แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ไฟล์ถอดเสียงนี้ยังไม่ได้ผ่านพิสูจน์อักษร นำขึ้นมาเพื่อช่วยในการศึกษาค้นคว้าของผู้สนใจ
เจริญพร ขออนุโมทนา โยม
ขณะนี้โยมก็มานั่งอยู่ในบริเวณสวนไผ่ หรือที่เรียกชื่อเป็นทางการว่า สวนเวฬุวัน ในพุทธมณฑล
สวนเวฬุวันนี้ทางการได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ ถึงสวนในพุทธกาลที่มีชี่อเดียวกัน คือ วัดเวฬุวัน ตั้งอยู่ที่เขตเมืองราชคฤห์ อันเป็นเมืองหลวงของแคว้นมคธ เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้นก็นับว่าเป็นสถานที่สำคัญมาก พระพุทธเจ้ามาประทับจำพรรษาที่ ๒ เพราะว่าพรรษาแรกนั้น ได้เสด็จไปที่เมือง พาราณสี และได้ไปโปรดพระเบญจวัคคีย์ และก็ได้ปฐมสาวก
ณ ที่เมืองพาราณสีนั้น พระพุทธเจ้าได้ทรงส่งสาวกชุดแรกออกประกาศพระศาสนา ส่วนพระองค์เองนั้นก็ได้เดินทางมายังเมืองราชคฤห์นี้ ได้โปรดชฎิล และก็เข้ามาที่เมืองราชคฤห์ ได้โปรดพระเจ้าพิมพิสาร
พระเจ้าพิมพิสารก็เป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่นับถือพระพุทธศาสนา และพระพุทธเจ้าก็เสด็จเข้ามาประดิษฐานพระพุทธศาสนาที่เมืองราชคฤห์นี้ในแว่นแคว้นมคธ ก็ถือกันว่าแคว้นมคธนั้นเป็นดินแดนสำคัญ เป็นที่พระพุทธเจ้าประดิษฐานพระพุทธศาสนา และพระพุทธศาสนาก็ได้มีความเกี่ยวพันกับแคว้นมคธตลอดมา จนกระทั่งถึงสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
พระเจ้าอโศกมหาราชก็ถือว่าเป็นกษัตริย์ของแคว้นมคธได้เหมือนกัน เพราะครองอยู่ที่เมืองปาฏลีบุตร ซึ่งเป็นเมืองหลวงอีกแห่งหนึ่งของแคว้นมคธ เป็นเมืองหลวงในสมัยหลัง และพระเจ้าอโศกมหาราชนี้ก็ได้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาเป็นการใหญ่
นี่ย้อนกลับมากล่าวถึงเวฬุวัน เวฬุวันมีความสำคัญในพระพุทธศาสนามาก นอกจากเป็นที่พระพุทธเจ้าเสด็จจำพรรษา และก็ได้แสดงธรรมแล้ว ก็มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างที่กล่าวเมื่อกี้
ประการที่หนึ่งก็เป็นวัดแรกในพระพุทธศาสนา ชื่อเต็มนั้นเดิมเรียกว่า เวฬุวันกลันทกนิวาถะ หรือเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน แปลว่า สวนไผ่เป็นที่พระราชทานเหยื่อ???แก่กระแต แสดงว่า สวนไผ่หรือเวฬุวันเดิมในสมัยพุทธกาลนั้น คงจะมีกระแตชุมมาก เป็นพระราชอุทยานของพระเจ้าพิมพิสารมาแต่เดิม ถวายแก่พระพุทธเจ้า ส่วนเวฬุวันแห่งนี้ยังไม่ทราบว่าจะเริ่มมีกระแตรึยัง อันนี้ก็อาจจะยังเป็นลักษณะที่แปลกไป
นี้นอกจากความสำคัญที่เป็นวัดแห่งแรกแล้ว ก็ยังมีความสำคัญอีกประการหนึ่งในประวัติศาสตร์พุทธศาสนา คือเป็นที่ประชุมจาตุรงคสันนิบาต อันเป็นที่กำเนิดของวันมาฆบูชา โยมทุกท่านก็จำได้ถึงวันมาฆบูชา วันมาฆบูชาก็เกิดที่วัดแห่งนี้ ตามเรื่องว่า วันนั้นพระพุทธเจ้าตอนกลางวันเสด็จไปพักที่เขาคิชกูฏที่พระคันธกุฎี โยมก็ลองนึกออกนะ ก็อยู่ในเขตเมืองราชคฤห์เหมือนกัน แต่อยู่ห่างกัน คิชกูฏอยู่ที่ภูเขา เวฬุวันอยู่เป็นพื้นราบ พระพุทธเจ้าแสดงธรรมตอนบ่ายโปรดทีฆนขะปริพาชก และพระสารีบุตรก็นั่งฟัง พระสารีบุตรก็อยู่ที่ถ้ำพระสุกรขาตานะ ได้ฟังพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าแสดงแก่ทีฆนขะปริพาชก และพระสารีบุตรก็ได้บรรลุอรหัตถผลเป็นพระอรหันต์ นั่นล่ะวันเดียวกัน ตอนกลางวัน
พอตอนเย็น พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเขาคิชกูฏไปที่เวฬุวัน และที่เวฬุวันนั้น วันนั้นซึ่งเป็นวันเพ็ญเดือน ๓ พระอรหันตสาวกจำนวน ๑,๒๕๐ องค์ได้มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย เป็นโอกาสอันเหมาะ พระพุทธเจ้าก็เลยได้แสดงโอวาทปาติโมกข์ที่เป็นคำสอนหลักของพระพุทธศาสนา หรือหัวใจของพระพุทธศาสนา แก่พระสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ รูปนั้น ในท่ามกลางบรรยากาศที่มีพระจันทร์เต็มดวง แสงสดใส สีนวล
อันนี้ก็เป็นประวัติการณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับพระเวฬุวัน
วันนี้โยมก็ได้มานั่งในสถานที่นี้แล้ว ก็เลยขอเชิญน้อมใจ กลับไปรำลึกถึงพระพุทธเจ้าที่ได้แสดงธรรมในวันมาฆบูชานั้น แม้ว่าวันนี้จะไม่ใช่วันมาฆบูชานั้น แต่เราได้มาในสถานที่ที่ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงสถานที่อันสำคัญในทางพระพุทธศานาแห่งนั้น เมื่อน้อมจิตไปแล้ว จิตใจก็จะสะอาด ผ่องใส สงบ ได้ปีติ การที่ได้ปีติ มีความเอิบอิ่มใจ มีจิตใจสงบ มีความร่มเย็น ทั้งในทางใจ และก็ได้ความร่มรื่นของสถานที่เป็นทางกายด้วย ก็เป็นเครื่องนำมาซึ่งความสุข ความเจริญงอกงาม
พระพุทธเจ้าตรัสว่า การทำใจให้ผ่องใสได้ เมื่อมีจิตที่เป็นกุศลนั้น แม้ช่วงครู่ขณะเดียว ก็เป็นบุญอย่างมาก ก็เป็นเรื่องที่นำเข้าสู่ความงอกงามในพระธรรมคำสอนของพระองค์ยิ่งๆขึ้นไป
วันนี้อาตมาภาพก็ขออนุโมทนา โยมที่ได้อุปถัมภ์ ได้ให้โอกาสอาตมาภาพมาเยี่ยมสถานที่อันร่มรื่นอีกครั้งหนึ่ง และก็ขอโยมทุกท่านจงได้รับผลานิสงส์อันเป็นบุญเป็นกุศล เริ่มแต่ในจิตใจที่ผ่องใสปกตินี้??? และก็ได้เจริญงอกงามในพระธรรมของพระพุทธเจ้ายิ่งๆขึ้นไป โดยทั่วกัน ทุกท่านเทอญ