แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]
ธรรมสวัสดีค่ะ รายการวรรณกรรมกับธรรมะในครั้งนี้นะคะ ดิฉันไม่ได้เลือกวรรณกรรมเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะที่จะมากล่าวทั้งหมดในรายการนี้ แต่อยากจะขอให้ชื่อรายการว่า “ชีวิตคือการแสวงหา” โดยเราจะดูจากบุคคลต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในวรรณกรรมเรื่องต่างๆ กัน เพราะคำว่า ชีวิตคือการแสวงหา ดิฉันรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เราทุกคนนี่มีอยู่ในใจ ในขณะนี้เราทั้งหลายก็กำลังแสวงหากันอยู่ทั้งนั้น บางคนก็แสวงหาด้วยการศึกษาหาความรู้ในโรงเรียนในวิทยาลัยมหาวิทยาลัย บ้างก็แสวงหาในวงของการอาชีพอื่นๆ เช่นในวงธุรกิจบ้าง ในวงการเมืองบ้าง แล้วก็อื่นๆ อีกบ้างอีกเยอะทีเดียว ต่างคนต่างก็รู้สึกว่าชีวิตนี้คือการแสวงหา เราจะต้องแสวงหาอย่างใดอย่างหนึ่งให้มันสมแก่ความรู้สึกในใจที่เรารู้สึกว่ายังขาดอยู่ ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะว่าถ้าเรารู้สึกว่าในใจมันเต็มแล้ว เราก็คงไม่ต้องแสวงหาอะไรมาเพิ่ม แต่ก็เป็นเพราะว่าเรายังรู้สึกว่ามันไม่เต็มนี่เอง จึงได้พากันแสวงหา ทีนี้ถ้าจะดูจากวรรณกรรมนะคะ ก็เห็นจะต้องหยิบเอาบุคคลที่เราเรียกว่าเป็นตัวละครในเรื่องมาพูด เพื่อจะดูว่าบุคคลเหล่านี้ได้มีวิธีการแสวงหาในชีวิตของเขาอย่างไรบ้าง
ถ้าหากว่าจะดูจากเรื่องที่พูดมาแล้วสองเรื่อง ในรายการวรรณกรรมกับธรรมะ คือชีวิตของเกี้ยวในเรื่องของบ้านพิลึก เกี้ยวก็แสวงหามาตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มเปิดเรื่องมาจนกระทั่งจบลง เซเซ่ก็เช่นเดียวกันในเรื่องต้นส้มแสนรัก เซเซ่ก็แสวงหาอีกเหมือนกัน เขาแสวงหาอะไร ถ้าจะพูดเดี๋ยวนี้ก็บอกว่าเกี้ยวแสวงหาความถูกต้อง เพราะเขาลังเลสงสัย เขาไม่แน่ใจว่าอะไรคือความถูกต้องในการดำรงชีวิต เขาจึงรู้สึกกังวลเมื่อได้ยินบอยเพื่อนบอกว่า บ้านของเขานี่ล้วนแล้วแต่พิลึกกันทั้งบ้านเลย นี่ก็เรียกว่าเกี้ยวไม่แน่ใจ จึงกำลังพยายามแสวงหาไปเรื่อยว่าอะไรคือความถูกต้อง เซเซ่ในเรื่องต้นส้มแสนรัก ก็แสวงหาอีกเหมือนกัน สิ่งที่เซเซ่แสวงหานักหนาก็คือความรัก ความรักที่จะมาทำให้หัวใจน้อยๆ ของเขาที่วังเวงว้าเหว่ แล้วก็รู้สึกเหี่ยวเฉาอยู่เสมอนั้นมีความสดชื่น มีความอบอุ่น แล้วก็มีความเต็มขึ้นมา เพราะฉะนั้นเมื่อเขาได้พบกับโปรตุก้า เขาจึงรู้สึกว่าความรักในหัวใจของเขา ที่มันมักจะเหือดแห้งนี่กำลังจะค่อยๆ เต็มขึ้นมา เขาคิดว่าโปรตุก้านี่แหละคือผู้ที่จะเติมความรักที่เขากำลังเรียกร้องโหยหา ให้มันเต็มขึ้นมาได้
หรือลำยองในเรื่องทองเนื้อเก้า ลำยองแสวงหาหลายอย่างเหลือเกิน แสวงหาเงิน แสวงหาบ้าน แล้วก็แสวงหาผู้ชาย ถ้าจะสรุปความหมายหรือเป้าหมายของการแสวงหาของลำยอง ก็เห็นจะพูดได้คำเดียวว่า ลำยองแสวงหาสิ่งที่จะมาปรนเปรอความสุข ความสำราญในทางกาย ซึ่งก็คิดว่าถ้ากายได้สมปรารถนาในการมีทรัพย์สินเงินทอง ที่เพื่อที่จะซื้อสิ่งของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เพชรนิลจินดา เสื้อผ้าแพรพรรณ ที่จะได้มาช่วยบำรุงบำเรอกายของเขา ให้ได้รับความอิ่มหนำสำราญ ได้รับความสะดวกสบายอย่างที่เขาต้องการแล้ว ใจเขาคงจะสบายล่ะกระมัง แต่เราผู้ที่อ่านทองเนื้อเก้า หรือจะได้ติดตามดูละครโทรทัศน์ ก็จะได้รู้สึกว่าชีวิตของลำยองนั้น แม้ในขณะที่ได้มีโอกาสมีเงินมีทองมีบ้านช่องอยู่ แต่ก็หาได้มีความสุขสงบใจสักขณะจิตเดียวไม่ ยังคงดิ้นรนขวนขวายกระวนกระวายอยู่ตลอดเวลานั่นเอง หรือว่าเมื่อเวลาที่ลำยองสามารถที่จะหาผู้ชายที่ตนพึงพอใจได้ ก็คิดว่า การที่ได้เสพสุขในกามอย่างสมปรารถนา อย่างสมใจอย่างสะใจ มันคงจะทำให้ใจเป็นสุขบ้างล่ะกระมัง แต่ก็เปล่า หาเป็นเช่นนั้นไม่ ฉะนั้นสิ่งที่ลำยองแสวงหาตลอดชีวิต มันจึงเป็นสิ่งที่ยากที่จะเติมให้เต็มได้ อย่างที่เขาว่าถมไม่เต็ม ผู้หญิงอย่างลำยองเรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ถมไม่เต็ม เท่าไหร่เท่าไหร่ก็ไม่พอสักที แต่ลำยองก็ยังคงแสวงหาต่อไป
หรืออย่างในเรื่องวิมานไม้ฉำฉาของกฤษณาอโศกสิน เราจะพบตัวละครในเรื่องนี้แสดงให้ชัดเจนคือมีบทบาทที่ชัดเจนหลายคนทีเดียว ที่แสดงการแสวงหาให้เราเห็นอยู่เช่น กริมที่เป็นตัวเอกของเรื่อง กริมแสวงหา ทั้งๆ ที่กริมได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวคนเดียวของเศรษฐี หรือจะว่าเป็นมหาเศรษฐีของเมืองไทยก็ได้ เป็นลูกสาวคนเดียวเท่านั้น เมื่อใดที่พ่อแม่หาชีวิตไม่แล้ว กริมย่อมจะต้องเป็นเศรษฐีนีที่มีทรัพย์สินท่วมท้น กริมต้องการอะไรที่จะเป็นเครื่องบำรุงบำเรอความสะดวกความสบายในทางกาย กริมหาได้ทุกอย่าง บ้านช่องทรัพย์สินเงินทอง รถยนต์เสื้อผ้า เครื่องใช้ การไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ที่ต้องการ การซื้อจ่ายของอย่างชนิดที่ไม่ต้องคิดว่าราคามันเท่าใด วันหนึ่งกริมจะจ่ายเงินเป็นหมื่นเป็นแสนก็สามารถจะทำได้ แต่กระนั้นสิ่งต่างๆ ที่กริมมีนี้ยังหยุดการแสวงหาของกริมไม่ได้ กริมก็คงแสวงหาต่อไป แสวงได้มาแล้วก็เสียไป ได้มาแล้วก็เสียไป ที่ได้มาแล้วก็เสียไปนี่ ไม่ได้เสียแต่เงินทอง ทรัพย์สินหรือตัวคนที่กริมได้มา แต่กริมก็ยังเสียน้ำใจ ความรู้สึกที่ดีในใจที่มนุษย์จะพึงมีต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวต่อโลกของเขาทั้งภายนอกและภายใน กริมก็ยิ่งเหี่ยวเฉาลงทุกวันทุกวัน แต่ก็ยังคงแสวงหาต่อไปนั่นเอง
หรืออาสา อาสาที่มาเป็นสามีของกริมด้วยการแต่งงานกันอย่างมโหฬาร ใหญ่ยิ่งในรอบปี อาสาก็เข้ามาแต่งงานกับกริม มิใช่ด้วยความรัก แต่ที่อาสาแต่งงานกับกริมก็ด้วยการแสวงหา แสวงหาอย่างเจาะจงทีเดียวว่าจะต้องได้ทรัพย์สินเงินทอง มาเป็นเครื่องบำรุงบำเรอ หรือมาเป็นเครื่องตอบแทนในการที่เขาเสียสละความเป็นหนุ่มของเขา ไปจดทะเบียนกับกริม แล้วก็อาสาก็ได้รับผลจากการแสวงหาของเขาอย่างสาสมใจ เมื่อกริมขอหย่า อาสาก็ขอสองล้าน จริงล่ะเขาไม่ขอออกมาด้วยปากตรงๆ แต่เขาก็ขอด้วยอากัปกิริยาแล้วก็ด้วยเล่ห์กล อุบายต่างๆ อาสาก็ได้สมประสงค์ แต่ความสมประสงค์ของการแสวงหาของคนอย่างอาสานี้ จะได้รับการยกย่องนับถือชมเชยเอาอย่างจากบุคคลใดบ้าง ดิฉันเชื่อว่าแน่นอนที่สุดเลย บุคคลใดที่ยังรู้สึกว่าเกิดมาเป็นคนเกิดมาเป็นมนุษย์นี่ สิ่งที่ควรจะรักษาเอาไว้ก็ควรจะมีศักดิ์ศรีของตัวเอง นี่พูดในทางโลกนะคะ ถ้าพูดในทางโลกแล้วก็ศักดิ์ศรีเกียรติศักดิ์ อาสาหามีไม่ เพราะฉะนั้นอย่าไปนึกถึงเรื่องของความสุขสงบในใจอันเป็นธรรมะที่จะอยู่ในใจของคนที่คนเช่นอาสาจะมี ย่อมจะหนีไม่ได้ ว่าเขาได้แสวงหาได้จากที่นี่ก็หาอิ่มไม่ ก็คงแสวงหาต่อไปอีกอยู่นั่นเอง
หรือ ทองแท้ ที่เป็นบุคคลที่แสดงเจตนาว่า มีความรักมีความห่วงใย มีความจริงใจในตัวกริม แต่ทองแท้ก็ยังแสวงหาอีกนั่นเอง แสวงหาเหมือนอย่างคนเสียขวัญ เพราะเขาได้เคยเสียขวัญมาแล้วกับความรัก ได้เคยเสียผู้หญิงที่เขาเคยรักมาแล้วดูเหมือนจะไม่น้อยกว่าสองคน เพราะฉะนั้นเมื่อมาถึงกริม เขาก็รักจริง แล้วก็มุ่งมั่นในตัวกริม อย่างจริงจัง แล้วก็ได้ความจริงใจจริงๆ แต่ในขณะเดียวกันนั้นน่ะ ทองแท้ก็มีความไม่มั่นใจ ไม่มีความรู้สึกมั่นใจเลยในการแสวงหาครั้งนี้ว่า เขาจะสามารถรักษาสิ่งที่แสวงหาเอาไว้ได้นะคะ เพราะฉะนั้นก็เรียกว่าบุคคลเหล่านี้ก็อยู่ในเรื่องภาวะของการแสวงหา
หรือแม้แต่คุณดิษผู้เป็นพ่อของกริม คุณรสสุคนธ์ผู้เป็นแม่ของกริม ต่างก็แสวงหาอีกเช่นเดียวกัน แล้วก็ล้มเหลว การแสวงหาของเขานั้นล้มเหลว เพราะฉะนั้นมันเกิดความล้มเหลวเข้า ทั้งสองคนก็เลยต้องหันหลังให้แก่กันและกัน เงินที่มีอยู่ล้อมรอบตัว กองอยู่เป็นภูเขาเลากาถ้าเราจะใช้คำอุปมาอุปไมย หาช่วยอะไรไม่ การแสวงหาของคนทั้งสองล้มเหลวจึงมีชีวิตที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ด้วยความขมขื่นเจ็บปวดจนกระทั่งตายจากกันไป
วิสูตร ศุภลักษณ์ ณ อยุธยาในเรื่องละครแห่งชีวิต ก็ยังคงเป็นผู้ที่แสวงหาอยู่อีกเหมือนกัน การแสวงหาของวิสูตรในตอนต้น คือในตอนวัยเยาว์ของชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความขมขื่นเจ็บปวด แต่เมื่อยิ่งแสวงหาไปแสวงหาไปจนกระทั่งเขาได้มีโอกาสไปเรียนต่างประเทศไปเติบโตที่โน่น ไปทำงานทำการ จนกระทั่งพอจะมีชื่อมีหน้า วิสูตรก็ค่อยๆ ได้ประสบหรือได้ประจักษ์ในความเป็นจริงของชีวิตที่เป็นธรรมชาติ เป็นความจริงอันเป็นธรรมชาติธรรมดาของชีวิต ของมนุษย์ ของโลกมันเป็นอย่างนี้ มากขึ้นทีละน้อยละน้อยละน้อย เพราะฉะนั้น การแสวงหาของเขาก็ค่อยๆ ถูกประสบการณ์นั้นตะล่อมเข้ามาหาสิ่งที่ถูกต้องเองโดยไม่รู้ตัว
หรือคุณหญิงกีรติในเรื่องข้างหลังภาพก็เป็นผู้แสวงหาอีกเหมือนกัน ถ้าท่านผู้ชมที่ได้อ่านหนังสือข้างหลังภาพมาแล้ว หรือได้ดูภาพยนตร์ข้างหลังภาพก็ย่อมจะทราบดีนะคะว่า สิ่งที่คุณหญิงกีรติแสวงหามาตั้งแต่วัยสาวจวบจนวันสุดท้ายที่หายใจอยู่ในโลกนี้ คุณหญิงกีรติแสวงหาอะไร แสวงหาความรัก ถึงแม้ว่าเธอจะได้เคยแต่งงานกับเจ้าคุณ แต่ก็หาได้มีความรักอย่างที่หัวใจในวัยสาวของคนทั้งหลายจะรักไม่ แต่การแต่งงานอันนั้นเป็นเสมือนหนึ่งเป็นหน้าที่ แล้วก็สองเป็นการที่จะได้โอกาสที่จะได้หาประสบการณ์ในชีวิตให้กว้างขวางขึ้น จากการที่จะได้ออกนอกบ้าน ได้ไปเที่ยวในต่างประเทศ ได้รู้จักผู้คนมากขึ้น คุณหญิงกีรติเป็นผู้ที่ชอบการแสวงหาความรู้ แต่การแสวงหาที่ลึกอยู่ในจิตของคุณหญิงกีรติก็คือความรัก ที่จะเป็นความรักแท้ของใครสักคนหนึ่งที่จะสามารถให้ได้ แก่หัวใจที่รู้สึกว่าเหี่ยวแห้งแล้วก็อับเฉา อันเนื่องด้วยการขาดความรักนี่มาตลอด
หรือพลายมลิวัลลิ์ ในหนังสือเรื่องพลายมลิวัลลิ์ ของถนอม มหาเปารยะ ที่เคยเป็นหนังสือนวนิยายขนาดสั้น แล้วก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือที่แพร่หลายกว้างขวางน่าอ่านมากในสมัยสักยี่สิบกว่าปีมาแล้วนะคะ แล้วก็ได้เคยทำเป็นภาพยนตร์ด้วย บัดนี้ก็มาเป็นหนังสืออ่านประกอบในโรงเรียน พลายมลิวัลลิ์ทั้งที่มันเป็นเพียงช้างตัวหนึ่ง แต่ก็เป็นช้างที่รู้ภาษาอย่างที่เราพูดกันว่าช้างนี่เป็นช้างที่รู้ภาษาได้ดีมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ พลายมลิวัลลิ์เป็นช้างแสนรู้ รู้ใจของตัวเอง รู้ใจของคน และนอกจากนั้นมันยังฉลาดที่จะรู้จักแสดงอาการกิริยาเพื่อที่จะแจ้งให้คนทั้งหลายรู้ว่าขณะนี้จิตใจของมันมีความประสงค์อะไร มีความต้องการอะไร แล้วพลายมลิวัลลิ์ก็แสวงหาอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่มันเป็นสัตว์มันเป็นช้าง แต่สัญชาตญาณในการแสวงหาก็ไม่ผิดกับคน ในขณะที่คนหลายคนที่เราเอ่ยชื่อมาแล้วนะคะ ต่างก็แสวงหาความรักเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้าจะพูดไปแล้วก็มีความรักเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางเกือบทั้งนั้น พลายมลิวัลลิ์ก็ไม่หนีไปจากการแสวงหาในเรื่องนี้ มันแสวงหาความรัก แล้วก็ต้องการความรักนั้นมาเป็นของตัวคนเดียว ไม่ยอมแบ่งปันให้แก่ผู้อื่นเลย ความรักที่พลายมลิวัลลิ์แสวงหาอย่างยิ่งก็คือความรักของนายเผือกที่เป็นเพื่อนร่วมเดิม ที่มันรักแสนรักแล้วก็หวงแหนเป็นอย่างมากนั่นเอง เพราะฉะนั้นแม้แต่สัตว์ก็ยังคงแสวงหา
หรือถ้าจะเอ่ยถึงบุคคลอีกคนหนึ่ง ในเรื่องเชิงผาหิมพานต์ ท่านผู้ชมที่ได้เคยอ่านหนังสือเชิงผาหิมพานต์ของท่านอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ ก็คงจะพอนึกเรื่องนี้ออกนะคะ เชิงผาหิมพานต์ก็เป็นหนังสืออีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนังสืออ่านประกอบในโรงเรียน ฉันทสุภลิจฉวีหรือท่านอาจารย์วิศวามิตร ที่กล่าวถึงในหนังสือเชิงผาหิมพานต์นั้น เดิมเมื่อสมัยที่ยังไม่ได้มาเป็นท่านวิศวามิตร เป็นครูอาจารย์ผู้น่าเคารพนับถืออย่างยิ่ง และจะพูดได้ว่าเป็นครูตัวอย่างที่เรายากที่จะหาพบในสังคมปัจจุบันนี้ หายากเหลือเกิน แต่ในสมัยที่ยังเป็นเจ้าชายฉันทสุภลิจฉวีนั้นก็เป็นบุคคลที่ได้แสวงหามาเป็นอันมาก ได้แสวงหามาทุกทาง แล้วก็ใช้ทั้งความรู้ ใช้ความฉลาดสติปัญญาประสบการณ์ความสามารถในการแสวงหานั้น จนพบประสบกับความสำเร็จในการแสวงหาในทางโลก อย่างยากที่ใครจะเทียบเท่า จนเมื่อพบความสำเร็จเช่นนั้นแล้ว ฉันทสุภลิจฉวีก็คิดว่ามันคงยังจะมีการแสวงหาอะไรที่น่าสนใจยิ่งกว่านี้อีกบ้างกระมัง นี่รวมความว่า ในชื่อบุคคลที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้นะคะก็ล้วนแต่แสวงหากันทั้งนั้น
ทีนี้ถ้าเราจะมาลองดูว่าแล้วมีใครบ้างล่ะ ในบรรดาชื่อที่กล่าวมาแล้วนี่ ที่ประสบความสำเร็จ หรือบรรลุผลถึงจุดของความสัมฤทธิ์ผลในการแสวงหานั้น
เซเซ่ สัมฤทธิ์ผลไหมในการแสวงหาของตน ไม่สัมฤทธิ์ผล ถึงแม้ว่าเซเซ่จะได้รับความรักจากโปรตุก้า ยอมรับเป็นลูกและโปรตุก้าก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตให้ความรักอย่างอิ่มอย่างสมบูรณ์แก่เซเซ่เท่าที่เขาจะสามารถหาได้ แต่โปรตุก้าก็ไม่พ้นไปจากกฎธรรมดาของโลก โปรตุก้าไม่สามารถจะอยู่กับเซเซ่ได้ จนถึงวันสุดท้ายของลมหายใจพร้อมๆ กัน ที่จะสิ้นสุดลมหายใจพร้อมๆ กันบนผืนแผ่นดินนี้ โปรตุก้าหนีเซเซ่ไปก่อนตามกฎธรรมดาของโลก แล้วเซเซ่ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ก็มีชีวิตอยู่เหมือนผู้ที่ตายแล้ว เพราะฉะนั้นก็บอกได้ว่าถ้าหากว่าเรามีชีวิตอยู่เหมือนอย่างคนที่ตายแล้ว ก็คือคนที่ตายทั้งเป็น ก็หมายความว่าจิตใจนั้นมันแสนจะระทมขมขื่นจริงๆ มันก็หาเป็นความสัมฤทธิ์ผลหรือความสำเร็จ ในการที่จะแสวงหาเช่นนั้นไม่
ลำยองล่ะ ท่านผู้ชมก็ทราบแล้วอวสานของชีวิตของลำยองเป็นอย่างไร นั่นก็คือความล้มเหลวของการแสวงหา อาสา ทองแท้ คุณดิษ คุณรสสุคนธ์ที่เป็นพ่อและแม่ของกริมก็เช่นเดียวกัน ล้วนแล้วแต่ล้มเหลวเพราะจากการแสวงหานั้นจิตใจก็คงถูกแผดเผา หมกมุ่นอยู่ด้วยความระทมขมขื่นอยู่โดยตลอด
หรือแม้แต่ตัวกริมเอง ในตอนจบของเรื่องวิมานไม้ฉำฉา กริมก็ยังคงอยู่ในระยะของการแสวงหาต่อไป เพราะคำตอบที่กริมได้รับมันล้วนแล้วแต่คลุมเครือ แล้วก็มืดมัวไม่ชัดเจนเลยสักอย่างเดียว
คุณหญิงกีรติล่ะ การแสวงหาของคุณหญิงกีรติ ก็คือจบลงด้วยความตายที่ดูเหมือนกับว่าไพเราะเหลือเกินว่าฉันพอใจที่ฉันได้ตายอย่างชนิดที่ว่ามีคนที่ฉันรัก แม้จะไม่มีคนที่รักฉันก็ตามที มันเป็นคำพูดที่ไพเราะ ที่ว่ากันว่าเป็นอมตะแต่ก็ไม่ใช่เป็นคำพูดที่เรียกว่า เป็นการสนองต่อความสัมฤทธิ์ผลในการแสวงหา ดิฉันคิดว่าดิฉันจะสามารถจบการพูดเรื่องวรรณกรรมกับธรรมะ ในหัวข้อที่ว่าชีวิตคือการแสวงหาในคราวนี้ แต่เผอิญเวลาหมดเสียแล้ว จำเป็นที่เราจะต้องพูดเรื่องนี้ต่อกันไปอีกในคราวหน้านะคะ สำหรับวันนี้ธรรมสวัสดีค่ะ