ชีวิตคือการเดินทางนี่แน่นอนที่สุดเลย การที่มีชีวิตอยู่คือกำลังเดินทางไป กำลังเดินทางไป โดยหลักมรรคมีองค์ ๘ ประการ ตามหลักการของโพชฌงค์ ๗ ประการ นี้ชีวิตคือการเดินทาง
ถ้ามองดูอีกมุมหนึ่ง ในขณะนั้น ในเรื่องเดียวกันนั้นแหละ ชีวิตคือการรบพุ่ง หรือการทำสงคราม เพราะว่าตลอดเวลาที่เป็นอยู่อย่างนั้น มันรบกับกิเลส รบกับข้าศึกอันร้ายกาจคือกิเลส ตลอดเวลาที่เราเดินตามมรรคมีองค์ ๘ หรือมีโพชฌงค์ ๗ ประการอยู่ ต้องรบราฆ่าฟันกันกับกิเลสเรื่อยไป. มองดูในแง่นี้ ชีวิตก็คือการทำสงครามอยู่ตลอดเวลาทุกลมหายใจเข้าออกของการปฏิบัติธรรม เรียกว่าชีวิตนี้คือการทำสงครามกับกิเลส มองดูในแง่ negative อย่างนี้มันเศร้า
มองดูในแง่ positive บ้าง ชีวิตก็คือการทำนา ได้ผลมา ได้ข้าวเปลือกมาเป็นอมตะธรรม อมตผลา - มีอมตะเป็นผลการทำนาของเขามีอมตเป็นผล. พระพุทธเจ้าท่านเปรียบการปฏิบัติธรรมเหมือนทำนา พระพุทธเจ้าตรัสว่า สทฺธา พีชํ ฯลฯ ท่านบอกพราหมณ์คนหนึ่งว่าฉันก็ทำนา มีศรัทธาเป็นข้าวพืชสำหรับเพาะปลูก มีความเพียรเป็นน้ำฝน มีหิริเป็นงอนไถ มีจิตเป็นเชือกชักไถ ฯลฯ ว่าไปตามเรื่องของท่าน เมื่อเดินอยู่ในมรรคมีองค์ ๘ ตามหลักการของโพชฌงค์ ๗ แล้ว ชีวิตคือการทำนา ที่มีอมตะเป็นผลข้าวเปลือก
ดูกันอย่างคนละโมบโลภลาภอย่างคนสมัยนี้ ชีวิตก็คือการค้าขายทางวิญญาณ ชีวิตที่เดินไปตามทางมีองค์ ๘ ประการ มีโพชฌงค์ ๗ เป็นหลักการ นี้คือการค้าขายทางวิญญาณ ได้กำไรสุดยอดคือพระนิพพานมา เราลงทุนด้วยการปฏิบัติเหน็ดเหนื่อย เหงื่อไหลไคลย้อย เหนื่อยในการปฏิบัติธรรม ทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจ เหมือนกับลงทุนค้าขาย ในที่สุดได้กำไรมาเป็นมรรค ผล นิพพาน
เราจะถือชีวิตเป็นการค้าขายก็ได้ ถ้ามีหัวค้าขาย ถ้ามีหัวทางทำนา ก็ดูชีวิตในฐานะเป็นการทำนา ถ้าเป็นพวกชอบรบราฆ่าฟัน ก็ดูชีวิตในการทำสงคราม ดูกันได้ทุกแง่ทุกมุม แต่ไม่พ้นจากการที่จะต้องใช้มรรคมีองค์ ๘ โดยหลักการของโพชฌงค์ ๗ ขอให้เข้าใจอย่างนี้เป็นรายๆ ไป ว่ามีความสัมพันธ์กันโดยวิธีการของโพชฌงค์
นี่เราพูดกันโดยคร่าวๆ อย่างนี้ เป็นวงกว้างๆ ไว้ทีก่อน
ธรรมะใกล้มือ เรื่องโพชฌงค์ มรรค (น.๔๗)
ธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ และทางมีองค์แปดประการอันประเสริฐ