ใครจะมีปัญญาชนิดไหนก็ได้ ขอแต่ให้มันมีผลคือไม่เกิดความยึดมั่นถือมั่นว่าตัวตนก็แล้วกัน
สำหรับตัวปัญญานี้ มันก็มีความหมายที่พร่า คืออะไรๆ ก็เรียกว่าปัญญาได้ แล้วก็ถูกต้องได้ แต่ถ้าจะเล็งถึงจุดสำคัญเป็นใจความสั้นๆ เพียงข้อเดียวแล้ว มันก็พูดได้อีกเหมือนกันคือ ปัญญาสำหรับจะไม่ยึดมั่นถือมั่นสิ่งใดโดยความเป็นตัวตน หรือเป็นของๆ ตน บางคนจะไปพูดว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อย่างนี้มันก็ถูก มันก็มากคำพูด เพราะว่าเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันก็คือทำลายความยึดมั่นถือมั่นว่าตัวตน
เราจึงมาสรุปความสั้นๆ ว่าใครจะมีปัญญาชนิดไหนก็ได้ ขอแต่ให้มันมีผลคือไม่เกิดความยึดมั่นถือมั่นว่าตัวตนก็แล้วกัน นี่คือปัญญาอันแท้จริง ในพระพุทธศาสนา แยกแขนงออกไป เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แล้วก็เห็นความเกิด ความดับ เห็นนามรูป เหตุปัจจัยต่างๆ มันก็ไปกันมากมายหลายร้อยประเด็น หลายร้อยคำพูด แต่ถ้าสรุปแล้วก็ว่า รู้เท่าทันที่จะไม่ไปเกิดความยึดมั่นถือมั่น ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยความเป็นตัวตน - ของตน ปัญญามันอยู่ที่นี่
พัสสิกไตรเทศนา (น.260)
ธรรมโฆษณ์ : พุทธทาสภิกขุ