พุทธทาสภิกขุเล่าเรื่องของแม่
เรื่องประหยัด ใช้น้ำอย่างประหยัด ใช้ฟืนอย่างประหยัด ใช้อะไรอย่างประหยัด ได้รับการอมรมมาจากพ่อแม่ นิสัยนี้มันมีไม่หายไป ก็เป็นเหตุให้คนหลายคนเดี๋ยวนี้ หาว่า ไอ้หมอนี่ขี้เหนียว แทนที่ว่าประหยัด มันว่าอาตมาเป็นคนขี้เหนียว นิสัยประหยัด แม่เขาจะพูดว่า
ถ้าไม่รู้จักใช้ฟืน ก็จะเป็นทาสฟืน
ไม่รู้จักใช้น้ำ ก็จะเป็นทาสน้ำ
คือต้องหามามากเกินไป รวมกระทั่งว่า
ถ้าไม่รู้จักใช้เงินก็ต้องเป็นทาสเงิน
ต้องหาเงินมากเกินจำเป็น
ไม่รู้จะจักใช้อะไรก็จะเป็นทาสของสิ่งนั้น
พอเรามาปฏิบัติกันอย่างนี้อยู่เดี๋ยวนี้ คนบางคนที่เห็นเข้าก็ว่า ไอ้นี่ขี้เหนียว ขี้ตืดขี้ตัง มันมีปฏิกิริยาตรงกันข้ามเสียอย่างนี้
ทำอะไรต้องพอดี แม้แต่ขูดมะพร้าวก็ต้องใช้แรงที่พอดี มะพร้าวที่ขูดมาจึงจะเป็นมะพร้าวที่สำเร็จประโยชน์ เด็กชายธรรมทาสขูดมะพร้าวเป็นที่พอใจแม่ กว่าเด็กชายพุทธทาส เด็กชายพุทธทาสขูดหยาบๆ ออกมาหยาบ ขูดเต็มแรง แล้วแม่ก็บอกว่า มันปั้นไม่สบายมือ และน้ำกะทิก็ไม่ออกมา มันอยู่ในชิ้นมะพร้าวที่ใหญ่เกินไป มันไม่ออกมา ได้น้ำกะทิน้อยไป เด็กชายธรรมทาสเขาขูดละเอียด นิ่ม ปั้นก็นิ่ม แล้วน้ำกะทิก็ออกมาหมด อย่างนี้เป็นต้น
นี่ก็เรียกว่า ทำอะไรอย่าสักว่ามีแรงแล้วทำเต็มแรงนี้จะถูกเสมอไป มันต้องพอดี เช่น ขูดมะพร้าวก็ขูดพอดี ละเอียดที่สุด น้ำกะทิก็ไม่เหลือในกากมะพร้าว แต่ลองขูดเต็มแรงสิ มันออกมาชิ้นใหญ่ๆ หนาๆ ในนั้นมีน้ำกะทิเหลืออยู่ ไม่ออกมา บางทีต้องใช้ให้เอาไปตำอีกทีหนึ่ง สมน้ำหน้าที่ทำอย่างนั้น เอาไปตำให้ละเอียดอีกทีหนึ่ง จึงจะคั้นกะทิออกหมด นี่แม่สอนอย่างไร?
แม่สอนว่า ขูดมะพร้าวต้องขูดชนิดที่มีเหตุผล
ขูดตามเรี่ยวตามแรงมันไม่ได้
จากหนังสือ : ปรมัตถวิจารณ์เกี่ยวกับพระคุณของแม่
พระคุณของแม่คือสันติภาพของโลก (น.๓๒)