การประสูติ ก็ดี ตรัสรู้ก็ดี นิพพานก็ดี
เป็นการประกาศความไม่ยึดมั่นถือมั่น
การปฏิบัติเพื่อไม่ยึดมั่นถือมั่น คือมีความรู้ว่า ไม่มีอะไรที่ควรยึดมั่นถือมั่น เพราะฉะนั้นจึงกล่าวว่า มันเป็นธรรมะเพียงข้อเดียวเท่านั้นเอง ข้อเดียวว่า ไม่มีอะไรที่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่น นี่แหละคือธรรมะที่ปรากฎออกมาจาก การประสูติ การตรัสรู้ และการปรินิพพาน ของสมเด็จพระบรมศาสดา
การที่ประสูติ ก็ประสูติมาเพื่อจะสอนความไม่ยึดมั่นถือมั่น เมื่อได้ตรัสรู้ ก็ตรัสรู้ความที่ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นในอะไร แล้วก็ สอนเรื่องนั้น เมื่อนิพพานก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น จึงนิพพาน ดูซิ ท่านนิพพานได้ก็เพราะการไม่ยึดมั่นถือมั่นอย่างนี้.
เพราะฉะนั้น การประสูติ ก็ดี ตรัสรู้ก็ดี นิพพานก็ดี จึงเป็นการประกาศความไม่ยึดมั่นถือมั่น, สอนเรื่องความไม่ยึดมั่นถือมั่น, แนะเรื่องความที่ไม่มีอะไรที่จะควรยึดมั่นถือมั่น เป็นการปรากฎออกมา ของธรรมะเพียงข้อเดียว ว่า สพุเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย - สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึคมั่นถือมั่น ดังนี้ เป็นธรรมะข้อเดียวแท้ ๆ
แต่ว่า ธรรมะข้อเดียวนี้ เราอาจจะจำแนกออกไปได้ เป็นข้อย่อยๆ หรือเป็นแขนงๆ สักกี่แขนงก็ได้ เช่นเราจะจำแนกว่า เป็นอริยสัจจ์ ๔ ให้เป็นการตรัสรู้อริยสัง ๔ เป็นเรื่องทุกข์ เรื่องสมุทัย เรื่องนิโรธ เรื่องมรรค มันไม่แคล้วเรื่องความไม่ยึดมั่นถือมั่น
วิสาขบูชาเทศนา เล่ม ๑ (น.๕๙)
ธรรมโฆษณ์ : พุทธทาสภิกขุ