แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เพื่อเป็นส่วนประกอบกับการปฏิบัติที่เรากำลังทำอยู่นี่ ได้ยินสิ่งที่เราได้ทำ เราทำในสิ่งที่เราได้ยินมา สิ่งที่เราได้ยินนี้มีมานานแล้ว สองพันห้าร้อยเก้าสิบเก้าปีมาแล้ว เรายังไม่ได้ทำก็มีได้ สิ่งที่เราได้ยินมา ไม่เอามาทำก็เลยไม่เกิดประโยชน์ เราก็ว่าเราทั้งหลายปฏิบัติตามอยู่ซึ่งคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสอนยังไง ให้มีสติไปในกาย เราได้ทำแค่ไหนเพียงไร ในกายในใจเรานี้มีอะไรมาใช้ ไปทางไหนบ้างแล้วเป็นของใคร กายเป็นของใคร ใจเป็นของใคร วันหนึ่งหลงหรือวันหนึ่งรู้ ชั่วโมงหนึ่งหลงหรือชั่วโมงหนึ่งมันรู้ สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องมีคำถาม ถ้าหากว่า ถ้ามันหลงเก่งว่ายังไม่ได้ทำอะไรเลย ยังไม่ได้ทำประโยชน์จากกายจากใจเลย ไม่สำเร็จประโยชน์ มีกายมีใจก็ใช้ผิดประเภทแล้ว จึงมาฝึกหัดกันในภาควิชากรรมฐาน เพื่อจะได้ใช้ ถ้าฝึกหัดได้แล้วใช้ได้
ผู้ที่ถึงฝั่งแห่งพระนิพพานมีน้อย ส่วนมากจะวิ่งเลาะอยู่ตามฝั่งโน้นอยู่ มีความรู้สึกตัวนี่มีไม่มาก ความหลงมีมาก ในชีวิตของคนๆ หนึ่ง เราจะมาเห็นได้เวลาเราฝึกกรรมฐาน การมีสติไปในกายอยู่เป็นประจำ ชั่วโมงหนึ่งมันหลงหรือว่ามันรู้ ถ้ามันหลงนั่นแหละจะได้เปลี่ยนหลงเป็นรู้ ถัดจากนี้ ให้มันมีความรู้สึกตัวเป็นที่จุดหมายปลายทาง อะไรที่มันเกิดขึ้นกับกายกับใจ ให้เป็นความรู้สึกตัวเป็นที่หมาย อย่าให้หลงเป็นที่หมาย จบลงด้วยความหลง จบลงด้วยความสุขความทุกข์ มันไม่ถึงที่หมาย ยังอยู่ที่เก่าหรือไปไม่ถูกทิศถูกทาง ไม่ได้หัดไม่ได้สอนตัวเอง มันก็ใช้ไม่ได้ ถ้าได้รู้ สิ่งที่มันรู้ก็มีอยู่ มีกายอยู่นี้ มีใจที่มันคิดไปโน่นไปนี่ เมื่อมันคิดไปก็รู้ ได้สอนมัน เวลามันหลงที่มันคิด ความหลงที่มันเกิดจากความคิด ความคิดทำให้หลง เราจะได้รู้มันจะได้สอนมัน เมื่อผิดไม่ได้สอน มันก็ผิดไปตะพึดตะพือ เหมือนสอนอะไรเหมือนกัน ครูสอนนักเรียน พรานช้างฝึกช้าง สารถีฝึกม้า มันก็ฝึกได้ แม้แต่ฝึกสัตว์ร้ายๆก็ยังฝึกได้ ได้ไปเห็นอยู่ที่สิบสองปันนา เสือโคร่งตัวใหญ่ๆเขามาฝึกสองตัวให้ขี่ลูกบอลกลิ้งไปกลิ้งมาบนเวที กลิ้งถอยหลังด้วย เป็นวงกลมเป็นรูปอะไรต่างๆตามที่มันแสดงออก เมื่อมันหมดเพลงมันก็ลง เข้าไปอยู่ในกรง พอเปิดเพลงขึ้นมันก็วิ่งออกจากกรงมา มาขึ้นลูกบอลกลิ้งไปกลิ้งมา สองตัวใหญ่ๆกลิ้งสลับกันไปมา แพะไต่เชือก เอาลิงขี่หลังขึ้นไปไต่เชือกกลับไปกลับมา มันไม่มีมือ มันไม่มีเล็บที่จับ มันมีเล็บแต่มันยังไต่เชือกได้ หมีเดินจับแขนคนโน้นคนนี้ เหมือนใส่เสื้อชุดสากลสีดำๆ อกขาวๆ ยืนสองเท้า ใครๆ ก็ไปกอดคอถ่ายภาพ นกยูง เวลาเขาเป่านกหวีด มาเป็นพันๆ ตัวบินมาในป่า เนี่ยเขาหัดมัน ยังหัดได้ คนเราแท้ ๆ เนี่ย มันไม่มากขนาดนั้น ไม่ให้หัดแบบนั้น มันหลงให้รู้แค่นี้เอง มันปฏิบัติได้อยู่ทำได้อยู่ เมื่อมันสุขให้รู้มีไหม มันทุกข์ให้รู้มีบ้างไหม ความทุกข์ ความสุข ความหลง ความโกรธ กิเลส ตัณหาราคะ มีไหม ถ้ามันมีเราก็สอนให้มันรู้ซะ
ให้เห็น ให้เห็นแล้วก็ไม่เป็น มันสุขเห็นมันสุขไม่เป็นผู้สุข พ้นจากความสุข ไปทางนี้ มีสติ สติมักจะเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่สติที่ไปสงบนิ่งเหมือนก้อนหิน ไม่ใช่ สติมันจะเป็นสิ่งที่สอน อะไรที่ไม่ใช่สติ สอนให้เป็นสติทั้งหมด เป็นสติสัมปชัญญะทั้งหมด รู้สึกระลึกได้จบแล้ว แผ่นดินสุดแค่นี้ ชีวิตของเรา สุดแค่ความรู้สึกตัว เห็นไม่เป็นจบไปแล้ว ถ้าสุขเป็นสุข ทุกข์เป็นทุกข์ไม่จบซักที โกรธเป็นโกรธ โลภเป็นโลภ รักเป็นรัก เกลียดชังเป็นเกลียดชัง พอใจไม่พอใจ จบไม่เป็นถมไม่เต็ม ได้เห็นแล้วไม่เป็นเนี่ย จบง่ายๆ มากเท่าไหร่ก็จบลงได้ จนไม่เป็นอะไรกับอะไร
ชีวิตที่ถึงที่หมายไม่เป็นอะไรกับอะไร มันก็ไม่ใช่จะให้อะไรมาตั้ง ชีวิตตั้งอยู่ในชีวิตเรานี่ อะไรมาตั้งก็ไม่รู้จะตั้งที่ไหน เพราะมันไม่เป็นอะไร ไม่มีที่ให้ตั้ง ไม่ให้ค่า ความหลงไม่ให้ค่า ความสุขความทุกข์ไม่ให้ค่า ทำให้ไม่มี ทำให้สลัดคืนเหมือนไม่มีที่ตั้งเขาก็กลับของเขาเอง อะไรที่เป็นแปดหมื่นสี่พันอย่างที่มันเกิดขึ้นกับกายกับใจ กิเลสพันห้า ตัณหาร้อยแปด มันไม่รู้ว่าจะอาศัยตรงไหน เพราะมันไม่มีอะไร ชีวิตถึงที่ไม่มีอะไรแล้ว อะไรจะมาตั้งอยู่ได้ จริงๆเป็นการเหนือเกิดแก่เจ็บตายลักษณะแบบนี้ ในชีวิตที่ไม่เป็นอะไรทำอะไรล่ะ มันก็ทำทุกอย่างที่มันเป็นการงานชอบ พูดชอบ คิดชอบ มันมีเยอะๆ เมื่อมันหลุดจากนี้ไปน่ะ ถ้ามันยังไม่หลุดจากนี้ คุ้มร้ายคุ้มดี บางทีก็เบื่อหน่าย บางทีก็ชอบ บางทีก็พอใจ บางทีก็ไม่พอใจ ทำตามสิ่งเหล่านั้นไป มันตัน ถ้าไม่เป็นอะไรกับอะไรแล้วมันกว้างใหญ่ไพศาล เปิดออก เหมือนมือสองข้าง คลี่มันใส่หน้าอก บัดนี้แบออกไป วางออกไป เปิดออก กว้างใหญ่ไพศาล สุขมันเหมือนกับชี้มาถึงตัวจนกับความสุข ทุกข์ก็จนกับความทุกข์ แคบๆไม่กว้างใหญ่ไพศาล มันก็เลยอิสรภาพ จะทำอะไรล่ะ ทำสิ่งที่มันชอบ พูดอะไร พูดในสิ่งที่มันชอบ ไปหมดเลย ไปเป็นพวงเลย ละความชั่วทำความดีจิตบริสุทธิ์ จบเลยชีวิตเนี่ย นี้คือปฏิบัติธรรม ปฏิบัติตามอยู่ซึ่งคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า มีอยู่ในชีวิตคนเรานี้ ไปหาที่อื่นไม่พบ ถ้ามีหลงอยู่นั่นแหละงาน ถ้ามีสุขมีทุกข์อยู่เป็นงานของเราแล้ว อย่าปล่อยทิ้งมันจะค้าง งานค้างคา อนากุลา จ กมฺมนฺตา งานยุ่งเหยิงสับสนหลงแล้วหลงอีก หลงจนตาย โกรธจนตาย ทุกข์จนตาย จนตายไปเปล่าๆ ยิ่งจะมากไปด้วยถ้าเราไม่หัดมันนะ ออกหน้าออกตา ไม่มีความรู้สึกตัวใช้เลยในชีวิตทั้งชาติ
ทันสมัย ปฏิบัติธรรมเนี่ยมันทันสมัย เป็นสากล ไม่ใช่คนละเรื่องละราวเหมือนกันหมด สากลแห่งธรรม เวลาเรารู้สึกตัวมันเป็นเท่าไหร่เท่าไหร่ในโลกเนี่ย เหมือนคนๆเดียวกันเลย มันทำอะไรถ้ามีผู้รู้สึกตัว มันก็ละความชั่ว ถ้ามีความรู้สึกตัวก็ทำความดี ถ้ามีความรู้สึกตัวก็จิตบริสุทธิ์ เมื่อไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดีจิตบริสุทธิ์ มันทำไงล่ะ เดียวแชะ เกิดเมตตากรุณาขึ้นมาเต็ม ชีวิตไม่มีคำว่าขอบเขต แต่ก่อนอาจจะรักแต่พ่อ แต่แม่ แต่พี่ แต่น้อง รักภรรยาสามีลูกเต้าเหล่าหลาน พอมันมีความรู้สึกตัวมันไม่เป็นอะไร มันก็เกิดความรักมาแทนที่ มหากรุณาธิคุณเกิดขึ้นมา ไม่ใช่ว่างเหมือนกับอันธพาล ว่างเพื่อรับเต็มไปด้วยคุณความดี ว่างจากความชั่ว เต็มไปด้วยความดี ว่างแบบนี้นะ ไม่ใช่ว่าง ในหัวใจเต็มไปด้วยเมตตากรุณาไม่เหือดไม่แห้ง แม่น้ำภูเขาจะขวางกันไม่ได้ สงสาร รักชอบเม็ดดินเม็ดหินเม็ดทรายต้นหมากรากไม้ สิ่งต่างๆ มันเกิดจากความรักตัวเอง มันเห็นตัวเองเนี่ย เห็นตัวเองก็เห็นคนอื่น ถ้ารักตัวเองเป็นก็รักคนอื่นได้ จะหลงยังไง สงสารตัวเอง จะทุกข์ยังไง สงสารตัวเอง จะโกรธอย่างไร สงสารตัวเอง ใครโกรธก็เหมือนกันไม่ต่างกัน มันจะโกรธได้ไง มันกระตือรือร้นที่ช่วยกัน ปัทโธ่ ตื่นขึ้นมา มีอะไรก็ทำจนสุดความสามารถ ละความชั่วได้แล้ว ชวนคนอื่นละ ทำความดีได้แล้ว ชวนคนอื่นทำ จิตบริสุทธิ์แล้ว ทำ ชวนคนไหนเขามีจิตบริสุทธิ์ ต่อไปๆ จบไป ไม่จบไม่สิ้น มันก็มีงานเกิดขึ้นมากมาย
เห็นไหมพระพุทธเจ้าสี่สิบห้าปี นิพพานแล้วตั้งแต่อายุสามสิบหกปี จนถึงพระชนม์มายุแปดสิบปีซะเมื่อไหร่ มีใครเสมอเหมือนได้ไหมพระศาสดาของเราเนี่ย ทำอะไรได้บ้าง ไปดูร่องรอยดูซิ อินเดีย เนปาล ต่อมาถึงสาวก แสดงในหลายพื้นที่จนมาถึงประเทศไทยเรา ข้ามน้ำข้ามทะเลมา ร่องรอยแห่งความดี ฝีมือของพระสงฆ์สมัยต่อมา เจาะภูเขาสร้างวัดได้ศาลาหลังใหญ่กว่านี้ 9 หลัง ใหญ่กว่าศาลาหอไตรเนี่ย เจาะหินทั้งดุ้นเลย ภูเขาเป็นรูปตัวยู เป็นรูปตัวยู เจาะเป็นศาลา เป็นเสา เป็นขื่อ เป็นฝา เป็นผนัง เป็นห้องนอน มีมนุษย์คนไหนที่ทำได้ขนาดนั้น ตั้งแต่เราสร้างอยู่เนี่ยกี่ปีแล้วยังไม่เท่าศาลาบนอาชันต้า เท่าหนึ่งหลัง ใช้เวลาเท่าไหร่ ไม่ต่ำกว่าร้อย สองร้อยปี สามร้อยปี ทำต่อกันมา นี่ก็คือมันไม่เป็นอะไร ก็สนุกทำ ไปดูบุโรพุทธโธ อินโดนีเซีย ดูซิ ใหญ่ขนาดไหน หลายพื้นที่ ประเทศไทยก็ยังมีร่องรอย พระมหินทเถระ พระอุตตระ ใช่ไหม ใช่บ่ แม่นบ่(หัวเราะ) มหินทร โอ้ไม่ใช่เหรอ พระโสณะ ใช่ไหม โสณะ อุตตระ นะ(หัวเราะ) เหมือนจำไม่ได้ สองรูปข้ามน้ำข้ามทะเลมา มาขึ้นฝั่งตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เราไปมาแล้ว พอมาลองมาที่นครปฐม สร้างเจดีย์ ปฐม คือครั้งแรก ปฐมคือหนึ่ง ป-ฐ-ม หนึ่ง มาถึงสุโขทัย ดูสิไม่เป็นอะไร ชีวิตที่ไม่เป็นอะไรมันทำอะไร นี่ตัวเองก็ไม่รักตัวเอง ไม่รับผิดชอบจะไปรักคนอื่นได้ไง
สี่ห้าวันที่ผ่านมาท่านผู้ว่าชัยภูมิ มาคุยกัน หลวงพ่อก็บอกว่า ท่านผู้ว่าก็สนับสนุนเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ ใช่แล้วท่านผู้ว่า ทันสมัยแล้ว ทุกวันนี้ ถ้าไม่อนุรักษ์ ไม่รักธรรมชาติรักษาสิ่งแวดล้อมเรียกว่าล้าสมัยที่สุด ยุคนี้สมัยนี้ และถ้าไม่ปฏิบัติธรรม ถือว่าฟรีเลย ทั้งชาติเลย เราคุยกับผู้ว่าแบบนี้ ผู้ว่าก็เอาด้วย ผู้ว่าหนุ่มๆ นั่นอย่าล้าสมัยกันเลยพวกเรา ต้องปฏิบัติธรรม เปลี่ยนหลงเป็นรู้ เปลี่ยนหลงเป็นไม่หลงเนี่ยทันสมัย เปลี่ยนทุกข์เป็นไม่ทุกข์เป็นรู้ เปลี่ยนอะไรเป็นรู้ นี่ทันสมัย ที่สุดเลย ดูแลตัวเองให้ดี แบบสติมันเป็นเจ้าของกายเจ้าของจิตใจ จะได้ปลอดภัยเสียที
แต่ก่อนกลางคืนว่าฝันกลางวันว่าคิด ฟุ้งซ่าน บางทีก็ ของที่รักต่าง ๆ เป็นของเกลียดชัง ทำตามความรักความชัง เสียผู้เสียคน ทะเลาะวิวาททำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะกายเพราะใจเรานี่ เราจะพึ่งอะไรกัน ถ้าไม่ปฏิบัติธรรมจะอยู่กันอย่างไรในโลกนี้ อันนี้เขมรกับไทยก็รบกันแล้ว ยิ่งมีปืนซื้อ ก็ซื้อลูกปืนมายิงกัน สัตว์เดรฉาน ที่ไหนก็มีกัน มนุษย์นี่เป็นสัตว์ประเสริฐเหรอ ประเสริฐอย่างไร ยิงจรวดใส่กัน ยิงใส่บ้านชาวบ้านไหม้วอดไปเลย อย่างนี้หรือ สมมุติบัญญัติ อันนั้นของกูของมึง มันได้หรือไม่ มันได้ประโยชน์อะไร ใครได้ประโยชน์ น่าเสียดาย น่าที่จะมารักกัน เป็นฉันมิตรมาถึงฝั่งนี้ อย่าไปอยู่ฝั่งโน้น มันหลงมาฝั่งไม่หลง มันทุกข์มาฝั่งไม่ทุกข์ มันโกรธมาฝั่งไม่โกรธ ความไม่เป็นอะไรเนี่ยยิ่งใหญ่นะ ความไม่เป็นอะไรเนี่ย จุดหมายปลายทาง ความรักความชังกักขังไม่อยู่ ดูดได้ถึงภาวะไม่เป็นไรด้วยหทัยของตัวเรา
ที่เราเกิดมาถึงปูนนี้ ไปอยู่ที่ไหนกัน มานี่ ปฏิบัติธรรมที่นี่กันเถอะ ตัวใครตัวมัน อย่าเบียดเบียนกัน อย่าใช้แรงงานกัน ให้ทำด้วยความสมัครก็ไม่เป็นอะไร ไม่อยากทำก็ปฏิบัติ เวลาฉันก็ไปฉัน ถ้าอดถ้ากินไม่อิ่ม บอกแม่ชี บอกอาจารย์ทรงศีล บอกพระ จะไปไหนมาไหน ที่นี่ไม่มีลาภสักการะ ไม่จำเป็นต้องใช้ปัจจัย บอกกันได้ ดูแลกันได้ ไม่ทอดไม่ทิ้ง ค่ารถค่าเรือไปไหน เหมือนครอบครัวเดียวกัน อย่าว้าเหว่ไกลพ่อไกลแม่ไม่มีพี่มีน้อง ไม่ใช่เลย นี่แหละพี่น้องอย่างยิ่ง เรียกว่ากัลยาณมิตร มันยิ่งกว่าสายโลหิต กัลยาณมิตรเนี่ย ไปถึงมรรคถึงผล สายโลหิตไปไม่ถึงมรรคถึงผลนะ กัลยาณมิตรพระพุทธเจ้าบอกนะทั้งหมดเลยไปถึงมรรคถึงผล ถึงนิพพานเลย ชวนกันไป สุขเท่ากัน ทุกข์เท่ากัน อิ่มเหมือนกัน หิวหิวเหมือนกัน ถ้าตัวเองอิ่มก็คิดเห็นคนที่หิวอยู่ ตอนนอนในผ้าห่มที่ดี ก็คิดถึงคนที่ไม่มีผ้าห่มที่หนาว ให้เสมอกัน ใครมาที่ไหน เหมือนกับญาติเราทั้งหมดเลย ที่นี่ไม่มีใครแปลกหน้า มีแต่ญาติพึ่งได้พบกันเป็นญาติกันมานานแล้ว เป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายเหมือนกันหมด ไปเบียดเบียนกันทำไม มาช่วยกันเนี่ย ช่วยกันบอกไปอย่างเนี่ย หลงเปลี่ยนหลงเป็นไม่หลงเนี่ย ก้าวแรกไปจากนี้ ถ้ามีหลงอยู่นั่นแหละ ทำซะ เปลี่ยนหลงเป็นรู้ ความรู้หาได้ง่าย หายใจเข้าก็รู้ กลับมาหายใจเข้า อย่าไปหลงเอาความหลง คิดความหลงอยู่ไม่ใช่ กลับมาหาที่ตั้งเรียกว่านิมิตกรรมฐาน รู้ขึ้นมาหรือยกมือสร้างจังหวะเข้ามาหากรรมฐาน วิชากรรมฐานเนี่ยจบ จบ ความหลงก็จบได้ อะไรก็จบได้ ถ้ามาหากรรมฐานเรา ไม่เหมือนวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ต้องค้นคว้าจบไม่ลง
อย่างหลวงตาเป็นโรคมะเร็งกล้ามเนื้อในก้อนเนื้อลำคอ หมอมาตัดเอาก้อนเนื้อในคอ ต้องไปจ้างเขาตรวจสองสามวัน มีเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ชีวิตก็จะตายแล้วหายใจไม่ได้แล้ว กว่าเขาจะตรวจได้ ก็หลายวันสองสามวัน ตรวจได้ เอ้อรู้แล้วว่าก้อนเนื้อในลำคอ เป็นก้อนเนื้อโตเร็ว หมอเขาก็เลยรู้ว่าก้อนเนื้อโตเร็วก็รีบรักษา นั่นมันหลายอย่าง มีวิทยาศาสตร์ มีอะไรเยอะแยะเครื่องไม้เครื่องมือ อันใดทุกข์อันความดับทุกข์ดับไว้เลยแห่งทุกข์ ไม่มีที่ไหน มีอยู่ในชีวิตเรานี่ ทำได้ทันทีจบทันที มันหลงรู้ สิ่งที่รู้ก็มีอยู่ วัสดุอุปกรณ์มาผลิตความรู้มีอยู่ วิชากรรมฐานเปลี่ยนได้ทั้งหมด ในความทุกข์ ถ้ามีกรรมฐานแล้ว เปลี่ยนทุกข์เป็นไม่ทุกข์ ในตัวมันเอง มาพร้อมกัน ความหลงมาพร้อมกันกับความไม่หลง หนามยอกหนามบ่ง ความทุกข์มาพร้อมกันกับความไม่ทุกข์ เห็น ทุกขัง อะริยะสัจจัง ปริญเญยยันติ เม ภิกขะเว อิเมสุ ธัมเมสุ จักขุง อุทะปาทิ ทุกข์ก็รู้แล้วนี่พระพุทธเจ้าทำอย่างนี้ เราได้ทำกับทุกข์แล้ว เราทำกับทุกข์ได้แล้ว เป็นจริงอย่างนี้ ทุกขัง สมุทยัง ทุกขัง อะริยะสัจจัง ทุกขัง สมุทยัง อริยะสัจจัง จำไม่ได้ ถ้าสวดธรรมจักรคงได้เปรียบหลวงพ่อแล้ว (หัวเราะ) ทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจัง...ปริญญายันติ เม ภิกขเว ใช่ไหม อิเมสุ สัจเจสุ ทุกข์ สมุทัยให้เกิดทุกข์รู้แล้ว ได้ทำแล้ว ทำได้แล้ว ละได้แล้ว ทุกขัง อะริยะสัจจัง นิโรธะ ...ทุกขัง นิโรธะ ปะหาตัพพันติเม ภิกขะเว ไม่ถูก (บาลีที่ถูกต้องสามารถดูได้จากพระสูตร) ขออภัยนะผู้รู้ทั้งหลาย ทำให้แจ้งแล้ว ทุกข์รู้แล้ว มรรค สมุทัยละได้แล้ว นิโรธทำให้แจ้งแล้ว มรรคเจริญมากแล้ว เจริญมากแล้ว ดูจะดูเห็นเนี่ยเจริญ มรรคคือดูคือเห็น เจริญมากรู้ทุกอย่าง อะไรที่มันเกิดกับกายกับใจไม่มีหลงเลย รู้แล้ว มากแล้ว มากแล้ว มากๆ ภาวิตา พะหุลีกะตา มีสติไปในกาย ต่อเนื่องมีความขยันมากๆ มากๆ มาหารู้ มันจะอยู่ได้ไหมความหลงเนี่ย ล้างบางมันเลยถ้ามีความรู้นะ โดดใส่เลย โจนใส่เลย สะดวกเปลี่ยนหลงเป็นไม่หลงเนี่ย โอ้ยเป็นงานชอบที่สุดเลย เปลี่ยนทุกข์เป็นไม่ทุกข์เนี่ยงานชอบที่สุดเลย ขยันตรงนี้ ไม่ปล่อยไม่ทิ้ง ทำสิ่งเหล่านี้ได้ มันก็ยกมือไหว้ตัวเองเลย เปลี่ยนหลงเป็นไม่หลง เปลี่ยนโกรธเป็นไม่โกรธ เปลี่ยนทุกข์เป็นไม่ทุกข์เนี่ย ยกมือไหว้ตัวเองได้ ไหว้ตัวเองก็คือกับไหว้คนอื่น เคารพคนอื่น เคารพความชั่วที่มีอยู่ในชีวิตเราเนี่ย ก็เหมือนกับการเคารพคนอื่น
หลวงพ่อเทียนสอนพวกเราว่า เคารพกองขี้หมา รู้จักเคารพกองขี้หมาไหม ขี้หมามันเหม็นอย่าไปเหยียบมัน เว้นไป เรียกว่าเคารพ มันเหม็นเราไปเหยียบมันก็เหม็น ความโกรธเราไม่เคารพมัน ไม่ให้มันโกรธขึ้นมา มันก็เหม็นในตัวเรา ไม่เคารพความชั่ว เว้น หนีช้างสิบวา หนีคนบ้าร้อยเส้น หลีกช้างสิบวา หลีกคนบ้าร้อยเส้น นี่ก็คือชีวิตของเราเนี่ยคบคนพาล คบบัณฑิต คนพาลเกิดขึ้นในตัวเรานี้ ไม่ใช่คนพาลอยู่ที่ไหน บัณฑิตก็เกิดอยู่ในตัวเรานี่ ผู้รู้คือภาวะที่รู้คือบัณฑิต คนพาลคือหลง ความโกรธคือคนพาล ความทุกข์คือคนพาล อย่าไปเคารพมัน อย่าทำตามมัน จาโค สลัดคืน มุตโต ปฏินิสฺสคฺโค อนาลโย ไม่มีที่ให้อาศัย ไม่มีที่ให้อาศัยในสิ่งเหล่านี้ได้ เรียกว่าเคารพ สิทธิร้อยเปอร์เซ็น มันหลงมีสิทธิที่ไม่หลง มันทุกข์มีสิทธิไม่ทุกข์ เพราะความทุกข์ไม่ชอบทำ ความไม่ทุกข์นี่ชอบที่สุดเลย ใครๆ ก็มีได้ และเป็นประโยชน์ด้วย คนๆหนึ่งถ้าทำได้สิ่งเหล่านี้ มันก็เกิดอะไรขึ้นมาในโลกนี้ มันช่วยโลกได้ ธรรมคุ้มครองโลก ขาดธรรมโลกาวินาศ ถ้าศีลธรรมไม่กลับมาโลกาพินาศ ถ้าธรรมกลับมาเรียกว่าคุ้มครอง ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมอยู่เป็นนิจ คืออย่างนี้ คือมันหลงก็รู้ขึ้นมาคุ้มครองเรา รู้จักครองตัวเอง มีสติเป็นเจ้าของกายเจ้าของใจซะ ดูแลให้มันคุ้ม หนึ่งวันชั่วโมงหนึ่ง เจ็ดวัน เจ็ดเดือน เจ็ดปี เอามาอยู่ตรงเนี้ย ตายอยู่ที่นี่ได้ไหม แม่เพียร(หัวเราะ) เจ็ดวันเจ็ดเดือนเจ็ดปีลองดูสิ มีใครกล้าพิสูจน์เรื่องนี้ได้ ไม่ต้องทำอะไรละ ให้อิสระ อย่าห่วงอะไรมากเลย โดยเฉพาะชีวิตของเราที่เป็นคนมีอายุเนี่ย อยากจะให้มาอยู่ด้วยกันเนี่ย เตรียมตัวตายกันเสียก่อน