แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ไฟล์ถอดเสียงนี้ยังไม่ได้ผ่านพิสูจน์อักษร นำขึ้นมาเพื่อช่วยในการศึกษาค้นคว้าของผู้สนใจ
เจริญพรวันนี้อาตมาภาพก็ว่าจะพูดเรื่องปัญญาต่อ ปัญญานั้นเป็นเรื่องที่ กว้างขวางลึกซึ้งมาก มีหลายระดับด้วยกัน แล้วก็ใช้งานได้ทุกระดับด้วย ตั้งแต่กิจธุระสามัญประจำวัน ไปจนกระทั่งการปฎิบัติธรรม จนกระทั่ง บรรลุมรรคผล เป็นพระพุทธเจ้าก็เป็นได้ด้วยปัญญา เพราะคำว่าพุทธะ ก็แปลว่าผู้ตื่นแล้ว หมายถึงว่ามีปัญญา ตื่นจากโมหะ ตื่นจากความมืด หรืออย่างโพธิ เราก็หมายถึงปัญญาเหมือนกัน นี่ก็เป็นเรื่องของปัญญา ระดับต่างๆ มากมาย สำหรับวันนี้อาตมาภาพคิดว่า จะเล่าเรื่องแทรกเรื่องเบาๆ ให้เห็นว่าปัญญา ที่มาใช้ในระดับต้นๆ ในกิจธุระธรรมดา แม้กระทั่งในการแข่งขันต่อสู้ ชิงไหวชิงพริบกันน่ะ เป็นอย่างไร จะได้เอามาเทียบจนทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องปัญญาโดยทั่วๆไป สำหรับเรื่องที่จะเล่าแทรกในวันนี้ก็เอามาจากเรื่องชาดก ท่านเล่าให้ฟังไว้ว่า นานมาแล้วก็มีคนสวนของพระราชาองค์หนึ่งก็รักษาราชอุทธยาน วันหนึ่งมีงานนัตขัตตฤกษ์ แกก็อยากจะไปเที่ยวเล่นบ้าง แต่แกจะละทิ้งสวนไป ไม่มีคนดูแลก็ไม่ได้ แกก็นึกขึ้นมาว่า ในสวนของเรานี่ก็มีลิงอยู่ฝูงหนึ่ง ในระหว่างที่เราไม่อยู่นี่ก็จะมอบภาระเรื่องการดูแลสวนให้ลิงช่วยจัดการ การดูแลในที่นี้ก็ไม่มีอะไรมากเพียงแต่ว่าให้รดน้ำต้นไม้เท่านั้นเอง ก็เลยเรียก ลิงจ่าฝูงมา แล้วก็บอกว่านี่นะ เธอทั้งหลายพวกบรรดาฝูงลิงนี่ก็ได้อาศัยสวนนี้ กินอยู่สบายมานานแล้ว นี่ฉันจะให้ช่วยภาระดูแลสวนสักวันหนึ่งได้มั๊ย ฉันจะเข้าไปธุระในเมืองไปดูการละเล่น ช่วยรดน้ำให้ที พาฝูงลิงทั้งหมดนี่ เอาน้ำมารดน้ำต้นไม้ในสวน ลิงจ่าฝูงก็บอกว่าได้สิ นายคนเฝ้าสวนนั้นก็เลย ไปจัดการเอาพวกกระป๋อง ถังน้ำมารวบรวมไว้ให้ พอสั่งการเรียบร้อยดีแล้ว คนเฝ้าสวนของพระเจ้าแผ่นดินก็ไปเที่ยวเล่นในเมือง ฝ่ายจ่าฝูงลิง ถึงเวลาที่จะรดน้ำต้นไม้ ก็บอกแก่พวกลูกน้องลิงทั้งหลาย บอกว่านี่พวกเรา ช่วยกันเอาถังน้ำเหล่านี้ ไปตักน้ำในสระในแม่น้ำนั่นมารดน้ำต้นไม้ บรรดาลิงทั้งหลายก็พากันฉวยเอาถังน้ำกระป๋องน้ำ แล้วก็จะเริ่มไปตักน้ำ มารดต้นไม้ตามคำสั่ง แต่แล้วจ่าฝูงลิงก็บอกว่าหยุดๆๆ หยุดก่อนๆ เดี๋ยว พวกเราต้องใช้น้ำอย่างประหยัด เราจะทำยังไงจึงจะใช้น้ำอย่างประหยัด เราก็ต้องดูว่าต้นไม้ต้นไหนต้องการน้ำมากน้ำน้อย แล้วรดให้พอดี ต้นไหนต้องการน้ำมากเราก็รดน้ำมาก ต้นไหนต้องการน้ำน้อยก็รดน้ำน้อย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้นไหนต้องการน้ำมากต้นไหนต้องการน้ำน้อย ก็ต้องรู้ว่าต้นไหนรากยาวต้นไหนรากสั้น ต้นไหนรากยาวก็ต้องการน้ำมาก ต้นไหนรากสั้นก็ต้องการน้ำน้อย เพราะฉะนั้นเรามาแบ่งงานกันนะ คือลิง ๒ ตัว ตัวหนึ่งก็คอยดูรากต้นไม้ ตัวหนึ่งก็ไปเอาน้ำมารด ว่าแล้วก็ให้ลิงไปแบ่งงานกัน เป็นคู่ๆ ลิงลังทั้งหลายก็ทำตาม ลิงตัวหนึ่งก็รออยู่ที่ต้นไม้ ลิงอีกตัวก็ไปตักน้ำมา พอจะรดลิงตัวที่อยู่ที่ต้นไม้ก็ถอนต้นไม้ขึ้นมาดูราก บอกต้นนี้รากยาว แล้วก็ใส่ลงไป ลิงอีกตัวก็รดน้ำมาก แล้วก็ไปถอนต้นอื่นดู เอ้าว่าต้นนี้รากสั้น อันนั้นก็รดน้ำน้อย ก็ทำอย่างนี้จนกระทั่งหมดสวน ปรากฎว่า ต้นไม้ในพระราชอุทธยานตายหมด นี้ก็เป็นเรื่องของปัญญาลิง แสดงว่าลิงตัวนี้มีปัญญามากแต่ปัญญาไม่พอดี จะว่าปัญญาเกินไป หรือจะยังไงก็ไม่ทราบ จะเห็นว่ามันฉลาดนะ มันก็เข้าใจคิดอ่ะ รู้จักคิดว่าต้นไม้นี่ต้นไหนจะต้องมีกินน้ำมากน้ำน้อย จะต้องการน้ำไม่เท่ากัน รากยาวรากสั้นอะไรนี่ ก็คิดเป็นเหตุเป็นผล แต่เหตุผลของลิงนี่มันยังไงก็ไม่รู้ มันไม่พอดีมันกลายเป็นโทษ ก็เลยมีพุทธภาษิตบอกว่า คนฉลาดไม่เข้าเรื่อง หรือ ฉลาดไม่เป็นเรื่อง ไม่ทำให้เกิดความสุข คือทำให้เกิดโทษ เกิดความเสียหาย อันนี้ก็เป็นเรื่องของการใช้ปัญญา เพราะฉะนั้นการใช้ปัญญาก็มีคติว่า จะต้องระมัดระวังเหมือนกัน อาจจะมีความผิดพลาด โดยเข้าใจว่าเรานี่ได้ใช้ปัญญา หรือเรามีปัญญามากแล้ว เชาวน์ปัญญาของเรานั้นมันอาจจะมีจุดบกพร่อง แง่ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เเกิดโทษ เกิดความเสียหายขึ้นมามากมาย นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่ง ทีนี้ก็ขอเล่าอีกเรื่องหนึ่ง อันนี้ก็เป็นเรื่องลิงเหมือนกัน ลิงนี่ฉลาดมีชื่อมากในบรรดาสัตว์ทั้งหลายว่าฉลาด นี้ดูว่าลิงอีกตัวนี่จะทำให้ เกิดเรื่องเสียหายหรือไม่ ก็มีเรื่องในชาดกอีกแหละ เล่าว่า ที่แม่น้ำสายหนึ่ง ก็มีจรเข้ ทีนี้จรเข้ตัวหนึ่ง ตอนนั้นจรเข้ตัวเมียเกิดแพ้ท้อง ก็บอกจรเข้ตัวผัว บอกว่าฉันแพ้ท้องอยากจะกินหัวใจลิง จรเข้ตัวผัวก็คิด เอจะทำยังไง เราจะต้องหาทางที่จะมาช่วยให้จรเข้ตัวเมียนี่ได้กินหัวใจลิง ก็คิดอุบายขึ้นมา พอคิดอุบายได้แล้วก็โผล่ขึ้นมาไปเข้าไปที่ริมตลิ่ง แล้วก็ไปคุยกับลิงตัวหนึ่ง บังเอิญไปเจอลิงตัวที่ฉลาด จรเข้ก็ทักทายลิงบอกว่านี่ท่านอยู่ที่นี่คงสบายดีนะ หากินได้ดีมั๊ย ลิงก็บอกว่า แหมต้นไม้แถวนี้มัน ลิงมันมาก แย่งกันกินน่ะ ผลไม้มันเหลือน้อย รู้สึกจะขาดแคลนมากสักหน่อย หายาก จรเข้บอกว่า นี่นะข้าพเจ้านี่เที่ยวไปในน่านน้ำนี่เดี๋ยวจะมาฝั่งนี้ เดี๋ยวก็ไปฝั่งโน้น ข้าพเจ้าได้เห็นที่ฝั่งโน้นฝั่งตรงข้ามน่ะ ต้นไม้มีผลไม้ดกเหลือเกิน ถ้าท่านไปอยู่นั่นคงจะอุดมสมบูรณ์ ก็พูดจนกระทั่งลิงอยากจะไป ลิงก็บอกว่าเอ อยากจะไปแต่ฉันไปไม่ได้ มันมีแม่น้ำกั้นอยู่ จะไปยังไง จรเข้บอกว่าไม่เป็นไร หากท่านอยากจะไปจริงๆ ข้าพเจ้าจะอาสาช่วย ให้ท่านขี่หลังไปเถอะ ข้าพเจ้าจะว่ายพาไปขึ้นฝั่งโน้น ลิงก็ตกลง ก็เลยจรเข้ก็เข้ามาที่ฝั่ง แล้วก็ให้ลิงขึ้นหลัง จรเข้ก็ว่ายน้ำไปจนกระทั่งถึงกลางแม่น้ำ พอเห็นว่าถึงกลางแม่น้ำแล้ว จรเข้ก็มั่นใจว่าคราวนี้ได้กินหัวใจลิงแน่ จะเอาหัวใจลิงให้เมียของตนกิน ก็เลยเยาะเย้ยลิงขึ้นมาบอก นี่ท่านเสียรู้เราแล้วรู้มั๊ย เราจะเอาหัวใจของท่านไปให้เมียกิน ลิงก็ตกใจบอกว่า เอ๊ะทำไมล่ะ ทำไมไม่พาข้าพเจ้าไปฝั่งโน้น บอกว่าเราไม่ได้ต้องการพาท่าน ไปหรอก เราต้องการจะฆ่าท่านเอาหัวใจ ลิงก็ตกใจมาก กลัวมากก็จริง แต่ว่าเพราะมีปัญญา เลยคิดอุบายซ้อนขึ้นมาในบัดนั้น บอกเดี๋ยวก่อนๆท่าน นี่ท่านจะพาข้าพเจ้ามาโดยความเข้าใจผิด เข้าใจผิดโดยใช่เหตุ ข้าพเจ้าลิงนี่ ข้าพเจ้าไม่ได้เอาหัวใจติดมาด้วยหรอก เวลาข้าพเจ้าจะมาอย่างนี้ ข้าพเจ้าเอาหัวใจออกไปไว้เก็บไว้ที่อื่นแล้ว จรเข้ก็เลยสงสัยก็ถามไปว่า ท่านเอาไปไว้ที่ไหนล่ะ ลิงก็ชี้กลับไปที่ฝั่งเดิมนั้น ชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง มีผลไม้สีแดงๆ ก็บอกว่านั่นแหละหัวใจข้าพเจ้า แขวนอยู่ที่ต้นไม้นั่นเห็นมั๊ย จรเข้ก็โง่ ก็เชื่ออีก บอกเอแล้วไม่รู้จะทำยังไง มีทางจะได้กินหัวใจลิงมั๊ย ก็บอกว่าแกต้องเอาหัวใจลิงมาให้ข้านะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าตาย ลิงก็บอกว่าเอาข้าพเจ้าสัญญาว่าจะเอามาให้ งั้นก็ทำไง ก็ต้องพาข้าพเจ้ากลับไปที่ฝั่งเดิม แล้วเราจะขึ้นไปเอาหัวใจมาให้ จรเข้ก็คาดคั้นบอกว่าต้องไปเอามานะ ไม่งั้นจะฆ่าให้ตาย ลิงก็รับปากรับคำดี จรเข้ก็หันหัวกลับก็ว่ายน้ำมาเข้าฝั่ง พอเข้าฝั่งเรียบร้อยแล้วก็พอเอาหัวเกยตื้น ลิงก็กระโดดขึ้นหัวจรเข้ข้ามขึ้นฝั่ง แล้วก็ขึ้นต้นไม้ไปเลย พอขึ้นต้นไม้ไป แล้วก็ไปขย่มต้นไม้ แล้วก็ร้องเยาะเย้ยจรเข้ จรเข้หน้าโง่แกเสียรู้ข้าแล้ว ข้าเอาหัวใจไว้ที่ต้นไม้มีที่ไหน แกก็อดกินข้า จรเข้ก็ไม่รู้จะทำไงเสียรู้เค้าแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะขึ้นไปจับลิงได้ ผลที่สุดก็เลยดำน้ำหายไป อันนี้เรื่องก็จบ อันนี้ก็เป็นการใช้เรื่องปัญญา เป็นปัญญาในระดับของจิต??? ธรรมดาสามัญ แม้แต่กระทั่งเรื่องของกิเลสที่มาต่อสู้สิ่ง???สิ่ง??? แต่ว่าเอามาเล่าไว้ ให้เห็นเรื่องปัญญาในแง่ต่างๆ ซึ่งพระพุทธเจ้าเอามาตรัสไว้ในชาดก ก็เพื่อเป็นการสอนคติธรรม เป็นเรื่องของการใช้ปัญญาก็จริง แต่ว่าก็มีคติธรรมอื่นๆ อย่างเรื่องแรก ก็คือเรื่องที่ว่าการใช้ปัญญาไม่ถูกเรื่อง หรือฉลาดไม่เป็นเรื่อง ไม่เข้าเรื่อง ก็ทำให้เกิดโทษได้ ส่วนเรื่องที่สองนั้น ก็เป็นเรื่องของจรเข้ที่ต้องการจะทำความทุกข์ ความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น แล้วใช้อุบายหลอกลวงเขา คนที่ลวงเขาก็อาจจะถูกเขาลวงตอบแทนได้ แล้วก็กลับได้รับความทุกข์แสนสาหัสเหมือนอย่างจรเข้ตัวนี้ แล้วก็คนที่รู้จักใช้ปัญญาก็แก้ไขสถานการณ์ ทำให้หมดปัญหา ทำให้ตัวเอง รอดพ้นจากความทุกข์ไปได้เหมือนอย่างลิงในเรื่องที่สองนั้น
วันนี้อาตมาภาพก็เอาเรื่องเบาๆ มาเล่าให้โยมฟัง ก็จะค่อยๆเล่า เรื่องปัญญาที่อาจจะลึกซึ้งขึ้นไปตามลำดับเท่าที่มีโอกาส ให้เห็นปัญญา ในระดับต่างๆ หลายระดับ สำหรับวันนี้ก็ได้ทั้งเรื่องปัญญาด้วย แล้วก็คติธรรม ที่แฝงมาต่อเนื่องในชาดกนั้น ก็ขออนุโมทนาโยมเพียงเท่านี้เจริญพร ฯ