แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ฉะนั้นสติจะกำกับจิตให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความไม่ประมาท นั่นก็คือ ไม่ให้คิดผิด เมื่อไม่คิดผิดเพราะมันเป็นสัมมาทิฐิ มันก็ไม่พูดผิด มันก็ไม่ทำผิด จนกระทั่ง แม้จะไปหาความสนุกสนานเพลิดเพลิน ก็จะไม่ไปหาความสนุกสนานเพลิดเพลินที่เป็นการเบียดเบียนตนเอง เช่น ยาเสพติด กัญชา สุรายาเมา ตลอดจนยาเสพติดต่างๆ ทุกชนิด มันเครียด ในสมองมันแน่น จิตมันมึนไปหมด เพราะฉะนั้นไปดูดเสียทีหนึ่ง แหมมันโล่ง เห็นสวรรค์อยู่ไรๆ พอมันหมดฤทธิ์ เอาอีกแล้ว นรกมาอีกแล้ว ดูดซะอีกทีหนึ่งสวรรค์มาอีก พอแล้วทีนี้มันก็ไม่อยู่นาน นรกมา ต้องดูดซ้ำทีเดียวไม่พอ ต้องเป็นสอง เป็นสาม จนกระทั่งติดเป็นนิสัย จนทำร้ายตัวเอง อย่างที่เราได้พบ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ นี่คือการรหาความเพลิดเพลินสนุกสนาน อย่างเขลาๆ อย่างมิจฉาทิฐิ คิดว่ามันถูกเพราะมันช่วยดับความกลุ้มให้หายไปชั่วคราว แต่แท้ที่จริงหาใช่ไม่ มันเป็นการเบียดเบียนทำร้ายตัวเอง ผลักตัวเอง ขอโทษฉันใช้คำว่า ถีบตัวเองให้ลงนรกยิ่งขึ้น ยากที่จะผุดจะเกิดด้วย ถ้าใช้วิธีนั่น หรือใช้อบายมุข สุรานารี ภาคีกีฬาบัตร หรือการไปเที่ยวจตามบาร์ตาผับต่างๆ หรือใช้วิธีการกลบทุกข์เหมือนดั่งที่เราพูดมาแล้ว เช่น ไปเที่ยว เพราะมีเงิน จะไปยุโรป จะไปอเมริกา นิวซีแลนด์ แอฟริกา ไปได้ทุกหนทุกแห่ง มีเงิน เอาเงินกลบความทุกข์ กลบปัญหา เพราะขาดสติ เพราะเงินที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก หรือได้รับมรดกจากพ่อแม่มา ก็ต้องถือว่าพ่อแม่ได้มาด้วยความยากลำบาก แล้วเอามาใช้อยากสาดเสียเทเสีย เพื่อสนองตัณหาของตนเอง นี่เป็นลูกอกตัญญู หรือลูกกตัญญู สมควจะทำอย่างนั้นไหม เอาทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่หามาได้ด้วยความยากลำบาก มาเผามาผลาญที่ไม่ถูกต้อง นี่มิจฉาทิฐิ หรือบางที่ก็ไปห้างสรรพสินค้า มีเงินเข้าเดอะมอลล์ ออกจากเดอะมอลล์ ไปเซ็นทรัล ไปโน่นไปนี่สารพัด ซื้อ ซื้อ ซื้อ อย่างที่เขาบอกซื้อทุกอย่างที่ขว้างหน้า ขนมาใส่รถเต็มรถ มาถึงบ้านเอาออกมาวางที่บ้าน เอ๊ะ เอามาใช้ทำอะไร นั่นก็มีแล้ว นี่ก็มีแล้ว ซื้อทำไม นี่มีนะคนมีเงิน ใช้วิธีกลบทุกข์ด้วยวิธีนี้ เพราะขาดสติอีกเหมือนกัน นี่ล้วนแล้วแต่การทำลายทั้งนั้น แล้วคิดว่าโก้ แล้วก็ยังไปไปอวดเพื่อนฝูง อวดคนอื่นให้น้ำลายไหล
คนที่เป็นมิจฉาทิฐิเหมือนกันน้ำลายไหล อู้ย ทำไมเราจะมีโอกาสทำเช่นนี้บ้าง ซื้อ ซื้อ ซื้อ แหมมันโก้ มีเงินจ่าย ปลิวไปไม่ต้องพูดหรอกห้าร้อยพันหนึ่ง เป็นหมื่นๆ ปลิวไป คนอย่างนี้ให้เงินสักสิบล้านก็ใช้หมดในวันเดียว ไม่มีประโยชน์อะไร หรือไม่มีเงินก็เดินไปเที่ยว เที่ยวดู มองดูตาม วินโดว์ชอปปิ้งบ้าง หรือมองดูตามที่เขาจัดเอาไว้บ้าง เดินดูมันไปเรื่อยตั้งแต่สาย จนกลางวัน จนเย็น แล้วก็กลับบ้าน แทนที่จะใช้เวลาอันมีค่า ให้เกิดประโยชน์ ก็พร่าเวลาอันมีค่าที่หาได้ยาก ยากไม่น้อยไปกว่าการหาเงิน หรือเดี๋ยวนี้เวลาบางทีมีค่ามากกว่าเงินเสียอีก เพราะมันหายากเหลือเกิน ยิ่งคนในกรุงเทพ ในเมืองใหญ่ ยิ่งหายากมากเพราะไปเสียเวลาอยู่ในถนน ครั้งหนึ่งครั้งหนึ่งเป็นชั่วโมงๆ ไม่ใช่ชั่วโมงเดียว เพราะฉะนั้นการที่จะหาความเพลิดเพลิน เช่นนี้ เราเรียกว่า หาอย่างเขลาๆ อย่างโง่ๆ นี่หล่ะเป็น พาลชน เป็นวิธีการของ พาลชน เพราะฉะนั้น พาลชนอย่าคิดว่า เป็นคนที่ไม่ได้รับการศึกษา อ่านหนังสือไม่ออก จึงเรียกว่า พาลชน ไม่ใช่นะ คนที่เป็นพาลชน ปริญญาทั้งหลายก็เป็นพาลชน ถ้ากระทำการใด ๆ เขลา ๆ อย่างนี้ เป็นการเบียดเบียนตัวเอง เสียศูนย์เปล่าโดยเปล่าประโยชน์ นี่เป็นสิ่งที่พึงนึก คนที่เขาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เขาอาจจะเป็นบัณฑิตก็ได้ ถ้าเขาสามารถดำรงชีวิตของเขาให้พบกับความสุขสงบเย็นได้ หรือแม้กระทั่งการพูดคุย เพ้อเจ้อ อย่างไร้สาระ นี่ก็เป็นการหาความเพลิดเพลินอย่างเขลาๆ อีกเหมือนกัน เคยนึกบ้างไหมค่ะ ไม่นึก ไม่นึก เพราะฉะนั้นจึงยังชอบพูดชอบคุย ท่านผู้ใดที่ชอบพูดชอบคุย ขอให้อยู่เงียบยังเงียบอยู่ไม่ได้ ลองดูลงไปหน่อยซิว่าทำไมถึงต้องพูด ติดเสน่ห์เสียงตัวเองใช่หรือเปล่า ไม่รู้ตัว ติดเสน่ห์เสียงตัวเอง แม้เสียงนี้มันเพราะ แล้วก็ติดเสน่ห์วาจามันฉลาด มันน่าฟังมีเหตุมีผล นี่คือหลงตัวเข้าไปอีก เนี่ยะปัญญาชนเป็นกันเยอะเลยมีมาก แล้วก็ไม่รู้ว่าเราพร่าเวลาให้เสียไปเพียงใด
เพราะฉะนั้นจะต้องระมัดระวังให้มาก ในเรื่องการติดเสียงเสน่ห์ของตัวเอง แล้วก็พลอยติดทิฐิของตัวเองไปด้วย แล้วในการพูดนั่นก็มีทิฐิของตัวเองลงไป ฉันว่าอย่างนี้ ฉันเห็นอย่างนี้ นั่นไม่ควร นี่ไม่ควร ก็เลยมาอยู่กับความไม่ควร ลืมนึกว่าข้างในมันระส่ำระสายแค่ไหน ในขณะที่กำลังกระทำอย่างนั้น นี่เป็นสิ่งเล็กๆ น้อย ๆ ฟังดูแล้วเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มันเป็นสิ่งที่กระทำไปด้วยความขาดสติใช่ไหม และทำให้ต้องสูญเสีย เวลา ทรัพย์สิน เงินทอง ไปโดยเปล่าประโยชน์ ขาดสิ่งที่ควรได้ ขาดการกระทำที่ควรทำใช่หรือไม่ นี่คือความประมาท พระองค์จึงได้ตรัส ตรัสทักท้วง เตือนเอาไว้ สติเป็นสิ่งสำคัญนะ ชีวิตไหนขาดสติ ก็เหมือนสวะนั่นแหละ ลอยไป ปะตรงไหนก็อยู่ตรงนั่นไปก่อน จนกว่าเขาจะเขี่ยต่อไปอีก ก็ลอยต่อไปอีก แล้วก็เน่าเหม็นหายไป หาสารประโยชน์มิได้