แม่ก็มีหน้าที่สร้างโลกเหมือนกับพระเป็นเจ้า
เพราะเกิดมาก็สร้างอุปนิสัยของเด็กๆ ทุกคนในโลก จนโตขึ้นแล้วก็จะได้เป็นพลโลกที่ดี แม่ก็สร้างโลกนี้เหมือนกับพระเจ้าสร้างโลก และก็โดยกฎของพระเจ้าผู้สร้างโลก คือกฏอิทัปปัจจยตานั่นเอง จะเดินตามกฎของอิทัปปัจจยตา ไม่ว่าจะอยู่เป็นชาวนา หรือว่าจะบรรลุนิพพาน พูดอย่างนี้ก็หมายความว่าพูดให้มันหมดจดสิ้นเชิง ว่าจะอยู่กันในระดับต่ำ เป็นชาวนาหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง มันก็ต้องเดินตามกฎของอิทัปปัจจยตา แม่ของชาวนาก็ต้องเป็นแม่ที่ถูกต้อง เป็นแม่ที่เป็นอาจารย์ของลูกที่ดี เป็นพระพรหมของลูกที่ดี เป็น "อาหุเนยยบุคคล" ของลูกที่ดีไม่มีอะไรดีไปกว่าแม่ ในแง่นี้ของลูกแต่ละคนๆ จึงว่า แม้จะเป็นชาวนา ก็ต้องเดินตามกฎของอิทัปปัจจยตา
ทีนี้ ถ้าจะก้าวหน้าหรือบรรลุนิพพานอันสูงสุด ก็ยิ่งต้องเดินตามกฎของอิทัปปัจจยตา ให้ถูกต้องทุกกระเบียดนิ้วเป็นลำดับๆ ไป ก็จะไม่เหลือวิสัยที่ว่าคนเราจะบรรลุนิพพาน คือ มีชีวิตอันเยือกเย็น ที่นี่และเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องรอต่อตายแล้ว ถ้าปฏิบัติเพื่อความเยือกเย็นถูกต้องได้ที่นี่และเดี๋ยวนี้ ตายแล้วก็ไม่ต้องสงสัย เรียกว่ามีชีวิตเยือกเย็นกันที่นี่ เดี๋ยวนี้ จะได้รับประโยชน์กว่า ถ้าที่นี่เดี๋ยวนี้ได้รับตาย แล้วก็ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องเป็นห่วงต่อเรื่องตายแล้ว ขอแต่ให้ทำให้ถูกต้อง ที่นี่และเดี๋ยวนี้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ก็เป็นการรับประกันตลอดไป
พุทธทาสภิกขุ : ปรมัตถวิจารณ์เกี่ยวกับพระคุณของแม่ (หน้า16)