แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ภาพที่ท่านเห็นอยู่นี้แสดงถึงช่วงที่พระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานอีกภาพหนึ่ง ในรูปแบบสถูปเช่นเดียวกับภาพด้านซ้ายมือ เรามาดูความหมายของภาพกันเลยนะคะ
เริ่มแรกขอให้ท่านดูในส่วนบนของภาพ จะเห็นสถูปด้านบนประดับด้วยฉัตร สถูปนี้หมายถึงพระพุทธองค์ในคราวเสด็จปรินิพพาน หรือกำลังอยู่ในสภาพแห่งพระศพ
สำหรับภาพคนที่อยู่รายรอบสถูปนี้ มีทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ และมุมล่างซ้ายของภาพมีภาพวัวอยู่ห้าตัว ซึ่งโดยลักษณะทั่วไปแล้วเหมือนกับว่าเดินทางมาจากถิ่นไกลเพื่อบูชาพระบรมศพค่ะ
ส่วนด้านซ้ายที่อยู่เคียงข้างสถูป ทางด้านซ้ายมือมีภิกษุหนึ่งรูป ฆราวาสสองคน สันนิษฐานว่าคนที่ยืนชิดสถูปมีท่าทางเป็นหัวหน้า แม้จะไม่ใช่กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ก็อยู่ในระดับชนชั้นสูงหรือราชาแคว้นเล็กแคว้นน้อย
ส่วนทางด้านขวาของสถูป มีภิกษุสองรูป สตรีสามคน สตรีที่ยืนเหลียวไปรับพวงมาลัยจากคนที่ยืนทูนถาดอยู่นั้น อยู่ในลักษณะเป็นชายาหรือภริยาของคนหัวหน้าหมู่ รับพวงมาลัยเอามาเพื่อบูชาพระสถูปหรือพระศพค่ะ
ทางใต้สถูปลงมามีสตรีอีกสี่คน กำลังนมัสการและถวายมาลัยอยู่สามคน อีกคนริมซ้ายสุดท่าทางเหมือนคนใช้อย่างเช่นเดียวกับคนที่ทูนถาด ส่วนด้านล่างขวามีคนอีกสองคนดูเป็นพวกดนตรีซึ่งกำลังเป่าเครื่องเป่าชนิดหนึ่งอยู่ กับอีกคนหนึ่งไม่แน่ชัดว่ากำลังทำอะไร และอาจจะเป็นผู้ร้องเพลงสดุดีตามธรรมเนียมก็ได้นะคะ
ในครั้งเมื่อพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานนั้น มีสิ่งสำคัญเกิดขึ้นหลายอย่างด้วยกัน จึงนำเสนอให้ท่านทราบดังนี้ค่ะ
ก่อนที่พระผู้มีพระพุทธองค์จะเสด็จปรินิพพานนั้น มีปริพาชกอันเป็นนักบวชนิกายอื่นชื่อ “สุภัททะ”ได้มาขอเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อสอบถามปัญหาเพื่อการหลุดพ้น เมื่อพระพุทธองค์ทรงโปรดหลักธรรมทางหลุดพ้นที่สำคัญคืออริยมรรคมีองค์แปดแล้ว “สุภัททะปริพาชก” เกิดความเลื่อมใส จึงขออุปสมบทและสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในเวลาต่อมา ถือว่าเป็นสาวกองค์สุดท้ายในพระชนม์ชีพของพระพุทธองค์ค่ะ
หลังจากนั้นได้ตรัสบอกพระอานนท์ว่า “ดูก่อนอานนท์ ธรรมและวินัยใด เราได้แสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมและวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว”
และในท้ายที่สุดพระพุทธองค์ได้ตรัสโปรดพระโอวาทครั้งสุดท้ายว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด” หลังจากนั้นก็ไม่ตรัสอะไรอีก จนเสด็จปรินิพพานในช่วงเวลาสุดท้ายแห่งราตรีวันเพ็ญวิสาขะ ภายใต้ต้นสาละคู่ซึ่งออกดอกบานสะพรั่งเป็นพุทธบูชา