เดี๋ยวนี้โลกมันอยู่ในสภาพที่สกปรก มืดมัว เศร้าหมอง เร่าร้อน ในด้านจิตใจ จนกระทั่งหาสันติภาพไม่ค่อยจะได้ พุทธบริษัททั้งหลายไม่ควรจะไปปฏิเสธเสียว่า ไม่ใช่หน้าที่ของเรา พุทธบริษัทต้องเป็นผู้รู้ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน อะไรต่างๆ ตามความหมายนั้น.ฉะนั้นจะนึกเห็นแก่ตัวแคบๆ เห็นแก่ตัวจัดคนเดียว อย่างนี้มันไม่ใช่พุทธบริษัท.เพราะว่าถือเอาแต่ประโยชน์ตัวคนเดียวนี้มันแคบ และถ้ามัวถือแต่ประโยชน์ตัวคนเดียวอย่างแคบๆ เหล่านี้แล้วจะกลายเป็นบาป เป็นอกุศลไปได้ โดยไม่ทันรู้ตัว เพราะว่าผู้ที่เห็นแต่แก่ตัวเองนั้นย่อมเป็นโมหะ เป็นอวิชชาหรือเป็นกิเลสอยู่แล้ว
ฉะนั้น เราจึงต้องทำการป้องกันไว้ไม่ให้จิตใจนี้มันพลัดตกลงไปสู่ความเห็นแก่ตัวอย่างแคบๆ นี่จึงต้องไปหยิบเอาเรื่องของมนุษย์ หรือเพื่อนมนุษย์ทั้งโลกมาพิจารณาพร้อมกันไปกับเรื่องของตัว ในเมื่อมันทำกันได้พร้อมๆ กันไป.หรือว่าถ้าเป็นผู้ต้องการบุญกุศลอันแท้จริง ก็จะต้องนึกถึงผู้อื่นจึงจะได้บุญได้กุศล การนึกถึงแต่ตัวเอง เห็นแก่ตัวเองนี้มันเป็นบุญกุศลขึ้นมาไม่ได้ ต้องทำลายความเห็นแก่ตัว จึงจะมีบุญกุศลอะไรขึ้นมาได้
เอาละ ทีนี้เดี๋ยวนี้เราก็ได้มองเห็นแล้วว่า โลกกำลังไม่มีสันติสุขไม่มีสันติภาพ เพราะว่าไม่มีธรรมะครองโลก เราจะต้องจัดการทุกอย่างให้ธรรมะครองโลก
พุทธทาสภิกขุ
ที่มา : การเมืองคืออะไร ? (น.57)
หนทางรอดของมนุษย์ คือ ธรรมิกสังคมนิยม