แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ไฟล์ถอดเสียงนี้ยังไม่ได้ผ่านพิสูจน์อักษร นำขึ้นมาเพื่อช่วยในการศึกษาค้นคว้าของผู้สนใจ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ : นิมนต์ครับ
ผู้ถาม : เวลาชักจะหมด ผมขอกลับมาถามเรื่องนิพพานนะครับ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ : ครับ
ผู้ถาม : เรื่องแรกนี่คือความเป็นมาของคำว่านิพพาน เข้าใจว่าคำนี้มีมาก่อนพุทธกาลใช่ไหมครับ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ : ครับ
ผู้ถาม : นั่นข้อแรก ข้อที่สองคือนึกถึงเด็กวัยรุ่นอ่ะนะครับ ว่าอยากจะช่วยสอนวิธี ขอให้ท่านสอนวิธีอธิบายให้กับวัยรุ่น
ให้เข้าใจความหมายและคุณของนิพพานนะครับ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ : ครับ
ผู้ถาม : และสุดท้ายครับคือนิพพานมีจริงหรือเปล่า นี่คือเป็นคำถามที่พวกวัยรุ่นจะถามนะครับ ขอกราบให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อช่วยบอกเราหน่อยครับ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ : ก็นี้ที่จริงก็ตอบไปบ้างแล้วนะ เดี๋ยวคำถามท่อนแรกว่าไง เนี่ยผมสมองชักหวิวแล้วนะเนี่ย
ผู้ถาม : ความเป็นมาของคำว่านิพพานครับ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ : อ๋อ เอาเอาคำว่านิพพานก่อน คำว่า นิพพาน เนี่ยเป็นคำที่มีมาแต่เดิม คำศัพท์ในพุทธศาสนาก็ใช้ศัพท์ชาวบ้านมานั้นแหละ ศัพท์ชาวบ้านบ้าง ศัพท์ในศาสนาเดิมบ้าง ก็คือคนเขาพูดอะไรกันอยู่ พระพุทธเจ้าอุบัติในถิ่นนั้น ท่ามกลางสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมเป็นต้นอย่างงั้นพระองค์ก็ต้องทรงทราบ และพระองค์ก็ต้องใช้ไปตามเขา แต่ทีนี้เมื่อพระองค์ศึกษาไปก็รู้ว่าอะไรมันถูกอะไรมันผิด พระองค์ก็มองเห็นมีโยนิโสมนสิการด้วย เออสิ่งนี้มันปฏิบัติกันมามันไม่ถูกอย่างฆ่าสัตว์บูชายันต์เนี่ย พระองค์ก็ใช้ศัพท์ตามเขาแต่ว่าพระองค์ก็เห็นว่ามันไม่ถูกอะไรอย่างเงี้ย ทีนี้คำว่านิพพานก็เป็นศัพท์ที่เขาใช้กันอยู่แม้แต่ชาวบ้าน ชาวบ้านเค้าก็ใช้นิพพาน คือเป็นศัพท์ที่แสนจะดีวิเศษในยุคนั้น ต้องนึกว่าพระองค์นำเอาศัพท์ที่แสนดีที่มนุษย์สมัยนั้นชื่นชมที่สุดล่ะเอามาใช้ ทีนี้อย่างชาวบ้านเนี่ยเขาก็จะมีเช่นว่า อาหารตอนแรกก็ต้องต้มหุงข้าวอะไรเป็นต้น ต้มผักต้มแกงอะไรใช่ไหมบนเตามันก็ร้อนพอยกลงมาจากเตานี่ร้อนจัด กินไม่ได้ใช่ไหม พอมันเย็นลงก็นิพพาน เย็นลงเย็นลงก็สบายใช่ไหม นั่นเป็นรูปธรรมที่มาทางนามธรรม จิตใจนี่บางทีเจอปัญหาต่างๆ เจอคนในครอบครัว เจอคนข้างนอก เจอโจรขโมย เป็นกังวลใจเดือดร้อนเค้าจะมาเบียดเบียนทำอันตรายหรือเปล่าใช่ไหม เนี่ยจิตใจวุ่นวายอย่างเงี้ยนี่เรียกว่าแย่มากใช่ไหม นี้เกิดว่าโจรขโมยนั้นกลับใจหรือถูกจับไป คนที่จะทำร้ายไม่มีแล้วเรื่องราวที่เป็นปัญหาแก้เสร็จแล้ว นิพพานเลย สบายไหมครับ เนี่ยใจแหมหมดปัญหาดีที่สุดเลยใช่ไหม อย่างพ่อเห็นลูกประพฤติปฏิบัติดีแต่ก่อนนี้ติดแต่เกม เที่ยวอะไรต่ออะไร บริโภคอะไรต่ออะไร วุ่นวายเรียนการศึกษาไม่เอา แหมนี่พ่อแม่แย่จิตใจไม่ดีใช่ไหม อย่างนี้เรียกว่าห่างพระนิพพานเหลือเกิน จิตใจแย่มาก กลัดกลุ้ม เกิดมาวันหนึ่งเนี่ยลูกกลับตัวเป็นคนดีรู้ดีรู้ชั่วเลิกหมดเลยไอ้ที่เล่นเกกมะเหรกเกเร ไปติดเกมอะไรต่างๆ ชอบไปทะเลาะอะไรเข้าแก๊งอะไรเนี่ยๆ หรือแม้แต่ยาเสพติดเลิกหมดเลย หันมาตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเป็นลูกที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ แล้วคุณพ่อคุณแม่เห็นลูกเป็นอย่างนี้เป็นไงครับ นิพพานเลย ดีไหมครับ แหมใจไม่รู้จะพรรณายังไง เป็นความสุขไหม แต่เป็นความสุขชนิดที่มันไม่ใช่สุขธรรมดามันสุขชอบกลนะ พรรณาได้ไหมพรรณาได้ไหมครับความสุขแบบนี้ ท่านเห็นไหมความสุขแบบนี้เป็นความสุขแปลกๆนะแบบมันไม่ใช่เหมือนกับกินข้าวอร่อยใช่ไหม แล้วอย่างไหนดีกว่ากันน่ะ ระหว่างกินข้าวอร่อยกับนิพพานแบบเนี่ย นะที่ว่านิพพานดีกว่าแน่เนี่ยใช่ไหม ดีแสนดีเลยเนี่ยบอกไม่ถูกเลย เอาล่ะครับเนี่ยชาวบ้านเขาก็เรียกอย่างนี้ อย่างเจ้าหญิงคนหนึ่งมองลงมาจากหน้าต่างเห็นเจ้าชายสิทธัตถะกำลังเสด็จมาแล้วเจ้าหญิงองค์เนี่ยก็ตรัสอุทานขึ้นมา บอกว่าเนี่ยเจ้าชายสิทธัตถะเนี่ยเป็นลูกของใคร (นิพ พุท โต นู นะ โส ปิ ตา ) คุณพ่อหรือพระราชบิดาก็ต้องนิพพานแน่ แล้วก็เป็นแม่ก็นิพพาน เป็นสามีของผู้ใดภรรยาก็นิพพาน เข้าใจไหมฮะ คือใจหมดปัญหาเลยแสนสุขแสนวิเศษบอกไม่ถูก เนี่ยคือดีชนิดที่พรรณาไม่ถูกเนี่ยเรียกว่านิพพานแสนดีเลย เพราะฉะนั้นคำว่านิพพานเดิมเนี่ยเป็นคำที่พูดขึ้นมาแล้วคนเนี่ยแหมทราบซึ้งเหลือเกินน่ะ ใจจะเอาเลย ใจมาเลย โอ้ยพระพุทธเจ้าจะมาบอกวิธีที่จะทำให้บรรลุนิพพาน แหมเราก็หมดปัญหาเท่านั้นแหละใช่ไหม ทุกข์เทิกมั้นก็หมดน่ะสิ ใจเขารับแล้ว มันต่างกับสมัยนี้เยอะเพราะว่าความหมายของนิพพานมันเพี้ยนไปไกล กลายเป็นเรื่องตรงข้ามที่คนกลัวเลย กลัวไม่ปรารถนา หนึ่งก็กลัวอะไร หนึ่งก็กลัวที่ว่าสองก็ไกลใช่ไหมที่เคยพูดไปแล้ว หนึ่งกลัวโอ้เป็นความดับอะไรต่างๆ ดับไม่ได้เรื่องแล้วเราแย่แล้ว สองก็เป็นอะไรหนึ่งก็ดับ สองก็ไม่รู้จะถึงเมื่อไหร่ไกลเหลือเกินก็เลยแย่เลย นี้คนสมัยใหม่ในเมืองไทยก็มองนิพพานในความหมายที่เพี้ยนไป จิตมันก็ไม่รับสิ นั้นก็ต้องแก้ขนาดหนักไม่รู้มาเสียเมื่อไหร่ศัพท์ในพุทธศาสนานี่เพี้ยนหมด เนี่ยแม้กระทั่งศัพท์สูงสุดก็เลยเพี้ยนพอได้ยินนิพพานนี่กลัวเลย ดับ ดับดับกิเลส ดับความทุกข์ ดับความร้อนใจ ดับเรื่องไม่ดีอะไรต่างๆ แล้วไม่ดีหรือเนี่ย ดับความร้อนรุ้มกลุ้มใจดับทุกข์ได้ใช่ไหมฮะหมดปัญหาไปเลย เป็นพ่อแม่เห็นลูกดีก็หมดเรื่องไป ลูกโตขึ้นมาเห็นพ่อแม่มีปัญหาตัวก็ทุกข์เรื่องพ่อแม่ พอพ่อแม่หมดปัญหาเปลี่ยนเป็นดีอะไรต่ออะไรไป ลูกก็นิพพานเหมือนกันใช่ไหม สบายหมดเลย นิพพาน เป็นแสนสิ่งที่น่าปรารถนาที่สุด และก็เลยว่าทำตัวให้นิพพานก็เป็นผู้อิ่ม เพราะฉะนั้นนิพพานนี่ศัพท์ที่คล้ายชั้นท้ายพรรณาก็คืออิ่มเป็นผู้อิ่มและก็ศัพท์ทั้งหลายที่ดีๆ เอามาเป็นคำบรรยายนิพพานหมด เป็นบรมสุขสุขสูงสุด เป็นสันติเป็นความสงบ เป็นความเกษม เป็นSecurity ความปลอดภัยมั่นคง เป็นอิสระ (อิส สะ ริ ยะ) เป็นอิสรภาพ เป็นความหลุดพ้นเป็นอิสระ ไม่ต้องพึงพาต่อสิ่งใด ไม่รู้แหละอะไรที่ดีเนี่ยก็เอามาบรรยายนิพพานหมด เพราะว่าอะไรเพราะว่าคนที่ฟังนี่ ยังไม่ถึงสภาวะนี้ ก็เอาสภาวะที่เขาพอจะรู้จักเนี่ยเอามาให้เขาฟังแล้วเขาจะได้พอนึกได้ เนี่ยอย่างที่ว่าเรื่องภาษาก็อย่างเงี่ย เพราะฉะนั้นนิพพานนี่เป็นตัวอย่างสภาวะที่ว่าคนทั่วไปยังไม่ถึง ไม่ประจักษ์กับตนเอง ยังไม่(ฉัจ ฉิ กิ ริ ยา) ยังไม่ทำให้ประจักษ์แจ้งก็เลยต้องอาศัยภาษาเป็นสื่อนำเอาบัญญัติที่สมมติกันเนี่ยมาสื่อสารเพื่อช่วยให้ก้าวไปสู่ความเข้าใจ เหมือนอย่างที่ภาษาเซนเขาเทียบท่านคงเคยได้ยิน เหมือนกับมือ นิ้วชี้ไปที่พระจันทร์ ก็คือภาษาอะไรต่างๆเนี่ยก็มาช่วย คนนี้ยังไม่มองพระจันทร์สักที คนนั้นก็เออให้รู้จักให้ดูพระจันทร์เสียบ้างก็เอานิ้วชี้ไปที่พระจันทร์ เราก็มองตามนิ้วนิ้วนั้นก็เป็นสื่อให้เรามองพระจันทร์ แต่บางคนดูไม่เป็นไปดูอยู่แค่นิ้วซะนี่ แล้วไม่เห็นพระจันทร์จริงไหม นะก็เหมือนกับคนที่ติดในภาษา แทนที่จะพยายามเข้าใจตัวสภาวะที่ภาษาหรือบัญญัตินั้นสื่อ ก็กลับมาติดที่ตัวภาษาติดที่ตัวบัญญัติซะ เหมือนกับว่าไปติดที่นิ้วชี้ที่ชี้ไปที่พระจันทร์เลยไม่ได้เห็นพระจันทร์ ติดนิ้วที่ชี้พระจันทร์ เห็นแต่นิ้วที่ชี้พระจันทร์แต่หาเห็นพระจันทร์ไม่ เหมือนกับคนที่ติดในภาษาติดในบัญญัติก็ไม่เข้าถึงสภาวะ เอาล่ะครับก็เป็นอันว่าพอจะเข้าใจเรื่องนิพพานว่าดีแน่ๆ ท่านก็ไปคิดตัวอย่างเอาว่าอะไรที่ดีๆ อย่างเนี่ยแบบที่ว่าเนี่ย ดีเหลือเกินนะหนู ต้องถามเด็กว่า เธอมีเรื่องกลุ้มใจไม่สบายใจอะไรบ้างไหม มีไหมครับเด็กๆ เนี่ย มีแน่ถ้ามีนะครับ โอ้หนูอยากจะพ้นไปไหมจากปัญหาเนี่ย อยากจะพ้นนั่นแหละนิพพานถูกไหมฮะ ถ้าหนูได้อันนั้นเมื่อไรนั้นท่านเรียกว่านิพพาน แม้จะเป็นนิพพานในขั้นต้นก็สบายแสนดีแล้ว ถ้านิพพานที่เต็มที่น่ะ หนูจะไม่มีปัญหาอะไรอีกเลย แต่ว่านี้หมายความว่าหนูพัฒนาความสามารถที่จะแก้ปัญหาด้วย ต่อไปหนูเจอปัญหาอะไรเนี่ยหนูแก้ปัญหาได้หมด นั้นก็คือบรรลุนิพพาน ไม่ต้องมาทุกข์ไม่ต้องมาโศกมาเศร้าบีบคั้นจิตใจอีกเลย แล้วจะไม่ดียังไงอ่ะ แล้วนิพพานมีจริงมีไหม อ้าวก็หนูสบายใจมั้ยล่ะ พ้นปัญหามีบ้างมั้ย มีแสนวิเศษ พอจะได้มั้ยครับ เอาละครับ
ผู้ถาม : รู้สึกว่าเวลาจะหมดแล้วครับ
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ : เอ้าเวลาหมดนะ ก็โมทนา เพราะผมก็แย่แล้วเหมือนกัน ขออภัยบอกตรงๆ หวิวมาหลายตอนล่ะ เอาล่ะครับยังงั้นก็โมทนา