แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ฟังธรรมกันนะ มีผู้ฟังมีผู้พูด การฟังธรรมนี่คือ ฟังแล้วเอาไปทำ ไม่ใช่ฟังแล้วไปจำ ความจำเป็นความรู้อันหนึ่งที่ว่ารู้จำ มันรู้จำนี่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์ การฟังแล้วเอาไปทำ จนให้มันเกิดขึ้นจากการกระทำ อันนั้นเป็นความรู้แจ้ง อันนั้นมีประโยชน์ เรียกว่าเห็นแจ้ง การเห็นแจ้งโดยการกระทำ เรียกว่า วิปัสสนากรรมฐาน เพราะเอาไปทำ เพราะทำแล้วมันเกิดการรู้แจ้ง วิปัสสนากรรมฐานเกิดขึ้น ล่วงพ้นภาวะเก่า เปลี่ยนแปลงไป ความรู้แจ้งที่เกิดจากการกระทำ เป็นการทำความดี เป็นวิปัสสนา ล่วงพ้นภาวะเก่า หลุดพ้น เคยหลงก็ไม่หลง เคยทุกข์ก็ไม่ทุกข์ เคยโกรธก็ไม่โกรธ
ถ้าทำไม่ล่วงพ้น ยังมีความโกรธ ความโลภ ความหลง ความทุกข์ ความเกิดแก่เจ็บตาย จำเป็นเราต้องทำ เพราะมีกายมีใจ กายใจของเรานี้ ต้องปฏิบัติตามธรรม ให้กายปฏิบัติตามธรรม ให้วาจาปฏิบัติตามธรรม ให้ใจปฏิบัติตามธรรม กาย วาจา ใจ เรียนจากสภาวะที่รู้ สภาวะที่รู้ก็มีอยู่ในกายในใจนั่นเอง เมื่อกายมันหลง ในความรู้ ความมีในความหลงที่เกิดกับกายนั้น ใจที่มันหลงในความรู้ เกิดอยู่กับใจ ต้องมีในความไม่หลง ไม่ต้องไปปล่อยทิ้งไว้ ถ้าไม่ปฏิบัติตามธรรม กลับปล่อยทิ้งไว้ในกายในวาจาในใจ มันก็เป็นนิสัย เมื่อเป็นนิสัยก็ไปตามนิสัยต่างๆ ถ้าปฏิบัติตามธรรมก็เป็นนิสัยเหมือนกัน นิสัยในทางดี เหมือนกับเลียนนิสัยจากพระพุทธเจ้า นิสัยจากพระธรรม และนิสัยจากพระสงฆ์
เมื่อได้นิสัยก็เปลี่ยนร้ายเป็นดีทุกอย่าง เปลี่ยนผิดเป็นถูก เปลี่ยนทุกข์เป็นไม่ทุกข์ นิสัยพระพุทธเจ้า มันมีมาเพื่อให้พัฒนา มีมาเพื่อให้เกิดการปฏิบัติ มีหลงจึงไม่หลง ได้นิสัยใหม่ สนุกเปลี่ยนสิ่งที่ไม่ดีให้มันดี การเปลี่ยนสิ่งไม่ดีให้มันดีเรียกว่า กรรมฐาน เรียกว่าปฏิบัติธรรม
เมื่อมันได้นิสัยแล้ว มันก็เป็นปัจจัย เป็นนิสัย เป็นปัจจัยแห่งการหลุดพ้น ไปสู่ความหลุดพ้น จากปัญหาเป็นปัญญา เป็นไปเอง ปัญหาอยู่ที่ใด ปัญญาอยู่ที่นั่น ความหลงอยู่ที่ใด ความไม่หลงอยู่ที่นั่น ความทุกข์อยู่ที่ใด ความไม่ทุกข์อยู่ที่นั่น เมื่อมีนิสัย มีปัจจัยแล้ว เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่ไปได้ยกมือสร้างจังหวะ หรือเดินจงกรม การเดินจงกรม การยกมือสร้างจังหวะตามวิชากรรมฐาน เหมือนกางแบบฝึกหัด ถ้าหัดเป็นแล้วก็ไม่ต้องทำ เหมือนเราเรียนหนังสือ แบบฝึกหัดอ่าน แบบฝึกหัดเขียน ถ้าอ่านได้แล้ว เขียนเป็นแล้ว ไม่ต้องไปหัดอยู่ ใช้ได้เลย
มันมีกายมีใจมีรูปมีนาม เพื่อให้เราได้ใช้ ใช้กายใช้ใจ ใช้รูปใช้นาม นี้ไม่ใช่ถูกตามหลักการปฏิบัติธรรม มันเกิดมรรคเกิดผล มันได้ประโยชน์จากรูปจากนามนี้ ถ้าไม่มีรูปมีนาม มันไม่มีมรรคมีผล เหมือนพ่วงแพ ไม่มีพ่วงแพ เรายังขี่ข้ามฟาก จากฝั่งโน้นไปฝั่งนี้ จากฝั่งนี้ไปฝั่งโน้น แห่งวัฏสงสาร ความเกิดแก่เจ็บตาย ความสุข ความทุกข์
เมื่อหัดได้แล้ว หัดเป็นแล้ว มันจะเป็นประโยชน์ต่อกาย ต่อวาจา ต่อใจ มันก็เป็นประโยชน์ไปอีกมากมายหลายอย่าง ที่มันจะเกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติธรรม ที่สอนกาย สอนวาจา สอนใจได้แล้ว อาจจะไม่ได้สอนใคร ก็เป็นจันทร์ส่องแสง ทำให้เกิดแสงสว่าง ชีวิตของผู้ปฏิบัติธรรมเหมือนจันทร์ส่องแสง ไม่เป็นปัญหาต่อใคร ไม่เป็นปัญหาต่อตัวเองและคนอื่น สิ่งอื่น วัตถุอื่น เราก็ทำได้ ปฏิบัติได้ทุกโอกาส ไม่เลือกสถานที่ ไม่เลือกกาลเวลา มีสิทธิหน้าที่ สิทธิหน้าที่อยู่ที่ตัวเราแล้ว
เวลามันหลง เรามีสิทธิไม่หลง เวลามันทุกข์ เรามีสิทธิไม่ทุกข์ อะไรก็ตามที่มันเกิดขึ้น กับรูปกับนามกับกายกับใจนี้ มีสิทธิให้เกิดความเป็นธรรมได้ทุกกรณี มันยังเป็นหน้าที่ ปฏิบัติธรรม คือ ปฏิบัติตามหน้าที่ และเราก็มีหน้าที่มากมายเกี่ยวข้องกับสิ่งอื่น วัตถุอื่น เกี่ยวข้องกับตัวเรานี้ก็มีหน้าที่ ให้หน้าที่ในการใช้ชีวิตให้ถูกต้องอยู่เสมอ เราไปอยู่แห่งหนตำบลใด เราก็มีกายมีใจอยู่นั่น มีตา มีหู มีจมูก ลิ้นกาย ใจ มีรส มีกลิ่น มีเสียง มีสัมผัส มีอารมณ์ ก็เป็นหน้าที่ที่เราจะต้องปฏิบัติต่อสิ่งเหล่านี้ ให้มันถูกต้อง เมื่อปฏิบัติถูกต้องต่อหน้าที่ เกิดความเป็นธรรม ก็มีความเป็นธรรม ที่ไหนก็มีได้ ไปอยู่ต่างประเทศก็มีความเป็นธรรมต่อต่างประเทศได้ ไปอยู่ในโลกไหนก็มีความเป็นธรรมเกิดขึ้นที่นั่น ไปใช้บ้านพักเขา ใช้โรงแรมเขา ก็เกิดความเป็นธรรมแก่ที่พัก ไม่ทำให้เกิดการเสียหาย ไม่ผิดระเบียบ ไม่ผิดอะไรต่างๆ แต่ถ้าเราไม่ปฏิบัติตามธรรม ไม่ปฏิบัติธรรมก็เป็นอันตราย และตัวเราเองก็เป็นอันตราย แม้แต่ความคิดก็เป็นอันตราย ความคิดทำให้เกิดเป็นทุกข์ ทุกข์เพราะความคิด การพูดก็เป็นทุกข์เป็นโทษได้ การกระทำก็เป็นทุกข์เป็นโทษต่อตัวเองและคนอื่นได้ เขาเกลียดเขาชัง เสียเงินเสียทอง ติดคุกติดตะราง เป็นทุกข์เป็นโทษก็เพราะกาย เพราะวาจา เพราะใจ ถ้าเราปฏิบัติธรรมมันก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็เป็นประโยชน์ จึงจำเป็นต้องปฏิบัติธรรม ปฏิเสธไม่ได้
ยิ่งเรามีชีวิตสังคม สัตว์สังคม มีพ่อมีแม่ มีผัวมีเมีย มีลูกมีหลานมีพี่มีน้อง มีสิ่งที่เราเกี่ยวข้อง ดินฟ้าอากาศ ธรรมชาติ ถ้าเราไม่ปฏิบัติตามธรรม มันก็ฉิบหายได้ อาภัพอับจนได้ มีแต่ศัตรู ความคิดก็มีศัตรู การกระทำก็เกิดศัตรูได้ ถ้าเราปฏิบัติตามธรรม ความคิดก็เป็นมิตร การกระทำก็เป็นมิตร การพูดก็เป็นมิตร เกิดขึ้นได้จากผู้ปฏิบัติ จึงจำเป็นต้องปฏิบัติธรรม ปฏิบัติตามสภาวะที่รู้ ไม่มีใครสอนเรา เราสอนตัวเอง สอนได้ทุกกรณี สอนกาย สอนวาจา สอนใจ สอนได้ เรามีหลงเราก็ไม่หลง สอนให้ไม่หลง เรามีทุกข์เราก็ต้องสอนให้ไม่ทุกข์ เรามีความโกรธก็สอนให้ไม่โกรธ อยู่ที่เดียวกัน เหมือนหน้ามือหลังมือ เปลี่ยนเป็น หน้าหนึ่ง ให้เป็นหน้าหนึ่ง อยู่ทุกเวลา
ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมา จึงเป็นการที่มีความมั่นใจ มีกาย มีวาจา มีใจ มีภาวะที่รู้ เห็นคู่ของกาย ของวาจา ของใจ ภาวะที่รู้ ถ้าปฏิบัติตามภาวะที่รู้ก็เป็นพุทธะ เป็นธรรมะ เป็นสังฆะ พุทธะ ธรรมะ สังฆะ เป็นรัตนะที่เป็นที่กายอาศัยได้ วาจาอาศัยได้ ใจอาศัยได้ เหมือนกับมีที่พึ่ง เมื่อพึ่งผลที่เราปฏิบัติตามธรรม จะมีอานิสงส์จากผู้ปฏิบัตินั่นเอง
ในสิ่งที่คนทั้งหลายเขาทุกข์ เราไม่ทุกข์ ในสิ่งที่คนทั้งหลายเขาหลง เราไม่หลง ในสิ่งทั้งหลายที่เราโกรธ เราไม่โกรธ แล้วก็เป็นประโยชน์จริงๆ แต่ถ้าเราไม่ปฏิบัติตามธรรม ตามภาวะที่รู้ เป็นศัตรูกันมากมาย ผัวเมียก็เป็นศัตรูกัน ฆ่ากันได้ พ่อแม่กับลูกก็เป็นศัตรูกัน มันไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เป็นทุกข์ก็มีให้เห็นอยู่ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ มีอยู่ โกรธ หลง ทุกข์ โลภมีอยู่ เราก็ต้องยอมทนต่อความทุกข์ ให้ความทุกข์นอนอยู่กับเราข้ามวันข้ามคืน มีค่าอะไร
ชีวิตของเรานี่ ยากเหลือเกินที่ได้เกิดมา กว่าที่จะได้มานั่งอยู่นี่ ได้อยู่สภาพเช่นนี้ มีกี่คน คนในโลกนี้ เหมือนกับขนโคกับเขาโคก็ว่าได้ ทั้งๆที่มีอยู่ คำสอนมีอยู่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีอยู่ในตัวชีวิตของเรานั่นเอง แต่เราไปคบมาร คบภัย คบศัตรู ปล่อยให้ตัวเองคิด หมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องใด ไปติดอะไรมา เป็นนิสัยอะไรมา ก็ยังเป็นอยู่เช่นนั้นตลอด จนตาย เกิดมาจนตายทิ้งไปเปล่าๆ ไม่ได้ประโยชน์เลย ไม่คุ้มค่า มีแต่โทษมีแต่ภัย ทำลายอะไรบ้าง ทำลายตัวเองอะไรบ้าง หลงกี่อสงไขยหลง ทุกข์กี่อสงไขยทุกข์ โกรธกี่อสงไขยโกรธ ยังเฉย ยังดื้อด้าน ไม่รู้จักช่วยตัวเอง บาปไปทุกแห่ง บาปคือโง่ บาปก็คือไม่รู้ ก็ย่อมรับบาปใช่ไหม วิบากกรรมอยู่เช่นนั้น เอาความหลงออกหนา เอาความทุกข์ออกหนา เอาความโกรธออกหนา ความรู้ ความไม่ทุกข์ ความไม่โกรธ มีอยู่ ไม่เคยขึ้นมา มาดูๆ จะช่วยตัวเอง จะได้เป็นประโยชน์ มีกาย มีวาจา มีใจนี้ เป็นประโยชน์จริงๆ เราจะไปรอวันเวลาที่ไหน มันหลง มันทุกข์ มันรอไหม ตอนนี้อย่าเพิ่งทุกข์นะ ให้สบายๆก่อน ขอได้หรือ
ถ้าบางทีเราจะเป็นทาสของมันด้วย เป็นทาสรับใช้กิเลส ตัณหา ราคะ ความทุกข์ โกรธ โลภ หลง เป็นใหญ่กว่าเรา สั่งเรา เป็นขี้ข้าความคิดที่ไม่ดี เป็นขี้ข้าความทุกข์ ความโทษที่ไม่ดี มาทีไรก็รับใช้ หลงทีไรก็หลงไปเลย ทุกข์ทีไรก็ทุกข์ไปเลย โกรธทีไรก็โกรธไปเลย ทำตามความโกรธ ตัดสินใจทำตามความโกรธ ตัดสินใจทำตามความทุกข์ จนทำให้สิ่งอื่นวัตถุอื่นเสียหาย มีกี่ครั้งกี่หนแล้ว นึกขึ้นมาน้ำตาไหลกินข้าวบ่ลง มีกี่ครั้งกี่หน คนอื่นผู้ปฏิบัติธรรมเขาไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว นึกถึงเมตตากรุณา สงสารตัวเองยิ่งกว่าสงสารคนอื่น แต่เราปฏิบัติธรรมแล้วเห็นความทุกข์ โอ้ เกิดมาไม่เคยช่วยตัวเองเลย ปล่อยตัวเองทิ้งมาตั้ง 30 ปีก็ว่าได้ ไม่เคยช่วยดูแลกายใจ
สงสาร การสงสารจะหายสงสารตัวเอง ไม่มีใครบอกใครสอนเรื่องนี้ พอมาปฏิบัติธรรม หลวงพ่อเทียนสอน โอ้ น้ำตาซึมเลย ต้องเอาผ้ามาเช็ดน้ำตา ไม่เคยช่วยตัวเอง เวลานอนก็หาเรื่องมาคิด กายก็ตาม ไม่เป็นอิสระ มองไม่เห็นทุกข์หรอก กระตือรือร้น รู้สึกว่ามันมีค่าขึ้นมา ได้ช่วยตัวเอง เมื่อได้ช่วยตัวเอง ไม่เห็นตัวเองก็เห็นคนอื่น อยากขอทุกข์ ขอโทษต้นไม้ สัตว์สาราสิ่ง ทุกสิ่งที่ทำ ชีวิตที่ผ่านมามากมาย ทำเท่าไหร่มันก็เป็นโจทย์ให้เราไม่ท้อถอย ได้ทำความดีตอบแทนสิ่งที่เราได้ทำมา
เห็นบุญคุณของพ่อของแม่ ของอะไรต่างๆมากมาย การที่เราทำให้เขาเป็นทุกข์นี่ โอ้ เสียใจมาก แต่คนอื่นทำให้เราเป็นทุกข์ไม่มีปัญหา ไม่ใช่ความผิดของเรา แต่ความผิดของเราที่เราได้ทำให้คนเป็นทุกข์ ร้องไห้เสียใจเพราะเรา เราต้องเป็นโจทย์ตัวใหญ่ ใช้หนี้กันเท่าไหร่ก็ไม่พอ ทำความดีเท่าไหร่ก็ไม่พอ มือ 5 นิ้ว 10 นิ้ว ไม่เพียงพอ จะมีมือสัก 1,000 มือ 10,000 มือ จะมาทำความดี ตอบแทนในสิ่งที่เราได้ทำผิดมา ไม่เพียงพอ ชีวิตที่มีอยู่ ใช้หนี้อะไรที่เป็น สิ่งที่เราสนับสนุน ให้เราทำความดีมีมากมาย
ทุกวันนี้ก็ยังมีหนี้ คนอื่นช่วยเหลือเรา ไปบิณฑบาตชาวบ้านเขา ก้อนข้าวใส่ในบาตร ที่อยู่อาศัย เวลานอน ฝนตก ฟังเสียงฝน หลังคามุงให้ไม่มีเปียก ผ้าห่มก็มี ใครทำให้เรา มันจะชั่วได้อย่างไร ยิ่งเราเป็นผัวเป็นเมียนอนอยู่ข้างเคียงกัน น่าสงสาร ได้ทำความดีให้มันเห็นประจักษ์แจ้งขึ้นมา พูดกันดีๆ ทำต่อกันดีๆ คิดต่อกันดีๆ ให้มันคุ้มค่าสมกับที่เราได้มีกายมีใจ เยอะแยะนะ เพราะฉะนั้นจะชั่วได้อย่างไร ชีวิตของเรานี่ สงสาร ความทุกข์เราเห็นทุกข์นี่ เราสงสารคนอื่นมากมาย มีกรรมที่เราได้ทำมา จับปลาจับหอยมาเท่าไหร่แล้ว ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเท่าไหร่ ตัดไม้ทำลายป่าเท่าไหร่ ทำชั่วมาเท่าไหร่ สูบบุหรี่ก็สูบ แต่เหล้าไม่เคยกิน เราไม่เพียงพอกับชีวิตของเรานี่ เอามาทำความดี
แต่การทำความดีที่เป็นประโยชน์ เลือกชีวิตนักบวช ที่จะเป็นค่า ที่เป็นประโยชน์ เลือกชีวิตนักบวช เห็นผ้ากาสาวพัสตร์ เห็นความเป็นอยู่ เห็นธรรมวินัย ชอบ เลือกเอาชีวิตนักบวชสุดหัวใจ อยากจะมาใช้หนี้ อยากจะมาทำความดี เป็นชีวิตนักบวชได้ทำความดีต่อโลก อันที่จริงมันสนับสนุนเรา บาปกรรม ความชั่วมันสนับสนุนให้เราทำความดี ไม่ท้อถอย อยากจะบอกคนอื่น เวลามันหลง ไม่หลงก็ได้ เวลามันทุกข์ ไม่ทุกข์ก็ได้ เวลามันโกรธ ไม่โกรธก็ได้ ได้ยินมั้ยเนี่ย ฝนตกแล้ว เปิดหลังฝนนี่ไม่พอใช้ชีวิตนี่