ให้รู้จักกินปลาโดยไม่ถูกก้าง
คือจะกินปลาชนิดไหนหรืออย่างไร
ก็ล้วนแต่จะไม่ให้ได้รับอันตรายเพราะก้าง
โลกนี้เปรียบเหมือนปลาที่มีก้าง ที่มีอันตรายมากน้อยนานาชนิดรวมกัน พุทธศาสนามีประโยชน์แก่โลกโดยตรง ก็ตรงที่ช่วยให้ชาวโลกอยู่ในโลกได้ โดยไม่ถูกก้างปลาชนิดใดชนิดหนึ่งดังกล่าวแล้ว
ภิกษุสงฆ์ทั้งหมดมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่กับโลกตลอดเวลา เพื่อช่วยเหลือโลก หรือศึกษาโลกพร้อมกันไปในตัว จนกระทั่งรู้แจ้งโลก ซึ่งเรียกกันว่า "โลกะวิทู" จนสามารถขจัดความทุกข์ในโลกออกไปได้ และต้องการให้ทุกคนเป็นอย่างนั้น
ไม่ใช่ให้หนีโลกหรือพ่ายแพ้แก่โลก
แต่ให้มีชีวิตอยู่ในโลกอย่างมีชัยชนะอยู่ตลอดเวลา
ฉะนั้นการที่ใครๆ:จะมากล่าวว่า ถ้าจะมาศึกษา หรือเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาแล้ว จะต้องทิ้งบ้านเรือนเกิด เข้าป่าไป ดังนี้นั้นเป็นการกล่าวตู่พุทธศาสนาด้วยคำเท็จอย่างยิ่ง และเป็นสิ่งที่น่าขบขันพร้อมกันไปในตัว
รวมความว่า พุทธศาสนาไม่ได้มีหลักว่า ผู้ปฏิบัติจะต้องไปทรมานตนอยู่ในป่า ถ้าที่ใดมีการพิจารณาโลกได้ ที่นั้นก็มีการศึกษาและปฏิบัติได้ และว่าพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้คนกลัว หรือหลบหลีกสิ่งต่างๆ ในโลก พร้อมกับที่ไม่ได้สอนให้มัวเมาในสิ่งเหล่านั้น แต่สอนให้รู้จักวิธีที่จะทำตัวให้มีอำนาจอยู่เหนือสิ่งเหล่านั้น
ฉะนั้นเป็นอันกล่าวได้ว่า จะเป็นใครก็ตาม จะอยู่ที่ส่วนไหนของโลกก็ตาม จะมีชีวิตอยู่ในระบบไหน หรือในสถานะสูงต่ำอย่างไรก็ตาม ล้วนแต่มีความเหมาะสม ที่จะรับเอาพุทธศาสนาไป ในฐานะเป็นวิชาที่จะได้ใช้สำหรับอยู่ในโลก โดยไม่ถูกก้างของโลกดังที่กล่าวแล้ว
พุทธทาสภิกขุ
ตัวกูของกูฉบับสมบูรณ์ (น.18)