ทำงานด้วยจิตว่างเป็นการปฏิบัติธรรมสูงสุด
นี่แหละที่ว่าทำงานด้วยจิตว่างยกผลงานให้ความว่าง กินอาหารเพื่อกันตาย ไม่ต้องตายนี้ก็กินของความว่าง ถ้าถือคาถานี้เป็นหลักมันก็เป็นการปฏิบัติธรรมอยู่ในตัว การงานที่สูงสุด เป็นตัวการปฏิบัติที่สูงสุด คือปฏิบัติเรื่องสุญญตา เรื่องนิพพานอยู่ในตัวการงานนั้น บทที่ว่าทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง ประโยคนี้ทำให้ถูกเขาหาว่าบ้า หรือมิจฉาทิฐิ ผิดกันคือเขาว่าทำไม่ได้พูดแต่ปาก และที่พูดว่ายิ่งทำงานสนุกนั้น เขายิ่งไม่เชื่อมีคนเขียนต่อต้านว่าเขาไม่เชื่อ เขียนลงในหนังสือพิมพ์รายวันก็มี ที่อื่นก็มีว่าเขาไม่ยอมเชื่อ ว่าจิตว่างทำงานสนุกอย่างนี้เป็นต้น
มันเข้าใจยากทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง ยกผลงานให้ความว่างนี้เข้าใจยากจริงๆ แต่ที่นี่เดี๋ยวนี้เรากำลังทำอยู่ กำลังทำให้เข้าใจให้ได้ ให้มันเกิดขึ้นมา กำลังฝึกฝน กำลังต่อสู้กำลังทำเพื่อความเป็นอย่างนั้น หากใครจะรวบรัดทีเดียวให้ได้ผลหมดหลายๆ อย่างโดยวิธีทางลัด ก็ให้ทำงานด้วยจิตว่าง และการงานนั้นก็เป็นการปฏิบัติธรรมที่สูงสุด ไม่มีอะไรสูงสุดกว่า วันนี้พูดถึงการมีชีวิตอยู่ด้วยจิตว่าง ทำการงานด้วยจิตว่างเป็นการซ้อมปาฏิโมกข์ธรรมะ ในหัวข้อว่าการงานคือการปฏิบัติธรรม ถ้าปฏิบัติธรรมในระดับสูงสุด ก็คือทำงานด้วยจิตว่าง
พุทธทาสภิกขุ : การทำงานคือการปฏิบัติธรรม (หน้า 23)