แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ภาพนี้เป็นภาพพระพุทธเจ้าทรงโปรดพระราหุลกุมารด้วยอริยทรัพย์ ตรงกลางภาพจะเห็นบัลลังก์มีเครื่องหมายสวัสดิกะอยู่บนเบาะ ด้านหน้ามีรอยพระบาท ส่วนด้านหลังจะเห็นเสาไฟซึ่งมีตรีรตนะอยู่บนยอด สัญญลักษณ์เหล่านี้ล้วนแทนองค์พระศาสดาทั้งสิ้น
ครั้งเมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้ว เสด็จมาเทศนาโปรดพระประยูรญาติที่กรุงกบิลพัสดุ์ โดยทรงประทับอยู่ยังนิโครธารามใกล้กับกรุงกบิลพัสดุ์นั่นเอง เมื่อพระพุทธองค์เสด็จเข้ามารับบิณฑบาตในพระราชวัง พระนางยโสธราพิมพาพระมารดาของพระราหุลทรงเห็นเป็นโอกาสดีจึงแต่งองค์ให้ราหุลผู้โอรสงดงามด้วยเครื่องประดับขัตติยกุมาร แล้วชี้บอกราหุลว่าพระสมณะผู้ทรงสง่ามีผิวพรรณเหลืองดั่งทอง มีพระสุรเสียงไพเราะดุจเสียงพรหมที่พระสงฆ์สองหมื่นรูปแวดล้อมตามเสด็จ นั่นแหละคือพระบิดาของเจ้า แล้วจึงตรัสบอกพระโอรสให้ไปทูลขอรัชทายาทและทรัพย์สินที่เป็นสมบัติของพระบิดาทั้งหมด
พระราหุลกุมารจึงเสด็จเข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อกราบทูลขอราชทรัพย์ แต่พระพุทธองค์ทรงดำริว่าจะมอบอริยทรัพย์อันเป็นทรัพย์ที่ประเสริฐสูงสุดกว่าทรัพย์ใด ๆ ให้ จึงตรัสสั่งพระสารีบุตรให้นำพระราหุลกุมารไปบวชเป็นสามเณร แล้วก็ได้ตามเสด็จพระบรมศาสดาและพระอุปัชฌาย์ของตนไป นับได้ว่าพระราหุลกุมารเป็นสามเณรรูปแรกในพระพุทธศาสนา
ในภาพด้านล่างท่านจะเห็นพระราหุลกุมารยืนเกาะบัลลังก์ และพระนางยโสธราพิมพาซึ่งกำลังก้มลงถวายความเคารพพระพุทธองค์อย่างสูงสุดด้วยการใช้เกศาเช็ดพระบาท
เมื่อความทราบถึงพระเจ้าสุทโธทนะก็ทรงเสียพระทัยยิ่งนัก รีบเสด็จไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าที่นิโครธาราม แล้วทูลขอประทานอนุญาตว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปในภายหน้ากุลบุตรผู้ใดแม้ประสงค์จะบวช หากมารดาบิดายังไม่ยินยอมพร้อมใจอนุญาตให้บวชแล้ว ขอให้ทรงงดไว้ก่อนอย่าเพิ่งให้บรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรผู้นั้น จนกว่ามารดาบิดาเขาอนุญาตให้ก่อน
พระบรมศาสดาก็ประทานตามที่พระพุทธบิดาประสงค์ จึงทรงบัญญัติพระวินัยไว้ เป็นธรรมเนียมสืบมาจนทุกวันนี้ว่า ถ้าใครจะบวชไม่ว่าบวชเป็นพระหรือบวชเป็นสามเณร ต้องได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ ผู้ปกครองตลอดจนญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือเสียก่อน