PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • บทความ
  • ภาคความรู้ทั่วไป
  • จิตว่าง นี้เป็นความสิ้นสุดของความทุกข์

จิตว่าง นี้เป็นความสิ้นสุดของความทุกข์

จิตว่าง นี้เป็นความสิ้นสุดของความทุกข์ รูปภาพ 1
  • Title
    จิตว่าง นี้เป็นความสิ้นสุดของความทุกข์
  • Hits
    612
  • 10298 จิตว่าง นี้เป็นความสิ้นสุดของความทุกข์ /general-knowledge/2021-09-22-05-09-34.html
    Click to subscribe
  • Average rating
    • 1
    • 2
    • 3
    • 4
    • 5
  • ผู้เขียน
    พุทธทาสภิกขุ
  • ชื่อชุด
    ธรรมโฆษณ์

คำว่า "จิตว่าง" นี้เป็นความสิ้นสุดของความทุกข์ แม้แต่ยังไม่ว่างจริง ว่างกลับไปกลับมา มันก็เป็นความสิ้นสุดของความทุกข์ ชนิดที่กลับไปกลับมาได้เหมือนกัน เมื่อไรว่าง เมื่อนั้นก็สิ้นสุดความทุกข์ นี่เราจะมองดูกันในแง่นี้โดยเฉพาะ ที่จะเอาไปใช้สร้างความไม่สิ้นสุด สร้างวัฎฎสงสารนั้น เป็นเรื่องที่ไม่แนะนำ หรือไม่ต้องพูดกันในที่นี้ เราจะพูดกันแต่ในเรื่องหยุดวัฏฏสงสาร หรือที่เรียกว่าทำลายวัฏฏสงสาร

วัฏฏสงสารเป็นเรื่องของความวนเวียน มีความอยาก - แล้วก็กระทำตามความอยาก - แล้วก็ได้ผลมาตรงตามความอยากบ้าง ไม่ตรงตามความอยากบ้าง ถ้าตรงความอยาก มันก็อยากอย่างอื่นงอกงามออกไปอีก แล้วก็ทำอีก แล้วเกิดผลต่อไปอีก ถ้าได้ผลไม่ตรงตามความอยาก มันก็ยังมีอยากอย่างอื่นอีก อย่างน้อยก็อยากที่จะทำให้ได้ตามความอยาก แล้วก็ดิ้นรนเพื่อจะได้มาตามความอยาก แม้ได้มาตามความอยาก มันก็ไม่รู้จักหยุด ก็อยากต่อไปอีก อาการเหล่านี้ทุกขั้นทุกตอน ล้วนแต่เป็นเรื่องความยึดมั่นถือมั่น ซึ่งเราเรียกว่ามีตัวกู - ของกู

ความยึดมั่นตัวกู ว่าเป็นผู้กระทำหรือผู้อยาก แล้วยัง ยึดมั่นของกู คือยึดผลที่ได้มาเป็นของกู อย่างนี้แล้วมัน วุ่นเท่าไร ลองคำนวณดูก็แล้วกัน ไม่มีอะไรจะวุ่นมากไปกว่าวัฏฏสงสารอย่างนี้ อยาก - แล้วทำ -ได้ผล แล้วก็อยากอีก แล้วก็ทำอีก แล้วก็ได้ผล แล้วก็อยากอีก ก็ทำอีก ฯลฯ อยู่แต่อย่างนี้ในวันหนึ่งๆ เมื่อทำไปด้วยความยึดมั่นถือมั่น ซึ่งมีมูลมาจากอวิชชาแล้ว มันก็เป็นความทุกข์แน่นอน

ทีนี้ คนเราอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องอยาก หรือต้องทำ ก็มีปัญหาแต่เพียงว่า ทำอย่างไรจึงจะอยากหรือว่าทำใด้ โดยไม่ต้องเป็นทุกข์ ? ก็ต้องทำไปด้วยจิตว่าง ต้องอยู่ด้วยจิตว่าง

สุญญตาปริทรรศน์ เล่ม ๒ (น.๓)
ธรรมโฆษณ์ l พุทธทาสภิกขุ

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service