แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ธรรมะสวัสดีนะคะ ก็จะตอบคำถามก่อน
คำถาม: ถามว่าการนั่งสมาธิช่วยรักษาโรคได้ไหม
ตอบ: ก็ได้เคยพูดไปบ้างแล้วนะคะ บอกว่ามีอาการปวดหลัง มานั่งสมาธิ 15-20 นาที อาการนั้นทุเลาลง ก็เพราะสามารถควบคุมจิต อยู่กับลมหายใจ จิตนิ่งพร้อมด้วยสติสมาธิ อาการปวดหลังนั้นมันก็ค่อยทุเลาลงเพราะเหตุว่าจิตสงบขึ้น สบายขึ้น แล้วจิตของผู้ปฏิบัติก็ไม่ไปข้องเกี่ยวอยู่กับความปวดเจ็บ
คำถาม: เมื่อนั่งสมาธิสักครู่ ขาชา กำหนดลมหายใจยาว ลึก เบา อาการนั้นก็หายไป เมื่อเลิกนั่งแล้วกลับชาเล็กน้อย
ตอบ: อันนี้ก็คงจะเป็นเพราะว่าเรานั่งในลักษณะที่บังคับ คืออยู่ในที่บังคับแล้วก็เลือดลมก็อาจจะเดินไม่สะดวก เพราะฉะนั้นพอมันชาก็นวด ลุกขึ้น ขยับแขนขา บริหารก็จะช่วยขึ้น
คำถาม: จิตที่สงบนิ่งเป็นเอกัคคตาจะปรากฏในขณะเดินจงกรมได้หรือไม่
ตอบ: ก็ขึ้นอยู่กับท่านมีความชำนาญในการปฏิบัติมาก เพราะฉะนั้นท่านก็สามารถที่จะควบคุมจิตให้อยู่ในภาวะของความเป็นเอกัคคตาได้ แต่สำหรับผู้ปฏิบัติใหม่นั้นยากที่จะเป็นได้ เพราะฉะนั้นก็อย่าไปนึกว่าภาวะของเอกัคคตาเกิดขึ้น ต้องนึกทบทวนว่าเอกัคคตาคืออะไร คือภาวะของจิตที่นิ่งสนิท รวมกันเป็นหนึ่ง อย่างลึก ดิ่ง ประณีต มีความประณีต ไม่ใช่รวมกันอย่างหนักๆ หรืออย่างรู้สึกเหน็ดเหนื่อย หรือว่ามันอัดๆ ไม่ใช่ มันมีความนิ่ง ความสงบ ความสบาย แล้วก็มีความละเอียดประณีตอยู่ในลักษณะของอาการนั้น ฉะนั้นผู้ปฏิบัติธรรมดาคือหมายความว่าผู้ปฏิบัติที่เพิ่งจะเริ่ม ถ้าจะมีในขณะเดินจงกรมก็น่าจะเป็นเพียงความสงบมากกว่า
คำถาม: จะมีวิธีประคองจิตเช่นนั้นในอิริยาบถอื่นๆ ได้ไหม
ตอบ: ได้ทุกขณะค่ะ ถ้าหากว่าเราปฏิบัติจนมีความชำนาญ ซึ่งความชำนาญจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อปฏิบัติสม่ำเสมอ กำหนดจิตให้อยู่กับลมหายใจมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จนกระทั่งมันกลายเป็นกิจนิสัย คำว่า “กิจนิสัย” นี่เพราะทำจนชำนาญมันก็เลยกลายเป็นนิสัย นิสัยที่จะทำอย่างนั้น แล้วก็รู้ลมหายใจอยู่อย่างนั้น จิตก็สงบเป็นสมาธิอยู่อย่างนั้นไม่ว่าจะอยู่ในอาการเคลื่อนไหวอะไร แต่ถ้าจะถามว่าแล้วจิตนี่จะนิ่งสงบเป็นเอกัคคตาในขณะที่ทำอะไรๆ ได้อยู่หรือเปล่า คำตอบอันนี้ก็คือว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะในขณะที่เคลื่อนไหวทำกิจการ หรือกิจวัตรประจำวัน จิตนี้ก็ต้องไปมุ่งอยู่กับการทำงานข้างนอก เรียกว่าจิตนั้นไม่ได้รวมตัวกันอย่างสนิท ฉะนั้นอาการของความสงบ ดิ่ง เป็นเอกัคคตาย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ในขณะที่กำลังทำกิจการงานต่างๆ อยู่ แต่อาการของจิตที่รวมเป็นสมาธิ เป็นได้ คือหมายความว่าจิตนั้นไม่ซัดส่าย ไม่วิ่งวุ่น ยังคงเป็นจิตที่มีสติอยู่ อย่างนี้เป็นได้แต่ไม่ถึงกับเป็นเอกัคคตาเพราะมันมีกิจอย่างอื่นที่จิตจะต้องเอาใจใส่อยู่ด้วยจึงไม่สามารถจะรวมดิ่งเช่นนั้นนะคะ ทีนี้การที่จะประคองจิตให้อยู่ในลักษณะของสมาธิและมีสตินั้น ก็คือการกำหนดอยู่กับลมหายใจนั่นเอง จึงได้พูดซ้ำซากว่าการที่จะต้องปฏิบัติหมวดที่ 1 ตั้งแต่ขั้นที่ 1 2 3 เป็นสิ่งจำเป็นต้องทำอยู่ตลอดเวลาจนเป็นกิจนิสัย
คำถาม: การนอนหลับฝันร้ายแล้วยึดมั่นจนเป็นทุกข์ การฝันเห็นภาพนั้นจัดว่าเป็นผัสสะที่เกิดจากอายตนะทางตาหรือไม่
ตอบ: ก็กำลังนอนหลับจะไปมองเห็นอะไร สิ่งที่ออกมาในระหว่างฝันนั่นก็เป็นสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึก เราเก็บเอาไว้ในจิตใต้สำนึกมา ทีนี้พอนอนหลับเข้ามันมีโอกาสพักผ่อน จิตนั้นที่ประหวัด มันกังวล ครุ่นคิดติดอยู่ด้วยความยึดมั่น มันก็โผล่เข้ามากวน มาชักชวนให้เกิดความนึกคิดถึงมัน แล้วถ้าหยุดไม่ได้ มันก็เป็นความวิตกกังวลว้าวุ่น แต่ไม่ใช่ผัสสะทางตาเพราะตาไม่ได้ลืม ไม่ได้มองเห็นรูป มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันอันนั้น ฉะนั้นการที่ผู้ปฏิบัติจะพยายามฝึกเพื่อให้จิตมีความสงบยิ่งขึ้นๆ จึงมีความจำเป็นเพราะมันจะกำจัดสิ่งที่เป็นความวิตกกังวลอันเกิดจากนิวรณ์ให้หมดไป แต่ถ้าเราไม่ฝึกปฏิบัติ จิตนั้นไม่มีความใสสะอาด ไม่มีความว่าง มันก็จะเข้ามารบกวนอย่างนี้ในทุกโอกาสที่มันสามารถจะมาได้
เช้าวันนี้ดีจริงนะคะ จิตคงสงบและก็คงจะได้คำตอบด้วยตัวเอง ไม่ค่อยมีคำถาม มีเท่านั้นนะคะ แล้วก็มีผู้ถามว่าเพลงที่ได้ฟังเมื่อเช้านี้ ถ้าเป็นเพลงชุดลอยธรรมะมาลัยที่มีเพลงเรื่องเกิดมาทำไม แล้วก็มีเพลงสติ มีเพลงผัสสะ ถ้าเป็นชุดนั้นละก็ผู้ที่จัดทำนี่คือคุณภุชงค์ บุญสูง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ที่สวนโมกข์ เมื่อตอนอายุครบรอบ 80 ปี ซึ่งก็ 5-6 ปีมาแล้วนั้น ก็ได้จัดทำเพลงชุดนี้ขึ้นโดยใจความเนื้อเพลงบางทีก็มาจากคำร้อยกรองที่ลูกศิษย์ของท่านอาจารย์เขียนขึ้น แต่มาจากหลักธรรม หลักธรรมคำสอนที่ท่านอาจารย์นำมาพูดมาสอน แต่ส่วนลอยธรรมะมาลัยโดยตรงซึ่งยังไม่ได้เปิดวันนี้เป็นเพลงตอนต้น นั่นเป็นร้อยกรองของท่านอาจารย์สวนโมกข์โดยตรง แล้วผู้ที่จัดทำเพลงนี้ก็เป็น อโซนา ซึ่งเป็นฝ่ายจัดการเพลงที่จัดเพลงร่วมสมัยที่เหมาะกับผู้ที่จะฟังได้นะคะ และผู้ร้องก็เป็นนักร้องที่ร้องด้วยความประณีตและร้องด้วยความเข้าใจในเนื้อเพลง ถ้าหากว่าท่านที่สนใจก็ถามได้ที่ทางฝ่ายสำนักงานนี่ค่ะ เพราะว่าได้ติดต่อให้คุณภุชงค์ช่วยจัดทำให้สำหรับผู้ที่สนใจ โดยมากก็คิดเฉพาะค่าเทปค่าทำตามที่อโซนาเขาจะคิดมา แล้วก็เมื่อได้เงินจัดจำหน่ายมาคือจำหน่ายเป็นทุนคืนขึ้นมา คุณภุชงค์ก็ไม่ได้เคยเก็บเป็นของตนเองเลยสักสตางค์แดง ก็ได้ถวายให้ใช้ในกิจการการเผยแผ่ธรรมะที่สวนโมกข์ทุกครั้ง
ฉะนั้นถ้าท่านผู้ใดต้องการและซึ่งดิฉันก็เห็นว่าเป็นเพลงที่ให้ข้อคิด ใคร่ครวญธรรมเป็นอย่างดีแล้วก็จะเป็นประโยชน์ในการที่จะนำไปให้กับคนหนุ่มสาวฟังด้วยเพราะทำนองเพลงนั้นร่วมสมัย ก็จะเท่ากับว่าได้ร่วมทำบุญด้วยนะคะ ตามศรัทธา ก็ลองถามได้ที่ทางฝ่ายสำนักงาน