แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ผู้ดำเนินรายการ: เราก็จะไปฟังหลักธรรมที่ดีจากท่านอาจารย์ คุณรัญจวน อินทรกำแหง กันต่อนะครับ วันนี้ท่านจะพูดถึงเรื่องของพระคุณของแม่ ลองฟังกันครับ
อุบาสิกา คุณรัญจวน: แม่ก็คือผู้มีประคุณสูงสุด ด้วยการโอบอุ้มประคับประคองของแม่ เราถึงได้เติบโตมาได้จนถึงแค่นี้ เราก็มีความรู้สึกอย่างนี้ ฉะนั้นก็คิดว่าแม่เองก็ไม่ได้รับการอบรมมาจากไหน ความเป็นแม่คืออะไร แต่นี่คือสัญชาตญาณ สัญชาตญาณของความเป็นแม่ที่มีอยู่ในชีวิตจิตใจของแม่ในฐานะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง และก็เชื่อว่าผู้หญิงโดยทั่วๆ ไป จะมีสัญชาตญาณของความเป็นแม่ อย่างคนบางคนไม่ได้แต่งงานแต่ว่าเมื่อไปเกี่ยวข้องกับใครๆ ที่ข้างหน้านี่ ที่ข้างนอก ก็จะมีความรัก ความปรารถนาดี แล้วก็ดูแลโอบอ้อมอารีอย่างเอาใจใส่ นี่ก็เป็นสัญชาตญาณของความเป็นแม่ที่มีอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่เมื่อใดที่ได้เป็นแม่ขึ้นมาจริงๆ โดยหน้าที่อย่างตามสมมติของโลก ก็จะยิ่งทุ่มเท ทุ่มเทความเอาใจใส่ความเสียสละที่มีต่อลูกให้มากขึ้น เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าผู้หญิงเราที่จะนึกถึงความเป็นแม่นี่ ก็เพียงแต่ว่าอันแรกให้ความรักแก่ลูกอย่างไม่เห็นแก่ตัว แต่ในขณะเดียวกันก็อย่าเรียกว่า ป้อน อะไรมิต่ออะไรให้ลูกมากเกินไปจนกระทั่งลูกไม่ต้องขยับเขยื้อน จนกระทั่งลูกกลายเป็นคนเสียนิสัยจนต้องมีคนบริการตลอดเวลา ถ้าอย่างนั้นความรักเช่นนั้นก็ต้องบอกว่าเป็นความรักที่มากเกินไปหน่อย และไม่ใช่เป็นความรักที่สร้างสรรค์ ถ้าความรักที่สร้างสรรค์ ก็ต้องให้พอดีๆ ให้ด้วยและให้ลูกรู้จักทำอะไรด้วยเพื่อเป็นการสอนการอบรมที่เขาจะได้เป็นประโยชน์กับตนเองและประโยชน์แก่คนอื่นต่อไปข้างหน้า
ฉะนั้นถ้าพูดถึงเรื่องของความเป็นแม่แล้วล่ะก็ เชื่อว่าทุกคนพอนึกถึงคำว่า แม่ มันจะมีความรู้สึกอ่อนโยนอะไรเกิดขึ้นในใจ มีความอบอุ่นเกิดขึ้นในใจ และก็มีความรู้สึกว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนี่ ถ้ามีแม่อยู่รู้สึกมันเหมือนกับปลอดภัย อย่างน้อยแม่จะออกไปรับอะไรต่ออะไรที่เกิดขึ้นก่อนลูก ถ้าจะเป็นอันตรายเกิดขึ้นแม่จะต้องออกไปก่อน ฉะนั้นถ้าพูดถึงแม่นี่ มันจะให้ความรู้สึกอ่อนโยน ความรู้สึกปลอดภัย และความรู้สึกเป็นเพื่อน คือเราจะไปหาจากใครไม่ได้ มันจะเป็นความรู้สึกที่พร้อมทั้งด้วยความเสียสละ และก็ความซื่อสัตย์สุจริตที่มีจะมีต่อลูก อย่างที่เราจะหาจากใครไม่ได้อีกเหมือนกัน
ผู้ดำเนินรายการ: คราวนี้ทางธรรมบ้าง
อุบาสิกา คุณรัญจวน: ทางธรรมยังไง มองว่าแม่ในทางธรรม ก็เหมือนกันนี่แหละ ก็ที่พูดนี่ก็เพราะแม่มีธรรม คือมีคุณธรรมที่อยู่ในใจของแม่ เพราะฉะนั้นแม่จึงสามารถที่จะให้ความรักความเสียสละเพื่อที่จะประคับประคองให้ชีวิตของลูกได้ดำเนินไปในหนทางที่ถูกต้องที่จะเป็นประโยชน์กับตัวของลูกเองต่อไปข้างหน้า จนกระทั่งลูกสามารถตั้งตัวได้ แล้วก็สร้างครอบครัวของตนเองได้ และก็เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นต่อไป
ผู้ดำเนินรายการ: ผมอ่านข่าว เจอข่าวแม่ใจร้าย
อุบาสิกา คุณรัญจวน: อันนั้นก็อาจจะเป็นว่า แม่ไม่ได้เจตนาจะเป็นอย่างนั้นก็เป็นได้นะ แต่อาจจะเป็นเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นจากสิ่งแวดล้อมหรือจากองค์ประกอบบางอย่างก็เลยทำให้ผู้หญิงที่อยู่ในภาวะเช่นนั้นคิดแก้ปัญหาด้วยวิธีสั้นเกินไป ในหนทางสั้นเกินไป ซึ่งบางทีเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำ เหมือนอย่างนานแล้วที่อ่านหนังสือพิมพ์ เห็นจะเป็นสิบกว่าปีมาแล้วกระมัง ที่พูดถึงผู้หญิงที่เอาลูกไปทำลาย ไปฆ่า รู้สึกที่โรงพยาบาลหรือยังไง เอาลูกไปฆ่าแล้วเสร็จแล้วก็เกิดมีการสับเปลี่ยนอะไรต่ออะไรกันต่างๆ นานา สารพัด
ถ้าจะมามองดูว่า ถ้าเขาเลือกได้ เขาคงไม่อยากฆ่า แต่เผอิญในตอนนั้นเขาไม่มีทางเลือก แล้วทำไมเขาถึงไม่มีทางเลือก ทำไมเขาถึงเห็นว่ามันอับจนขนาดนั้น นี่ก็คงจะเป็นเพราะว่าตัวเขาเองตั้งแต่เขาเป็นลูกเล็กๆ นี่ ก็คงไม่ได้รับการอบรมจากแม่ว่า วิธีที่เราจะแก้ปัญหาของชีวิตที่มันเกิดขึ้นแต่ละขั้นตอน เราควรจะทำอย่างไร แม่บางคนเขาจะเตรียมการที่จะให้ลูกรู้จักที่จะแก้ปัญหาแต่ละขั้นตอนของชีวิตอย่างรอบคอบและก็อย่างรอบด้าน ดังนั้นลูกของเขานี่จะรู้จักฝึกฝนสติปัญญาให้แหลมคมอยู่เสมอ พอมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ลูกก็จะใช้สิ่งที่เคยฝึกฝนมา มาคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เขาก็จะเหมือนกับเป็นการรู้จักกรุยทางของตน กรุยทางชีวิตออกไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ แต่คนบางคนคือลูกบางคนก็ต้องบอกว่าโชคไม่ดีนะ หรืออาภัพ ไม่ได้ไปพบแม่ที่เฉลียวฉลาดอย่างนั้น แล้วก็รอบด้าน แล้วก็เสียสละให้แก่ลูก มองอะไรเพื่อความปลอดภัยในวิถีชีวิตของลูกอย่างรอบด้าน เขาไม่ได้พบอย่างนั้น เพราะฉะนั้นพอถึงปัญหาเฉพาะหน้าขึ้นมา เขาก็เลยไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องได้ นอกจากนั้นอีกอย่างหนึ่ง ก็อาจจะเป็นด้วยสังคมสิ่งแวดล้อมรอบตัวในปัจจุบันนี่ ความเอื้ออารีหรือว่าอาทรต่อกันมีน้อยไป
ฉะนั้นถ้าหากว่าเรามีคนที่อยู่ใกล้ ซึ่งอาจจะเป็นคนแปลกหน้าไม่เคยรู้จักกันเลย แต่เมื่อเหลียวแลมาก็มองเห็นว่า คนๆ นี้ กำลังตกอยู่ที่อับ เขากำลังมีปัญหาแล้วนะ แล้วก็ลองไต่ถามฉันท์เพื่อนมนุษย์ ว่าเขามีปัญหาอะไร ก็จะช่วยลองคิดค้นในการแก้ปัญหาอันนั้นสักเล็กน้อยเท่านั้น คนนั้นก็จะมองเห็นทางสว่าง และหนทางที่จะแก้ปัญหาก็เปิดออกไปได้ ถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่ง สังคมเดี๋ยวนี้ก็มีดีอยู่ในแง่ที่ว่า จะมีองค์กรหรือสมาคม ที่จะช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือจะเป็นลูกกำพร้า หรือจะเป็นผู้ที่ตกอับอย่างไรก็ตาม ก็จะมีการช่วยเหลือในลักษณะต่างๆ ถ้ารู้จักแหล่งที่เราจะไปขอความช่วยเหลือได้ แต่นี่เผอิญคนที่เขาไปทำการต่างๆ ที่ว่าเป็นแม่ใจร้าย ฆ่าลูก เขาก็อาจจะไม่ได้ตั้งใจ อาจจะไม่ได้คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่สถานการณ์แวดล้อมนี่ มันอาจจะบีบบังคับเขา และก็จากสิ่งที่เขาเป็นมา พื้นฐานเดิมตั้งแต่เขายังเล็กยังน้อย ไม่ได้รับการอบรมแนะนำที่จะรู้จักแก้ไขปัญหา
ผู้ดำเนินรายการ: ถ้าแม่เป็นผู้ที่สังคมยกย่อง ลูกควรจะทดแทนพระคุณอย่างไร
อุบาสิกา คุณรัญจวน: ถ้าแม่เป็นผู้ที่สังคมยกย่อง แล้วลูกควรจะทดแทนพระคุณได้ยังไง อันนี้ก็ต้องตีประเด็นให้แตกว่า เมื่อแม่เป็นผู้ที่สังคมยกย่อง ยกย่องในแง่ไหน ถ้าสมมติว่าแม่เป็นผู้ที่ทำการงานเพื่อสารธารณะประโยชน์ แล้วก็ได้รับการยกย่องจากสังคมว่าเป็นผู้ที่ช่วยเหลืออะไรต่ออะไรต่างๆ เหล่านี้ แต่ถ้าในขณะเดียวกันแม่ผู้นั้นไม่มีเวลาที่จะดูแลบ้านดูแลลูกให้ความรักความอบอุ่นกับลูก แล้วเราจะไปถามลูก ลูกอาจจะบอกว่า จะให้ตอบแทนในแง่ไหนก็สังคมก็ตอบแทนแม่แล้วไง ก็แม่ก็ได้รับเกียรติยศชื่อเสียงจากสังคมแล้วจะให้ลูกไปตอบแทนอะไร เพราะว่าแม่ไม่เคยให้อะไรกับลูก แม่ให้แต่ความอ้างว้างแก่ลูก แม่ไม่เคยอยู่กับลูกให้รับความอบอุ่น ถ้าอย่างนี้ในกรณีอย่างนี้ คือลูกที่เห็นแก่ตัวเหมือนกันแหละ เพราะว่ารักแม่ก็อยากจะให้แม่รักลูกอย่างที่ลูกต้องการ แล้วเขาก็พูดอย่างเห็นแก่ตัว เราก็จะไปว่าเขาเต็มที่นักก็คงจะไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันต้องเป็นการประกอบกันในทั้งสองฝ่ายถึงจะใช้ได้และก็ถูกต้อง
ฉะนั้นอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ถ้าแม่ที่มีชื่อเสียงเกียรติยศในสังคมและในขณะเดียวกันแม่ไม่ทิ้งบ้าน แม่สามารถบริหารเวลาของตนทั้งทางนอกบ้านและในบ้านให้ได้อย่างสัดส่วนกัน สมาชิกในบ้านที่อยู่ในบ้านก็ได้รับความอบอุ่นเป็นสุข แม่ไปทำงานข้างนอก ให้ความช่วยเหลือความสุขแก่คนข้างนอก แต่ว่าคนในบ้านก็ยังมีความสุขเช่นเดียวกัน ถ้าอย่างนี้ล่ะก็ลูกคงจะมีทั้งความภูมิใจและก็มีทั้งความชื่นใจ แล้วก็อยากจะบูชาว่า ทำไมแม่เราถึงได้เก่ง วิเศษอย่างนี้ สามารถที่จะบริหารหาความสุขให้แก่ผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องได้ทั้งในบ้านทั้งนอกบ้าน มันจึงขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย
ผู้ดำเนินรายการ: ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดา
อุบาสิกา คุณรัญจวน: ขึ้นชื่อว่าแม่ จะเป็นชาวบ้านหรือจะเป็นชาวสมาคม ลูกต้องเคารพ ต้องเคารพต้องเทิดทูนเอาไว้ อย่างน้อยที่สุดนะคะ แม้ว่าบางทีแม่จะไม่ได้ให้อะไรอย่างที่ลูกต้องการ แต่ทางที่ถูกก็ควรจะนึกว่า การที่เราได้มีชีวิตขึ้นมานี่ แม่ให้ชีวิตนี่ เป็นพระคุณอย่างยิ่งแล้ว บางคนอาจจะบอกว่า ฉันไม่เห็นอยากได้เลยชีวิตนี้ มันเป็นชีวิตที่แสนจะห่อเหี่ยว หรือบอกว่าเป็นชีวิตที่เฉา ไม่เห็นเป็นประโยชน์อะไรเลย
แต่ก็นั่นแหละ การที่มีชีวิตที่ยังมีลมหายใจอยู่คือการมีโอกาส ขอให้คิดอย่างนี้ นี่คือการมีโอกาสของชีวิตโอกาสที่จะได้พัฒนาชีวิตต่อไป ควรจะนึกในแง่นี้ ถ้านึกในแง่นี้แล้วล่ะก็เราก็จะรู้สึกถึงพระคุณของแม่ เพราะถ้าในทางธรรมก็ได้ยินท่านว่า ถ้าสมมติว่าใครคิดว่ามีชาติหน้าชาติหลัง ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่ามีจริงไหม แต่ถ้าสมมติว่า มีจริง มีชาติหน้าอีก เราก็ไม่รู้ว่าเราจะได้เกิดเป็นมนุษย์ คือเป็นคนอย่างนี้หรือเปล่า การที่ได้เกิดมาเป็นคนชาติหนึ่งนี่ถือเป็น โอกาสประเสริฐแสนวิเศษเลย เพราะว่าท่านก็บอกว่าคนที่เกิดเป็นคนนี่มีสติปัญญามากกว่าสัตว์โลกชนิดอื่น สามารถจะใช้สติปัญญาของเรานี่ คิดพัฒนาชีวิตอย่างเต็มฝีมือความสามารถในหนทางต่างๆ ทั้งในการเรียนรู้ ในการศึกษา การฝึกอบรมการทำอาชีพ ตลอดจนกระทั่งการที่จะคิดสร้างตัวตั้งตัวต่อไปข้างหน้า