ปัญหาทุกอย่างมันมาจากความโง่ว่าตัวกูว่าของกู ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดกิเลสทุกชนิด ถ้าไม่มีความเห็นแก่ตัว ว่าตัวกู - ของกูแล้ว มันไม่เกิดความโลภ ไม่เกิดความโกรธ ไม่เกิดความหลง เพราะมันเห็นแก่ตัว เป็นตัวกูของกู พอมันอยากได้มันเป็นความโลภ เพราะมันไม่ชอบใจ เพราะไม่ได้ตามที่ต้องการ มันก็เป็นความโกรธ เมื่อทำอะไรไม่ถูกมันก็เป็นความหลง ฉะนั้นเราจะต้องจัดการกับสิ่งเหล่านี้ มันก็ต้องมีอุบายลึกซึ้ง ถึงขนาดที่จะเรียกกันว่า เทคโนโลยี อยู่นั่นเอง
ทุกๆ เวลา ทุกๆ เรื่อง ทุกกรณี ที่เกิดความหม่นหมองใจ ชนิดใด ขนาดใดก็ตาม มันมาจากโง่ไปยึดอะไรว่าเป็นตัวกู - ของกูเข้าแล้ว มันอาจจะไปยึดถือของที่มีราคาเท่ากับเข็มเย็บผ้าก้นหัก นี่อาตมาชอบใช้ คำของคนโบราณ พูดแล้วคนกรุงเทพฯ จะฟังไม่ถูก เจ้าคุณไชยาท่านเคยพูดว่า เข็มลุกขี้วิ่น เข็มลุกขี้วิ่น - เข็มเย็บผ้าที่มันหักตรงรู มันไม่มีรูแล้วมันใช้อะไรไม่ได้ นอกจากจะใช้เป็นเข็มหมุด ก็ไม่ค่อยดี แม้เข็มก้นบิ่นอย่างนี้ ถ้าไปยึดถือเข้า มันก็เป็นเรื่องใหญ่โตได้ มันเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายแรง เป็นทุกข์หรือฆ่าคนตายก็ได้
สิ่งที่จะเป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือนั้น มันอยู่ที่ความยึดถือ ถ้าไปยึดถือเข้ามา มันก็เป็นของมีค่ามีความหมายขึ้นมา แล้วท่านชี้ให้เห็นว่า แม้แต่เข็มชนิดที่จะใช้อะไรไม่ได้แล้ว ก็ยังเป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือ บางทีไม้ขีดก้านเดียวมันจะมีค่าอะไร แต่ก็เป็นที่ตั้งให้เกิดความรัก ความโกรธ ความวิวาท ความร้ายแรงอะไรก็ได้ ฉะนั้นอย่าไปทำเล่นกับความยึดถือ ถ้ามันไปยึดถือในสิ่งใดเข้าแล้ว สิ่งนั้นมันก็ใหญ่โต เป็นเรื่องมีค่ามีความหมาย ให้เกิดกิเลสอันแรงร้ายได้ทั้งนั้น
ฟ้าสางระหว่าง ๕๐ ที่สวนโมกข์ ตอน ๒
ธรรมโฆษณ์ : พุทธทาสภิกขุ (น.๑๘๕)