แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ชีวิตของคนเรามันมีสมองที่ทำความชั่วได้ถึงที่สุด และทำความดีได้ถึงที่สุด ทั้งโลกนี้และโลกหน้า แต่วิธีที่ทำความดีพระพุทธเจ้าก็ทรงสอนเอาไว้ สิ่งที่ทำให้เกิดความชั่ว ก็ให้งดให้เว้น พระพุทธเจ้าก็ทรงสั่งสอนเอาไว้ การทำบุญ กิริยาที่เกิดบุญ หาได้ไม่ยาก
ทานมัยการให้ทาน วัตถุทาน ทานด้วยวัตถุสิ่งของ ข้าวน้ำโภชนาอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค วัตถุๆ ทั้งหลายนั่น เรียกว่า ทานมัย แล้วก็
อภัยทานทานด้วยความให้อภัยกันและกัน ให้อภัยต่อทุกสิ่งทุกอย่างไม่ถือโทษโกรธเคืองเรียกว่าอภัยทาน ให้มีอยู่ในชีวิตจิตใจของเราอย่าให้ขาดแคลน สิ่งที่เราจะทำทานมีเยอะแยะ อภัยทาน
ธรรมทาน ธรรมทานก็คือ การบอก การสอน การบอกความจริง การบอกความไม่จริง สิ่งไหนที่ทำให้เกิดทุกข์เกิดโทษบอกกัน สิ่งไหนที่ทำให้เกิดประโยชน์บอกกัน อย่าเลือกที่รักมักที่ชัง เรียกว่า ธรรมทาน
เวยยาวัจจมัยการรับใช้งานพระศาสนา เป็นกิจกรรมต่างๆช่วยงานช่วยการอันทำจะทำให้เกิดความดี เช่นเป็นทายก ทายิกา ดูแลธุระอันเป็นกิจวัตรของสงฆ์ รับใช้
ปัตตานุโมทนามัยการอนุโมทนา อนุโมทนามัย การอนุโมทนากับความดีของคนอื่น กับการกระทำดีของคนอื่น กับการกระทำดีของเราด้วยให้อนุโมทนา ยินดี อย่าคุ้มร้ายคุ้มดีให้สม่ำเสมอ เราทำดีได้นิดๆหน่อยๆก็ยินดีคนอื่นทำดีได้นิดๆหน่อยๆก็ยินดี คนอื่นทำดีได้มากก็ยินดี มีจิตใจเป็นส่วนร่วมเมื่อได้ยินเสียงฆ้อง เวลาพระตีฆ้องทำวัตรเช้าทำวัตรเย็น ก็สาธุในใจอยู่ นอนอยู่กับที่นอนก็ได้ไม่เป็นไร เรียกว่าอนุโมทนามัย
แล้วก็ การฟังเทศน์ฟังธรรมก็เป็นบุญ ผู้ที่เทศน์ผู้ที่แสดงธรรมก็เป็นบุญ คำว่าเทศนามัยการทำความเห็นให้ถูกต้อง ให้เกิดสัมมาทิฏฐิ เห็นผิดเป็นผิดเห็นถูกเป็นถูก นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดบุญ ดังที่เราทำบุญในกาลต่างๆ มันก็เป็นแบบอย่าง ที่ทำบุญแล้วเกิดสำเร็จได้ความดี เช่นเมื่อวานนี้เอาบุญข้าวกระยาสารท ก็มีชาดกกล่าวไว้ว่ามีหญิงคนหนึ่งเฝ้านา เป็นคนรับใช้เฝ้านาให้เศรษฐีก็อยู่กับนามีแต่ข้าวเปลือก อยู่ในยุ้งในฉางมีแต่ข้าวเปลือกอยู่ในทุ่งนา ก็เลยคิดจะไม่มีอะไรจะกินก็เลยเอาข้าวเปลือกมาคั่วคั่วเป็นข้าวสารท เป็นข้าวตอกแตก พอคั่วแล้วก็ จัดเก็บเอากากออกพอเอาใส่พกผ้าไปตักน้ำ เวลานั้นมีพระมหากัสสปะ พระผู้ปฏิบัติธรรมในฌาน เดินออกจากป่ามาเพื่อไปบิณฑบาตร หญิงเฝ้านาคนนั้นก็ไม่เคยใส่บาตรสักที ก็พอเห็นพระก็เกิดศรัทธา และก็ไม่เคยมีอะไรที่จะใส่บาตร ก็คิดเห็นแต่ข้าวตอกแตกที่คั่ว ใส่พกผ้าไปก็เลย โอ้ ไม่มีอะไรแต่ว่าศรัทธาอย่างแรงกล้า ก็เลยเอาข้าวตอกแตกนั้นใส่บาตร ใส่บาตรแล้วก็ยังคิดว่า เออพระคุณเจ้าจะฉันให้หรือเปล่าน้อ เธอจะไปแจ้งที่ไหนน้อพอดีพระก็เลยฉันให้ ก็เลยดีใจดีใจมากๆ เห็นพระฉันข้าวตอกแตกที่ใส่บาตรให้ เรียกว่าข้าวกระยาสารท ในกาลนั้นเธอก็สิ้นชีวิตไป ได้ไปเกิดเป็นเทวดา
อันเนี่ยเรื่องบุญมันก็มีในการทำบุญหลายอย่าง ที่ทำให้เกิดบุญเยอะแยะหาได้ไม่ยาก ไม่มีวัตถุอื่นใดก็เอากายทานมัย ศีลมัย ภาวนามัย แต่ว่าบุญอันสูงสุดที่จะทำให้เกิดทันหูทันตา คือภาวนามัยการทำความดีการเจริญสติ อยากจะพูดถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอก อย่าทำความชั่ว ให้ทำแต่ความดี ให้ทำจิตบริสุทธิ์ เราจะไปละที่ไหนความชั่ว เราจะไปทำดีที่ไหน เราจะทำจิตให้บริสุทธิ์ได้อย่างไร นี่แหละการเจริญภาวนา
การเจริญสติเนี่ยที่เราทำอยู่นี่ มันครบทั้ง 3 อย่างเลยทีเดียว ผู้ที่มีสติมันก็ละความชั่ว ผู้ที่มีสติมันก็ทำความดี ผู้ที่มีสติจิตมันก็บริสุทธิ์ อันเนี้ย เรียกว่า การละความชั่ว การทำความดี การทำจิตให้บริสุทธิ์ การไม่ทำบาปทั้งปวง ก็อยู่ตรงนี้ การทำกุศลให้ถึงพร้อมก็อยู่ตรงนี้ การทำภาวะจิตของตนให้ขาวรอบก็อยู่ตรงนี้ เราจึงเผื่อเอาไว้ เผื่อเหนือตกใต้ ถ้าเราไม่มีสติมันก็หลุดไปทำความชั่วได้ เพราะไม่มีสติเป็นเจ้าหลัก ไม่มีสติเป็นเจ้าเรือน ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางจิตใจ เราก็มีของเป็นคู่ก็อาจจะหลงไปง่ายๆทำชั่วได้ง่ายๆ บางคนทำผิดถึงกับเกิดทุกข์เกิดโทษ ถูกติดคุกติดตาราง ถูกจำนองจองจำ เพราะมันหลงนั่นแหละ พอไปคิดได้ หลงว่ามันทำไปแล้ว ได้แต่เสียใจเข็ดหลาบเพราะยังมีโทษ ติดคุก ติดตะราง พวกเปรตทั้งหลายพวกปรชิตตูปชีวีพวกเปรตทั้งหลาย ก็พวกนี้แหละ พวกหลงๆทั้งหลาย พลัดเข้าไปรบกวน อย่างเปรตของพระเจ้าพิมพิสาร เปรตอะไรเยอะแยะไปหมดเลย ร้องครวญครางอยู่รอบบ้านรอบวังรอบเมืองพระเจ้าพิมพิสารจึงต้อง ทำบุญอุทิศให้เป็นกาลเป็นเวลาไป เพื่อให้เปรตพวกนี้ได้พ้นเวรพ้นกรรม
คนที่ทำชั่วในโลกปัจจุบันนี้ บางทีก็บางคนก็อาจจะไตร่ตรอง ก็จะทำความชั่ว คิดจะทำความชั่ว แต่บางคนไม่ได้ไตร่ตรอง เกิดความหลงเกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว ก็ทำชั่วลงไปก็มี แต่ว่าบาป ก็เป็นบาป ผู้ที่ไม่ทำบาปเลยก็ไม่ต้องไปติดคุกติดตะราง ไม่ต้องไปเป็นเปรตไม่ต้องรอส่วนบุญส่วนกุศล ทำความดี บางทีเราจะไปรอบุญกุศลให้คนอื่นทำให้ มันลมๆแล้งๆ บางคนถึงกับแยกทรัพย์มรดกไว้ เป็นเบี้ยเผาผี สั่งลูกสั่งเต้าให้ทำบุญให้ เวลาตายไปแล้ว ขายนาแปลงนั้นขายที่แปลงนี้มาทำบุญให้ สั่งลูกสั่งเต้ามันลมๆ แล้งๆ
การที่จะทำบุญ ที่จะได้ผลมันต้องตัวเราเองก่อนมันจึงมั่นคง มันจึงเกิดความมั่นคง ไปหวังให้คนอื่นทำให้ เหมือนคนติดคุกติดตะรางไปรอให้ญาติประกันออกมาหลักทรัพย์ไปประกันออกมา ต้องเสียเงินเสียทองทำไม เราไม่ต้องไปติดคุกติดตารางเพราะเรารู้การทำบุญก็เหมือนกัน มันจะต้องไปเป็นบาปทำไม มันเป็นทุกข์จะไปโกรธทำไมนี่จะไปหลงทำไมนี่ จะไปทุกข์ทำไมนี่ เราจะต้องมีฝีมือ เราจะต้องมีฝีมือในทางนี่แล้วก็ทำได้ด้วย มันก็เห็นกันโต้งๆอยู่ความทุกข์มันเกิดขึ้นมาให้เราเห็นอยู่ ความหลงมันก็เกิดขึ้นมาให้เราเห็นอยู่ก่อนที่มันจะไปติดคุกติดตาราง
ก่อนที่มันจะไปเป็นเปรตเป็นอสุรกาย ตอนนี้ยังเป็นสัตว์นรก มันก็ต้องหลงตรงนี้ก่อน ถ้าจะเปรียบเทียบกัน มันทำได้อยู่ เราจึงต้องพึ่งตัวเองให้มากๆ อย่าไปรอลูก รอหลาน รอญาติทำบุญอุทิศให้ มันหวังลมๆแล้งๆ ไม่มั่นคง เหมือนกับเราทำ ให้เราได้เห็น แล้วก็มีด้วย ทำได้ด้วย ทำบุญทำได้ด้วย ทำบาปละได้แล้ว ทำบุญทำได้แล้ว มีกุศลแล้ว ฉลาดกว่าเก่า อะไรที่ทำให้โง่ หลงงมงายเป็นทุกข์ ฉลาดมาก ออกหน้าออกตา เมื่อเราปฏิบัติธรรมเนี่ย ภาวนาเนี่ยเป็นการแสวงหาบุญอันสูงสุด เป็นการแสวงหาบุญที่เป็นหลักแหล่ง เหมือนคนไปหาเงินในแหล่งเงินอย่างกรุงเทพเมืองหลวง แหล่งเงินแหล่งทองอยู่ที่โน้น แหล่งที่ทำให้เกิดบุญคือ ภาวนา แล้วมันอยู่ที่ไหนมันก็อยู่ที่เราภาวนาคือ ขยันรู้ ถ้าไม่รู้มันจะหลงแล้ว มันก็มีเท่านี้เราก็ตั้งอยู่ตรงนี้กัน เอาใจใส่ตรงนี้กัน จนมันชำนิชำนาญ มันก็จะเห็นความหลง เราก็ทำได้ ทำความหลงให้เป็นความรู้ได้ ถ้าเราฝึกสติ เราภาวนา เรามีความรู้สึกตัวตั้งไว้ ตั้งไว้ นี่สิ่งที่ทำได้อย่างนี้ มันควรที่จะทำ อย่าไปให้รอ สิ่งที่ทำไม่ได้ ไปทำ เช่น กลัวบาป เราก็ไม่ค่อยละความชั่ว ไม่ทำ บางทีมันเกิดความชั่ว เกิดความทุกข์ เกิดขึ้น เกิดความหลงเกิดขึ้นไม่ทำ เพิกเฉยเลยละหลงแล้วหลงอีก อันนี้มันก็ ทิ้งขว้างไป ทิ้งๆขว้างๆ มันก็หาได้จากสิ่งเหล่านี้แหละบุญ
หาได้จากสิ่งที่มันผิด ทำให้มันถูก หาได้จากสิ่งที่มันทุกข์ ทำให้มันไม่ทุกข์ หาได้จากสิ่งที่มันหลง ทำให้ไม่หลง บุญอยู่ตามยอดหญ้า หญ้าปากคอกนี่แหละ แต่ไปหาไกลๆกัน ชาติหน้าโบราณท่านว่า คนฉลาดค้าใกล้ๆ คนใบ้ค้าไกลๆค้าขายคนฉลาดค้าใกล้ คนใบ้ค้าไกล อย่าแสวงหาบุญนอกศาสนา จงแสวงหาบุญแต่ในศาสนาแสวงหาบุญนอกศาสนา คือนอกกาย นอกใจ เรา จะไปตกนรกหมกไหม้ก็ คือกาย คือใจจะไปเป็นสวรรค์ จะไปถึงสวรรค์นิพพาน ก็คือเรื่องของกายของใจเรามันก็อยู่กับเรา คนฉลาดต้องดูแลตรงนี้กัน ทำตรงนี้ให้มันดี ลองทำตรงนี้ให้มันดีดูซิ มันก็เกิดบุญจริงๆ จากการกระทำของเรา คนอื่นก็เป็นสุข จากการกระทำของเรา คนอื่นก็เป็นทุกข์ เราก็เห็นถึงขนาดนี้แล้ว เราจะต้องไปหากันที่ไหน นอกศาสนาแต่นอกกาย นอกใจของเราทำบุญนอกกาย นอกใจ บุญคือความสุข บุญคือความดี บุญคือความอิ่ม บุญคือความเต็ม เต็มไปด้วยความดี ไม่ขาดไม่แคลนไม่เหือดไม่แห้ง มั่งมี
แสดงออกทางกาย ก็เป็นบุญ กายสุจริต แสดงออกทางวาจา ก็เป็นบุญ วจีสุจริต แสดงออกทางใจ ก็เป็นบุญ มโนสุจริต ถ้าคนขาดแคลนแล้วนี่ แสดงออกทางกายก็เป็น มโนทุจริต แสดงออกทางวาจา เป็นวจีทุจริต แสดงออกทางจิตใจ ก็เป็นมโนทุจริต คือความชั่ว แล้วเป็นผลกระทบต่อคนอื่น สิ่งอื่น วัตถุอื่น เป็นเหตุ ผลกระทบต่อโลกไปเลย เดือดร้อนไปเลย เราก็ลำบาก ถ้าพวกเราหยุดนี้มีคนชั่วเกิดขึ้นคนเดียว ชอบลักชอบขโมย พวกเราก็ลำบาก ต้องช่วยกัน สร้างความดีให้ขึ้น ให้เกิด ให้มีขึ้น เสนอตัวเราก่อน ตั้งต้นจากตัวเราให้ได้ การทำบุญนี่อย่าไปเกณฑ์ การไปมรรคผลนิพพาน ไม่ใช่เป็นเรื่องเกณฑ์เป็นปัจเจกบุคคล เริ่มต้นจากตัวเรา เริ่มต้นจากตัวเราก่อน เสนอตัวเราก่อน อย่าอ้างโน่นอ้างนี่ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติไม่ใช่เรื่องอ้าง มีเวลาปฏิบัติธรรมมั๊ย มีเวลา ทุกเวลานาที ถ้าหายใจได้อยู่ แสดงว่ามีเวลา เพิ่มเติมความรู้สึกตัวเข้าไป ต้องใส่ใจสักหน่อย ใส่ใจสักหน่อย ของที่มีคุณมีค่า บางทีก็ต้องใส่ใจพอสมควร เช่น อาหารการกิน ของที่ไม่มีประโยชน์ อาจจะแสดงถึงรสถึงชาติ ของที่เป็นประโยชน์ ก็ถึงแม้ว่าจะขม ก็กินลงไปสักหน่อย หวานเป็นลม ขมเป็นยากินแนเด้อแม่เพียรหมากลิ้นฟ้า กินบ่หมากลิ้นฟ้าผักหนอก บักแข้งขมหมู่นั่นน่ะกินแนมันเป็นอาหาร เป็นยาด้วย บำรุงถุงน้ำดี จะไม่ได้เป็นนิ่วถุงน้ำดี ของขมๆ ผักกะเดาหมู่นั่น แกงผักขี้เหล็กแบบนั่นน่ะบ่แซ่บติกินหลายๆแนแกงผักขี้เหล็กน่ะ อย่าไปกินแต่ผัดแต่มัน อย่าไปกินแต่ของปรุงๆแต่งๆ แกงผักขี้เหล็ก เจ้าคณะอำเภอแก้งคร้อเนี่ยเค้ารักษาโรคที่เป็นโรค เป็นบวม เป็นปวด เขาก็เอาใบขี้เหล็กกลางแก่กลางอ่อนเนี่ย เอามาไว้ในที่ร่มแล้วมันแห้งแล้วใส่ถุงน้อยๆ ให้ต้มเป็นยา น้ำชา อันนี้เราไม่ต้องทำอะไร เอาใบมาแกงเลย เอาดอกมันมาแกงเลย นอนไม่หลับก็ลองแกงผักขี้เหล็กกิน ซดน้ำใบอ่อน ยอดอ่อน ดอกมันนั่นแหละ แกง จะนอนหลับสบาย ท้องผูก ท้องอืด แกงผักขี้เหล็กนั่นแหละ ของบางทีของที่มันเป็นคุณเป็นประโยชน์ ก็ไม่ค่อยชอบไปกินโน้น ไปกิน เป็ปซี่ แฟนต้า สไปร์ท ไปกินอะไร แกงผักขี้เหล็ก เพราะนั่นชีวิตของเราบางทีเนี่ยก็อย่าไปหาความสะดวกสบาย ให้สู้ความทุกข์ๆยากๆ ให้ทรหดอดทน ถ้าอดถ้าทนแล้วมันจะมีบารมีจะเข้มแข็ง ขันติบารมี สู้ความทุกข์ๆยากๆ อย่าไปหาความสะดวกสบาย คนขี้เกียจขี้คร้าน ไม่ค่อยจะสู้อะไร ทำอะไรก็ไม่ได้ ต้องสู้สักหน่อย มีพลังแห่งความสู้ โดยเฉพาะถ้าเริ่มต้นจากความรู้สึกตัวเนี่ย มักจะไปได้ดี
ถ้าเริ่มต้นจากความหลง หลงตลอดวัน หลงตลอดชั่วโมง หลงตลอดนาที ก็ทำนายไว้เลย ผิดพลาดตะพึดตะพือไป ไม่ควรผิดก็ผิด ไม่ควรพลาดก็พลาด ถ้าเรารู้สึกตัวโอ้ย มันจะเห็น เห็นสิ่งที่มันผิดชัดเจน เหมือนกับคนเพิ่งลืมตา เขาเห็นอะไรได้ชัดเจนกว่าคนที่ไม่ลืมตา คนที่หลง ก็ไม่เห็นความหลงหรอก คนที่หลงก็ไม่เห็นความทุกข์ดอก คนที่หลงก็ไม่เห็นความโกรธ คนที่หลงก็ไม่เห็นความหลง คนที่เห็นความหลงคือคนรู้สึกตัว เพื่อการนี้ชีวิตเรา ชีวิตเพื่อการนี้โดยตรง ไม่ใช่ความหลงจะก้าวก่ายชีวิตเราตลอดเวลา ผ่านเข้า ผ่านออกได้สบาย ก็ถือว่าเป็นบ้านของเขาเลย เราก็ไม่ให้สิทธิของเรา เค้าทำให้เราเสียหายนี่ความหลง ความทุกข์ก็ทำให้เราเสียหาย ความโกรธก็ทำให้เราเสียหาย แล้วก็เราก็ทำผิดเสียด้วยถ้าหลง ความผิดก็เกิดการเสียหาย เป็นผลกระทบหลายอย่าง เหมือนกับบ้านเราจะให้โจรผู้ร้ายมาหยิบเอาโน่นหยิบเอานี่จะให้หมู ให้หมา มาทำสกปรก เลอะเทอะอย่างนี้ แล้วเราจะมีชีวิตชีวาได้ยังไง เราจึงมาสร้างความรู้สึกตัว สร้างความรู้สึกตัวนี่เป็นเจ้าบ้านเจ้าเรือน คอยดูแลนะจัดการกับบ้านกับเรือนตัวเอง ให้อยู่ในความเรียบร้อย อย่าให้เสียหาย ของที่ไม่ควรเสียก็เสีย ของที่ไม่ควรหายก็หาย หลวงพ่อไปบ้านท่ามะไฟหวาน ไปถามหาเก้าอี้ที่เขามาทอดกฐินปีกลายนี้ เก้าอี้ตั้งโหลหนึ่ง ไม่เห็นสักตัวเห็นเขาเอามารับแขกเมื่อวันทอดเทียน ก็ถามหาเงื่อนไขมันอยู่ตรงไหน ก็ดูก็บอกเนี่ยเก้าอี้มันก็เหลืออยู่อันหนึ่งมันต่างหมู่อยู่ดอกให้ไปดูซิ มันแบบนี้ เก้าอี้ที่เราเขามาทอดกฐิน มันเป็นลักษณะแบบนี้ ไปดูซิ เก้าอี้สีเนี้ย ไปดู มันก็ไม่มีใครมายืมดอกมีบ้านอ้อมแอ้มกันนี่แหละ มายืมให้ไปดู ตามหาคืนมา เอาคืนมา อย่าให้มันหายไปฟรีๆของที่มันจะควรคืนมาก็ให้มันคืนมา
ชีวิตของเราก็เหมือนกัน ความหลงมันเอาไปฟรี มันก็ทำให้เราเสียหาย เหมือนกับทรัพย์สินของเรา หายไปฟรีๆ โจรผู้ร้ายมาลักเอา โจรผู้ร้ายมาลักขโมยเอา หามาได้เท่าไหร่เขาก็เอาไปหมด มันก็หมดเรี่ยว หมดแรง หมดเวลา ตายเปล่า โบราณท่านว่า เอ่อ ฟังสุบินพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า บุรุษล่ำฝั่นเชือกหนัง ฟั่นเชือกหนัง ฟั่นอยู่อย่างนั้น แต่ไม่ยาวสักที รู้จักฟั่นเชือกบ่ ฟั่นมันกะเกี่ยวไป มันก็ยาวออก ยาวออกคำว่า ฟั่นอยู่ตลอด มันต้องยาว แต่ว่าคำสุบินของพระเจ้าปเสนทิโกศลฟั่นเชือก บุรุษฟั่นเชือก ตลอดปี ตลอดภพ ตลอดชาติ ไม่ยาวสักที พระพุทธเจ้าทรงแสดงเหมือนคนเราถูกอกุศลธรรม ตัดตอนอยู่ตลอดเวลา ชีวิตที่ทำความดี ก็เอาความหลงเอาไปกิน ทำดีเท่าไหร่ความหลงเอาไปกิน ไม่รู้จักความหลง เช่น ชาวบ้านชาวเรือนบางคน หาเงินหาทอง ได้เงินมา เอาไปใช้อะไร เอาไปใช้เที่ยวเตร่ เร่ร่อน กินเหล้าเมายา เอาไปสร้างความหลง เอาเงินนั่นแหละไปสร้างความหลง เอาหยาดเหงื่อแรงงานที่หามา หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน ไปกินเหล้าไปสูบบุหรี่ หาเงินเพื่อให้บุหรี่ หาเงินเพื่อให้เหล้า อาจารย์ไพศาลว่า เดี๋ยวนี้เงิน เงินมันกลัวคนไทย เงินมันชอบคนจีนไปอยู่เมืองจีนหมดเลยถ้าคนที่หาเงินไปซื้อบุหรี่ บุหรี่มันได้เงิน
เหมือนชาวนาปลูกข้าว การปลูกข้าวเนี่ย สมัยก่อนมัน วัวควายเป็นผู้ไถให้ แมนบ่พ่อทายกจงปล่อยมันดันคราดดันไถให้ ชาวนาก็ปลูกข้าวได้ 10 20 30 40 50 ไร่ ข้าวเต็มทุ่งเต็มนา แต่ควายมันจะไปกัดกอต้นกล้าซักต้นนี่ กัดไม่ได้เลย ทำไมกัดไม่ได้ เพราะมันมีเจ้าของ เจ้าของครองเอา ควายนี่เป็นคนทำแต่ว่าคนเป็นเจ้าของ ควายมันกินต้นข้าว ตี หลวงพ่อก็เคยตีควายเวลามันกัดกินต้นข้าวโอ๊ยมาคิดดู เอ้าเคยตีบ่พ่อใหญ่หนูหมู่นี่ ควายกินหญ้ากินกล้า หน่อยเดียวกะไล่ตี ควายนั้นมันไม่มี มันเป็นเจ้าของคนมันไปยึดเอาแรงงานของควายมาเป็นเจ้าของ มาเป็นเจ้าของของตัวเอง ว่าจะกินข้าวเปลือกสักน้อยก็ไม่ได้ ให้กินไม่ได้ เหมือนร่างกายของเรานี่แหละ ทำงานหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน เหล้าเป็นเจ้าของ บุหรี่เป็นเจ้าของ เที่ยวเตร่เร่ร่อน เป็นเจ้าของ หาเงินมาสิเอาเงินไสน้อมาซื้อยาสูบ จะได้เงินไหนน้อจะมาซื้อยาสูบนี่ จะได้เงินไสน้อมาซื้อข้าวกิน จะได้เงินไสน้อซื้อยาให้ลูก อาจจะไม่พูดบอก แต่จะออกปากไวที่สุดไม่มีเงินซื้อเหล้าซื้อยาออกปากไว บุรุษฟั่นเชือกยาวไม่เป็นเลยเพราะตัวหลงนั่นแหละ เพราะตัวหลงเนี่ยมันเอาชีวิตเราไป โอ้ย เสียเปรียบมันแม่เพียรเอ๊ย เสียเปรียบความหลง ขนหัวลุก ถ้าจะไปคิดเหมือนเดิมน่ะขนหัวลุก ถ้าจะไปพูดเหมือนเดิมขนหัวลุก เสียดายเสียดายที่มันมีชีวิตแล้วมันหลง น่าเสียดาย เอาเท่านี้กันเถอะพวกเรา อย่าปล่อยปละละเลย อย่าประมาท ถ้าแก้ตรงนี้ได้นะ ไปได้สวย ไปสวรรค์นิพพานเราตั้งต้นจากตัวนี้แหละ อย่าไปเอาทรัพย์สมบัติ อย่าเอาตระกูล อย่าไปเอาชาติชั้นวรรณะอย่าไปเอาเพศเอาวัย อย่าไปเอาความรู้วิชา เปรียบเทียบไม่ได้ ต้องอนุบาลตรงนี้ ต้องสร้างความรู้สึกตัวนี่แหละ นี่วิธีที่เกิดบุญง่ายๆ อาจจะไม่มีเงินสักบาท แต่ว่าสร้างความรู้สึกตัวนี่ไว้ ถ้าไม่มีเงินก็อย่าไปเสียอกเสียใจ เป็นเรื่องขวางกั้นในการทำความดี
ถ้ามีเงิน ก็อย่าไปหลงเงิน ให้เงินพาเราหลงผิดไป เอาไว้นั่นแหละเงินทอง แต่ว่าสร้างความรู้สึกตัว เอาเงินเอาทองเป็นความสะดวก เพื่อให้เกิดความรู้สึกตัว ผู้ไม่มีเงินมีทอง ก็ไม่หาความสะดวก เอาลมหายใจเรานี่แหละ เอาชีวิตเรานี่แหละให้มันเกิดความสะดวก สร้างความรู้สึกตัว แล้วมันจะเป็นอย่างไร มาพิสูจน์กันดูคำสอนพระพุทธเจ้า ตรงนี้ไม่ค่อยมีใครพิสูจน์ แต่ตรงอื่นทำกันเยอะแยะเลย สร้างวัดสร้างวา ทำบุญกฐินผ้าป่า บวชลูก บวชหลาน เอาเงินไปใช้ เอาเงินมาใช้เรื่องนี้ลองดูแต่ไม่ค่อยได้เอาไปใช้มาก มันใช้เรื่องการเจริญสติบางทีก็ไม่ต้องใช้เลยก็ได้ เอาตรงนี้กัน สร้างตรงนี้กัน วิธีใด ที่เราจะมีความรู้สึก ขวนขวายสักหน่อยลองดู แล้วชีวิตของเราจริงๆ ก็เพื่อการนี้โดยตรง ตรงจริงๆ ความหลงไม่ใช่ตรงหลอก ความหลงน่ะไม่ใช่เรื่องตรงต่อกายต่อใจ ความรู้สึกตัวนี้เป็นเรื่องตรงต่อกายต่อใจ แล้วก็ได้ความชอบเกิดขึ้นทันทีได้ประโยชน์ทันที เป็นคุณทันทีความรู้สึกตัว ทันตา อายัมภทันตา มันจะรู้น้อยหรือรู้มาก แล้วแต่การกระทำของเรา เราทำเรื่องนี้ให้สุดฝีมือลองดูให้สุดฝีมือ ลองดู พิสูจน์กันดู อย่าไปทิ้งขว้าง ไปอยู่ไหน ก็ให้มีสติ อยู่ที่บ้านอยู่ที่ลุ่มอยู่ที่ดอน ก็ให้มีสติ ให้รู้สึกตัว ความรู้สึกตัวเนี่ยมันก็จะเกิด วงจรหลายอย่างที่เกิดความดีที่เกิดความดี มาเป็นพวงๆ เกิดจากความรู้สึกตัว เกิดจากเรากระทำนี่ เป็นอานิสงค์มาก ได้ประโยชน์ได้พึ่งพาอาศัย
นอนหลับตื่นเที่ยงคืน นอนไม่หลับ กินไม่ได้อะไรต่างๆที่มันจะเกิดขึ้นกับเรา เราต้องอาศัยตรงนี้แล้ว ความทุกข์ ความพลัดพราก ความเสียอกเสียใจ ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น การพลัดพรากจากของรักของชอบใจ มันจะเกิดขึ้นแน่นอน ความเกิดแก่เจ็บตายจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน เราต้องมีหลักตรงนี้ เป็นตัวเฉลย เฉลยไว้ก่อน เฉลยไว้ก่อน รู้ล่วงหน้า รู้ล่วงหน้า แล้วมันก็ทำให้เรารู้ แล้วเราก็เฉลยได้แล้ว ความเกิดก็ทำได้แล้ว ความแก่ก็ทำได้แล้ว ความเจ็บก็ทำได้แล้ว ความตายก็ทำได้แล้ว ความไม่เที่ยงก็เห็นแล้ว ความเป็นทุกข์ก็เห็นแล้ว ความไม่ใช่ตัวตนก็เห็นแล้ว ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจก็เห็นแล้ว ความคับแค้นใจก็เห็นแล้ว การพลัดพรากจากของรัก ของชอบใจก็เห็นแล้ว ลุยเกลี้ยงไปเลย ไม่มีเบื้องหน้า สิ่งเหล่านี้ เอาไว้หลังแล้ว เอาไว้หลังแล้ว
หลวงพ่อได้รับโทรศัพท์ เขากลัว เขากลัวเจ็บ กลัวจะทำไม่เป็น กลัวจะไปตกนรก ทำยังไงหลวงพ่อหนูกลัวมาก กลัวเจ็บ กลัวเวลาที่จะตายทำไม่เป็น ทำไม่เป็นนั่นก็ยังไม่มาถึงก็กลัวแล้วบางคน ความตายยังไม่มาถึงก็กลัวไว้แล้ว ความเจ็บยังมาไม่ถึงก็กลัวไว้แล้ว มันถึงขนาดนั้นแล้วนะคนเรา จะอยู่อย่างไร จะทำยังไง ต้องวันนี้ ไม่ใช่อนาคต เป็นปัจจุบัน ปฏิบัติธรรมมันเป็นปัจจุบัน มันเฉลยไปเรื่อยๆ มันเฉลย ไปเรื่อยๆ หลวงพ่อก็เคยไปช่วยคนป่วย สมัยนั้นไปอบรมอยู่อำเภอลำดวน สุรินทร์ มีคนป่วย เขาป่วยอยู่โรงพยาบาล เขาก็รู้ว่า หลวงพ่ออยู่ที่นั่น ให้หลวงพ่อมาดูหน่อย ทำใจไม่เป็น ทำใจไม่เป็น ทำใจไม่ถูก ลืมเสียแล้วที่หลวงพ่อสอน เขานอนอยู่บนเตียง หลวงพ่อก็ไป เอารถพาไป ขึ้นไปบอกคำเดียว ไม่ต้องไปทำอะไร อยู่เฉยๆเขาบอกว่าหนูทำใจไม่เป็น ลืม มันลืม มันลืม ทำใจไม่เป็นจะทำยังไง จะทำยังไง หลวงพ่อบอก ไม่ต้องทำอะไร อยู่เฉยๆ หายใจเข้ารู้สึก หายใจออกรู้สึกก็พอแล้ว อยู่ตรงนี้นะ
เขาก็หงึก(ผงก)หัวตอบยอมรับ เขาก็ทำสบายไม่ดิ้น ไม่รน นี่ ต้องทำให้มันเป็น ปฏิบัติธรรมทำให้มันเป็น ไม่ใช่ให้มันรู้ เป็นการกระทำลงไปที่กายที่ใจของเราความเห็นให้ถูกต้อง ยอดสุดยอดคือ ทำความเห็นให้ถูกต้อง จะคิดเห็นอะไร ก็ถูกต้อง จะพูดก็ถูกต้อง จะทำก็ถูกต้อง เรียกว่า สัมมาทิฐิ เป็นรุ่งอรุณของชีวิต ปัญญามาก่อน ปั๊บทันที ความรู้สึกตัวนี่แหละเป็นตัวปัญญา กำเนิดของปัญญา ความรู้สึกตัวนี่ ไม่กลัว ไม่มีเรื่องน่ากลัวถ้าเราไม่รู้ โอย มีแต่ภัย นะมีแต่ภัย วาตภัย กิเลส ตัณหา ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความรัก ความชัง ความพลัดพรากจากของรัก เราเสียอกเสียใจ หลายชีวิต เสียอก เสียใจ เป็นทุกข์ เป็นทุกข์อยู่นั่นแหละ การพลัดพรากจากของรัก ของชอบใจ ก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์ ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจก็เป็นทุกข์ รูปก็เป็นทุกข์ เวทนาก็เป็นทุกข์ สัญญาเป็นทุกข์ สังขารเป็นทุกข์ วิญญาณเป็นทุกข์ เปลี่ยนไม่ได้เหรอ มันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเหรอความทุกข์นี่ เกี่ยวข้องกับมันเมื่อไหร่ ต้องยอมตลอดภพ ตลอดชาติ สู้สักหน่อย เอ้ามันจะทุกข์จริงๆเหรอนี่ ลองดูสิ มันจะเป็นยังไง คิดใหม่ลองดู ทำไฉน เราถูกความทุกข์หยั่งเอาแล้ว เรามีความทุกข์เป็นเบื้องหน้าแล้ว ทำไฉนการทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้จะพึงปรากฏชัดแก่เราได้
อุททิสสะ อะระหันตัง สัมมาสัมพุทธัง เราสวนตะกี้นี่อุทิศต่อพระพุทธเจ้า เอาอย่างพระพุทธเจ้า เดินตามรอยพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสอนอย่างไร
เอสะ มัคโค วิสุทธิยา สติปัฏฐาน เอย สติปัฏฐาน มีกายมีสติอยู่กับฐาน กายเราก็มี เราสร้างเอาไว้ตรงไหน กลัวเอาไว้นะ จำเอาไว้ จำเอาไว้ ไม่ทำก็จำเอาไว้ รู้ไว้ไม่ใช่บ่าแบกหาม อาจจะเป็นประโยชน์นะ