มีความทุกข์ที่ไหนต้องดับทุกข์ที่นั่น
ไม่ต้องหนีทิ้งโลก ให้อยู่ในโลกด้วยชัยชนะ แม้บางครั้งเราจะหลีกออกมาชั่วคราวมาหาวิชา หาหนทางการต่อสู้ แล้วก็จะต้องไปรบมันให้ชนะ แล้วก็อยู่ในโลกด้วยมีชัยชนะ ไม่เช่นนั้นจะไปอยู่ที่ไหนได้ ก็ต้องอยู่ในโลกนี้ แล้วก็อยู่ด้วยชัยชนะ ตัวยสิ่งต่างๆ ที่จะมาทำอันตรายเรา บีบคั้นเรา
อย่าพูดว่าต้องหนีโลก จึงจะศึกษาพุทธศาสนา ต้องแก่เฒ่าเสียก่อน หรือต้องไปบวชเสียก่อน หรือบางทีก็พูดว่ามันแบ่งกันคนละเรื่อง ถ้าอยู่ในโลกต้องศึกษาเรื่องโลก ไม่เหมือนกับอยู่ที่สวนโมกข์ อย่างนี้คือความโง่ของคนพูด คือเข้าใจผิดเกิน ๑๐๐% อยู่ที่ไหนก็ตาม ชีวิตก็จะเป็นบทเรียนสำหรับศึกษาทั้งนั้น ควรจำไว้ แล้วก็ศึกษามันทันที ให้ประสบชัยชนะ ถ้าที่ตรงนั้นไม่สะดวกขยับมาตรงนี้หน่อยก็ได้ เพื่อตั้งตัว เหมือนว่าเราหักยิงปืนที่ตรงไหนก็ได้ แต่เราก็ต้องยิงที่มันมีขโมย มีความทุกข์ที่ไหน ต้องดับทุกข์ที่นั่น เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวโลกหรือหนีโลก หรือทิ้งโลกอย่างที่เขาพูดๆ กัน
ที่ถูก ต้องกลับไปทำงานในโลกด้วยชัยชนะก็พอแล้ว ไม่ได้ก็ทำต่อไปพร้อมไปกับการทำการงาน แล้วศึกษาค้นคว้าเพื่อมีธรรมพร้อมกันไปกับการทำการงาน โดยอาศัยตัวการงานเป็นบทเรียนไปเสียเลย ไม่ต้อง ๒ เรื่อง ๓ เรื่อง เป็นเรื่องเดียวอยู่เรื่อย ชีวิตเป็นบทเรียนอยู่เรื่อย ทำให้มีเรื่องเดียวคือเรื่องทุกข์และความดับทุกข์เท่านั้น ถึงชั้นนี้ไม่พูดแล้วเรื่องฆราวาสและบรรพชิต หรือเรื่องอยู่ป่าหรืออยู่บ้าน ไม่พูด จะพูดแต่เรื่องมีความทุกข์หรือความดับทุกข์ มีทุกข์ที่ไหนก็ต่อสู้ และดับทุกข์ที่นั่น
สุญญตาปริทรรศน์ เล่ม ๑ (น.๑๖๒)
ธรรมโฆษณ์ l พุทธทาสภิกขุ