ภิกษุทั้งหลาย !
บุคคล ๓ จำพวกนี้มีอยู่ หาได้อยู่ในโลก
สามจำพวกอย่างไรเล่า ? สามจำพวกคือ …
คนตาบอด, คนมีตาข้างเดียว, คนมีตาสองข้าง
ภิกษุทั้งหลาย !
คนตาบอดเป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ …
ไม่มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้
หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง …
และไม่มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล
ธรรมมีโทษและไม่มีโทษ ธรรมเลวและธรรมประณีต
ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง …
ภิกษุทั้งหลาย !
นี้แล คนตาบอด (ทั้งสองข้าง) …
ภิกษุทั้งหลาย !
คนมีตาข้างเดียวเป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ …
มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้
หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง …
แต่ไม่มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล
ธรรมมีโทษและไม่มีโทษ ธรรมเลวและธรรมประณีต
ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง …
ภิกษุทั้งหลาย !
นี้แล คนมีตาข้างเดียว …
ภิกษุทั้งหลาย !
คนมีตาสองข้างเป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ …
มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้
หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง …
และมีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล
ธรรมมีโทษและไม่มีโทษ ธรรมเลวและธรรมประณีต
ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง …
ภิกษุทั้งหลาย !
นี้แล คนมีตาสองข้าง …
ภิกษุทั้งหลาย !
ภิกษุมีตาสมบูรณ์ เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ …
ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า …
นี้ทุกข์ …
นี้เหตุให้เกิดแห่งทุกข์ …
นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ …
นี้ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ …
ภิกษุทั้งหลาย !
นี้แล ภิกษุมีตาสมบูรณ์ …
-บาลี ติก. อํ. ๒๐/๑๖๒/๔๖๘.
-บาลี ติก. อํ. ๒๐/๑๔๗/๔๕๙.