"...สัจจะ
เป็นชื่อของความดับสนิทไปแห่งอุปาทาน..."
สัจจะที่ใช้ในขั้นสูงสุดในทางศาสนา, สัจจะที่แปลว่าจริงนั้น เล็งถึงการดับสนิทแห่งอุปาทาน, อุปทานว่าตัวเรา ว่าของเรา, ว่าตัวกู ว่าของกู ว่าอัตตา ว่าบรมอัตตาอะไรก็ตาม, อย่างนี้เรียกว่าอุปทาน ; ต่อเมื่อมีการดับสนิทแห่งสิ่งนี้ ของจริงจึงจะโผล่ คือเห็นหรือปรากฏ. ถ้ายังมียึดมั่นอยู่ด้วยอุปาทานว่าตัวตนอย่างนี้ ของจริงมิได้มี มิได้ปรากฏ. นี้พูดอย่างถูกต้องกันแล้ว, แล้วในศาสนาที่ถูกต้อง. สัจจะคำนี้เลยเป็นชื่อของการดับสนิทไปแห่งอุปทาน กิริยาที่ดับแห่งอุปาทาน นี้คือสัจจะละ ของจริงโผล่.
ในทางพระพุทธศาสนาก็เล็งถึงนิพพาน เป็นสัจจะอย่างยิ่ง อย่างที่ว่าแล้วข้างต้น เอตํ ปรมํ อริยสจฺจํ ยทิทํ อโมสธมฺมํ นิพฺพานํ - อริยสัจจ์อย่างยิ่งเป็นอโมสธรรมนั้นคือนิพพาน นี้ได้แก่นิพพานที่เรียกว่าเป็นสัจจะ หรือกิริยาอาการอันเดียวกันกับความสิ้นไปแห่งราคะ โทสะ โมหะ, และความสิ้นไปแห่งอุปาทาน ของจริงจึงจะออกมาในพระพุทธศาสนาอยู่ในรูปของนิพพาน.
จากหนังสือธรรมศาสตรา เล่ม ๑ (น.๑๑๕)
พุทธทาสภิกขุ
พระราเชนท์ อาจริยวํโส
รวบรวม