แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ไฟล์ถอดเสียงนี้ยังไม่ได้ผ่านพิสูจน์อักษร นำขึ้นมาเพื่อช่วยในการศึกษาค้นคว้าของผู้สนใจ
คุณโยมพ่อโยมแม่ของ สามเณรภัทรวุธ ได้นัดมาพร้อมทั้งญาติมิตร มีคุณย่าและก็ลุงป้าน้าอาของสามเณรภัทรวุธ ได้ร่วมกันมาถวายภัตตาหาร ก็เป็นการมาเยี่ยมสามเณรด้วย วันนี้ก็เลยมีภัตตาหารมากมายอุดมสมบูรณ์ และโยมคุณหญิงพร้อมทั้งคณะยังมาถวายเพิ่มอีก ก็เป็นวันที่มีภัตตาหารอุดมสมบูรณ์มากวันหนึ่ง อันนี้การที่โยมมาถวายวันนี้ก็เป็นการมาเยี่ยมสามเณรที่เป็นลูกชายด้วย ซึ่งได้บวชในพระพุทธศาสนา การบวชอันนี้ก็เป็นประเพณีที่ต้องทำ มาเรียกกันว่าบวชเรียน ที่นี่ก็จัดให้บวชและก็ได้มีการเรียนเพื่อจะให้สมกับที่เราเรียกว่าประเพณีบวชเรียน คือบวชแล้วก็ให้ได้เล่าเรียนศึกษาวิชาความรู้ทางพระศาสนาด้วย ก็ถือกันมาแต่โบราณ ซึ่งไม่เฉพาะประเพณีเมืองไทยเท่านั้น มีมาแต่ก่อนตั้งแต่โน้น ตั้งแต่ พุทธกาล และก็ถือกันว่า โยมพ่อโยมแม่ที่บวชลูก ได้ชื่อว่าเป็นญาติพระศาสนา มีประวัติคือเรื่อพระเจ้าอโศกมหาราช พระเจ้าอโศกมหาราชนี้ทำบุญในพระศาสนามากมาย ได้สร้างวัดถึง 84,000 วัด เพราะพระเจ้าอโศกมหาราชนี่ มีพระราชอาณาจักรที่ใหญ่โตกว้างขวางที่สุด เมื่อทำบุญไปมากมายอย่างนั้นแล้ว คราวหนึ่งก็ได้ถามพระสงฆ์บอกว่า เนี่ยข้าพเจ้าก็ทำบุญมากมายอย่างนี้ จะได้เป็นญาติของพระพุทธเจ้าแล้วหรือยัง พระมหาเถระในตอนนั้นก็ตอบว่า ยัง พระองค์ก็ชักจะเสียใจ โอ้โห เราอุส่าห์ทำบุญไม่รู้หมดไปเท่าไหร่ ๆ ยังไม่ได้เป็นญาติพระศาสนา ก็เลยถามว่า แล้วจะทำยังไงได้เป็นญาติ พระมหาเถระก็ตอบว่า ถ้าได้บวชลูกบวชหลานก็ได้เป็นญาติพระศาสนา พระเจ้าอโศกมหาราชก็มีพระราชโอรสหลายองค์ องค์หนึ่งก็ชื่อ พระมหินทรเถระ และก็มีพระราชธิดาชื่อพระสังฆมิตตา และทั้งสององค์นี้ก็มีความเลื่อมใส ศรัทธาในพระศาสนา ก็เลยมีพระราชโอรสและพระราชธิดาเนี่ย สององค์มาบวชในพระพุทธศาสนา พระมหินทรเถระก็บวชเป็นพระภิกษุ หรือว่าเจ้าชายมหินทร บวชเป็นพระภิกษุ เจ้าหญิงสังฆมิตรา ก็บวชเป็นภิกษุณี และทั้งสองท่านนี่ก็เป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระศาสนา พระมหินทรเถระก็นำพระพุทธศาสนามายังประเทศลังกา ประดิษฐานพระพุทธศาสนาในประเทศนั้น และพระนางสังฆมิตาเถรีภิกษุณี ก็ได้ตั้งภิกษุณีสงฆ์ขึ้นในประเทศลังกา นำเอาต้นโพธิหน่อมาปลูกที่เมืองลังกาด้วย เป็นเครื่องหมายสัมพันธไมตรีระหว่างอินเดียหรือชมภูทวีปกับประเทศศรีลังกาสมัยนั้น และก็เป็นการทำเครื่องหมายของการที่ได้ทำให้พระพุทธศาสนาตั้งมั่นฝังรากลงในประเทศลังกา แต่วันนี้ที่เล่าก็เป็นเรื่องของการที่ได้เป็นญาติพระศาสนา การเป็นญาติก็คือการที่ได้ใกล้ชิดนั่นเอง การที่ได้มีความคุ้นเคย มีพุทธภาษิตบทหนึ่งบอกว่า วิสาสาปรมาญาติ เหล่าญาติทั้งหลายนั้น ถ้ามีความที่ได้คุ้นเคย สนิทใจกันเป็นอย่างยิ่ง หมายความว่า คนที่คุ้นเคย สนิทสนมวางใจกันได้ดีนั่นล่ะ คือเป็นญาติ ที่แท้จริง อันนี้ บุคคลที่ได้บวชลูกบวชหลานในพระศาสนา ก็ทำให้ได้ใกล้ชิดพระศาสนา พอบวชแล้วก็เป็นโอกาสที่จะทำให้ได้ไปมาที่วัดบ่อยขึ้น บางทีตัวไม่ได้ไปใจก็ไป ??? บางทีใจไปบ่อย ๆ ใจจะไปวันละหลายหน ใจก็ต้องไปวัดอยู่เรื่อย ก็ทำให้นึกถึงวัด นึกถึงพระ นึกถึงเรื่องทางพระศาสนา นึกถึงจะทำอะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องพระศาสนา อันนี้ที่เป็นเหตุให้เป็นญาติพระศาสนา เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องที่นิยมกัน บุคคลที่ได้ทำให้ลูกหลานได้บวชนี่ ตนเองก็ได้เป็นญาติ แต่ว่ามองในแง่ของลูกหลานที่บวช ก็ชื่อว่าได้ช่วยให้โยมนี้ได้เป็นญาติของพระศาสนา ได้เข้าใกล้ชิดกับพระศาสนาด้วย แต่ก็การที่จะให้ได้ผลดีก็อยู่ทีว่าตัวพระ ตัวเณร ที่บวชแล้วจะต้องตั้งใจประพฤติปฏิบัติดี เมื่อตั้งใจประพฤติปฏิบัติดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน อยู่ในหลักธรรมคำสอน รักษาศีล รักษาวินัยดี ก็จะทำให้ญาติโยมได้บุญมาก โดยเฉพาะโยมแม่ โยมพ่อโยมแม่ได้บุญตลอดเวลา ก็เห็นบุญชัด ๆ ล่ะ บุญก็คือ ทำให้จิตใจผ่องใส เบิกบาน สบายใจ มีความปีติอิ่มใจ เห็นลูกบวชแล้ว อยู่ในระเบียบวินัย เป็นพระ เณร ที่ดี ก็ปลื้มใจ ใจคอก็สบายผ่องใส มีความสุข การที่จิตใจผ่องใสมีความสุขนี่ล่ะ เป็นบุญตลอดเวลา เป็นบุญที่เห็นชัด ๆ และนอกจากบุญอย่างนี้แล้วก็บุญพลีใจ ที่ได้น้อมเข้ามาในทางธรรมะ ในสิ่งที่ดีงามต่าง ๆ ทำให้ความดี ความงามนี้ เจริญเพิ่มพูนขึ้น เรียกว่ามีบุญกุศลพัฒนาขึ้น เพราะฉะนั้น การที่โยมญาติมิตรได้มาบวชลูก บวชหลาน นี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม เป็นบุญเป็นกุศลแก่ตนเองด้วย แต่ก็ส่วนที่สำคัญ ก็คือตัวเณร ผู้ที่บวชแล้ว เมื่อได้ประพฤติปฏิบัติดี ได้ศึกษาเล่าเรียนหลักธรรม คำสอนพระพุทธเจ้า นำไปประพฤติปฏิบัติ เป็นแนวทางดำเนินชีวิตต่อไป อันนี้ก็จะเป็นทางของความเจริญก้าวหน้า ให้มีชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข ก็เป็นประโยชน์แก่ตัวผู้บวชเอง อันนั้น เป็นสิ่งที่เราปรารถนา เป็นสิ่งที่พึงประสงค์ จึงเรียกว่าการบวชเรียน เพราะฉะนั้นวันนี้อาตมาต้องขออนุโมทนา คณะโยมญาติมิตร มีคุณโยมพ่อ คุณโยมแม่ของสามเณรพัชรวุธ พร้อมทั้งญาติมิตรที่ได้มาถวายภัตตาหาร ซึ่งก็เป็นการปฏิบัติตามหลักการของพระศาสนา หรือตามประเพณี วัฒนธรรมของเราที่เป็นชาวไทย และก็เป็นพุทธศาสนิกชนพร้อมกันไปด้วย ก็ขอให้บุญกุศลนี้ได้เจริญงอกงาม ขอให้ทุกท่านได้มีจิตใจที่ร่าเริง เบิกบาน ผ่องใสก็โดยเฉพาะประจวบกับว่าตอนระยะนี้ก็จะเป็นช่วงสงกรานต์ ที่เราถือว่าก็เป็นปีใหม่ของไทยด้วย พรุ่งนี้ก็เป็นวันสงกรานต์แล้ว ถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงของสงกรานต์ทั้งหมด เมื่อถึงเวลาขึ้นปีใหม่ ก็ต้องทำจิตใจ ให้ร่าเริง เบิกบาน ผ่องใส ให้มีความสุข เป็นนิมิตหมายของความเป็นสิริมงคล มงคลนั้น แปลว่า สิ่งที่นำมาซึ่งความสุขความเจริญ แต่ว่าความสุขความเจริญนั้น จะเกิดขึ้นจากการกระทำของเราเอง การกระทำทางกาย ทางวาจา ทางใจ เริ่มจากคิดดี แล้วก็ออกมาเป็นวาจาพูดดี แล้วก็ออกทางกาย ก็ทำดีด้วยประการต่าง ๆ ถ้าเราพูดดี คิดดี ทำดีแล้ว มงคลก็เกิดขึ้น ความดี ความงาม ความสุข ความเจริญ ก็เกิดขึ้นทั้งแก่ตนเอง และแก่ชุมชน แก่ชีวิตสังคม ที่อยู่ร่วมกันทั้งหมด เพราะฉะนั้น อันนี้ก็ถือว่าโยมมานี้ ได้ทำบุญ ทำกุศล ปฏิบัติตามประเพณีอันดีงามแล้ว ก็ขอให้สงกรานต์ที่มาถึง หรือปีใหม่ที่มาถึงนี้ เป็นปี เป็นวันเวลาแห่งความสุข ความเจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้นไป ก็ขอถือโอกาสนี้ อาราธนาคุณพระรัตนตรัย อวยชัยให้พรแด่ทุกท่าน ระตะนัตตะยานุภาเวนะ ระตะนัตตะยะเตชะสา ด้วยเดชานุภาพคุณพระรัตนตรัย พร้อมทั้งบุญกุศล ที่ท่านทั้งหลาย ได้บำเพ็ญแล้วด้วยการบวชลูกบวชหลาน เป็นต้น และก็ด้วยการอนุโมทนา แม้ตนเองไม่ได้บวชลูก บวชหลาน ก็ได้บุญด้วยการอนุโมทนาด้วย ก็ขอบุญกุศลทั้งปวง จงเป็นปัจจัย อภิบาลรักษา ให้ทุกท่านเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย พรั่งพร้อมด้วยสิ่งที่เป็น สิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลทุกประการ จงมีความร่มเย็นเป็นสุข งอกงามในพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยทั่วกันทุกท่านตลอดกาลนาน เทอญ