าฉลาดมันจะพูดออกมาอย่างนี้หรือ มันไม่ฉลาด ตัวตนมันทำให้แตกแยกแตกความสมัครสมานสามัคคี ตัวตนคือเรื่องผิดเรื่องถูกเรื่องกฎหมายบ้านเมือง เช่นเรื่องพระวินัยธรกับพระธรรมกถึกทะเลาะกัน เรื่องตัวตนนั้นน่ะมันไม่รู้จักอริยสัจ 4 ท่านถึงบอกว่า เฮ้ย…ยกเลิกตัวตน อย่าไปทะเลาะกัน นี้เราตั้งสมมุติมา เพื่อให้ทุกคนตั้งมั่นในความถูกต้อง ให้เอาสมมุติมาใช้งานเฉยๆ ไม่ใช่ให้มาทะเลาะกัน มันมีประโยชน์อะไรมาทะเลาะกัน เหมือนหลายสิบปีก่อนที่ประเทศไทยของเรา พวกข้าราชการนักการเมือง เอาตัวตน ไม่เอาธรรมเป็นที่ตั้ง พวกเด็กๆ ก็มาเดินขบวน ก็มาทะเลาะกัน ฆ่ากัน ยิงกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ก็ทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายกรัฐมนตรีพลเอกสุจินดา คราประยูร และพลตรีจำลอง ศรีเมือง มานั่งต่อหน้าพระพักตร์ มีพระราชดำรัสสำคัญว่า "ขอให้สองท่าน หันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่เผชิญหน้ากันเพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วใครจะชนะ ไม่มีทาง มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดคือประเทศชาติ ประชาชน แล้วจะมีประโยชน์อะไร ที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองสิ่งปรักหักพัง..." ทำให้เหตุการณ์ความขัดแย้งของเหตุการณ์พฤษภาทมิฬได้ยุติลง
จึงให้เข้าใจนะ พวกปากไม่ดี พวกปากติดระเบิด พวกจับกลุ่มกันอยู่ในสถาบันต่างๆ แก๊งค์นั้นแก๊งค์นี้เรียกว่าเป็นแก๊งค์โจร โจรนั้นคือความทุกข์ โจรนั้นคือทุจริต โจรนั้นหมายถึงตัวตน เราต้องหยุด ต้องพัฒนาตัวเอง อย่าให้เป็นคนปากเหม็น ปากเน่า ปากเสีย เราอย่าไปคิดว่าเราเก่ง เราสวย เราเรียนมาอะไรอย่างนี้ เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้งอย่างนี้ มันไม่เก่งหรอก มันไม่ฉลาดหรอก เพราะทุกอย่างครอบงำด้วยพระไตรลักษณ์ คือไม่แน่ไม่ที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ทุกท่านทุกคนก็ต้องถูกนำไปประชุมเพลิง ไม่เหลือ เราต้องพากันยกเลิกตัวตน อย่าเป็นคนปากเน่า ปากเหม็น ปากสกปรก อยู่ในวัดของเรามีคนที่ปากเน่า ปากเสีย ปากติดระเบิด ปากติดอาก้า ก็ให้ทำงานดูแลต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ ให้น้ำ ให้ปุ๋ย เพราะว่าพวกนี้มันไม่รู้อริยสัจ 4 มันปากติดระเบิด ติดอาก้า ติด RPG ปากมันเหม็นเหลือเกิน ต้องจัดให้ไปเกี่ยวข้องกับต้นไม้ มันไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นไม่ได้ เพราะว่ามันไม่รู้อริยสัจ 4 มันปากไม่ดี มันไปสอนแต่คนอื่น เห็นใครมันจะกวักมือมา ก็เทศน์ดีอีกด้วย เทศน์เก่งอีกด้วยพวกนี้น่ะ การยกเลิกตัวตนเขาเรียกว่าหยุด หยุดเป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ เราต้องยกเลิก ต้องกลับมามีสติ มีสัมปชัญญะ รู้ตัวทั่วพร้อม หายใจเข้าให้มีความสุข หายใจออกให้มีความสุข หายใจเข้าสบาย หายใจออกสบาย หายใจเข้าให้รู้ว่าไม่แน่ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ยกเลิกตัวตนเขาเรียกว่าแตะเบรกไว้เพื่อลดระดับสู่รันเวย์สู่ลานจอด เอาตัวตนเป็นที่ตั้งด้วยกำลังแรงสูงมันไม่ได้ โอ้...ใครจะพูดอะไรก็ต้องมองหน้า มองตาเขาก่อนว่า อืม... พูดไปอย่างนี้มันจะมาระเบิดเราหรือเปล่าวะ ตัวตนมันเป็นสิ่งที่น่าเกลียด มันเป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นสัตว์นรกนะตัวตนเนี่ย ยังไม่ตายก็เป็นอย่างนี้ ถ้าไม่เชื่อก็มาคิดดู ลองดูตัวเองก็แล้วกัน คนอื่นผิดหมดทั้งโลก ตัวเองถูกอยู่คนเดียว ต้องฉลาด ต้องมายกเลิกตัวตน เราถึงจะไม่เป็นคนปากติดระเบิด ติดเอ็ม 16
อย่างในวัดก็มีพระอยู่หลายแก๊งค์ หลวงพ่อกัณหามาคิดดู ที่มีวัด มีสาขาหลายสิบวัด โอ้...มาคิดดูแล้ว ถ้าพระเราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง เราไม่ได้ไปสร้างวัดเลย สร้างแก๊งค์ต่างหาก ตัวตนคือแก๊งค์ ตัวตนนี้คือไปสร้างปัญหา สร้างครอบครัว ไม่ใช่วัด ไม่ใช่ข้อวัตรข้อปฏิบัติ มันจะเอาแต่ตัวแต่ตน มันจะสร้างแต่โบสถ์ แต่วิหาร สร้างเจดีย์ เอาศาลาดีๆ กุฏิดีๆ รถหรูๆ เอาความหลงเป็นที่ตั้ง เอาความหลงเป็นประชาธิปไตยทุกวัด หลวงพ่อห้ามไม่ให้มีโทรศัพท์ ก็ลักมีกัน เพราะประชาธิปไตย เอาโลกนี้ เอาส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง เพราะเรามีตัวตนมันถึงมี ถ้าเรามีโทรศัพท์ อย่างนี้เราก็ไม่ได้เจริญสติสัมปชัญญะแล้ว มันก็ฟุ้งซ่านทั้งวัน มีแต่จะไปหาโปรดคนอื่น แต่ตัวเองไม่โปรด เราต้องยกเลิกตัวตน เราจะได้หยุดตั้งแก๊งค์ มันเป็นสิ่งที่น่าเกลียด อย่างให้หลวงพ่อสังเกตดูว่า คนนั้นก็ไม่ได้ไป คนนั้นก็ไปกันสองสามคน พวกใคร พวกมัน มันเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง นั่นมันกลายเป็นแก๊งค์ไปแล้ว มันไม่ใช่ความบริสุทธิคุณ มันเป็นโจรต่างหาก ด้วยการไม่รู้อริยสัจ 4 ไม่มีพุทธะ กลายเป็นแก๊งค์ไปแล้ว เราต้องยกเลิกตัวตน มันถึงยกเลิกแก๊งค์
ประเทศไทยมันได้รับความเสียหาย เพราะเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง ก็ปฏิบัติตรงกันข้ามกับพระพุทธเจ้า แต่เอาแบรนด์เนมของพระพุทธเจ้า มันไม่ใช่ เรามีพระพุทธศาสนาเพื่อมาโฟกัส เพื่อมรรคผลพระนิพพานกัน ไม่ใช่เพื่อตัวเพื่อตน ไม่ใช่เพื่ออวิชชา เพื่อความหลง เราไปอยู่ที่ไหนก็ช่างหัวมัน มันก็แก้ปัญหาได้ ดับทุกข์ได้ เพราะเรายกเลิกตัวตน เรามีความโง่ ความหลง ก็จะไปหา ไปทำกินทำงาน ที่มันมีแหล่งอาหารในสถานที่ต่างๆ ในต่างจังหวัดก็ดี หรือต่างประเทศก็ดี เราเลยไม่ได้พัฒนาใจ ไม่ได้พัฒนาบ้านเกิด ปล่อยให้ฝนแล้ง ปล่อยให้น้ำท่วม เพราะเราไม่ได้พัฒนาใจของเรา ไม่ได้พัฒนาวัตถุที่มันมีอยู่ในบ้านเรา ในครอบครัวเรา เราก็เอาแต่ซื้อปุ๋ย ซื้อเคมี ยาฆ่าแมลง มาถล่มทลายตัวเรา สถานที่เรา เพราะไม่รู้อริยสัจ 4 เราต้องถือเอาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชเป็นหลัก เป็นที่ตั้ง ที่พระองค์ท่านพาพวกเราพัฒนาใจของเรา พัฒนาวัตถุไปพร้อมๆ กัน ปรับเข้าหาเวลา กลับเข้าหาธรรมะ มันถึงจะเข้าถึงความดับทุกข์ เข้าสู่เศรษฐกิจพอเพียงในปัจจุบันอย่างนี้ เราอย่าพากันฟุ้งซ่านมาก หลายปีก่อนเราไม่มีความรู้ก็จริง แต่เดี๋ยวนี้เรามีความรู้แล้ว ต้องพากันเข้าใจ กลับมาพัฒนาตัวเอง กลับมาพัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิด เพื่อจะได้พรอันประเสริฐที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ มาใช้มาประพฤติมาปฏิบัติ เพื่อสติเพื่อสัมปชัญะของเราจะได้สมบูรณ์ เราเอาตัวตนเป็นที่ตั้ง สติสัมปชัญญะมันไม่สมบูรณ์ ตัวตนคือความบกพร่อง ทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ ตัวตนคือความฟุ้งซ่าน คือความไม่สมบูรณ์ เราต้องรู้จักว่าเราต้องมีความเห็นถูกต้องเข้าใจถูกต้อง ปรับเข้าหาเวลา ปรับเข้าหาธรรมะ พากันมีความสุขในการประพฤติในการปฏิบัติ
เราทุกคนอยู่ในครอบครัว เราต้องสมัครสมานสามัคคีกัน เมื่อเรายกเลิกตัวตน เพราะครอบครัวเรามันถึงจะมองหน้ากันได้ มีเมตตาที่บริสุทธิคุณ มีกรุณาธิคุณ เรามีตัวตน ความสมัครสมานสามัคคีมันมีไม่ได้หรอก อย่างแต่ละจังหวัดก็ต้องช่วยเหลือด้วยความสมัครสมานสามัคคีกัน อย่างครอบครัวแต่ละครอบครัว ก็เน้นโฟกัสมาที่ความสามัคคี เดินไปพร้อมกัน มีความประพฤติเหมือนกัน มีความตั้งมั่นเหมือนกัน มีปัญญาเหมือนกัน ไม่เอาตัวตนเป็นที่ตั้ง มันจะได้เกิดความสมัครสมานสามัคคี
ความสมัครสมานสามัคคีเป็นสิ่งที่ดี ความสมัครสมานสามัคคีจะมีได้ก็เพราะเรายกเลิกตัวตน อย่างจังหวัดนครราชสีมาของเรา มีประชากร 2,630,000 คน เพียงแต่ทุกคนเสียสละ วันหนึ่งคนละ 1 บาท ปีหนึ่งก็จะมีความมั่นคงจากความสมัครสมานสามัคคี สามารถพัฒนาความเจริญให้เป็นอำเภอๆ ได้ภายในไม่กี่ปี ความอุดมสมบูรณ์ น้ำก็จะไม่ท่วม ไม่แห้งแล้ง เพราะเรามีฝาย มีธนาคารน้ำของทุกๆ ครอบครัว ความเห็นถูกต้องความเข้าใจถูกต้อง ยกเลิกตัวตน มันต้องใช้ความสมัครสมานสามัคคี เพราะประเทศไทยเราเมืองใหญ่ อาศัยส่วนราชการอย่างเดียวมันไม่ได้ ต้องอาศัยความสมัครสมานสามัคคีกันในครอบครัวเรา ในจังหวัดเรา ในตัวเราอย่างนี้นะ ความสมัครสมานสามัคคีเป็นสิ่งที่ดี ต้องเข้าใจอย่างนี้ เรามีตัวมีตนมันก็ฟุ้งซ่านไปเรื่อย ไม่รู้เรื่องอริยสัจ 4 ความสมัครสมานสามัคคีมันต้องมีในเรา ในครอบครัวเรา ความสมัครสมานสามัคคีมันแก้ปัญหาได้ เอาตัวตนเหมือนประเทศไทยเรา เงิน 100 บาท พากันโกงกินไปแล้ว 60% 70% อย่างนี้มันจะเป็นไปได้ยังไง เราจะคอยเอาเงินพวกนั้นมาบริหารไม่ได้ ไม่พอหรอก ความสมัครสมานสามัคคี มันจะทำให้เรามีความมั่นคง เราเกิดมาเราต้องเป็นผู้ให้ เราต้องเป็นผู้เสียสละ ปรับตัวเข้าหาเวลา ปรับตัวเข้าหาธรรมะ มีความสุขที่สุดในโลกเลย การยกเลิกตัวตนมันมีความสุขที่สุดในโลก แล้วทำให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีกัน มันจะเป็นความสงบอบอุ่น เป็นแอร์คอนดิชั่นเคลื่อนที่ ทุกอิริยาบถ ยืนเดินนั่งนอนมีความอบอุ่นอย่างนี้ เข้าถึงเศรษฐกิจพอเพียงได้ ตามรอยพระมงคลบาทองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามรอยพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ปกครองประเทศด้วยทศพิธราชธรรม เอาธรรมเป็นหลัก เอาธรรมนำชีวิต ทั้งทางจิตใจ ทั้งทางวัตถุ ชีวิตเราจึงจะเบาสบายคลายทุกข์คลายกังวล สงบเย็นเป็นพระนิพพาน
แจกปัญญา แจกศาสนา แจกธรรมวินัย แจกสิ่งที่ถูกต้อง
เพื่อเดินตามรอยพระพุทธเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
โดยทุกท่านสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่
https://linktr.ee/watsubthawee
Share wisdom, spread Buddhism and its discipline.
Advocate righteousness to follow Lord of Buddha's footsteps 100%
ธรรมะสบายสบาย | Dhamma Sabaai Sabaai
You can receive new Dharma updates.
https://linktr.ee/watsubthawee