"อุปสรรคหรือความทุกข์นั้น มันเป็นเครื่องช่วยให้เกิดความฉลาดในภายหลังทั้งนั้น"
ฆราวาสครองเรือน ฆราวาสมีครอบครัว มีบุตรภรรยาสามี มีทรัพย์สมบัติ มีการสังคมที่ผูกพันกันยุ่งไปหมด เพราะฉะนั้นปัญหาจะต้องมีขึ้นมากกว่าบรรพชิต
ก็เรียกว่าฆราวาสนี้เป็นรังของความยุ่งยาก ลำบาก สับสนวุ่นวาย โกลาหล แต่มันมีทางออกหรือทางที่จะต้องคิดอย่างที่ได้พูดมาแล้วแต่วันก่อนอีกเหมือนกันว่า "สิ่งเหล่านั้นมันก็ไม่ได้มีมาสำหรับให้เป็นทุกข์ หรือเป็นความทุกข์โดยตรงโดยเฉพาะเจาะจง มันมีมาให้สำหรับเป็นบทเรียนก็ได้ หรือมาสอบไล่ มาเลื่อนชั้นมนุษย์ก็ได้" คนที่ออกไปบวชเป็นบรรพชิต หรือเป็นฤาษีมุนีอยู่ในป่าเพราะเบื่อฆราวาสนั้น ก็เพราะว่าความเป็นฆราวาสมันสอนให้ เขาจึงรู้จักเบื่อ เพราะฉะนั้นต้องถือว่ามันเป็นบทเรียน หรือมันเป็นโรงเรียน ถ้าคนโง่เกินไป ไม่รู้จักเบื่อ ก็ต้องทนอยู่ที่นั่น ถ้าคนรู้จักเบื่อมันก็ออกไปได้
แต่แล้วอย่าลืมว่าสิ่งเหล่านั้นมันสอนให้ คือทรัพย์สมบัติ บุตรภรรยาสามี อาชีพการงาน ปัญหาสารพัดอย่าง นี้มันสอน มันสอนให้ "ถ้าเรามองมันไปในแง่ของความทุกข์มันก็เป็นทุกข์ แต่ถ้ามองในแง่ดีกันบ้าง มันก็จะยุติธรรม คือว่ามันเป็นสิ่งที่มาสอนให้" มาผลักไสให้เราก้าวไปโดยเร็ว เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีชีวิตแบบฆราวาสเป็นมาตรฐานอยู่อย่างนี้ คนเราก็คงจะไม่ฉลาดกี่มากน้อย เพราะอุปสรรคหรือความทุกข์นั้น มันเป็นเครื่องช่วยให้เกิดความฉลาดในภายหลังทั้งนั้น.
พุทธทาสภิกขุ : ฆราวาสธรรม (น.114)