เป็นคนธรรมดาอยู่ในโลกนี้ แต่อยู่อย่างตามรอยพระอรหันต์
อยู่ที่ความสงบ ความสะอาด ความสว่าง ความเสรีภาพ ไม่มีกิเลสมาไสหัว ผลักไปที่นั่นผลักมาที่นี่
ถ้าจะศึกษาวิปัสสนาที่สูงสุดในพระพุทธศาสนาแล้ว ก็ขอให้ท่านทั้งหลายยุวชนหนุ่มสาวอะไรก็ตามนี้ คอยจับจ้องสังเกตดูให้ดีๆ ว่าเวลาไหนที่ไม่เป็นความดีใจไม่เป็นความเสียใจ เวลานั้นสงบที่สุด ละเอียดประณีตสุขุมที่สุด ; เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ นั่นคือพระนิพพาน ละเอียดที่สุด ประณีตที่สุด สูงสุด สงบที่สุด นั่นคือนิพพาน, ไม่ดีใจไม่เสียใจ. ถ้าดีใจ คิดอะไรได้ไหม ? เหลวทั้งนั่นแหละ, ดีใจเต็มที่เรียนหนังสือได้ไหม ? ไม่ได้ สับสนหมด, เสียใจก็ทำไม่ได้; แต่ถ้าโปร่งสบาย พอดีนั้นนั่นดี เรียนดี คิดดี ทำดี การศึกษาก็ดี การงานก็ดี. ดังนั้นอย่าให้มันครอบงำเลย ทั้งความดีใจและความเสียใจ, อยู่เหนือความดีใจและเหนือความเสียใจ ไม่เป็นบวก - ไม่เป็นลบ ไม่มีการดูดมา - ไม่มีการผลักออก นั้นน่ะไม่เป็นบวก - ไม่เป็นลบ; จิตเป็นอย่างนี้ คงที่อย่างนี้ ไม่มีอะไรปรุงแต่งได้อย่างนี้แล้วก็ เป็นพระอรหันต์แหละ. แต่เราไม่ต้องการถึงกับเป็นพระอรหันต์หรอก ต้องการเป็นคนธรรมดาอยู่ในโลกนี้ แต่อยู่อย่างตามรอยพระอรหันต์ : อยู่ที่ความสงบ ความสะอาด ความสว่าง ความเสรีภาพ ไม่มีกิเลสมาไสหัว ผลักไปที่นั่นผลักมาที่นี่. นี่เป็นเสรีภาพอย่างนี้
ชีวิตอย่างนี้เป็นชีวิตที่อยู่เหนือบวก - เหนือลบ เรียกให้ถูกก็ไม่สุข - ไม่ทุกข์ เพราะว่า มันอยู่เหนือความสุขและเหนือความทุกข์; ความสุขก็มาหลอกให้เอร็ดอร่อยหลงใหลไม่ได้ ความทุกข์ก็มาครอบงำย่ำยีให้เกลียดกลัวไม่ได้. เหนือสุข - เหนือทุกข์ เหนือบวก - เหนือลบ; ไม่ใช่อยู่ระหว่างนะ ถ้าอยู่ระหว่างบวก ระหว่างลบเผลอนิดเดียวมันก็เอียงไปข้างหนึ่ง; ให้อยู่มันเหนือเสียเลย มันไม่ต้องเป็นบวกเป็นลบ ไม่ดี - ไม่ชั่ว ไม่บุญ - ไม่บาป ไม่สุข - ไม่ทุกข์ ไม่กุศล - ไม่อกุศล; เหนือเหล่านี้ทั้งหมด. นี่ชีวิตสูงสุด สูงสุด.
จากหนังสือพลังผลักดันของชีวิต (น.๓๘)
พุทธทาสภิกขุ
พระราเชนท์ อาจริยวํโส
รวบรวม