กลางคืนทุกสิ่งทุกอย่างพากันหลับจริงหรือ?
ข้อนี้ไม่มีความจริงเลยแม้แต่น้อย จากการศึกษาด้วยธรรมชาตินั่นเอง เราจะรู้สึกว่า กลางคืนเสียอีกเป็นเวลาที่โลกตื่นที่สุด แต่ว่าเป็น ความตื่นอย่างประณีต เหลือเกิน เมื่อจะมองดูกันในแง่ของสัตว์นานาชนิด ก็พบว่ามีสัตว์ที่ตื่น และทำงานไม่น้อยกว่ากลางวัน วิ่งว่อนเอาจริงเอาจังไม่น้อยกว่ากลางวัน เว้นเสียแต่ #มนุษย์ของโลก และสัตว์บางประเภทเท่านั้น ที่ดูเหมือนว่าหลับเอาเสียจริงๆ
ส่วนมนุษย์ของธรรมนั้นกลางคืนเป็นเวลาที่ตื่นที่สุด เพราะว่ากลางวันความรู้สึกของจิตมักจะถูกริบไปเสียในด้านต่างๆ จนแทบจะหมดสิ้น ด้วยสิ่งอันรบกวน หรือยากที่จะดิ่งลงสู่อารมณ์อันสงัด ครั้นตกถึงกลางคืน ความว่างได้มีขึ้นอย่างสดชื่น ความแจ่มใสของจิตแหลมคมยิ่งกว่ากลางวัน ในภายในจึงรุ่งเรืองไปด้วยความสว่างไสวของการมองเห็นสิ่งที่สว่างบางสิ่ง เป็นจิตที่ตื่นอยู่อย่างสดชื่นยิ่งนัก แม้จะหลับก็หลับชนิดที่ตื่นอยู่ทุกเมื่อ พร้อมที่จะรู้สึกสิ่งทั้งหลายตรงตามที่เป็นจริงอยู่เสมอ ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
ครั้นตกถึงกลางวัน มีเรื่องที่จะทำ มีแขกที่จะต้องต้อนรับ มีผู้อื่นที่จะต้องช่วยเหลือสงเคราะห์ ความเหน็ดเหนื่อยนั้นได้ทำให้มีความมึนชาอ่อนเพลียไป จนมืดมัวคล้ายกับความหลับ ซึ่งผิดกับความแจ่มใส อันจะมีได้ในตอนที่ดึกสงัดล่วงไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงเห็นว่า กลางคืนนั้นธรรมไม่ได้หลับไปอย่างโลกเลย ช่างตรงกันข้ามเหมือนลักษณะอื่นๆ ที่ตรงกันข้ามระหว่างธรรมกับโลกนั้นเหมือนกัน สัตว์เล็กๆ บางชนิดเสียอีก ตื่นอยู่อย่างแจ่มใส โดยเฉพาะปลวก กลางคืนว่องไวรวดเร็วยิ่งกว่ากลางวันเป็นอันมาก แต่มันจะเป็นสัตว์ของธรรมด้วยหรืออย่างไรนั้นไม่ทราบ แต่มนุษย์ของโลกนั้นเป็นที่แน่นอนอย่างหนึ่งว่า ในเวลากลางวันนั้น ไม่ได้ตื่นอยู่ด้วยธรรมแล้ว ซ้ำกลางคืนก็ยังไม่ได้ตื่นยิ่งขึ้นไปอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองกระมัง โลกจึงไร้สันติภาพอันถาวร ชนิดที่เรากำลังเรียกร้องหา
สิบปีในสวนโมกข์ (หน้า 16)
อัตชีวประวัติวัยหนุ่มของพุทธทาสภิกขุ