แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ภาพนี้แสดงถึงเหตุการณ์ครั้งที่พระพุทธองค์ทรงต่อสู้กับมารร้ายในรูปแบบต่างๆ ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ โคนต้นโพธิ์แห่งตำบลอุรุเวลา จึงมักจะเรียกกันว่า ตอน “มารผจญ”
บริเวณด้านล่างภาพจะเห็นบัลลังก์มีเบาะวางอยู่ มีต้นโพธ์อยู่ข้างหลัง นั่นคือสัญลักษณ์แทนพระพุทธองค์ เหตุการณ์ครั้งนั้นเจ้าชายสิทธัตถะได้ทรงอธิษฐานจิตกำหนดพระทัยต่อพระองค์เองว่า แม้เลือดในกายจะแห้งไป แม้เนื้อจะหมดไป ไม่มีอะไรเหลืออยู่ นอกจากหนัง เอ็น และกระดูกก็ตามที จะไม่ลุกจากที่นั่งนี้จนกว่าจะได้พบสิ่งที่ทรงแสวงหา คือการหลุดพ้นจากความทุกข์ของพระองค์เองและมนุษย์ทั้งปวง
ฝ่ายพญามารท้าววสวัตตี ต้องการที่จะขัดขวางการบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณของพระพุทธองค์ จึงเรียกประชุมไพร่พลบัญชาให้เหล่าเสนามารเนรมิตกายให้น่าสะพรึงกลัว ท้าววสวัตตีประทับบนหลังช้างคีรีเมขล์ดังปรากฏในภาพด้านซ้ายมือ นำพลเหล่าเสนามารอันมีจำนวนประมาณมิได้ พากันตะโกนโห่ร้องเหาะเรียงรายกันมามืดฟ้ามัวดิน จนบรรดาเหล่าเทพยดาที่ถวายนมัสการพระองค์เกิดความเกรงกลัว บ้างก็พากันเหาะหนีกันไปคนละทิศละทาง พระพุทธองค์แม้จะอยู่ลำพังเพียงพระองค์เดียวก็มิได้หวาดกลัว จนมารต้องล่าถอยไป จากภาพด้านบนขวาจะเห็นว่าพญามารพนมมือถวายนมัสการยอมรับความพ่ายแพ้
นอกจากนี้มารอีกจำพวกหนึ่งที่มาขัดขวางในรูปแบบน่ารัก น่าพึงพอใจ ซึ่งแทนด้วยรูปสตรีที่มายั่วยวนพระพุทธองค์ ตามที่แสดงไว้ด้านล่างขวาของภาพ