PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • บทความ
  • ภาคความรู้ทั่วไป
  • กาลามสูตร

กาลามสูตร

กาลามสูตร รูปภาพ 1
  • Title
    กาลามสูตร
  • Hits
    1015
  • 9378 กาลามสูตร /general-knowledge/2021-06-04-05-32-47.html
    Click to subscribe
  • Average rating
    1
    • 1
    • 2
    • 3
    • 4
    • 5
  • ผู้เขียน
    จากหนังสือเส้นทางสู่สวนโมกข์
  • ชื่อชุด
    หนังสือธรรมะ

กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตตนิคม แคว้นโกศล กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใดๆ อย่างงมงาย โดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณ - โทษ หรือดี - ไม่ดี ก่อนที่จะเชื่อมีอยู่ ๑๐ ประการ เช่น

อย่าปลงใจเชื่อด้วยการฟังตามๆ กันมา
อย่าปลงใจเชื่อด้วยการถือสืบๆ กันมา
อย่าปลงใจเชื่อด้วยการเล่าลือ
อย่าปลงใจเชื่อด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์ เป็นต้น

เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า
ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศลหรือมีโทษ เมื่อนั้นพึงละเสีย
และเมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า
ธรรมเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นจึงถือปฏิบัติ

พระเงื่อม มีนิสัยที่ทำอะไรต้องให้ถึงที่สุด ให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ ตามที่โยมมารดาสั่งสอนมา และมักจะทำเกินกว่าที่คนปกติเขาทำกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงดีกว่าคนอื่น เป็นความภูมิใจให้ตัวเองเสมอ จนกลายเป็นนิสัยทำอะไรๆ ก็ให้มันสุดๆ และเชื่อว่าตัวเองทำอะไรๆ ได้ดีกว่าคนอื่น ดังที่เราจะพบคำพูดทำนองนี้ของท่านพุทธทาส บ่อยๆ ในหนังสือ #เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา เช่น

"...คือแสดงว่ามีความรู้ในการที่จะประหยัด กลายเป็นเรื่อง รู้ให้ดีที่สุด แม้ไม่จำเป็นต้องประหยัด ก็จะประหยัดเพื่อให้เห็นว่าทำได้"
"ผมมีวิธีชนิดที่ทําให้ปลากัดเก่งไม่มีใครสู้ได้..."
"เรื่องคุยธรรมะนี่ผมทำตัวเป็นอาจารย์ธรรมะกลายๆ... ตอนนั้นเรายังเป็นเด็กกว่าเขาเพื่อน"
"ไอ้ปีที่ผมเข้าไปบัญชาอยู่ปีนั้น จะมากสักหน่อย จะเต็มที่สักหน่อย เพราะเรามันคนบ้า เอากันเต็มที่"
"พรรษาแรกๆ ที่บวชนี่ ผมนั่งทำงานจนเป็นโรคกระษัย... นี่เพราะเรามันบ้า นั่งเขียน นั่งอ่าน หนังสือก็มีไม่มาก แต่เรานั่งคัดลอก ซ้อมแต่งกระทู้"
"สอนนักธรรมนี่ก็สนุก สอนคนเดียว ๒ ชั้น มันคุยได้ว่าสอบได้หมด"
(เรื่องทำไมอยากเรียนบาลี) "มันก็ได้ผลสมมติอยากจะดีจะเด่น เป็นมหาเปรียญ"
"ถ่ายรูปมาก็ดี สนุก ถ้าไม่ดีก็อยากจะแก้ตัวใหม่"
"มันต้องมองให้มันลึกลงไปกว่าผู้อื่น ให้มันดีกว่าผู้อื่น"

ความคิดที่เชื่อว่าตัวเองทำอะไรๆ ได้ดีกว่าคนอื่น จึงกลายมาเป็นนิสัยเชื่อตัวเองมากกว่าคนอื่น ไม่เชื่อคนอื่น หรือเชื่ออะไรง่ายๆ อย่างที่ท่านพูดเองว่า "ผมมันเป็นคนใจกระด้าง ไม่ค่อยจะเชื่อว่าใครมีอะไรดีได้ง่ายๆ ถือหลักว่าต้องดูไปก่อน บางอย่างก็ดี บางอย่างมันก็บ้าบิ่น" การที่พระเงื่อมไม่เชื่อตามใครๆ ที่เชื่อว่าโลกนี้ไม่มีพระอรหันต์แล้ว และตัดสินใจจะไปพิสูจน์ เรื่องพระอรหันต์ด้วยตัวเอง คนเดียว ในป่า นี่จะเข้าข่ายบ้าบิ่นอย่างที่ท่านพูดหรือเปล่าหนอ? นี่แหละ กาลามสูตรที่แท้จริง คือ ไม่เพียงแต่ไม่เชื่อตามใครง่ายๆ แต่ยังลงมือสอบสวนจนรู้ด้วยตัวเอง ว่า โลกนี้พระอรหันต์มีไม่ได้แล้ว จริงหรือ?

จากหนังสือ : #เส้นทางสู่สวนโมกข์
อิทัปปัจจยตาแห่งพุทธทาส (หน้า 133)
(อ้างอิง : เล่าไว้เมื่อวัยสนธยาหน้า 15)

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service