ชีวิตนี้ประกอบขึ้นมาด้วยอะไร
เอาเท่าที่มองเห็นตามหลักธรรมะในพระพุทธศาสนา ก็ถือว่ามันคือสิ่งที่เรียกว่าธาตุ ธา-ตุ คือ ธาตุ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม สี่ธาตุในทางวัตถุ มันก็มีอากาศ ธาตุ - คือที่ว่างสำหรับให้ธาตุวัตถุตั้งอาศัย แล้วมันก็มีวิญญาณธาตุ - ธาตุทางจิตใจ สำหรับรู้สึกนึกคิดได้ แล้วก็ดำเนินควบคุมธาตุวัตถุให้เป็นไปอย่างถูกต้อง
มันมีธาตุอยู่ ๖ ธาตุตามธรรมชาติ ธาตุเหล่านี้มันก็จะเปลี่ยนแปลงไป ยักย้ายเปลี่ยนแปลงไป จนเกิดสิ่งใหม่ๆขึ้นมา ไม่เป็นเพียงธาตุแต่เกิดเป็นสิ่งมีชีวิตขึ้นมา แล้วก็มีอุปกรณ์หรือว่าสิ่งที่จำเป็นแก่ชีวิตที่เรียกว่าอายตนะ มีชีวิตแล้วมันก็ต้องมีอายตนะ คือมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สำหรับสัมผัสสิ่งข้างนอก นี้คือมีอายตนะ เรามีอายตนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ถ้าไม่มีอายตนะก็เท่ากับไม่มีอะไร แม้ว่าโลกนี้มันจะมีอะไรสักกี่อย่าง ถ้าเราไม่มีอายตนะ ๖ มันก็เหมือนกับไม่มี
ทีนี้เรารู้เรื่องอายตนะกันถูกต้องหรือไม่ เราเป็นทาสของอายตนะหรือว่าเราเป็นนายเหนืออายตนะ อายตนะมันหลอกให้เราหลงรักที่น่ารัก แล้วให้หลงเกลียดโกรธที่น่าเกลียดน่าโกรธ มันก็บ้าอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวรัก เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวยินดี เดี๋ยวยินร้าย เดี๋ยวเป็นบวก เดี๋ยวเป็นลบ ไม่มีความสงบสุข สำหรับผู้ที่เป็นทาสของอายตนะ คือเป็นทาสของ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รับใช้ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไปหาเหยื่อที่เอร็ดอร่อยสนุกสนานมาเพิ่มอยู่เป็นประจำ ชีวิตนี้เป็นทาสของอายตนะ ซึ่งที่แท้มันก็ปรุงขึ้นมาจากธาตุตามธรรมชาติ รู้จักธาตุแล้วต้องรู้จักอายตนะ
เมื่ออายตนะมีมากพอเป็นกลุ่มเป็นก้อนกันเข้ามันก็เรียกว่าเป็นคน เป็นคน แจกเป็น ๕ ส่วนคือเป็นขันธ์ ๕ รูปขันธ์ คือร่างกาย ส่วนนามธรรมฝ่ายจิตใจมีเป็นสี่ได้แก่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้นส่วนจิตใจ มีสองส่วนเท่านั้น กายกับใจ
จากหนังสือชีวิตที่มีพื้นฐาน (หน้า๔๑)
ชุดพุทธทาสบรรณาลัยดุลยพากย์อนุสรณ์
อันดับที่ ๘๖ พิมพ์เมื่อกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒