แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
นะมัตถุ ระตะนัตตะยัสสะ
ขอถวายความนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขอความผาสุกความเจริญในธรรม
จงมีแก่ญาติสัมมาปฏิบัติธรรมทั้งหลาย
โอกาสนี้ไปก็จะได้ปรารภธรรมะ
ตามหลักคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เพื่อส่งเสริมศรัทธาปสาทะความเชื่อความเลื่อมใส
ให้เกิดสัมมาทิฏฐิความเห็นชอบ
ความเห็นชอบเป็นอย่างไร
ความเห็นผิดเป็นอย่างไร
ถ้าถามว่าการให้ทาน การบริจาคทาน
การให้ทาน การบริจาคทานมีผลหรือไม่
เวลาบริจาคทาน ทำบุญใส่บาตร ให้ทาน
เสียสละทรัพย์ไป มีผลหรือไม่มีผล
เป็นการให้ไปแบบเสียเปล่าไม่มีผลเกิดขึ้น
หรือว่ามีผล
ตามความเห็นความรู้สึกของท่านทั้งหลาย
วัดใจตัวเอง ว่าการให้ทานมีผล หรือไม่มีผล
ผลก็หมายถึงว่า ส่งผลให้เป็นความสุข
ส่งผลให้เป็นผู้สมบูรณ์ในทรัพย์
ถ้าให้ทานไปแล้ว ไม่มีผล
ความเห็นว่าให้ทาน ไม่มีผล จัดเป็นมิจฉาทิฏฐิ
คำว่ามิจฉาทิฏฐินั้นหมายความว่าอย่างไร
ทิฏฐิแปลว่าความเห็น
มิจฉาทิฏฐิความเห็นผิด สัมมาทิฏฐิความเห็นถูก
การให้ทานนั้นมีผล
เมื่อใจเรามีความเห็นว่าการให้ทานมีผล
ชื่อว่าเรามีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นถูก
ถ้ามีความเห็นว่าให้ทานไม่มีผล สูญเปล่า เสียเปล่า
เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็นความเห็นผิด
อันนี้ตามหลักในพุทธศาสนา
ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า นี้ข้อที่หนึ่ง
ข้อที่สอง การบูชา
การบูชามีผลหรือไม่มีผล วันนี้ได้มีการบูชาบ้างไหม
ทำวัตรสวดมนต์ การกราบไหว้สักการะบูชา
บางทีก็มีดอกไม้ ธูปเทียน ของหอม
หรือว่าเปล่งวาจากล่าวคำบูชา มีจิตใจนอบน้อมบูชา
การบูชามีผล หมายถึงว่าผลเป็นบุญ
ให้ผลเป็นความสุข หรือไม่มีผล
ความเห็นของโยมคิดว่ามีผล หรือไม่มีผล
ถ้าใครเห็นว่าไม่มีผล ก็เป็นความเห็นผิด
เรียกว่ามิจฉาทิฏฐิ
ถ้าเห็นว่ามีผล เป็นสัมมาทิฏฐิเป็นความเห็นถูก
การเซ่นสรวงมีผล หรือไม่มีผล
การทำดีได้ดี การทำชั่วได้ชั่ว
ถ้าเห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
เป็นความเห็นถูก เป็นสัมมาทิฏฐิ
ถ้าเห็นว่าการทำดีก็ไม่ได้ดี ทำชั่วก็ไม่ได้ชั่ว
ก็เป็นความเห็นผิด
คุณบิดามีหรือไม่มี บิดามารดามีคุณไหม
ถ้าเห็นว่าไม่มีคุณอะไร
บิดามารดาแค่สมสู่ก็ทำให้เราเกิดมา
ลูกบางคนต่อว่าพ่อแม่ ทวงบุญคุณพ่อแม่
ต่อว่า ทำไมทำให้ฉันเกิดมาไม่ได้ดีเหมือนคนอื่น
โทษอีก แล้วมาเกิดทำไมกับพ่อแม่คนนี้
เชิญให้มาเกิดเมื่อไร มาเองทั้งนั้นใช่ไหม
ตัวเองมาเอง ก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย
เป็นไปตามกฎแห่งกรรม
ทำไว้อย่างไรก็ต้องได้อย่างนั้น
พ่อแม่ให้กำเนิด พ่อแม่ให้การเลี้ยงดู มองไม่เห็นคุณ
แต่ที่จริงแล้วมีคุณ พ่อแม่มีคุณ
ใครมีความเห็นอย่างนี้ ถือว่าเป็นความเห็นถูก
เป็นสัมมาทิฏฐิ
ถ้าเห็นพ่อแม่ไม่มีคุณ ก็เป็นความเห็นผิด
โลกนี้มี โลกหน้ามี หมายถึงมีภพชาติ
มีการเวียนว่ายตายเกิด เห็นด้วยไหม
ถ้าไม่เห็น ตายแล้วก็สูญ ที่เกิดมาก็ไม่มีอะไร
ตายแล้วก็สูญไป เป็นความเห็นผิด
โลกนี้มี โลกหน้ามี
สัตว์ที่เป็นโอปปาติกะ มีหรือไม่มี
พวกเทวดา มาร พรหม สัตว์นรก เปรต
นรก สวรรค์ เทวดา โอปปาติกะ มีหรือไม่มี
ถ้ามีความเห็นว่ามี เป็นความเห็นถูก
ถ้าเห็นว่าไม่มี ก็เป็นความเห็นผิด
สมณพราหมณ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ รู้แจ้งด้วยตนเอง
สั่งสอนให้ผู้อื่นได้รู้แจ้งได้ด้วย มีหรือไม่มี
อย่างเช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริงไหม มีหรือไม่มี
ถ้าปฏิเสธเป็นความเห็นผิด
ถ้าเห็นว่ามี เป็นความเห็นถูก
มีความเห็น การฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์
ประพฤติผิดในกาม ทางเพศเหล่านี้
เป็นบาป หรือไม่เป็นบาป
เป็นผล ส่งผลเป็นความทุกข์ได้ไหม
ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เห็นไหมว่าเป็นบาป
ถ้าเห็นว่าเป็นบาป นี่เป็นความเห็นถูก
เห็นบาปเป็นบาป
การให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เป็นบุญ
เห็นบุญเป็นบุญ เป็นสัมมาทิฏฐิ
การที่บุคคลประสบความทุกข์
ต้องบาดเจ็บ อุบัติเหตุ สูญเสียชีวิต
หรือว่าสูญเสียทรัพย์ ทรัพย์วิบัติไปด้วยถูกโกง
ถูกภัยพิบัติธรรมชาติ
เป็นผลของบาปจริงหรือไม่ หรือว่า มันเป็นบังเอิญ
บังเอิญนั่งรถคันนั้นไปก็เลยรถไปชนตาย
หรือว่าเป็นผลของบาป เป็นกฎแห่งกรรมใช่หรือไม่
หรือเป็นความบังเอิญ
ทำไมเดินไปตรงนั้น กิ่งไม้ร่วงมาใส่หัวตาย
บังเอิญหรือเปล่า ที่เดินไปตรงนั้น
ถ้าถามว่าทำไมบังเอิญ
คนอื่นไม่ยอมเดินไปโดนตรงนั้น
ทำไมคนนั้นเดินไปพอดี
เขาวางระเบิดไว้ที่พระพรหมเอราวัณเมื่อปีไหน
มีคนตาย คนไปไหว้บินมาจากประเทศจีนบ้าง
ไปไหว้พอดี ระเบิดตาย บังเอิญไหม
บังเอิญบินมาวันนั้นไปไหว้วันนั้น
แล้วทำไมจึงบังเอิญ
นี่คือกฎแห่งกรรม มันเป็นกฎแห่งกรรม
กรรมมันบันดาล
ถึงเวลาจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนั้น
กรรมก็จะต้องบันดาลให้ไปอย่างนั้น เป็นอย่างนั้น
มีไหมบางคนไม่ยอมไปไหน นอนอยู่ในบ้าน
วันดีคืนดีก็มีอะไรร่วงมา หลังคาทับตาย มีไหม
หล่นมาจากเครื่องบินบ้าง
บางทีสิบล้อวิ่งพรวดเข้าไปเกยถึงที่นอน มีไหม ตาย
กำลังขายของอยู่ในร้าน รถพุ่งเข้ามาในร้าน
กฎแห่งกรรม นี่คือกฎแห่งกรรม
ถึงเวลาจะต้องรับผลกรรม
ต่อให้อยู่ที่ไหน หลบไปในถ้ำ
หลบไปบนอากาศ หลบไปในน้ำ
ถ้ากรรมถึงเวลาให้ผล ตายหมด
มีผู้หนึ่งที่พระพุทธเจ้าพยากรณ์ว่าจะถูกแผ่นดินสูบ
แล้วก็ไม่ยอมลงแผ่นดิน ดูซิว่าจะดูดได้อย่างไร
จะสูบได้อย่างไรถ้าไม่ลงแผ่นดินเสียอย่าง
เคยได้ยินไหมเรื่องนี้
พระเจ้าสุปปพุทธะเป็นอะไรกับพระพุทธเจ้า
สุปปพุทธะนี่ถ้าพูดตามประสาชาวบ้าน
ก็เหมือนเป็นพ่อตา
พระเจ้าสุปปพุทธะเป็นพระราชบิดาของพระนางพิมพา
แล้วก็พระเทวทัตก็เป็นโอรส
ที่เราไปดูหนังมหาศาสดา เรื่องบางเรื่องก็คลาดเคลื่อน
ที่จริงพระเทวทัตเป็นพี่พระนางพิมพา
เป็นโอรสของพระเจ้าสุปปพุทธะ
แล้วพระเจ้าสุปปพุทธะพ่อตา
ก็มักจะดื่มสุรา ดื่มน้ำจัณฑ์เมา
โกรธพระพุทธเจ้าเรื่องอะไร
โกรธตรงที่ว่าหนีออกไปบวช
ทิ้งลูกสาวตัวเองเป็นหม้าย โกรธ
ว่าพระพุทธองค์ไปออกบวชแล้ว
ทำให้ลูกสาวเป็นหม้ายอยู่วัง
ยังไม่พอ ลูกชายคือพระเทวทัตมาออกบวช
แล้วก็ถูกแผ่นดินสูบ
ไม่ได้คิดว่าพระเทวทัตทำชั่วทำไม่ดี
คิดร้ายต่อพระพุทธองค์หลายอย่าง
เอาหินกลิ้งบ้าง ให้คนปล่อยช้างนาฬาคิรี
เพื่อจะมาทำร้ายพระองค์บ้าง
ให้นายขมังธนูเอาธนูมายิง
คิดร้ายต่อพระพุทธองค์มาหลายอย่าง
แต่ว่าก็ทำอันตรายพระพุทธองค์ไม่ได้
ตอนหลังก็ยุให้สงฆ์แตกจากกัน ทำสังฆเภท
แผ่นดินสูบ
พระเจ้าสุปปพุทธะก็เลยโกรธ
วันหนึ่ง ขณะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์จะเสด็จไปแสดงธรรม
เสด็จไปโปรด
พระเจ้าสุปปพุทธะก็ไปขวาง
เอาทหารไปขวางทางไม่ให้ไป
บาปเยอะไหม
พระพุทธเจ้าเสด็จไปที่ไหน
ยังประโยชน์และความสุขให้เกิดที่นั่น
ทำให้คนได้ดวงตาเห็นธรรม
ได้บรรลุธรรมมากมายทั้งมนุษย์ทั้งเทวดา
ไปขวางทาง ขวางพระพุทธเจ้า บาปขนาดไหน
พระพุทธเจ้าได้ตรัสกับภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย
ก็พูดให้สุปปพุทธะได้ยินด้วยว่า
การกระทำอย่างนี้เป็นบาปหนัก
แผ่นดินจะสูบภายในเจ็ดวัน
ไม่ใช่พระองค์แช่ง พระองค์รู้
รู้กฎแห่งกรรมว่าทำอย่างนี้
กรรมอย่างนี้ แผ่นดินรองรับไม่ไหว
จะถูกสูบลงสู่อเวจีในเจ็ดวัน
พระเจ้าสุปปพุทธะปรบมือหัวเราะร่าเลย
เดี๋ยวจะทำให้พระพุทธเจ้าเสียหน้า เสียคำพยากรณ์
เราไม่ลงดินเสียอย่าง มันจะสูบได้อย่างไร
ขึ้นไปอยู่บนปราสาทชั้นที่เจ็ด
ภายในเจ็ดวันเราจะไม่ลงดิน
ดูซิมันจะสูบได้อย่างไร เราไม่ลงเสียอย่าง
ให้ทหารถอดบันไดด้วย ทุกชั้นเลย ถอดบันได
แล้วรับสั่งเลยว่า อย่าให้เราลงไป
ช่วยป้องกันอย่าให้เราลงไป ถอดบันไดเลย
แล้วทหารเฝ้าทุกชั้น
อยู่มาวันที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร
จนวันที่เจ็ดม้าอัสดร ม้าตัวโปรด
ของพระเจ้าสุปปพุทธะมันร้องขึ้น
ซึ่งม้าตัวนี้ไม่มีใครจับได้ เวลามันร้องพยศ
นอกจากพระเจ้าสุปปพุทธะเท่านั้นที่จะจับมันได้
คนอื่นจับไม่ได้เลย
เสียงม้ามันร้องขึ้นไป ดังขึ้นไปบนปราสาทชั้นที่เจ็ด
พระเจ้าสุปปพุทธะลืมตัวเลย
ได้ยินเสียงม้า ลืมตัวว่าเราจะไม่ลงแผ่นดิน
รู้ว่าใครจับไม่ได้เลยม้าตัวนี้ ต้องเราเท่านั้น
ก็รีบลงจากปราสาท
ทหาร ใครจะไปกล้าขัดคำสั่ง
พระราชาจะเสด็จลง กลัวหัวขาด
ทหารก็เอาบันไดพาด พระองค์ก็เสด็จลง ลง ลงมา
ทหารดูแลบันไดเจ็ดชั้น พระราชาจะลงใครจะไปขวาง
ก็เอาบันไดพาดลง ลง
พอมาถึงแผ่นดิน แผ่นดินก็แยกลง สูบ ลงสู่อเวจี
เพราะฉะนั้น ถ้ากรรมมันจะส่งผล
ต่อให้ไปอยู่ที่ไหน ถึงเวลามันหนีไม่พ้น
การที่บุคคลประสบความทุกข์ความเดือดร้อน
เกิดมาถูกโกงมีไหม ถูกแกล้ง
ถูกใส่ร้าย ถูกกล่าวหา มีไหม
นี้คืออะไร วิบากกรรม
นี่คือผลของบาปที่ตนเองทำไว้ในอดีต มันตามมาทวง
ทำไว้อย่างไร มันจะมาส่งผลอย่างนั้น
ทำไมอายุสั้นพลันตาย
ทำไมโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนมาก
เป็นวิบากกรรมอะไร
เรื่องนี้มีผู้ถามพระพุทธเจ้า
คือคราวหนึ่งพระพุทธองค์ไปบิณฑบาต
ผ่านหน้าบ้านของสุภมานพ
สุนัขตัวโปรดตัวนั้น สุภมาณพไม่อยู่บ้าน
พระพุทธเจ้าเสด็จไปบิณฑบาตผ่านหน้าบ้าน
สุนัขตัวนี้มันก็ออกมาเห่า ออกมาเห่าพระพุทธเจ้า
พระองค์ก็ได้ตรัสเรียกสุนัขว่าโตเทยยพราหมณ์
คือโตเทยยพราหมณ์
เป็นชื่อพ่อของสุภมาณพซึ่งตายไปแล้ว
พ่อของสุภมาณพชื่อโตเทยยพราหมณ์ ตายไปแล้ว
เมื่อสุนัขมาเห่า พระพุทธองค์ก็เรียกชื่อสุนัขว่า
โตเทยยพราหมณ์ ทำไมมาเห่าเราอีก
ตอนเป็นมนุษย์ก็ไม่มีศรัทธา ไม่เลื่อมใส
ตอนนี้เป็นสุนัขก็ยังจะมาเห่าอีก
พระองค์ใช้กระแสจิต พูดไปด้วยกระแสจิต
สุนัขมันรับกระแสได้ มันก็หางจุกเลย
วิ่งเข้าบ้านไปนอนอยู่ข้างเตาไฟ
พอตอนเย็นสุภมาณพกลับมาบ้าน
ถามหาสุนัขจากคนรับใช้ สุนัขไปไหน
คนรับใช้ก็รายงานว่า มันไปนอนอยู่ข้างเตาไฟ
ไม่ยอมกินอะไรเลยวันนี้
ก็เมื่อเช้านี้สมณโคดมมาบิณฑบาต มันออกไปเห่า
พอเห่าแล้วท่านก็กล่าวว่า
โตเทยยพราหมณ์ ทำไมมาเห่าเรา
เป็นมนุษย์ก็ไม่มีศรัทธา
มันก็วิ่งหางจุกไปนอนข้างเตาไฟ
สุภมาณพได้ฟังอย่างนั้นโกรธ โกรธพระพุทธเจ้ามาก
ดูถูกมากเลย มาเรียกสุนัขเป็นชื่อพ่อเรา
โตเทยยพราหมณ์ ก็แล่นไปวัดเลย
ไปถึงก็ไปต่อว่าต่อขาน
ทำไมมาเรียกสุนัขว่าเป็นชื่อพ่อของข้าพเจ้า
พระพุทธเจ้าตรัสว่า เธอพิสูจน์ดู
เธอกลับไปเลี้ยงอาหารสุนัขให้อิ่มหนำสำราญ
ระหว่างที่มันกำลังนอนหลับเคลิ้มเคลิ้ม
ให้เธอไปกระซิบข้างหูว่า
พ่อ พ่อ ถาดทองคำ รองเท้าทองคำ พ่อเอาไปไว้ไหน
สุภมานพก็สะกิดใจ
พระพุทธเจ้าบอกถาดทองคำ รองเท้าทองคำ
เราเคยเห็น เคยเห็นถาดทองคำ รองเท้าทองคำ
แต่ว่าหาไม่เจอ
ก็ยังไม่เชื่อ กลับมาบ้านลองมาพิสูจน์
ให้สุนัขกินอิ่มหนำสำราญให้ดี
แล้วมันก็นอน สุนัข
สัตว์เดรัจฉานมันไม่มีอะไร แค่กิน นอน สืบพันธุ์
กิน นอน สืบพันธุ์
คนเรานี่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานตรงที่ว่า
เรามีสามัญสำนึก มีหิริโอตตัปปะ
แต่อย่างอื่นเหมือนกัน กินเหมือนกันใช่ไหม
นอนเหมือนกัน สืบพันธุ์เหมือนกัน
แต่มนุษย์เรามีหิริโอตตัปปะ
รู้จักว่านี่ภรรยาของเขา สามีของเขา
นี่พ่อ นี่แม่ นี่ครู นี่ภรรยาของอาจารย์
เขาก็รู้จักละอาย อะไรควรไม่ควร
ความเป็นมนุษย์มันต่างจากสัตว์เดรัจฉาน
แต่ถ้ามนุษย์ไม่มีหิริโอตตัปปะ
มันก็จะไม่รู้ใครเป็นใครแล้ว มั่วแล้ว
อนาคตมันจะเป็นอย่างนั้น
ปัจจุบันก็เริ่มมีบ้างไหม ชักมั่วแล้ว
เมื่อสุภมาณพเข้าไป กลับไปบ้านก็ไปลอง
ให้สุนัขกินอิ่มหนำสำราญ
พอมันนอน ก็ไปกระซิบข้างหู
พ่อ พ่อ ถาดทองคำ รองเท้าทองคำพ่อไปไว้ไหน
พ่อ พ่อ เรียกอยู่ ถาดทองคำ รองเท้าทองคำ
พ่อไปไว้ไหน พูดค่อยค่อย กระซิบ
สุนัขกำลังเคลิ้มเคลิ้ม สัญญามันมี สัญญาเก่าเกิดขึ้น
สุนัขที่วัดก็เหมือนกัน
อยู่ที่ไหน เวลาเคาะระฆังมันหอน
แสดงว่ามันวิเวกวังเวงเหมือนกัน
ความรู้สึกของมัน มันอาจจะหวนในอดีต
มันเคยได้ยิน สัญญามันก็ยังคล้ายคล้ายยังติดมา
พอได้ยินเสียงเหล่านี้
เมื่อสุภมาณพไปกระซิบบอกข้างหูว่า
พ่อ พ่อ ถาดทองคำ รองเท้าทองคำพ่อไปไว้ไหน
สุนัขมันลุกขึ้นวิ่งไปหลังบ้าน เท้าตะกุยตะกุย
สุภมาณพก็ตามไป
เห็นมันตะกุยตรงนั้นก็เลยให้คนขุดลงไป ไปเจอหีบฝัง
ตุ่มฝังถาดทองคำ รองเท้าทองคำจริงจริงด้วย
เชื่อหรือไม่ตอนนี้
จากคนไปเป็นสุนัข
โตเทยยพราหมณ์เป็นพ่อของสุภมาณพ เป็นเศรษฐี
บ้านนี้เป็นเศรษฐีแต่ไม่ทำบุญทำทานอะไรเลย
ตระหนี่หวงแหน ไม่ไหว้พระ ไม่สนใจ
พระไปหน้าบ้านก็ไม่ไหว้ ไม่ทำบุญ หวงแหน
ที่สุดตายก็ ไปเกิดเป็นสุนัขอยู่ในบ้านตัวเองนี่แหละ
แต่ว่าเป็นสุนัขแสนรู้
เพราะว่าภพชาติมันใกล้เคียงจากมนุษย์ไปเป็น
ทำให้สุภมาณพรักเพราะว่าอดีต
มันเป็นพ่อเป็นลูกกันมาอยู่แล้ว เจอก็รัก
พอเห็นว่า พิสูจน์ว่าได้ถาดทองคำ รองเท้ามาแล้ว
ก็เลยไปนิมนต์พระพุทธเจ้ามาฉันภัตตาหารที่บ้าน
ฉันเสร็จก็เลยถาม ว่าคนเราเกิดมา
บางคนอายุสั้น บางคนอายุยืน เป็นเพราะอะไร
พระพุทธองค์ก็เฉลยให้ฟังว่า
คนบางคนในอดีต เป็นคนฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
โหดเหี้ยมทำร้ายชีวิตล้างผลาญชีวิตผู้อื่น
หลังจากไปตกนรก เสวยกรรมในนรก
เมื่อพ้นจากนรกมา
เป็นสัตว์เดรัจฉานถูกฆ่าถูกทำร้าย
พอมาพ้นมาเป็นมนุษย์ก็ยังอายุสั้นอยู่
เศษของกรรม ถูกฆ่าบ้าง ถูกภัยพิบัติบ้าง
ถูกอุบัติเหตุเสียชีวิตลง
คนที่อายุสั้นเกิดจากการฆ่าสัตว์มา
ฉะนั้น คนที่อายุยืนก็คือคนที่เขามีเมตตากรุณา
ต่อสัตว์ทั้งหลาย ไม่เข่นฆ่าประหารผู้อื่น
ไม่ทำร้ายให้ชีวิตผู้อื่นสั้น ชีวิตตัวเองก็ยืนยาว
ให้อาหารเขา เขาก็มีอายุยืน
ก็เลยได้ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อายุยืน
สุภมาณพถามอีกว่า แล้วคนที่เป็นคนป่วย
เกิดมาโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน โรคภัยมาก
บางคนก็โรคน้อย ไม่เจ็บไม่ป่วยกับใคร
เหมือนอย่างโยมก็คงมีใช่ไหม ป่วย
มีใครไม่เคยป่วยบ้าง
บางคนก็ต้องผ่าตัด บางคนเป็นมะเร็ง
บางคนผ่าท้อง ผ่าขา อาตมาก็ผ่าขามาสามรอบ
เพราะอะไร พระพุทธเจ้าก็ตอบว่า
คนบางคนในอดีตเบียดเบียนเขาไว้
ทำร้ายร่างกายเขาไว้ ไปแทงเขาบ้าง ไปตีเขาบ้าง
ไปเจาะ ไปทำร้าย ไปทรมาน
ตอนนั้นมีแม่ชี อยู่ทางจังหวัดชัยนาทเล่าให้ฟัง
คือทำงานไม่ได้ก็เลยบวชเป็นแม่ชี
แล้วก็อยู่วัดก็ไม่ได้ มันเหนื่อย ทำอะไรก็เหนื่อย
เล่าว่าตอนเป็นสาวรุ่นรุ่นไปท้องนา
มันมีเงามืดลงมาจากอากาศ ตกใจวิ่งหนี
จากนั้นก็ป่วยมาเลย เหนื่อย
ไปให้คนเขาดู มีญาณดูอดีต
ปรากฏว่าเขาเคยเป็นเจ้านายคน
สมัยนั้นมันมีข้าทาส มีทาสรับใช้
ตัวเองก็เป็นเจ้านายเขาแล้วก็ ใช้เขาอย่างหนัก
ใช้เขาทำงานหามรุ่งหามค่ำ
เบียดเบียนเขา ทรมานเขา ทำร้ายเขาจนตาย
บาปกรรมอันนั้น ตนเองก็เลยป่วย
คือใช้เขาจนเหนื่อยอ่อน ตนเองก็มาป่วย
ฉะนั้น ที่เราเจ็บป่วย มันมาจากการทำร้ายร่างกาย
บางคนชอบกักสัตว์ ขังสัตว์ ผูกมัด ตีบ้าง แทงบ้าง
มันก็ต้องมาป่วยตามนั้น
คนที่เขาไม่ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไว้ ก็ไม่ป่วยง่าย
สุภมาณพถามอีกว่า
แล้วคนที่เกิดมา บางคนตระกูลสูง
บางคนตระกูลต่ำ เป็นเพราะอะไร
บางคนเห็นไหมตระกูลสูง เกิดในรั้วในวัง
เป็นพระราชามหากษัตริย์ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน
ทำไมบางคนอนาถา เกิดตระกูลต่ำ
อย่างอินเดียเขาจะมีวรรณะจัณฑาล
วรรณะกษัตริย์ วรรณะพราหมณ์ แพทย์ ศูทร
จัณฑาล คือคนที่ต่างวรรณะแล้วไปได้กัน
มีลูกออกมาจะเป็นจัณฑาล จะเป็นที่รังเกียจมาก
เพราะอินเดียเขาถือวรรณะมาก
พระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสตอบสุภมาณพว่า
คนที่เกิดมาตระกูลสูง เพราะเป็นคนที่
รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ
เห็นผู้มีศีลก็รู้จักสัมมาคารวะ
เคารพผู้มีคุณวุฒิวัยวุฒิ ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้มีคุณ
มีความเคารพนบนอบดี
พ่อแม่เป็นต้น ครูบาอาจารย์ พระสงฆ์องค์เจ้า
รู้จักเคารพนบนอบ เกิดในตระกูลสูง
อย่างในหลวงรัชกาลที่เก้า
คนทั้งหลายก็นบนอบเคารพสักการะบูชา
แสดงว่าในอดีตท่านต้องทำความดี
ประเภทบูชานอบน้อมไว้ อ่อนน้อมเคารพต่อผู้มีศีล
อาจจะทำกับพระอรหันต์ กับพระปัจเจกพุทธเจ้า
อานิสงส์ก็จะมาก
ก็เกิดมาก็เป็นพระราชา แล้วก็คนจะนับถือเคารพบูชา
จะพูดกับพระองค์
ก็ต้องพูดด้วยสำนวนที่อ่อนน้อมที่สุด
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ใต้ฝ่าละอองคืออะไร ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
คือพระบาทจะต้องมีละอองธุลีใช่ไหม
ใต้ละอองธุลีพระบาทเข้าไปอีก
ที่จะอยู่เหนือปกเกล้าปกกระหม่อม
ความเคารพของคนไทย ยกย่องขนาดนั้น
พระบาทยังสูงไป ต้องใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเข้าไปอีก
ปกเกล้าปกกระหม่อม นี่คือความเคารพ
เพราะฉะนั้น พระองค์ตรัสว่าคนที่แข็งกระด้างเย่อหยิ่ง
ไม่เคารพบุคคลที่ควรเคารพนับถือ ก็เกิดมาตระกูลต่ำ
สุภมาณพถามอีกว่า แล้วคนที่มีอำนาจวาสนาสูงส่ง
บางคนเขามีอำนาจวาสนาดี
บางคนก็ไม่มีอำนาจวาสนา ไม่มีใครยำเกรงอะไร
พระองค์ได้ตรัสว่า คนที่ไม่อิจฉาริษยาใคร
จะเป็นคนเกิดมามีอำนาจวาสนา
ส่วนคนที่ชอบอิจฉาริษยาเขา
ปัดแข้งปัดขา ใส่ร้ายป้ายสี อิจฉาริษยา
เกิดมาไม่เป็นคนมีอำนาจ
เพราะฉะนั้น เราต้องไม่ไปอิจฉาริษยาใคร
ไม่ไปใส่ร้ายกลั่นแกล้ง
สุภมาณพถามอีกว่า คนบางคนเกิดมามีปัญญาดี
บางคนด้อยปัญญา เป็นเพราะอะไร
พระองค์ก็ได้ตรัสว่า คนบางคนคบบัณฑิต
เข้าหาบัณฑิต รู้จักไต่ถามปัญหา ศึกษาธรรมะ ปฏิบัติ
เกิดมาเป็นคนมีปัญญา
ถ้าไม่สนใจใฝ่ธรรมมันก็เป็นคนโง่
เพราะฉะนั้น การที่พวกเราเข้ามาวัด
ก็ได้มาศึกษาธรรมะให้เกิดความรู้ความเข้าใจ
อะไรเป็นบุญ อะไรเป็นบาป
อะไรเป็นผลบุญผลบาป รู้จักดีชั่ว
เป็นการสร้างเหตุแห่งปัญญา
วันนี้ฟังธรรมก็ได้ปัญญาขึ้นมา สร้างปัญญา
เจริญภาวนานั่งกรรมฐาน ปัญญาเกิดขึ้น
ต้องหมั่นศึกษา หมั่นปฏิบัติ
โดยเฉพาะการที่จะต้องเข้าถึงการเจริญภาวนา
ที่จะทำให้จิตเรามีปัญญารู้แจ้ง จนดับทุกข์ให้ตัวเองได้
คนรวยแต่ไม่มีปัญญา ดีไหมรวยอย่างเดียว
เกิดมารวยเพราะอะไร
อย่างที่สุภมาณพถามว่า
แล้วคนที่เกิดมาร่ำรวย มีสมบัติมาก
บางคนยากจน เป็นเพราะอะไร
พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า บางคนเป็นคนมีศรัทธา
หมั่นบริจาคทานบำเพ็ญทานไว้อดีต
เกิดมาจึงมีทรัพย์สมบัติมาก
บางคนตระหนี่หวงแหน ไม่เสียสละ ก็เกิดมายากจน
บำเพ็ญทาน เกิดมามีทรัพย์สมบัติ มีเงินมีทองมั่งคั่ง
แต่ถ้าไม่มีศีล เป็นอย่างไร
คนไม่มีศีล จะหลงตาย
คนไม่มีศีลเวลาจะตายมันจะหลง เลอะเลือนไม่ดี
คนที่หลงตาย จิตจะเศร้าหมองไหม
จิตเศร้าหมองจะไปไหน
จิตเต สังกิลิฏเฐ ทุคติ ปาฏิกังขา
เมื่อจิตเศร้าหมอง ทุคติย่อมเป็นที่หวัง
ก็จะไปเกิดในทุคติ มีอะไรบ้างทุคติ
นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
ที่รู้สึกจะอังกฤษหรืออย่างไร อาตมาก็ไป
ปีนี้ไปมาสามประเทศ โยมเขาเล่าให้ฟัง
เลยจำไม่ได้ประเทศไหน น่าจะเป็นอังกฤษ
โยมทำพินัยกรรมให้สุนัขที่ตนเองเลี้ยง
เพราะลูกเต้าก็ไม่อยู่ด้วยกัน อยู่คนเดียว
หนักเข้า สมบัติมีก็ทำพินัยกรรมให้สุนัข
ก็ทำได้ พอตายแล้วสมบัติก็ตกเป็นของสุนัข
แล้วมันจะจ่ายได้อย่างไร
มันก็จะมีสถานอนุเคราะห์เขามารับสุนัขไปเลี้ยง
รับทรัพย์สมบัตินั้นไปด้วย
ดูแลเลี้ยงดูสุนัขอย่างดี
พอตายแล้ว เงินทองก็เข้าในสถาบันนั้น
นี่แสดงว่าสุนัขนั้นในอดีตเขาให้ทานไว้ดี
เขาบริจาคทาน
เพราะฉะนั้นเขาเป็นสุนัขเขาก็รวย
มีเงินมีอาหาร เป็นอยู่เลี้ยงดูอย่างดี
แต่โยมจะเอาหรือแบบนั้น รวยแบบนั้น
แสดงว่าเขาไม่มีศีล เขาให้ทานแต่เขาไม่มีศีล
ตอนตายหลงตายมันก็ไปเกิดเป็นสุนัข
แต่บุญจากการให้ทานเขามี มันก็ตามไปช่วย
ทำให้มีคนเลี้ยงดูอย่างดี
เพราะฉะนั้น ถ้าจะเกิดเป็นมนุษย์ ไม่เกิดในอบายภูมิ
ไม่เกิดเป็นสัตว์นรก เป็นอสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
ก็คือต้องมีศีล อย่างน้อยศีลห้า
ศีลห้ามีอะไรบ้าง
เว้นฆ่าสัตว์ เว้นลักทรัพย์ เว้นประพฤติผิดในกาม
เว้นโกหก เว้นดื่มสุราเมรัย
สุราเมรัยยาเสพติดต้องเว้น เมาเกิดไปตกนรก
พ้นจากนรกแล้วก็เป็นสัตว์เดรัจฉาน
สัตว์เลื้อยคลานอีก สะเปะสะปะ
พอมาเป็นมนุษย์ก็เป็นคนบ้าอีก
ในคัมภีร์ท่านบอกไว้อย่างนั้น เกิดมาบ้า
เศษของกรรมจากเมา ยังส่งมาเป็นมนุษย์เป็นคนบ้าอีก
เราก็ดูคนเมามันก็ไม่ต่างอะไรจากคนบ้าใช่ไหม
เมาแล้ว เดินเอะอะโวยวาย แก้ผ้าก็มี นอนกลางถนน
ช่วยหามกูไปตีเขาหน่อย
ไปก็ยังไม่ไหว ยังจะไปตีเขาอีก
เมา นอน กลับบ้านขึ้นบ้านไม่ได้ นอนใต้ถุนบ้าน
อาเจียนออกมาอีก
หมาก็เลยมาช่วยเลีย เลียปากให้
นึกว่าภรรยาเอาผ้าเย็นมาเช็ดให้อีก เมา
เพราะฉะนั้น ไม่ดีเลยเรื่องสุรายาเสพติด
บางทียาบ้า เป็นอย่างไร จับตัวประกัน
ชอบจับตัวประกันนะยาบ้านี่
เพราะว่าสัญญามันจำไว้ มันฟังข่าว
เคยฟังมาก่อน สมองมันจำ
พอตัวเองไปอยู่ในอารมณ์แบบนั้น
สัญญาเก่ามันก็เอาบ้าง ทำบ้าง เพราะขาดสติสัมปชัญญะ
จับลูกเป็นตัวประกันยังมีเลย
เพราะฉะนั้น ถ้ามีศีล อานิสงส์ของศีลห้า
หนึ่งประสบโภคทรัพย์ใหญ่
สองเกียรติศัพท์อันงามระบือไปไกล
สามเข้าสู่บริษัทใดใดก็ไม่เก้อเขิน
สี่ไม่หลงทำกาละ
ห้าตายแล้วไปสุคติ
นี่ศีลห้า แล้วอย่างโยมมาถือศีลแปดจะขนาดไหน
สูงกว่ากันมาก ศีลแปดมันยากกว่ากันเยอะ
ไปเป็นเทวดา
ศีลที่เรารักษาศีลแปด
ประพฤติพรหมจรรย์แค่วันหนึ่งคืนหนึ่ง
ส่งผลไปเป็นเทวดา
มีตัวอย่างมาแล้วในคัมภีร์ อันนั้นครึ่งวันด้วยซ้ำ
ถือศีลอุโบสถแค่ครึ่งวัน เป็นรุกขเทวดา
เพราะฉะนั้น เราให้ทานแล้วต้องมีศีล
ถ้ามีศีลจะได้เกิดเป็นมนุษย์
อย่างน้อยไม่เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
พอหรือยัง ได้เกิดเป็นมนุษย์ร่างกายสมบูรณ์
ศีลก็ทำให้สวยงาม ร่างกายสวยงาม
รักษาศีลมาดี อย่างเราถือศีลแปด
อานิสงส์งดงาม ได้ร่างกายที่งดงาม
เทวดามันจึงงาม ไปจากศีล รักษาศีลที่ดี
ทีนี้ถ้ามีศีล เกิดมาเป็นมนุษย์
แล้วก็มีให้ทานด้วย รวยด้วย
เกิดมารูปร่างงดงามแล้วรวยด้วย แต่โง่ เอาไหม
เลอะเลอะเลือนเลือน โง่ ไม่ทันคน ถูกเขาโกงด้วย
ดีไม่ดีก็ดำเนินชีวิตผิดพลาดเดือดร้อน ขาดปัญญา
ทำอย่างไรจะมีปัญญา
ต้องศึกษาธรรมะ ต้องปฏิบัติธรรมะ
ต้องฟัง ต้องภาวนา ปฏิบัติศึกษาธรรม
ให้มันมีความรู้ ความเข้าใจ มีปัญญา
คนมีปัญญาถึงจะจนก็ยังดีใช่ไหม
ก็ยังดำเนินชีวิตตัวเองได้ดีได้ถูกต้อง
ยังหาความสุขได้ ถ้ามีปัญญา
บางคน ทานไม่ได้ทำไว้ จน แต่มีปัญญา
บางคนศีลไม่ดี พิกลพิการ แต่ก็มีปัญญา
ฉะนั้นเราจะสมบูรณ์ทั้งสามอย่าง
รวยด้วย สวยด้วย ฉลาดด้วย ก็ต้อง
ทานก็บำเพ็ญ ศีลก็ต้องรักษา ภาวนาก็ต้องเจริญ
วันนี้เราได้ทั้งทาน ศีล ภาวนา
ขออนุโมทนาสาธุการ
ขอทุกท่านได้ประสบผลแห่งบุญ
สั่งสมบุญกุศลให้ยิ่งขึ้นไป
เพื่อเป็นนิสัย เป็นปัจจัย
ต่อความพ้นทุกข์ ทุกท่านเทอญ
------------------------------------------
ศัพท์ที่แก้ไข
ช้างนาฬาคิรี