PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • Dhamma Podcasts
  • ประสูติ
ประสูติ รูปภาพ 1
  • Title
    ประสูติ
  • เสียง
  • 10655 ประสูติ /dhamma-podcasts/2021-12-22-04-36-08.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
ภาพปริศนาธรรม
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันพุธ, 22 ธันวาคม 2564
ชุด
หมวดหินสลักพุทธประวัติ
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • ในภาพนี้เป็นภาพการประสูติของพระกุมารสิทธัตถะประกอบด้วยภาพ ๔ ภาพ จะขออธิบายทีละภาพเรียงเป็นลำดับตามเข็มนาฬิกา โดยเริ่มจากภาพมุมบนขวามือเลยนะคะ ในภาพนี้ท่านจะเห็นภาพสตรีนอน หมายถึงพระนางสิริมหามายา กำลังบรรทมหลับและทรงสุบินว่ามีช้างเผือกมาวนอยู่รอบ ๆ แล้วเข้าไปในอุทรของพระนาง

    หลังจากนั้นพระนางสิริมหามายาทรงตั้งพระครรภ์ใกล้จะครบกำหนดเวลาพระประสูติการแล้ว ตามธรรมเนียมโบราณพระนางจะต้องเสด็จพระราชดำเนินไป ณ เมืองแห่งตนคือนครเทวทหะ แต่เมื่อเสด็จไประหว่างทางจึงมีพระประสูติการก่อนถึงนครเทวทหะ ซึ่งได้แก่บริเวณสวนลุมพินี ดังแสดงในภาพมุมขวาล่างถัดลงมาจะเห็นพระนางฯ ประทับยืนเหนี่ยวกิ่งไม้รังและมีบุรุษ ๔ คน น่าจะเป็นท้าวจตุโลกบาลถือแผ่นผ้ามารองรับ บนแผ่นผ้านั้นให้ท่านสังเกตรอยพระบาทเล็ก ๆ ปรากฏอยู่ นั่นคือสัญลักษณ์แทนองค์พระกุมาร

    ถัดไปท่านจะเห็นภาพมุมล่างซ้ายเป็นการนำพระกุมารประสูติใหม่ไปให้ฤาษี หรือยักษ์ประจำเมืองดู ท่านจะเห็นว่ามียักษ์หรือเทพารักษ์โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินที่โคนต้นไม้มีลักษณะเหมือนต้นไทร ในท่าพนมมือไหว้ มีหญิงชูผ้าในลักษณะที่เป็นแผนผ้า และมีรอยเท้าสองรอยอยู่ในแผ่นผ้านำเข้าไปหายักษ์  มีฉัตรกั้นให้แก่รอยเท้า แสดงให้เห็นว่ารอยเท้านั้นเล็งถึงพระกุมารประสูติใหม่นั่นเองค่ะ

    คราวนี้ลองสังเกตรายละเอียดเพิ่มอีกสักเล็กน้อยไปที่คนถือฉัตรเป็นผู้หญิง และยังมีคนอีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิงถือสิ่งของอยู่ในมือ ซึ่งคงจะเป็นของสักการะแก่ยักษ์นั้นนะคะ หากสังเกตดูจากภาพนี้พอจะเห็นได้ว่า ตามปกติยักษ์นั้นไม่ได้แสดงตัว คงจะมีแต่แท่นที่โคนต้นไม้เท่านั้น และก็ได้แสดงตัวในขณะที่มีผู้นำพระกุมารเข้าไปถวายความเคารพ ซึ่งนับว่าเป็นการให้เกียรติแก่พระกุมารอีกนั่นเอง  

    สำหรับภาพสุดท้ายมุมบนทางซ้าย แสดงถึงเมื่อครั้งพระกุมารมีชันษาได้ ๕ วัน พระเจ้าสุทโธทนะ ทรงโปรดให้เชิญพราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญในการทำนายลักษณะของพระกุมาร ดังในภาพท่านจะเห็นพระเจ้าสุทโธทนะ และพระนางสิริมหามายา คือผู้ที่มีที่รองเหยียบพระบาท และมีภาพพราหมณ์ผู้ทำนายที่กำลังยกนิ้วมือชูขึ้นด้วยมือขวา ๔ คน และหญิงผู้รับใช้อยู่ทางเบื้องหลังของพระราชาอีก ๒ คน

    ขอให้สังเกตต่อไปที่นิ้วมือที่ยกขึ้นนะคะ ในภาพจะเห็นเป็นยกสองนิ้วด้วยกันทุกคน คือการทำนายพระกุมารเมื่อเจริญชันษาแล้วจะมีคติเป็นสองทาง ได้แก่หากอยู่ครองบ้านเมืองจะทรงเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ หรือหากออกบวชเป็นบรรพชิตจะทรงสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่จากความไม่ชัดเจนของภาพอาจจะมีสักคนหนึ่งที่ยกเพียงนิ้วเดียวดังที่เราทราบกันอยู่แล้วในเรื่องพุทธประวัติ ซึ่งหมายถึงโกณฑัญญะพราหมณ์หนุ่ม ผู้ที่ทำนายต่างจากเขาทั้งหมด คือทำนายว่าจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแน่นอน หรือจะเป็นเพียงความคิดของโกณฑัญญะซึ่งเก็บไว้ในใจตนแต่ผู้เดียว จึงไม่จำเป็นต้องทำภาพคน ๆ หนึ่งที่ยกนิ้วเพียงนิ้วเดียวเป็นพิเศษก็เป็นไปได้

    สุดท้ายจะขอเพิ่มเติมเกร็ดอีกสักเล็กน้อยนะคะ ในครั้งนั้นพระเจ้าสุทโธทนะโปรดถามพราหมณ์ว่าสาเหตุใดที่จะทำให้พระกุมารออกบวช พราหมณ์กราบบังคมทูลว่าเพราะเหตุที่พระกุมารได้เห็นนิมิตทั้ง ๔ คือคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และบรรพชิต  พระเจ้าสุทโธทนะมีพระราชประสงค์จะไม่ให้พระกุมารออกบวชเป็นบรรพชิต จึงมีพระราชบัญชาห้ามนิมิตทั้ง ๔ มาใกล้พระราชกุมารโดยเด็ดขาด

    หลังจากนั้นเหล่าพราหมณ์ก็ได้ถวายพระนามพระกุมารว่า “สิทธัตถะ” ซึ่งมีความหมายว่ามีความต้องการสำเร็จหรือสำเร็จตามที่ต้องการ หรือประสงค์สิ่งใดสิ่งนั้นย่อมได้ตามประสงค์

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service