ความดีหรือความชั่วนี้เป็นเรื่องของสมมติ ต่อเมื่อจิตพ้นไปจากเรื่องสมมติ เหนือความดีความชั่ว คือมีจิตใจอยู่เหนือฐานะที่จะเกลียดความชั่วหรือความดีนั่นแหละ จึงจะเป็นอันพ้นจากโลก หรือพ้นจากทุกข์ ตามแบบของพระอริยเจ้า
นี่เรียกว่าเป็นการปฏิบัติชั้นที่ ๓ คือชั้นที่ทำให้จิตบริสุทธิ์หมดจด ปราศจากสิ่งเศร้าหมองโดยประการทั้งปวง และอันนี้เป็นผลเกิดมาจากการที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรอย่างถูกต้อง ตามทางที่ถูกต้องและถึงที่สุดตามหลักของพระพุทธศาสนา จนเราสามารถรู้ว่าสิ่งทั้งปวงหรือภาวะความเป็นใดๆ ก็ตาม เป็นสิ่งที่ไม่น่าเข้าไปผูกพันตัวอยู่ด้วย ไม่น่ายึดถือ ไม่น่ามอบตัวเข้าไปเพื่อเป็นทาส ด้วยความหลงรัก หลงอยาก ด้วยเลย
ควรถอนตัวออกมาเสียจากสิ่งทั้งปวงโดยสิ้นเชิง มีจิตเป็นอิสระเหนือสิ่งทั้งปวงดังนี้จึงจะไม่มีความทุกข์เลย นี้แหละ คือการที่จิตมีความรู้ หรือประกอบไปด้วยความรู้ อันถูกต้องถึงที่สุด ว่าอะไรเป็นอะไร จนสามารถที่จะทำจิตนั้น ให้ปราศจากความทุกข์ได้จริงๆ
ถ้าถึงที่สุด ก็เรียกว่าเป็นพระอรหันต์ ถ้ายังไม่ถึงที่สุดก็คือ พระอริยเจ้าชั้นที่รองๆ ลงมา แต่ว่าทั้งหมดทุกชั้น ล้วนแต่เป็นผู้รู้อะไรเป็นอะไร ตามหลักที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นทั้งนั้น เช่นเห็นความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ที่มีอยู่ในสิ่งทั้งปวง ดังนี้เป็นต้น
พุทธทาสภิกขุ
คู่มือมนุษย์ฉบับสมบูรณ์ (น.19)