แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ภาพชุดจำนวน ๔ ภาพ ที่ท่านเห็นอยู่นี้กล่าวถึงเรื่องราวพระโพธิสัตว์ สมัยเมื่อเสวยพระชาติเป็นพญาวานรเผือก ภาพมีชื่อว่า “ลิงล้างหู” เรามาติดตามกันนะคะ ว่าเหตุไฉนลิงจึงต้องเอาน้ำมาล้างหูตามภาพชุดนี้ไล่เรียงจากซ้ายไปขวาค่ะ
เริ่มจากภาพแรกซ้ายมือสุด พระโพธิสัตว์พญาวานรเผือกครอบครองบริวารลิงฝูงใหญ่ อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ เป็นที่รักใคร่เลื่อมใสแก่วานรทั้งปวง ครั้นสมัยต่อมาโพธิสัตว์พญาวานรถูกพรานป่าจับตัวได้ ท่านจะเห็นพญาวานรเผือกอยู่ในกรงด้านบนของภาพ นายพรานเห็นเป็นลิงเผือกท่าทางเฉลียวฉลาด นายพรานจึงใช้เชือกมัดมือจูงไป ตามภาพถัดลงมาด้านล่าง เพื่อนำไปถวายให้แก่พระราชา
ถัดมาเป็นภาพที่สอง ด้านบนของภาพจะเห็นว่าพระราชาคือพระเจ้าพรหมทัตแห่งกรุงพาราณสี ทรงรับพญาวานรเลี้ยงไว้พระราชอุทยานอันรื่นรมย์ ในขณะที่ถัดลงมาด้านล่างขอให้ท่านโปรดสังเกตภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมวลหมู่มนุษย์ให้ดี อันเป็นภาพที่พญาวานรโพธิสัตว์ประสบพบเห็นความเป็นไปอยู่หลายสิบปีที่อยู่ในราชอุทยาน
ต่อไปขอชวนท่านดูต่อในภาพที่สาม ด้านล่างจะเห็นว่าพญาวานรนั่งในศาลาด้วยอากัปกริยาวัตรปฏิบัติที่งดงาม ความจึงทราบถึงพระเนตรพระกรรณของพระราชา จนเกิดความเลื่อมใส จึงมีพระราชดำรัสสั่งให้นายพรานนำพญาวานรโพธิสัตว์ไปปล่อยคืนในป่าหิมพานต์ให้ได้รับอิสรภาพอย่างเดิม ดังแสดงให้เห็นตามภาพด้านบน
ถัดมาเป็นภาพที่สี่อันเป็นภาพขวาสุด ด้านบนนั้นเล่าถึงว่าบรรดาวานรบริวารทั้งหลายทราบข่าวการกลับมาของผู้เป็นที่รักแห่งตนเยี่ยงบิดา ก็ชวนกันมาชุมนุมที่เนินหิน เพื่อเยี่ยมเยือนพญาวานรโพธิสัตว์ ถามไถ่สารทุกข์สารสุข แล้วจึงถามว่าท่านหายไปอยู่ที่ไหนมาตลอดเวลาที่พวกเขาไร้ที่พึ่ง พญาวานรจึงเล่าเรื่องความเป็นมาให้ฟังโดยตลอด เว้นแต่บางเรื่องที่ตนพิจารณาแล้วว่าไม่ควรนำมาเล่าเพราะจะไม่มีประโยชน์ต่อเหล่าวานรทั้งหลาย แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น บริวารวานรจึงถามว่า “ข้าแต่ท่านพญาวานร ถ้าอย่างนั้นท่านคงรู้จักกริยาที่คนในเมืองหลวงเขาประพฤติกัน ในหมู่ชนที่เรียกตัวเองว่ามนุษย์ ข้าพเจ้าทั้งหลายปรารถนาจะฟัง ท่านจงเล่าเถิด ท่านจงเล่าเถิด ”
โพธิสัตว์จึงว่า “ท่านทั้งหลาย อย่าได้ถามเราถึงความประพฤติของมนุษย์ทั้งหลายเลย เราไม่อยากเล่า” แต่ท้ายที่สุดพญาวานรโพธิสัตว์ขัดการรบเร้าของบริวารไม่ได้จึงเล่าให้ฟังว่า “มนุษย์ในเมืองหลวงทั้งหลายนั้นเขาพูดกันแต่ว่า “เงินของกู ทองของกู” ทั้งคืน ทั้งวัน ดังนี้” ถึงตอนนี้แล้วขอให้ท่านลองกลับไปดูภาพที่สองด้านล่าง แล้วสังเกตพฤติกรรมของมนุษย์อีกสักครั้งนะคะ
ทันใดนั้น ขณะที่พญาวานรโพธิสัตว์กล่าวยังไม่ทันจบเรื่อง เหล่าวานรทั้งหลายก็เอามือและเท้าปิดหูแล้วร้องห้ามว่า “ท่านอย่าเล่าอีกเลย ท่านผู้เป็นหัวหน้า ท่านอย่าเล่าอีกเลย เราไม่ขอฟังเรื่องของมนุษย์อีกแล้ว” ว่าแล้วก็กระโจนกันจนสุดฤทธิ์ วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปยังลำธารที่ใกล้ที่สุด เพื่อล้างหูของตนให้หมดจากข่าวลามกธรรมทั้งหลายของมนุษย์ในเมืองหลวง ตามที่เห็นในภาพด้านล่าง
หลังจากวันนั้นแล้วบรรดาวานรทั้งหลายจึงชวนกันย้ายฝูงหายสาบสูญเข้าไปในป่าลึก ให้ไกลแสนไกลจากกลิ่นของมนุษย์ มิช้านานก็ตายตามยถากรรม มิได้มีใครพบเห็นวานรฝูงนี้อีกเลย