แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ผู้มีปัญญา ความก่อสร้างศรัทธา ศีล เพื่อต่อรองเพื่อเป็นหลัก นอกจากนั้นให้มีสติ ใจดีๆ เข้าไว้ อย่าหุนหันพลันแล่น เห็นอะไรๆ เกิดขึ้นกับตัวเองกับคนอื่น สิ่งอื่น หนักแน่นไว้ ผู้บรรลุธรรมให้มีส่วนประกอบหลายๆ อย่าง สร้างสิ่งแวดล้อมมาอยู่กับตัวเอง เอาอย่างพระพุทธเจ้า เอาอย่างเหล่าสาวก แต่ละรูปมีเอตทัคคะต่างๆ กันไป เราก็เอามาสอนตัวเรา ในตัวเรานี้ก็มีพระสูตร สูตรบุญ สูตรบาป สูตรผิด สูตรถูก สูตรรู้ สูตรหลง ในตัวเรานี้ อย่าออกไปข้างนอก ให้มีหลักสูตรอยู่ มีปัญหาอะไร มีสูตรสำเร็จเหมือนเราเรียนคณิตศาสตร์ โจทก์มันมี จำเลยมันมี แก้โจทย์ เรานี้เป็นจำเลย มันมีโจทย์ ทำให้เราเป็นจำเลยของปัญหา มีกิเสลตันหา มีความโลภ ความทุกข์ ความรัก ความชัง ความหลง อะไรต่างๆ เราก็รับใช้สิ่งเหล่านี้ เป็นขี้ข้าเป็นทาสของเขามา ประกาศอิสระภาพ มีสติเป็นตุลาการพิพากษา ป้องมันลงไป มันก็มัดหลักฐาน เห็นรูปเห็นนาม รูปธรรม นามธรรม ได้หลักได้ฐานมัดมัน แก้ต่าง มันก็หลุดออกไป หลุดพ้นจากกิเสลตัณหาได้ เราก็มีครูอาจารย์ เรียนตามพ่อก่อตามครูอยู่ เป็นครูอยู่ พระพุทธเจ้าเป็นบรมครูของเรา จนมาถึงรุ่นครูอาจารย์ของเรามาตลอด มาทางสายเถรวาท มีอาจารย์ตั้งแต่โน้น มหากัสสปะ อุบาลี อานนท์ อนุรุทธะ โมคคัลลานะ สารีบุตร เป็นเถระสงฆ์ เป็นเถรวาททรงธรรมวินัย ประกาศสร้างพระไตรปิฎกขึ้นมา เพื่อไมให้เลือนราง ร้อยกรองเอาไว้ แล้วก็เป็นจริง ธรรมะที่เราเรียนตามในพระสูตรเป็นจริง จะตัดออกไม่ได้ จะเพิ่มเติมไม่ได้ อย่างนี้
เราจะปฏิเสธธรรมะก็เท่ากับปฏิเสธตัวเอง เราปฏิเสธตนเองก็เท่ากับปฏิเสธธรรมะ มันก็มีกรรมเหมือนกัน มีบาป มีบุญเหมือนกัน มีผิดมีถูกเหมือนกัน ก็มาถึงยุคนี้สมัยนี้ รุ่นหลวงปู่เทียนสอนพวกเราก็เวลานี้แหละ ทำวัตรเช้าทุกวัน ทำวัตรเย็นทุกวัน และก็ทำตามสมัยพระพุทธเจ้า ตีสามพระองค์ก็มองสัตว์โลก ใครอยู่ในเครือข่ายผู้ที่จะบรรลุธรรมได้บ้าง มองหาอุบาสกคนนั้น อุบาสิกาคนนี้ พระสงฆ์รูปนั้น พระสงฆ์รูปนี้ ถึงสัญญานสัญญาในใจ ในเรื่องลับ ให้รู้ ได้ยินได้ฟังมาบ้าง เหมือนหมอตรวจโรคของเรา เขาเอาความลับของเรา เอาเหตุเอาข้อมูลจากเรา แล้วก็ค่อยวินิจฉัยโรค หายามาใส่ รักษาโรคได้
อย่างหลวงตาเป็นโรคมะเร็ง ก้อนเนื้อโตเร็วในลำคอ เขาวินิจฉัย ในที่สุดก็ตัดเอาก้อนเนื้อในลำคอไปพิสูจน์ แล้วก็ว่าเป็นโรคมะเร็งระดับที่ 4 แล้ว (หัวเราะ) ก็ให้ยารักษา วุ่นวายไปหมดแล้ว หมอสหรัฐก็แฟกซ์มา หลวงพ่อป่วยเป็นโรคก้อนเนื้อตับอ่อน ไม่มียารักษาเลย อันนี้ก็บอกไปว่า ก้อนเนื้อตับอ่อนเป็นก้อนเนื้อโตในลำคอขยายไปสู่ตับอ่อน เออ ถ้าอย่างนั้นรักษาได้ ให้คีโมตัวใหม่เข้าไปเลย ข้าพเจ้าปฏิเสธวิธีการรักษาอื่นใดทั้งสิ้น ให้คีโมให้หลวงพ่อหายใจได้ เขาก็ไปวินิจฉัย
ตัวเรานี้ก็มีเหตุมีปัจจัย ทุกข์มันมีเหตุ ทุกข์มันเป็นผล เหตุมันคือความหลง อย่าไปแก้ทุกข์ แก้ความหลงนั้นก่อน มันหลง ความหลงที่แก้ได้คือความรู้สึกตัว เนี่ย เราก็ทำได้ ไม่ต้องไปขอใคร เราก็ช่วยกัน พระอาจารย์ที่อยู่ด้วยกันที่นี้ นอกจากอาจารย์ทรงศิลป์ วัฒนชัย มีอาจารย์โน้ส อาจารย์หลวงพ่อหงวน อาจารย์ติ๊กบ้าง ตงหมิงบ้าง หรือใครหลายๆ รูปอยู่เนี่ย ก็ต้องติดตามรับผิดชอบให้รู้ ตาข่ายใครบ้างเป็นอย่างไร เพื่อเราจะได้ชำนาญในความเป็นวิปัสสนาจารย์ได้ ได้พบปะกับนักปฏิบัติอยู่เรื่อยๆ ได้ไถ่ถาม มีปัญหาอะไร เราก็ได้ซ่อมเรื่องนั้น บางทีเราได้คำตอบจากเรา เราก็ไปตอบให้เขาที่มีปัญหา ที่ไม่มีปัญหา บางคนก็สนับสนุน บางคนก็แก้ปัญหาให้ แล้วก็ได้ข้อมูลทั้งสองฝ่าย ก็ชำนาญเรื่องการสอนบ้าง การพบปะบ้าง การสอนธรรมะที่ให้ผลได้ อาจารย์ผู้สอนต้องพบปะนักปฏิบัติธรรม ได้ข้อมูลจากผู้ปฏิบัติธรรมอย่างน้อย 4-5 คนวันหนึ่ง แล้วก็มาพูดเป็นปัจจุบันให้กันฟัง เหมือนกับเราเป็นผู้รับธรรม เราเรียนจบมา ถ้าไม่สอนนักธรรมก็เลือนรางลืมไปหมด ต้องมาสอนนักธรรมดู ถ้าเราสอนนักธรรมเราได้ความรู้กว่านักเรียนด้วยซ้ำไป เวลาเขาเรียนบทต่างๆ หมวดต่างๆ ในธรรมะ หมวดต่างๆ ในวินัย หมวดต่างๆ ในพุทธประวัติ อนุพุทธประวัติ พุทธานุพุทธประวัติ เราสอน สอนวิชา เราก็ชำนาญ เราก็เก่ง สอนเท่าไหร่ เราก็รู้เท่านั้น อาจจะรู้มากกว่านักเรียน ชำนาญในการสอน ชำนาญในการรู้ หมอที่มีประสบการณ์ หาประสบการณ์เฉพาะวิชา อะไรต่างๆ ก็ไปเรียนอีกแขนงหนึ่ง ชำนาญในการผ่าตัด ชำนาญในอะไรต่างๆ เรียนจบวิชารวมมาแล้ว ต้องไปประสบการณ์อีก เราก็เป็นนักสอนธรรมะ เห็นผิด เห็นถูก เห็นปัญหา เห็น อะไรต่างๆ ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาบ้าง ทำให้เราชำนิชำนาญ มีประสบการณ์ขึ้น
หลวงพ่อเทียนสอนเรา เวลาที่เราไปปฏิบัติ ยังอยู่ในหัวใจเราอยู่ ได้ยินเสียงหลวงพ่อเทียนพูดอยู่ เห็นอยู่ เวลาเราหลง เวลาเรารู้ เวลาเรามีปัญหา เวลาเราไม่มีปัญหา หลวงพ่อเทียนก็สอนเรา แม้หลวงพ่อเทียนไม่สอนโดยตรงตัวต่อตัว ก็มาสอนเวลาทำวัตร เราก็เก็บเอา ทำวัตรทุกวันไม่ขาด แม้จะปฏิบัติเคร่ง กรรมฐานเคร่งขนาดไหน ก็ยังทำวัตรอยู่ มาฟัง สิ่งใดที่หลวงพ่อเทียนพูด เรายังไม่เข้าใจ พยายามทำให้เข้าใจ เมื่อยังไม่แจ้ง พยายามทำให้แจ้ง สิ่งใดที่หลวงพ่อเทียนพูดแล้ว เราก็ผ่านมาซ้อมดู จนเห็นรูปเห็นนาม มันจริงไหม ใช่ได้ไหม ห้าบวกห้ามันได้เท่าไหร่ มันได้สิบ จริงไหม ทำแล้วทำอีก มันก็ลงตัว ห้าลบห้าได้เท่าไหร่ เหลือหรือได้ มันออกไปแล้ว หมดแล้ว มันเป็นสูตรสำเร็จอยู่
ความหลงความรู้มันใช้ได้ไหม ความหลงมันใช้ได้ไหม ความรู้มันใช่ได้ไหม ความหลงกับความรู้ อะไรเป็นธรรม ความทุกข์ความไม่ทุกข์ ความโกรธความไม่โกรธมีไหม มี เวลาปฏิบัติ มันใช้ออกมาหมดเลย มันทวนกระแส มันทวนความเคยชิน เปรอะเปื้อนอะไรมา มันฉายออกมาเหมือนภาพ มันเป็นเลนส์ชีวิต ทำดีมันก็ติดมา ทำชั่วมันก็ติดมา อันนั้นเนี่ย มันสนุก ถ้ามีความชั่วมากก็สนุก สนุกเลอะ สนุกเปลี่ยนแปลง เหมือนองคุลีมาล หน้ามือหลังมือทันที จนออกจากปากขององคุลีมาล แต่ก่อนนี้เราถูกเมฆหมอกควบคุม เหมือนพระจันทร์อยู่ในเมฆหมอก ไม่รู้อะไร บัดนี้เราพ้นจากเมฆหมอกเสียแล้ว เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆ สว่างไสว โยจะวะชิตังชีเว กุสิโตวิเว โยปัปปุเพปะนัชชิวา ปะฉาโซนับปะมัชฉะติ โสมังโลกัง อุปาเสติ อัปปะวุฒโต วะจันทิมา จันทิมาพ้นจากเมฆ อุทานออกมา โถ มันสลด สังเวชตัวเอง สงสารตัวเองน้ำตาร่วง เคยสงสารตัวเองที่มีทุกข์ เห็นทุกข์ เฮ้ย น้ำตาซึมเลย ไม่รู้จักช่วยตัวเองสมัยก่อน บางทีก็ทุกข์ด้วยใช่ไหม ความทุกข์ นอนอยู่กับความทุกข์ พอใจนะ ความทุกข์ใช่ไหม พอใจๆ ความโกรธก็พอใจ เขาว่าอย่างนั้น เขาว่าอย่างนี้ เขาทำอย่างนั้น เขาทำอย่างนี้ กูไม่ยอม กูไม่ยอม พอใจ ไม่รู้จริงๆ นะ มีใครรู้เรื่องนี้ ไม่มีใครรู้เรื่อง ไม่รู้ หลวงพ่อก็ไม่รู้นะ พอใจในความโกรธ พอใจในความทุกข์ โกรธคือโกรธ ต่อยไม่ลืมนะ หน้าปูด หน้าบึ้งใส่กัน เห็นกันคราใด โกรธกัน ไม่รู้จักอาย สงสารตัวเองตอนนั้น พอมาเห็นแล้ว ปัดโถ เราอยู่ในความทุกข์ เราอยู่ในความหลง ไม่รู้เลย เหมือนหนอนอยู่ในคูถ ไม่รู้จักคูถ ถือว่าเป็นเรื่องดี
เล่านิทานประกอบสักหน่อย ฟังไหม เล่าหลายทีแล้ว สนุกนะ เพื่อนสองคนรักกัน ไปไหนไปด้วยกัน วันหนึ่งเขาไปบุญฟังเทศน์กัน แต่เพื่อนคนหนึ่งเกิดลูกป่วยไม่มีอาหารให้ลูกกิน ต้องไปหาปลาจับปลา เลยไม่ได้ไปฟังเทศน์กับเพื่อน ไปหาปลาในห้วยในหนอง ใจน่ะมันอยู่ที่เสียงฆ้องตีอยู่ที่ หุ่ย หุ่ย หุ่ย เสียใจไม่ได้ไปฟังเทศน์กับเพื่อนหนอ เพื่อนเราคงจะนั่งฟังเทศน์อยู่โน้นแหละ เรานี่จำเป็น ไม่ได้ไปฟังเทศน์กับเพื่อนเลย ถ้าไม่มาหาอาหารให้ลูกกิน ลูกก็ไม่มีอาหาร ใจอยู่กับการฟังเทศน์ แต่เพื่อนที่ไปฟังเทศน์ โอ๊ย กูเสียเปรียบเพื่อนแล้ว กูไม่ได้ไปจับปลากับเพื่อนแล้ว ป่านนี้เพื่อนของกูคงจับปลาตัวใหญ่ๆ คงสนุกดีแหละ คิดถึงแต่เพื่อนไปจับปลา (หัวเราะ) มันก็ได้คนละอย่าง ใจไม่ตาม ใจไม่ซื่อ คนไปจับปลาคิดถึงพระเทศน์แสดงธรรม (คน)ฟังเทศน์คิดถึงเพื่อนไปจับปลา ในที่สุดเพื่อนสองคนมาเจอกัน กูคิดถึงมึงโว้ย มึงจับปลาคงสนุกดี โอ้ย กูคิดถึงมึงเหมือนกัน มึงฟังเทศน์คงสนุก ไม่ใช่กูคิดถึงแต่มึง กูเสียเปรียบมึง ได้ปลามากมั้ย โอ๊ย ได้เต็มข้องเลย โอ๊ย กูเสียเปรียบมึง น่าจะมาจับปลากับมึง ไม่น่าไปฟังเทศน์เลย (หัวเราะ)
พอเพื่อนสองคนตายลงไปก็ยังรักกันอยู่ เพื่อนที่ไปจับปลาได้เป็นเทวดา ด้วยจิตที่มันคิดไป ไม่ได้มีความพอใจกับการจับปลาเลย ส่วนเพื่อนที่ไปฟังเทศน์ เกิดไปตกนรก เพื่อนที่ไปจับปลาได้ไปอยู่สวรรค์ มีความสุขมาก ตามหาเพื่อน เพื่อนเราไปอยู่ไหนหนอ หากัน ไปเจออยู่ในหลุมส้วมของพระ เป็นหนอน “อ้าวเพื่อน มาอยู่นี่ทำไม ไปอยู่ด้วยกันเมืองสวรรค์โน่น มาอยู่นี่ทำไมหนอ ไปๆ ไม่ต้องมาอยู่นี่” เพื่อนที่เป็นหนอนก็(ถาม) “เมืองสวรรค์มันดียังไง” “โอ๊ย ถ้าอยากกินอะไร ว่าจะคิดจะกิน มันก็มีให้กินให้อยู่โลด” “โอ้ยมึง สวรรค์ต้องคิดเหรอ อันนี้ไม่ต้องคิดเลย ถึงเวลามันหล่นลงมา (หัวเราะ) ไม่ไปหรอก ถ้ายังต้องคิดอยู่ อันนี้ไม่ต้องคิดนะ” โอ๊ย หล่นลงไปมันคูถ มันขี้นะ เพื่อนคนที่เป็นหนอนบอกว่า ในสวรรค์มันมีขี้กินไหม มันก็พอใจ มันกินขี้ มันก็ยังพอใจ มันโกรธมันก็พอใจ ไม่อายกันเลย หน้าบูดหน้าบึ้งตึงเครียด ด่ากันได้ มันก็พอใจ ไม่รู้เลย ไม่รู้ทุกข์ในตัวเอง
พอมาเห็นทุกข์ โธ่ สงสารตัวเองมากๆ เลย สลดใจ มาเห็นจริงๆ ไม่ใช่คิดเห็น มันพบเห็น เห็นรูปเห็นนาม เห็นรูปธรรม นามธรรม มันทำดีทำชั่วรูปนี้ มันทำชั่ว มันทำดี มันทำชั่วได้ มันทำดีได้ แต่ก่อนแล้วแต่เหตุปัจจัยของมัน บัดนี้เราจะไม่ให้รูปทำชั่ว ไม่ให้นามทำชั่ว เราจะให้รูปทำดี เราจะให้นามทำดี มีสิทธิ 100% ความทุกข์ความสุขที่เกิดจากความคิดจะไม่ให้มีอีกแล้ว ต่อไปนี้ความทุกข์ที่เกิดจากความคิดไม่มีแน่นอนเลย ให้จิตหรือความคิดนี่เป็นปกติ ไม่ได้สร้างความสุขความทุกข์ให้จิตจนติดหลง รูปทำนามทำ รูปทุกข์นามทุกข์ รูปมันทุกข์ หลายอย่างทุกข์ของรูป หายใจเข้าหายใจออก ก็เป็นทุกข์ สภาวะทุกข์ เพื่อนทั้งหลายยืน เดิน นั่ง นอน สภาวะทุกข์ตามธรรมชาติ ต้องกินต้องถ่ายเป็นการแก้ทุกข์ของรูปอยู่แล้ว เจ็บไข้ได้ป่วยก็เป็นทุกข์ของรูปอยู่แล้ว ปวดหนักปวดเบาก็เป็นทุกข์ของรูปอยู่แล้ว มันก็เป็นก้อนทุกข์อยู่ ยังเอาความทุกข์ที่เกิดจากอุปาทาน ยึดมั่นถือมั่น เอามารัก เอามาชัง เป็นทุกข์ เอามาเกิดเป็นความรักความชังได้ สมมุติบัญญัติเข้าไป ทับถมเข้าไป พอใจไม่พอใจ รูปทุกข์นามทุกข์ รูปโรคนามโรค รูปมันก็เป็นโรคอันหนึ่ง ต้องเกิด ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย โรคของรูป ไม่มีใครป้องกันได้ น่าสงสาร นั่งอยู่นี่ ยังหายใจเข้าหายใจออก มันแก้ทุกข์ของมัน น่าสงซ้าน สงสาร สงสารอะไรก็ไม่เท่าสงสารรูป สงสารนาม ไม่ค่อยได้รู้จักช่วยเหลือ พอมาเห็นรูปทุกข์นามทุกข์ โอ๊ย กระตือรือล้นมา เวลามันหลง กระตือรือร้น เปลี่ยนหลงเป็นรู้ เวลามันทุกข์ โอ๊ย สนุกเปลี่ยน ช่วยรูป ช่วยนาม รูปโรค นามโรค โรคของรูป เกิดแก่ เจ็บตาย เจ็บไข้ได้ป่วย เป็นโรคสารพัดอย่าง โรคของนามคือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความรัก ความชัง ความพอใจ ไม่พอใจ โรคของนามรักษาได้ หายโรค จนพระพุทธเจ้ากล่าวว่า อโรคยา ปรมา ลาภา ความไม่เป็นโรค เป็นลาภประเสริฐ พระพุทธเจ้าประกาศไป ทางสี่แพร่งห้าแพร่ง หมายถึงโรคอันนี้ ดับได้เย็นได้แล้ว โรคของนาม
โรคของรูปนี้ต้องอาศัยเหตุปัจจัย อาศัยหมอ อาศัยหยูกอาศัยยา มันก็มียารักษา สัตว์พิษกัดต่อย ให้เอาต้นพญารากดำเอารากมัน ตะขาบกัดแมงป่องกัดงูกัด พญารากดำรู้จักไหม ในวัดเรามีเยอะ ขุดเอารากมัน ล้างดีๆ ฝนใส่น้ำมะนาว ให้มันเหนียวๆ ขุ่นๆ เอามาแปะปิดปากบาดมัน มันจะดูด ถอนพิษได้ ให้รู้จักอะไรบ้าง เวลามีดบาด ถ้าไม่มีอะไรใส่ สะดุดตอเลือดออก หกล้ม จุกแน่น หาอะไรไม่ได้ ให้เอาน้ำปัสสาวะราดลงไป ถ้ามันอยู่แขนนี่ ปัสสาวะไม่ได้ ก็ ปัสสาวะใส่ใบตองราดลงไป แก้แผลทะยัก ห้ามเลือดได้ดี ไม่เป็นแผลทะยักนะ แต่ก่อนพระพุทธเจ้าใช้อันนี้ เรียกว่า ฉันยาดองน้ำมูตรเน่า ถ้าปัสสาวะไว้ เอาสมอ มะขามป้อมไปดองใส่กัน อาทิตย์หนึ่ง กลิ่นน้ำปัสสาวะจะไม่มี เป็นกลิ่นยาไปเลย เป็นยาอายุวัฒนะได้ ถ้าอย่างนั้นก็มียา ต้นสาบเสือ เอามาขยำๆ ใส่น้ำปัสสาวะนิดหน่อย เอามาห้ามเลือด ห้ามแผลทะยักได้ แก้แผลทะยักได้ อันนี้เป็นโรคของรูป ให้รู้จักช่วยตัวเอง อะไรต่างๆ มันจะรู้บ้าง
ถ้าไม่รู้มาเรียนกับหลวงตาที่นี่ เรื่องยาสมุนไพร อยู่นี่ ปลูกไว้ กุฎิดินทางทิศตะวันตกของหอไตร มีว่านสารพัดอย่าง ชักมดลูกดีมาก แม่สะอาดมดลูกหย่อนจะไปผ่าตัด มาหาหลวงตา เอาว่านชักมดลูก ให้ไปต้มกิน ไปตรวจ ไม่ได้ผ่าเลย มดลูกหด เพราะอย่างนั้นอย่าให้มันเป็น มันมีแหนง มันอย่าไปขุดเอาหัวมัน มันมีสองชนิด ชนิดหนึ่ง มีหัวพุ่มๆ ลงไปเรียกว่า ว่านหด อันนั้นไม่ดีเท่ากับอันมีหัวอยู่ แต่ว่ามีแหนงออกมา แหนงน้อยๆ ออกมาก อันนั้นดี ไปหักเอาซะ อย่าไปขุด หักเอาซักสองข้อมือสามข้อมือ ข้อมือเดียวฝานกินกับข้าวทุกวัน เป็นผักไปในตัว ผู้หญิงก็ดีผู้ชายก็ดี กินได้ ใครเป็นไส้เลื่อน ไส้อะไร ผู้หญิงถ้าเป็นมดลูกกินได้เลย ก็รู้จักบ้าง ถ้าไม่รู้ก็ถามเราสิ เราจะบอก ว่านชักมดลูก ยาพิษต่างๆ มี
เดี๋ยวนี้ยาที่นี่ เขามาเอาไปจนหมดแล้ว วัวเถลิง โคคลาน ยารักษาโรคเอดส์ กินอาหารก็กินผักบ้าง อย่าไปชอบผัดๆ ทอดๆ เกินไป อาหารที่ทอดเนี่ยไม่อยากให้กิน ช่วยรักษาโรค ช่วยตัวเองบ้าง น้ำมันที่ทอดแล้วทอดอีก อันตราย (เป็น)โรคมะเร็งได้ อย่าไปทอดกันไป หลวงตาด่าโรงทานอยู่ กลิ่นทอดน่ะ โอ๊ย คลุ้งไปเลย ไม่ค่อยดีนะ ฝักมะระขี้นกสดๆ กลืนลงไป รักษามะเร็งได้ รักษาโรคเอดส์ได้ มะระขี้นกปลูกง่าย ในวัดเราไม่ค่อยมี กำลังให้ปลูกอยู่ปีนี้ ปีหน้าคงอด มะระขี้นกกินลงไป และก็จักรนารายณ์ที่ปลูกไว้ตามเหง้าของที่ฐาน ที่ท่อที่ปลูกแก้วมังกรน่ะ เดินไปฉันอย่าเดินมือเปล่า เด็ดไป คนละยอดสองยอด เอาไปกินสดๆ หรือฮว่านง็อก (ชื่อสมุนไพร) ปลูกไว้ที่กฏิหลวงตา รอบอยู่นั่น เด็ดไปยอดสองยอดไปกิน กินอาหารกินเป็นยา อาหารด้วย เป็นยาด้วย หรือผักติ้ว ถ้าเดินไปทางสะพานมาทางนี่ ทางทิศตะวันตกของโรงทานจะมียอดติ้ว เก็บไปบ้าง ยอดมะยมเก็บไปบ้าง ถ้าเดินไปทางนี้จะมีเสม็กเหรอ มีผักเม็ก อยู่ข้างขวามือ ซ้ายมือ เด็ดยอดไปกินบ้าง ปลูกผักไว้ เดินไปหอฉัน มีของกิน ผักกว่า 70 ขนิด ในคูสระ เป็นของกินทั้งนั้น อย่าไปยอมอด เก็บไปบ้าง ของเราเอง ไม่ต้องอาบัติ หลวงตาเป็นคนปลูกเอง 70 กว่าชนิด ผักกิน กินต่อไป
อีกไม่กี่ปี สิบปียี่สิบปี ต่อไปลานหินโค้งเนี่ย จะหอมไปด้วยกลิ่นดอกไม้ ต้นลำดวนที่อาจารย์ทรงศิลป์ปลูกไว้ ต้นพยอมที่หลวงพ่อปลูกไว้ เกิดดอกหอมเป็นบางสวน ยาหม้อใหญ่ ต่อไปแถวนี้จะมี บุนนาค พิกุล บุนนาค มันจะต้อนรับคนเดินเข้ามา ใครเป็นโรคความดันสูง ความดันต่ำ ได้กลิ่นบุนนาค หอมเข้าไป ความดันต่ำ ความดันสูงจะปรับตัวดี เป็นยาหม้อใหญ่ (หัวเราะ) จริงๆ นะไม่ต้องไปกินยา เดินมานี่จะเป็นยาไปเลย ยาหม้อใหญ่ กลิ่นบุนนาค มีอยู่ต้อนรับของเรา ใครเดินมานี่ ประตูสุนิตา ยาหม้อใหญ่ รักษาโรคของกาย
โรคของใจไม่มีช่วยเรา ต้องเราตัวเอง เปลี่ยนความหลงเป็นความรู้ เปลี่ยนความทุกข์เป็นความรู้ เปลี่ยนความโกรธเป็นความรู้ รักษาเอา อันนี้หมอช่วยไม่ได้ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยรักษาอันนี้เอาไว้ก่อน เอาโรคของใจ ของนามไว้ก่อน ยึดไว้ก่อน หลวงตาเลยบอกว่าไม่มี ไม่เป็นอะไรกับอะไร มันเจ็บไข้ก็เห็นมันเจ็บ มันปวดก็เห็นมันปวด มันร้อนเห็นมันร้อน มันหนาวเห็นมันหนาว ให้ปฐมพยาบาลแล้ว นอนป่วย 2 ปีบอกว่า สนุกป่วยไปเลยไม่ค่อยเดือดร้อนอะไร เอาตัวนี้ไว้ก่อน ตัวกรรมฐาน ยึดไว้ก่อน ไม่ต้องเป็นอะไรกับอะไร หายใจไม่ได้ก็ไม่ต้องกลัวมัน หาความสุข ความทุกข์เพราะหายใจ หาความสุขความทุกข์เพราะไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ต้องอาศัยสิ่งเหล่านั้น อาศัยในตัวมันเอง อาศัยใจไปเอง นี่เรียกว่า ฝึกตนสอนตน มันเป็นของส่วนตัว ของใครของมัน มันช่วยกันไม่ได้จริงๆ
จึงให้มาทำกรรมฐานแบบนี้ กำหนด 40 วันแบบนี้ มันผิดอะไรไหม ก็ดูแลกันนะ หลวงตานี่จะอยู่หลังๆ ให้อาจารย์หนุ่มๆ ทั้งหลายเดินก่อนไป หัวดำออกก่อน หัวด่อนนำหลัง เดี๋ยวนี้นำไม่ได้แล้ว เยี่ยมนักปฏิบัติ อาจารย์เหมือนก็ไป อาจารย์โน้สก็ไป อาจารย์ทรงศิลป์ก็อยู่แล้ว อาจารย์วัฒนชัยก็อยู่แล้ว หลายรูปก็ออกกันอยู่แล้ว อย่ามาอาศัยหลวงตา เวลานี้หลวงตาเก่งที่สุดคือนอน เวลาอายุมากเข้ามามันเป็นเด็กนะ ใช่ไหม เป็นเด็ก เด็กน้อยชอบนอนใช่ไหม เด็กนอนได้เนื้อได้หนัง คนแก่นอนมีแต่ความอ่อนแอ กินข้าวแทนที่จะมีกำลัง มันเหนื่อยไปเลย อิ่มใหม่ๆ คล้ายๆ อิ่มแล้วมันเหนื่อย เวลามันย่อยอาหาร มันต้องใช้พลังมาก แต่ก่อนกินข้าวเสร็จจับด้ามจอบด้ามเสียมเลย อันนี้ไม่ได้ ต้องพักผ่อน เพราะฉะนั้น อย่ามาเอาอย่างหลวงตา ให้หัวดำออกก่อนหัวด่อนตามหลังไป (หัวเราะ) คนออกก่อนถางทาง คนนำกลางหาบเหล้า ผู้เฒ่าๆ นำก้น (ตามหลัง) จำได้เว้าคนโบราณ คนออกก่อนคนหนุ่มถางทางไป ลุยไป คนตามกลางก็เสบียงไป อะไรที่ทิ้งมา มันเป็นเหล้า เป็นของมัวเมา เอามาให้คนนำกลางหาบ ไม่ให้หาบไปทิ้งเหวทิ้งโหงเฉย
เป็นทีมสักหน่อย เหมือนเขาเล่นกีฬา เล่นฟุตบอล แบคหน้า แบคหลัง ส่งหากันให้ได้ เข้าโกลเข้าประตูให้ได้ ประตูคือมรรคผลนิพพาน ความปรารถนาที่ดีงามของสัตว์ทั้งหลายจงสำเร็จเถิด ให้มีน้ำใจ ถ้าเห็นแก่ตัว ดูคนนั้นดูคนนี้บ้าง การสอนธรรมะจะไห้ผล ต้องได้ข้อมูลจากผู้ปฏิบัติพอสมควร นี่ก็มีผลเกิดขึ้นบ้าง มาพูดให้ฟัง สองรูปสามรูป เขาก็เป็นพระหนุ่มๆ น้อยๆ เขาก็ฟังได้
ของจริงมันมีอยู่ มันหลงก็รู้ เห็นรูปเห็นนามอย่างนี้ รูปมันมีอะไร นามมีอะไร มีรูป มีเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มันเป็นรูปธรรมนามธรรม ถ้ามันเป็นนามรูป นามรูปก็เกิดจากอายตนะ พอใจ สร้างขึ้นใหม่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ยึดมั่น นั่นก็เป็นนามรูป รูปนามธรรมดาก็ไม่เป็นไร มันมีอุปาทานยึดเอาความสุขความทุกข์ อันนั้นน่ะเรียกว่านามรูป เกิดดับ เกิดดับ มันไม่มีเกิดอีกต่อไปได้ ถ้าเราเรียนรู้มัน จบเป็น จบเป็น พิพากษาตุลาการยกเลิกกันเลย กองเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หันหลังให้กัน ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกัน แยกกันเลย แต่ก่อน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เหมือนมือห้านิ้ว ช่วยกันจับอยู่นั้น ตอนนี้มันหายออกไปแล้ว เลิกกันเลย เป็นสักแต่ว่าไปเลย มันก็จบได้ แต่นี่มันมีค่าในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอุปทานเข้าไปยึด ถ้าเราไม่รู้มัน มันเป็นภพเป็นชาติเกิดดับ เกิดดับ ถ้าเรารู้ มันก็จบ สิ้นภพสิ้นชาติได้ มีแต่ขันธ์ล้วนๆ อิสระภาพเป็นธรรมาธิปไตย อย่างนี้
หลวงพ่อเทียนสอนพวกเรา เราก็เรียนตาม เราได้ยินหลวงพ่อเทียนสอน เรามาปฏิบัติ เราก็ได้ประโยชน์ อู๊ย เราอยากสอนคนอื่นให้ได้รู้อย่างนี้ มันก็อยากสอนคนอื่น ไม่มีอะไร ไม่มีเป้าหมายอะไร เพื่อการบอกความจริงแก่ผู้คนในเรื่องนี้ได้รู้กัน อันอื่นให้คนอื่นทำไป เราไม่ชำนาญ ขอเป็นผู้บอกผู้สอนเรื่องนี้เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ นี่เราอุตส่าห์เป็นภารโรงเฝ้าสถานที่ไว้ให้ก็เพื่อการนี้โดยตรง อาจารย์ทรงศิลป์สร้างลานหินโค้งเพื่อการนี้ ทำเส้นทางให้เดิน 180 เส้น (หัวเราะ) 180 ทาง ลานหินโค้ง หลวงตาปลูกต้นไม้ให้ แต่ก่อนเป็นดงหญ้าคา ป่าพง แม่นบ่ แม่เพียร ไฟไหม้ป่า เดี่ยวนี้ดับไฟแล้ว อยู่เถอะ นอนหลับสบาย น้ำก็ใสแล้ว แต่ก่อนน้ำแด๊งแดง ขุ่นๆ หญิงสาวเกาหลีมาอยู่ด้วย เขาอยู่ไม่ได้ อาบน้ำแดง หัวเป็นขวย หลวงตาโกนผมทิ้งเลยเหมือนกัน คันหัวเหมือนกัน ไม่ได้เอาแปรงมา อยู่ไม่ได้ น้ำมันแดง กลับไปเกาหลี จดหมายถามมา น้ำวัดป่าสุคะโตใสหรือยัง ถ้าน้ำใสแล้วจะกลับไปอีก เขียนจดหมายมาถาม ตอบไปให้ด้วย (หัวเราะ) ยังไม่มีใครตอบไป ถ้าตอบไป เขาจะได้มาอยู่กับเรา อันนี้ช่วยๆ กัน